การก้าวเข้าสู่โลกยุค 4.0 ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับบุคคลและองค์กรที่จะปรับเปลี่ยนตัวเอง เพื่อรุกและรับมือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้จะมีบางคนและบางองค์กรยังคงมองว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นยังมาไม่ถึงตนเองหรือองค์กร แต่เราก็สัมผัสได้ถึงกระแสการเปลี่ยนแปลงที่ถาโถมเข้าสู่อุตสาหกรรมต่างๆ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้
เคลาส์ ชวาบ ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารสภาเศรษฐกิจโลก เขียนไว้ในหนังสือ “การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่” แปลโดย “ศรรวริศา เมฆไพบูลย์” ถึงเหตุผลที่ทำให้เขาเชื่อว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ได้เริ่มขึ้นแล้ว ว่าประกอบด้วย การวิวัฒน์ในครั้งนี้มีจังหวะที่เร็วแบบทวีคูณ อันเป็นผลจากโลกที่เชื่อมโยงกันในหลากหลายมิติ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทำให้เกิดเทคโนโลยีใหม่กว่าและมีความสามารถมากยิ่งขึ้น
การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งนี้เป็นผลจากการปฏิวัติดิจิทัลและผสานเทคโนโลยีหลากหลาย นำไปสู่การเปลี่ยนกระบวนทัศน์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนทั้งในแง่เศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคม และบุคคล
และการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงระบบต่างๆทั้งในลักษณะข้ามประเทศ และภายในประเทศ รวมถึงอุตสาหกรรมต่างๆ
คลื่นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้หลายอุตสาหกรรมเริ่มสูญหายไป ขณะเดียวกันก็มีธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นมา รวมถึงองค์กรที่มีอยู่ ปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
การจะปรับเปลี่ยนองค์กร ไม่ใช่เพียงซีอีโอหรือผู้บริหารองค์กรเท่านั้นที่จะบรรลุผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ หากต้องใช้สรรพกำลังของทั้งองค์กร การมีทัศนคติมีความมุ่งมั่นในการมองหาหนทางแก้ไขปัญหา มองหาโอกาสใหม่ๆ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจเดิมที่มีอยู่ ให้มีความสามารถในการแข่งขันในโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็วนี้ได้
บุคลากรในแต่ละองค์กรทั้งหมดจึงเป็นทั้งกลไกและหัวใจสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้เดินหน้าไปได้อย่างมีกำลังวังชา มีความคล่องตัว สามารถร่วมมือกันจัดการปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นและมองหาหนทางใหม่ๆ ให้กับองค์กรได้ การพัฒนาองค์กรในยุคปัจจุบันจึงเน้นที่การเสริมสร้างพัฒนาทักษะคนในองค์กรให้มีความพร้อมกับโลกยุคใหม่ ซึ่งบางครั้งการพัฒนาคนในองค์กรจำเป็นต้องใช้มืออาชีพมาช่วยพัฒนาบุคลากรตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงจนถึงพนักงานระดับต่างๆ ขององค์กร
