December 06, 2025

เอปสัน บริษัทผู้ผลิตเทคโนโลยีพรินเตอร์และโปรเจคเตอร์ระดับโลก ยึดแนวทางความยั่งยืนตลอดวงจรธุรกิจตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทขึ้นเมื่อเกือบ 80 ปีที่แล้ว และกลายเป็นบริษัทแรกในโลกที่ประกาศจะกำจัดสาร ซีเอฟซีที่ทำลายชั้นโอโซนออกจากกระบวนการผลิตทั้งหมด ซึ่งประสบความสำเร็จในปี 2536 ก่อนเข้าร่วมข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) ในปี 2547 และต่อมาได้ประกาศให้การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ขององค์การสหประชาชาติ ปัจจุบัน เอปสันยังคงยึดหลักความยั่งยืนตั้งแต่ขั้นตอนกำหนดแนวคิด ออกแบบ ไปจนเสร็จสิ้นกระบวนการผลิต เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีขนาดกะทัดรัด ที่มีประสิทธิภาพและความแม่นยำสูง เพื่อใช้ในนวัตกรรมที่สามารถเปลี่ยนโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น

ยิ่งในโลกธุรกิจทุกวันนี้ ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมกลายเป็นประเด็นสำคัญ กระแสของการใช้ Green Tech จึงเติบโตอย่างรวดเร็วในทุกองค์กร เอปสันประสบความสำเร็จในการสร้างอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ที่เรียกได้ว่าเป็น Green Tech อย่างเต็มตัว เพราะไม่เพียงแต่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าเลเซอร์พรินเตอร์ ถึง 85% ยังมีชิ้นส่วนในเครื่องที่ต้องเปลี่ยนทดแทนน้อยกว่าเลเซอร์พรินเตอร์ถึง 59% ทำให้ช่วยลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ลงได้มาก ที่สำคัญ เอปสันมีเทคโนโลยี Heat-Free ที่ไม่ใช้ความร้อนในกระบวนการพิมพ์ จึงใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยกว่าเลเซอร์พรินเตอร์ที่มีความเร็วในการพิมพ์ระดับเดียวกันถึง 80%

 

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย)​ จำกัด กล่าวว่า “บริษัทแม่ ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น ได้ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน ควบคู่กับการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยยึดกรอบปฏิบัติตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เน้นในเรื่อง “Quality Education” หรือการพัฒนาความรู้และการศึกษาในเยาวชน และในปี 2562 ที่ผ่านมา ทางบริษัท ได้มีการขยายขอบเขตไปในเรื่อง “Responsible Consumption” ที่มุ่งเน้นให้ผู้บริโภคเกิดความตระหนักในการใช้ทรัพยากรผ่านกิจกรรม From Plastic to Fabric ที่ให้ประชาชนนำถุงพลาสติกเหลือใช้มาแลกเปลี่ยนเป็นถุงผ้าที่มีการพิมพ์ลวดลายจากเครื่องพิมพ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของเอปสัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการตอบรับนโยบายการลดการใช้ถุงพลาสติก และส่งเสริมการใช้ถุงผ้าที่สามารถนำมาใช้ซ้ำได้หลายครั้ง โดยถุงพลาสติกที่รวบรวมได้ ทางบริษัท ได้นำส่งไปให้หน่วยงานเพื่อนำไปรีไซเคิลเป็นบล๊อกปูถนนต่อไป

 

