November 08, 2024

ธนาคารยูโอบีแนะนำกระจายลงทุนในหลายสินทรัพย์ เพื่อก้าวผ่านผลกระทบความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอล

April 24, 2024 164

ไฮไลท์สำคัญ: · อิหร่านเปิดฉากการโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2567 · ผลกระทบคือราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจากความเสี่ยงของการหยุดชะงักของอุปทานน้ำมันจากตะวันออกกลาง · นักลงทุนควรมุ่งเน้นไปยังเป้าหมายทางการเงินระยะยาวด้วยการสร้างพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่งด้วย ผ่านการกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ (Multi-asset) และตราสารหนี้คุณภาพดี (Investment grade bond)

จากเหตุการณ์ที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่อสถานกงสุลอิหร่านในซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ทำให้อิหร่านตอบโต้ด้วยการส่งเครื่องบิน ขีปนาวุธนำวิถี ขีปนาวุธร่อน ตลอดจนโดรนโจมตีรวมมากกว่า 300 ครั้ง ในวันที่ 14 เมษายน 2567 แม้ว่าอิสราเอลและพันธมิตรจะสามารถสกัดกั้นการโจมตี ส่วนใหญ่ได้และแม้ว่าจะมีความเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความวิตกถึงความเป็นไปได้ที่ความขัดแย้งจะขยายวงกว้างไปทั่วทั้งตะวันออกกลาง นายกิดอน เจอโรม เคสเซล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์เงินฝากและบริหารการลงทุนบุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ได้ให้ความเห็นต่อสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อการลงทุนดังนี้

สถานการณ์เป็นการตอบโต้เชิงสัญลักษณ์ ซึ่งสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อย

สหรัฐฯคาดการณ์ถึงการตอบโต้ของอิหร่านเอาไว้ล่วงหน้า โดย Wall Street Journal รายงานถึงการประท้วงที่ใกล้จะเกิดขึ้น ด้วยคำเตือนล่วงหน้านี้ ทำให้เกิดความเสียหายเพียงเล็กน้อย เนื่องจากอิสราเอลและพันธมิตรสามารถเตรียมพร้อมรับมือกับการโจมตีของข้าศึกได้

• อิหร่านส่งสัญญาณว่าไม่ต้องการยกระดับความขัดแย้ง โดยกล่าวว่า “ ปฏิบัติการโจมตีอิสราเอลถือว่ายุติลงแล้ว” หลังการโจมตี แต่ยังได้เตือนสหรัฐฯ ให้อยู่ห่างจากความขัดแย้งนี้

สถานการณ์ตึงเครียดจะเลวร้ายลงหรือไม่?

• ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของอิสราเอล แต่สัญญาณเบื้องต้นคบ่งชี้ว่าอิหร่านไม่ต้องการยกระดับความตึงเครียด

• มีรายงานว่าสหรัฐฯ จะไม่เข้าร่วมหรือสนับสนุนปฏิบัติการตอบโต้อิหร่าน แต่จะยังป้องกันเสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยการปกป้องฐานทัพของอิสราเอล

ผลกระทบต่อการลงทุน

• นักลงทุนมีความระมัดระวังในการลงทุนเพิ่มขึ้นและคาดว่าตลาดจะยังผันผวนในระยะสั้น

~ ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากความเสี่ยงของการหยุดชะงักของอุปทานน้ำมันจากตะวันออกกลาง

~ หากอิหร่านปิดกั้นช่องแคบฮอร์มุซ อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ 21 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือประมาณ 21% ของการบริโภคทั่วโลก

~ ความไม่แน่นอนทำให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย เป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (UST) และเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)

• การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาน้ำมันอาจส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อและทำให้การลดอัตราดอกเบี้ยล่าช้าออกไป

• อย่างไรก็ตาม ภาวะการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ และความเชื่อมั่นของตลาดก็คาดว่าจะกลับมามีเสถียรภาพได้อีกครั้ง หากความขัดแย้งไม่บานปลาย

คำแนะนำสำหรับนักลงทุน

• ทบทวนพอร์ตการลงทุน เพื่อพิจารณาความเสี่ยงว่ามีการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่กระจุกตัวมากเกินไปหรือไม่

• มุ่งเน้นไปที่การบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาวโดยการสร้างพอร์ตการลงทุนที่แข็งแกร่ง ผ่านสินทรัพย์กลุ่ม Core Investment

• แนะนำกลยุทธ์กระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ (Multi-Asset) ที่มีการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ , ภูมิภาค และอุตสาหกรรม เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน

• พิจารณากองทุนตราสารหนี้และตราสารหนี้คุณภาพดี (Investment Grade) ที่จะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับพอร์ตการลงทุนในช่วงตลาดผันผวน ตราสารหนี้ยังมีอัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจและมีโอกาสได้กำไรด้านราคา หากธนาคารกลางเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้

• สำหรับนักลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ ลองพิจารณาธีมการลงทุนด้านการดูแลสุขภาพระดับโลก (Global Healthcare) , เอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่น และอาเซียน และสามารถทยอยสะสมการลงทุนในหุ้นคุณภาพดีที่มีการเติบโต (quality growth) และหุ้นปันผล ในช่วงที่ตลาดปรับตัวลง

• นักลงทุนสามารถใช้ฟีเจอร์ Wealth ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวใน UOB TMRW จะช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อ-ขาย-สับเปลี่ยนกองทุนรวมได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถจัดการความมั่งคั่งผ่านโทรศัพท์มือถือได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว

ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2567 เป็นต้นไป นักลงทุนจะสามารถเข้าถึงกองทุนต่างประเทศได้โดยตรง ทำให้สามารถลงทุนโดยตรงในกองทุนรวมที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศจากบริษัทจัดการกองทุนที่มีชื่อเสียงถึง 14 แห่ง อาทิ Blackrock, PIMCO, JPMorgan และ Fidelity สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อ-ขาย-สับเปลี่ยนกองทุนรวมผ่านแอป UOB TMRW ได้ที่นี่

X

Right Click

No right click