ผู้ช่วยที่จะมาร่วมพัฒนาองค์กร พัฒนาบุคลากร จึงมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในโลกยุคนี้ และหนึ่งในบริษัทที่ปรึกษา
ด้านการพัฒนาองค์กรและพัฒนาบุคลากรที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย เป็นที่ยอมรับของวงการอุตสาหกรรมต่างๆ คือ บริษัท แอคคอม แอนด์ อิมเมจ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ ACCOMM (แอคคอมฯ)
Passion Drives Company
ดร.อัจฉรา จุ้ยเจริญ Chief Learning Officer และ Managing Director บริษัท แอคคอม แอนด์ อิมเมจ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เล่าย้อนถึงเบื้องหลังแนวคิดการเปลี่ยนตัวเองจากการทำงานที่สายการบินต่างประเทศขนาดใหญ่กว่า 15 ปี มาเป็น
ผู้ประกอบธุรกิจเองว่า “เกิดจากความชอบเรื่องการพัฒนาองค์กรและพัฒนาคน และด้วยประสบการณ์ในการทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลทั้งงานด้านบริหาร และด้านการพัฒนาภาวะผู้นำและบุคลากร ทำให้ได้เรียนรู้ ได้พบกับที่ปรึกษาเก่งๆ จำนวนมาก และตนเองก็เป็นคนชอบเรียนรู้เรื่องใหม่ๆอยู่เสมอ หน้าที่ของเราตอนนั้นคือ ต้องนำเทคนิคต่างๆ มาปรับ (Customize) ให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมของบุคลากรในเอเชียด้วย จึงต้องศึกษาลึกซึ้งในทุกด้าน เมื่อคิดจะมาทำธุรกิจของตัวเองจึงอยากทำงานด้านการพัฒนาต่อไป และมองว่าหลากหลายเทคนิคดีๆ อยากให้องค์กรในประเทศไทยได้รับด้วย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลกได้”
ดร.อัจฉราบอกว่า “ตอนเริ่มทำธุรกิจแรกๆ ก็หวั่นๆ อยู่เหมือนกัน ว่าเราจะไปรอดไหม เพราะในธุรกิจนี้คนที่เข้ามาทำก่อนแล้วไม่สำเร็จก็มี แต่ถือได้ว่าเราโชคดีมาก ลูกค้าสะท้อนกลับมาว่า โพรดักส์ที่เราจับมีเอกลักษณ์ ใช้ได้จริงในการทำงาน และด้วยประสบการณ์ที่เราทำงานในองค์กรมาหลายบทบาท เราเข้าใจลูกค้าได้เร็ว ที่สำคัญเรามีเทคนิคการถ่ายทอดที่ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ลูกค้าก็ติดใจเราอย่างรวดเร็ว และบอกต่อๆ กันไป”
แอคคอมฯ ช่วยสร้างความสำเร็จให้ลูกค้าผ่านวิธีการต่างๆเช่น Organization Development, Team Development และ People Development ด้านการพัฒนาคน ลูกค้ามีตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูง ระดับกลาง ถึงพนักงานที่ติดต่อกับลูกค้า โดยมีรูปแบบการพัฒนาที่หลากหลาย ทั้งแบบทางการและไม่เป็นทางการ มีทั้งในห้องอบรม และบางส่วนเป็น on-line กลุ่มใหญ่หรือกลุ่มเล็ก และการโค้ชตัวต่อตัว รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาช่วยองค์กรออกแบบในสิ่งที่องค์กรต้องการ เช่น การออกแบบการเรียนรู้ การบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง กลยุทธ์และการพัฒนาการบริการลูกค้ายุคใหม่ การสร้างวัฒนธรรมองค์กร ไปจนถึงการประเมินผล เป็นต้น