ล่าสุดในปี 2563 นี้ ซึ่งเป็นปีครบรอบ 30 ปีของเอปสัน ประเทศไทย บริษัทฯ ได้ขยายขอบเขตของงาน ซีเอสอาร์มาด้าน “Life on Land” อีกหนึ่งในหัวข้อสำคัญของ SDGs โดยได้ร่วมกับมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดกิจกรรม “Wheel for Wild” เพื่อรณรงค์ให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันรักษาทรัพยากรและใส่ใจในเรื่องการใช้พลังงานมากขึ้น ผ่านกิจกรรมซึ่งเป็นกิจกรรมที่เชิญชวนประชาชนทั่วไปร่วมทำกิจกรรมปั่นจักรยานเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับพรินเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยี Heat-Free จากเอปสัน โดยมีกติกาว่าเมื่อผู้ร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานผลิตไฟฟ้าครบ 3 นาที เอปสันจะทำการบริจาคเงินจำนวน 30 บาทให้กับทางมูลนิธิฯ นอกจากนี้จักรยานที่ต่อไดนาโมและแบตเตอรีจะจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าเครื่อง WF-C20590 เพื่อพิมพ์ใบประกาศเกียรติคุณจากมูลนิธิฯ ให้กับผู้ร่วมกิจกรรม เพื่อยืนยันถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของมูลนิธิฯ โดยเอปสันได้จัด โร้ดโชว์ไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้สนใจที่หลากหลาย โดยเริ่มที่งาน COMMART XTREME ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ในวันที่ 26-29 พฤศจิกายน ต่อด้วยที่อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ในวันที่ 2-4 ธันวาคม และศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ บริเวณลานกิจกรรมชั้น G ในวันที่ 14-15 ธันวาคม ก่อนปิดท้ายที่ราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 18-20 ธันวาคม

นายยรรยง กล่าวเสริมว่า “กิจกรรม “Wheel for Wild” ปั่นพิทักษ์ป่า ไม่เพียงแต่ตอกย้ำถึงความพยายามของเอปสัน ประเทศไทย ในการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมของประเทศไทยในฐานะองค์กรธุรกิจที่ดำเนินกิจการในประเทศไทยมานานถึง 30 ปี แต่ยังเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเอปสันในการคิดค้นนวัตกรรมและสร้างเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับธรรมชาติของโลก อย่างที่เห็นได้จากเทคโนโลยี Heat-Free ในอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ของเอปสันที่ประหยัดไฟ และใช้กำลังไฟเพียง 10 วัตต์ในการพิมพ์เอกสาร 1 หน้า ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวจะได้รับประสบการณ์อันน่าทึ่งนี้ ด้วยการปั่นจักรยานเพียงไม่ถึง 3 นาที ก็สามารถพิมพ์เอกสารสีออกมาได้”

“ในปัจจุบัน ผู้บริโภคต้องการเห็นความพยายามและผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมจากผู้ผลิตในการรักษาธรรมชาติ ทั้งยังเต็มใจที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเพื่อให้ได้มีส่วนร่วมในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะคนกลุ่ม Millennial และ Gen Z ที่ยินดีจะจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหรือกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับธรรมชาติหรือมีส่วนในการตอบแทนสังคม การที่ผู้ผลิตสามารถแสดงออกถึงบทบาทในการรักษาสิ่งแวดล้อมไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันทางธุรกิจ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์สินค้า แต่ยังเป็นการนำธุรกิจไปสู่ทิศทางและตำแหน่งของการเป็นองค์กรที่สังคมและผู้บริโภคจะขาดไม่ได้ ซึ่งนั่นคือเป้าหมายของเอปสัน” นายยรรยง ทิ้งท้าย

เอไอเอ ประเทศไทย ในฐานะผู้นำตลาดกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง (High Net Worth) เปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน หรือ ยูนิต ลิงค์ ใหม่ล่าสุด ‘AIA Infinite Wealth Prestige’ เจาะกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง กับนวัตกรรมใหม่ด้านการประกันชีวิตและการลงทุน ผสานกับการบริหารจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก เปิดมิติใหม่ให้แก่ลูกค้าได้ก้าวสู่การลงทุนในระดับสากล เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่า พร้อมรับเอกสิทธิ์เหนือระดับจากโครงการ AIA Prestige Club มุ่งตอบโจทย์ด้านการวางแผนเพื่อส่งต่อความมั่งคั่ง หรือเก็บเงินเพื่อการเกษียณ