ดร.อัจฉรา บอกว่า “ปัจจุบันถึงแม้ลูกค้าจะมีตัวเลือกมากมาย แต่ลูกค้าจะฟังเสียงจากผู้ที่ใช้บริการมาแล้ว ลูกค้ามองหาความคุ้มค่าของการลงทุนไป เราเคยทำงานในองค์กรมาก่อน เราเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร คุยภาษาเดียวกัน ทำให้ลูกค้ามีความสุขเวลาทำงานกับเรา เราอยู่ในตลาดมา 12 ปี ลูกค้ายังใช้บริการของเราอย่างต่อเนื่อง”
ในประเทศไทย แอคคอมฯ เข้าไปทำงานกับแทบทุกอุตสาหกรรม ทั้งด้านการสื่อสาร การเงิน ธุรกิจสุขภาพ กลุ่มยานยนต์ กลุ่มเคมิคอล ด้านการท่องเที่ยว หรืออาจจะเรียกได้ว่า แอคคอมฯ เข้าไปให้บริการมาแล้วแทบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม
Idea. Inspire. Implement
Idea. Inspire. Implement คือ สิ่งที่ทำให้ลูกค้าเดินมาหา แอคคอมฯ เพราะแอคคอมฯ ไม่เคยหยุดพัฒนาเครื่องมือที่ก้าวนำต่างๆ ในการพัฒนา ซึ่งลูกค้ามองว่าสำคัญในการที่จะช่วยให้เขาเติบโตไปกับการเปลี่ยนแปลงแบบเชิงรุก
ดร.อัจฉรา อธิบาย 3 I ของ แอคคอมฯ ว่า
“Idea เรามีแนวคิดใหม่ๆ ช่วยให้ลูกค้าปรับตัวเชิงรุกกับ VUCA World (Volatility (V), Uncertainty (U), Complexity (C), Ambiguity (A) ได้ทัน
Inspire เวลาเราพูดถึงองค์กร ก็ประกอบไปด้วยคนที่มีความหลากหลาย ส่วนใหญ่คนไม่ได้เปลี่ยนด้วยเหตุและผลเท่านั้น คนเปลี่ยนเพราะความรู้สึก เรื่องของอารมณ์ การที่ที่ปรึกษาและโค้ช หรือวิทยากรของเรา Inspire คนให้พัฒนาและปรับเปลี่ยนได้ จะช่วยองค์กรได้เยอะมาก เวลาดิฉันคัดเลือกคนเข้ามาทำงานจะมองหาคนที่ Inspire ผู้อื่นได้ดี
Implement สำหรับเรา คือการช่วยให้ลูกค้านำไปปฏิบัติ เครื่องไม้เครื่องมือของเราช่วยให้องค์กรนำไปใช้ได้ทันทีไม่ต้องยุ่งยาก เป็นเหตุผลว่าทำไมบาง Process เราลงทุนซื้อลิขสิทธิ์ให้ถูกต้องจากเมืองนอกมาเลย เพราะเขาตกผลึกมาเรียบร้อยแล้ว เรานำมาปรับให้เหมาะกับสถานการณ์ของแต่ละองค์กร เพื่อให้ลูกค้านำไปใช้ได้ทันที”
ดร.อัจฉรา ยกตัวอย่างว่า ช่วงนี้ เรื่องที่องค์กรให้ความสนใจใช้บริการจาก แอคคอมฯ จำนวนมาก คือการสร้าง Mindset และ Enabler รวมถึงการสร้างความคล่องตัว (Agility) ในการเปลี่ยนแปลงอย่างมีประสิทธิผล
ดร.อัจฉราอธิบายว่า เมื่อพูดถึงการเปลี่ยนแปลง ทุกคนในองค์กรต้องร่วมด้วยช่วยกัน องค์กรจึงจะเปลี่ยนไปตามเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ปัญหาที่พบบ่อยคือ การสื่อสารเพื่อให้ทั้งองค์กรเห็นภาพเดียวกันจากระดับบริหารลงมา มักเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน หรือมีการสะดุด เหมือนพายเรือวนไป วนมา ไม่ไปถึงจุดหมายปลายทางสักที เพราะพายกันไปคนละทิศทาง
“ในการเปลี่ยนแปลง การสื่อสารที่เรียบเรียงได้ดี จะทำให้คนเข้าใจเหตุผล เป็นการสร้างความเข้าใจ แต่นั่นไม่เพียงพอในการสื่อสารทางเดียว หากต้องการสร้างการยอมรับด้วย คนรับสารจำเป็นต้องมีอารมณ์ร่วม (Emotional Engagement) จึงจะสร้างการจดจำ และลงมือทำ”
“ส่วนการโค้ช เป็นการสนทนาแบบสองทาง เป็นกระบวนการที่จำเป็น หากต้องการให้คนในองค์กรมี Growth Mindset และพร้อมที่เรียนรู้ พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง และหากต้องการความสำเร็จที่ยั่งยืน”
Lifetime Partner
คำนี้เป็นคำที่ลูกค้ามอบให้ แอคคอมฯ ซึ่งเป็นมุมมองว่าลูกค้ามอง แอคคอมฯ เป็นดั่งหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ของเขา ซึ่งกว่าที่เราจะได้รับคำชื่นชมเช่นนี้ได้ เบื้องหลังคือคุณภาพและบริการ
เคล็ดลับสำคัญที่ ดร.อัจฉรา เปิดเผยคือ “เราจะพัฒนาตัวเราเองให้ทันสมัยตลอดเวลา เราจะแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ให้อาจารย์ในบริษัทเสมอ นอกจากนั้น การเป็นตัวอย่างที่ดีของการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ก็สำคัญ ตัวอย่างเช่น เราปรับเปลี่ยนกระบวนการพัฒนาให้เหมาะสมกับคนรุ่นต่างๆ ในองค์กร เช่น นำเทคโนโลยี Blended Learning เข้ามาใช้ เพื่อให้ทางเลือกในการเรียนรู้กับลูกค้าทุกกลุ่มได้”
“เพราะลูกค้าต้องการนำไปใช้งานเลย เขาต้องการฝึกด้วยสถานการณ์จริง ไม่ใช่แค่ในห้องสัมมนาเท่านั้น ในบางกลุ่ม เราพยายามใช้การเรียนรู้ในห้องเรียนให้น้อยที่สุด เพราะเขาต้องการอิสระในการเรียนมากขึ้น เขาจะชอบให้หั่นเป็นย่อยๆ น้อยลง ต่อครั้ง แต่ได้มาฝึกปฏิบัติบ่อยๆ หรืออยากจะเข้ามาเรียนใน Web-based Learning ที่เราจัดให้ ตอนไหนก็ได้ที่สะดวก เราก็สนุกนะในการเปลี่ยนไปตามกลุ่มและเวลา โชคดีที่คนของเราไม่ติดรูปแบบเดิมๆ และเข้าใจว่างานของเราคือการช่วยให้คนทุกกลุ่มรักการเรียนรู้ และนำไปปฏิบัติได้”
การทำความเข้าใจเป้าหมายของลูกค้าและช่วยให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด เป็นอีกเรื่องที่ แอคคอมฯ เน้น ดร.อัจฉราเล่าว่า “บางทีลูกค้ามาติดต่อเรา ต้องการทำหลายอย่าง เรามักจะสอบถามก่อนว่า ตอนนี้อะไรที่เป็น Priority ของเขา เขาอยากจะเปลี่ยนแปลงแล้วได้ผลลัพธ์อะไร อยากเห็นอะไร ตัวอย่างเช่น บอกว่าอยากจะพัฒนาภาวะผู้นำ ก็ต้องถามก่อนว่า อีก 2-5 ปีข้างหน้าอยากให้ผู้นำสร้างความสำเร็จอะไร เขาต้องการ Performance และ Behavior ด้านไหน ต้องเอาตัวนี้ตั้ง แล้วเราจะช่วยออกแบบหรือแนะนำเขาได้ ไม่อย่างนั้นลูกค้าจะเสียเงินมากเกินไป แล้วไม่ได้ประโยชน์อย่างแท้จริง”