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เอไอเอ ประเทศไทย เป็นบริษัทประกันชีวิตรายแรกในประเทศที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันยูนิต ลิงค์ ออกสู่ตลาดเมื่อปี พ.ศ. 2552 ซึ่งตลอดระยะกว่า 11 ปีที่ผ่านมา ประกันยูนิต ลิงค์ ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ปัจจุบันเรามีส่วนแบ่งตลาดของเบี้ยประกันภัยปีแรก (FYP) ในธุรกิจประกันยูนิต ลิงค์ อยู่กว่า 35% เป็นอันดับหนึ่งในตลาด1 โดย เอไอเอ มีเป้าหมายในการส่งเสริมให้ตัวแทนประกันชีวิตของเรามี IC License ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะมีส่วนช่วยในการแนะนำผลิตภัณฑ์และวางแผนทางด้านการเงินให้กับลูกค้าได้มีความมั่งคั่งและมั่นคงทางการเงินในระยะยาว นอกจากนี้ การที่เราจัดตั้ง บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ถือเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าถึงความมุ่งมั่นที่เราต้องการช่วยลูกค้าในด้านการวางแผนการลงทุนให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุดจากผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ ผ่านผลิตภัณฑ์ประกันยูนิต ลิงค์ ของเอไอเอ และล่าสุดเราจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันยูนิต ลิงค์ ‘เอไอเอ อินฟินิท เวลท์ เพรสทีจ (AIA Infinite Wealth Prestige)’ ซึ่งเป็นนวัตกรรมด้านการเงินที่มอบโอกาสให้ลูกค้าได้ก้าวสู่การลงทุนระดับสากล โดยได้รับการสนับสนุนจาก บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ในการประสานความร่วมมือกับผู้จัดการกองทุนระดับโลก ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ Baillie Gifford, BlackRock และ Wellington Management พัฒนากองทุนรวมต่างประเทศที่พิเศษเฉพาะสำหรับลูกค้าเอไอเอ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตและการเงินที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญาของเอไอเอ - Healthier, Longer, Better Lives”.

นายเอกรัตน์ ฐิติมั่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย เผยว่า “ผลิตภัณฑ์ เอไอเอ อินฟินิท เวลท์ เพรสทีจ เป็นแบบประกันในกลุ่มยูนิต ลิงค์ ที่มุ่งตอบโจทย์ลูกค้าใน 2 ด้านหลักๆ คือ การวางแผนเพื่อส่งต่อความมั่งคั่ง หรือ เตรียมความพร้อมเพื่อวัยเกษียณ ซึ่งเหมาะสำหรับลูกค้าที่กำลังมองหาความอุ่นใจจากความคุ้มครองประกันชิวิต และโอกาสการลงทุนในตลาดต่างประเทศ เพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายทางการเงิน โดยมีกองทุนเด่นถึง 3 กอง ได้แก่ AIA Global Aggressive Allocation Fund (ความเสี่ยงสูง), AIA Global Moderate Allocation Fund (ความเสี่ยงปานกลาง) และ AIA Global Conventional Allocation Fund (ความเสี่ยงต่ำ) ผ่านผู้บริหารกองทุนระดับโลก ทั้ง Baillie Gifford, BlackRock และ Wellington Management ซึ่งมีความคุ้มครองเริ่มต้นที่ 15 ล้านบาท และสามารถเลือกระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันภัยได้ตามความต้องการ ทั้งแบบ 5 ปี 10 ปี 15 ปี และ 20 ปี พิเศษเพิ่มขึ้นด้วยส่วนลดค่าการประกันภัย2 20% และ 30% ของอัตราค่าการประกันภัย สำหรับผู้เอาประกันภัยที่มีสุขภาพมาตรฐาน และสุขภาพดีกว่ามาตรฐาน ตามลำดับ และที่พิเศษสุดเฉพาะสำหรับลูกค้าที่ซื้อแบบประกันยูนิต ลิงค์ ยังได้รับโบนัสพิเศษยามเกษียณ3 0.25% ของมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนของเบี้ยประกันภัยหลักอีกด้วย ซึ่งสำหรับผลิตภัณฑ์ตัวนี้เราเน้นเจาะไปที่กลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง (High Net Worth) เนื่องจากเราเล็งเห็นว่าตลาดลูกค้ากลุ่มนี้ยังมีโอกาสเติบโต อีกทั้งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่มองหาทางเลือกที่คุ้มค่าและได้รับผลประโยชน์ที่มั่นคงในระยะยาว ดังนั้น ผลิตภัณฑ์       เอไอเอ อินฟินิท เวลท์ เพรสทีจ จึงตอบโจทย์อย่างยิ่ง และสามารถเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนที่ชาญฉลาด ซึ่งลูกค้าจะได้รับทั้งผลประโยชน์ความคุ้มครองชีวิต และผลตอบแทนจากการลงทุน ที่สำคัญลูกค้าที่ซื้อแบบประกัน    เอไอเอ อินฟินิท เวลท์ เพรสทีจ ยังมีสิทธิ์เป็นสมาชิก เอไอเอ เพรสทีจ คลับ (AIA Prestige Club) พร้อมรับเอกสิทธิ์พิเศษอีกมากมาย”

“นอกจากนี้ เรายังได้คุณบ๊อบ ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ เอไอเอ เพรสทีจ แอมบาสเดอร์ มาร่วมแสดงในภาพยนตร์โฆษณา เอไอเอ อินฟินิท เวลท์ เพรสทีจ ซึ่งคุณบ๊อบได้ถ่ายทอดถึงไลฟ์สไตล์และแนวคิดของผู้บริหารธุรกิจรุ่นใหม่
ที่ไม่ได้มองการลงทุนจำกัดอยู่แค่ในประเทศ แต่มองไปถึงโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับสากล เพื่อช่วยให้โฆษณาชุดนี้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างแท้จริง โดยโฆษณาชุดนี้จะเริ่มเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้ง AIA Thailand Official Facebook และ AIA Thailand YouTube ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รวมถึงสื่อ Out-of-home และสามารถรับชมโฆษณา ได้ที่นี่

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ AIA Call Center 1581 และเว็บไซต์ http://bit.ly/2WgL4B8 หรือสามารถศึกษาข้อมูลกองทุนรวมภายใต้ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ได้ที่เว็บไซต์ aiaim.co.th หรือติดต่อตัวแทนประกันชีวิตเอไอเอ”

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท  ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ร่วมแสดงความยินดีกับนางสาวสุทธิภา วัชโรทยางกูร รองประธานฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ดุสิตธานี

บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มีความห่วงใยและตระหนักถึงความเดือดร้อนของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากจากสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดนครศรีธรรมราช

ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทิพยประกันภัย เข้ารับรางวัลเกียรติยศ ประเภทสินค้าและบริการกลุ่มประกันยอดเยี่ยมแห่งปี กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกันภัยไวรัสโคโรนา

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ โรงแรมหรูแห่งแรกในกรุงเทพฯ

ขับเคี่ยวกันมาอย่างเข้มข้นตลอดทุกรอบการแข่งขันสำหรับกิจกรรม Energy on Board” การประกวดออกแบบบอร์ดเกมในหัวข้อ Energy Sustainability

นายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน จังหวัดนครศรีธรรมราช (คนที่ 3 จากขวา) รับมอบน้ำดื่มจำนวน 1,000 ขวด จาก บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต โดย คุณอัญรินทร์ วุฒิมนตรีภัสร์ ผู้อำนวยการธุรกิจ ฝ่ายตัวแทน สำนักงาน 80J จังหวัดนครศรีธรรมราช (คนที่ 3 จากซ้าย) พร้อมตัวแทนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมส่งมอบน้ำดื่ม พร้อมส่งกำลังใจ ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดนครศรีธรรมราช

นายณัฐสิทธิ์ สุนทราณู ผู้อำนวยการ – ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จับมือนางสาวรวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด และ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กระตุ้นการใช้จ่ายนักช้อปช่วงปลายปี พร้อมมอบของขวัญเพื่อสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี รับส่วนลดเพิ่ม 27% ทุกวันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ หรือ รับส่วนลดเพิ่ม 13% ทุกวันจันทร์ ถึงวันพฤหัสบดี ณ ห้างสรรพสินค้า “เซ็นทรัล” และ “โรบินสัน” ทุกสาขา เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรฯ พร้อมใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดช้อปต่อเซลส์สลิป ตั้งแต่วันที่ 18 – 27 ธันวาคม 2563

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE โทรศัพท์ 02 123 5000 หรือ ที่เว็บไซต์ www.ktc.co.th สมัครบัตรเครดิตได้ที่ศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือคลิกลิงค์เพื่อสมัครบัตรเครดิตได้ที่นี่: https://bit.ly/apply-ktc 

พฤกษา ใส่ใจดูแล เพื่อเติมเต็มความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดี มอบของขวัญสุดพิเศษให้แก่สมาชิก

X

Right Click

No right click