เมื่อกล่าวถึงอุปสรรคในธุรกิจ ดร.อัจฉรา เล่าให้ฟังว่า อยากจะมีทีมที่ใหญ่กว่านี้ เพื่อที่จะสามารถช่วยลูกค้าได้ครอบคลุมมากขึ้น บางทีลูกค้ารอข้ามปีก็มี เพราะอยากให้ แอคคอมฯ ทำให้จริงๆ แต่ติดที่ที่นี่ให้ความสำคัญและใช้เวลาในการคัดเลือกและพัฒนาคนที่มาร่วมงานด้วยอย่างมาก เพราะอยากให้ลูกค้าได้งานที่มีคุณภาพ
ดร.อัจฉราอธิบายคุณสมบัติคนที่ แอคคอมฯ เลือกเช่น “มีความเข้าอกเข้าใจผู้อื่นสูง เวลาเขาไปสอนต้องให้เกียรติลูกค้า รู้จักวิธีการบริหารอารมณ์ตนเอง ควบคุมไดนามิกของคลาสได้ ซึ่งบางทีอาจจะต้องแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าเก่ง”
จึงไม่น่าแปลกใจที่องค์กรทุกขนาดให้ความสนใจติดต่อมาที่ แอคคอมฯ เมื่อต้องการพัฒนาองค์กร พัฒนาผู้บริหาร และบุคลากร การเตรียมความพร้อมองค์กรเชิงรุกเพื่อก้าวและเติบโตไปกับความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่สำคัญของโลกยุค 4.0 ที่หากองค์กรใดเตรียมตัวไม่ทันก็อาจพลาดเป้าหมายที่คิดวางไว้ได้
มุมมองเรื่องการเปลี่ยนแปลง
“ต้องเตือนตนเองบ่อยๆ ว่าโลกใบนี้ ไม่เหมือนในอดีตแล้ว มีทางเลือกให้เราเยอะขึ้น มีตัวช่วยมากขึ้น มีวิธีการและเทคโนโลยีมากขึ้น อย่าปล่อยให้ตนเองตัดสินใจ โดยยังไม่ได้สำรวจความเป็นไปได้ต่างๆ เพราะจะทำให้เสียโอกาสดีๆ ไป”
“เมื่อตั้งคำถามให้ตัวเองบ่อยๆ จะพบว่า ข้อจำกัดที่ตนเองสร้างขึ้นมาในใจ มักยิ่งใหญ่กว่าข้อจำกัดจากภายนอกเสมอ สำรวจใจและนิสัยตนเองบ่อยๆ ทั้งความคิดและนิสัยที่ไม่ดี ไม่ทันสมัย ทิ้งไป อย่าไปเสียดาย เปรียบเหมือนคนที่ชอบเก็บของเดิมๆไว้เต็มตู้ แล้วของใหม่จะมีที่วางได้อย่างไร”
“ในการเปลี่ยนแปลง พยายามให้พนักงานมีส่วนร่วมเยอะๆ เพราะคนที่อยู่หน้างานและใกล้ชิดกับลูกค้าที่สุด คือคนที่มีข้อมูลที่สำคัญอย่างยิ่ง นั่นคือข้อมูลด้านความคาดหวังและพฤติกรรมของลูกค้า ถ้าการเปลี่ยนแปลงของเราไม่สร้างคุณค่า (Value) หรือแก้ปัญหาให้ลูกค้าของเรา จะทำให้เสียเวลา และทำให้เกิดการต่อต้านโดยไม่จำเป็น”
รางวัลที่แอคคอมฯ ได้รับ
การได้รับรางวัลจากสถาบันต่างๆ เป็นเหมือนเครื่องยืนยันถึงความสามารถขององค์กร ที่ แอคคอมฯ ก็เช่นเดียวกันที่ได้รับรางวัลต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ดร.อัจฉรา ได้รับรางวัล Woman Leadership Award จาก CMO Asia ล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน ก็ได้รางวัลจากงานประกาศรางวัล Golden Globe Tigers Award - Excellence in Training and Development 2018 จัดโดย CHRO Asia, Thought Leaders, World CSR Day ณ ประเทศมาเลเซีย 3 รางวัลประกอบด้วย
• Excellence Award Training and Development Company of the Year (บริษัทอบรมและพัฒนายอดเยี่ยมแห่งปี)
• Best Leadership Development Programme รางวัลโปรแกรมภาวะผู้นำที่ดีที่สุด
• Best Coaching Programme รางวัลโปรแกรมการโค้ชที่ดีที่สุด