กรุงเทพประกันชีวิตและธนาคารทิสโก้ ปลื้ม! ลูกค้าสนใจวางแผนเกษียณ และวางแผนคุ้มครองค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ - โรคร้ายแรง เต็มแน่นทุกอีเว้นท์ เผยลูกค้าเรียกร้องจัดต่อปีหน้า เน้นสัมมนาสุขภาพโรคร้ายแบบเชิงลึก นวัตกรรมรักษา พร้อมประกาศเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ โรคร้ายแรง และเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์บำนาญร่วมกัน หวังสร้างความคุ้มครองที่คุ้มค่าให้ลูกค้าทั้งสองฝ่าย
นางลัดดาวัลย์ สิทธิวรนันท์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายช่องทางสถาบันการเงินและพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กรุงเทพประกันชีวิต ส่งเสริมให้คนไทยมีแผนการเงินที่ดี และสอดคล้องกับความเป้าหมายในแต่ละช่วงวัย ความร่วมมือกับธนาคารทิสโก้ นับเป็นการช่วยเติมเต็มความต้องการในการดูแลและวางแผนชีวิตหลังเกษียณได้อย่างรอบด้าน ทั้งความคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และรายได้หลังเกษียณ โดยแผนการเงินที่ครอบคลุมและเหมาะสม ช่วยให้เราไม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงหรือความไม่แน่นอนต่าง ๆ เมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับสภาพทางการเงินหรือสภาพร่างกายตามมาได้ กรุงเทพประกันชีวิตจึงได้นำเสนอแผนความคุ้มครองที่ตอบโจทย์แนวคิด “Megatrends Retirement Planning” ไม่ว่าจะเป็น ประกันบำนาญ ที่ช่วยสร้างหลักประกันรายได้ตลอดช่วงวัยเกษียณ มีความเสี่ยงต่ำและการันตีเงินบำนาญตอนเกษียณอายุ รวมถึงแผนประกันสุขภาพและโรคร้ายแรงที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาในปัจจุบัน สามารถเข้าถึงนวัตกรรมการรักษาที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพสูง และไม่กระทบกับเงินที่เตรียมไว้สำหรับการวางแผนเกษียณ และสามารถมีชีวิตหลังเกษียณที่มั่นคง สบายใจและมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้
นายพิชา รัตนธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากธนาคารทิสโก้และบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมกันจัดสัมมนา 4 ภาค เดินสายให้ข้อมูลการวางแผนเกษียณที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตที่ยืนยาวมากขึ้นกว่าในอดีต ภายใต้แนวคิด “Megatrends Retirement Planning” แก่ลูกค้าและบุคคลทั่วไป พร้อมให้ความรู้ด้านการดูแลและรักษาโรคร้ายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลชั้นนำ โดยจัดที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นตัวแทนภาคเหนือเป็นงานสุดท้ายของปี 2566 นั้น โดยสรุปแล้วการจัดงานสัมมนาทั้ง 4 ภาคลูกค้าให้การตอบรับที่ดีมาก โดยผลิตภัณฑ์ประกันที่ลูกค้าเวลธ์รายใหญ่สนใจซื้ออันดับหนึ่งคือ ประกันสุขภาพทุนสูง รองลงมาคือประกันโรคร้ายแรงครอบคลุม 108 โรคร้าย และประกันบำนาญที่เน้นผลประโยชน์ในขณะดำรงชีวิตสูง (Living Benefit) ตามลำดับ
นายพิชากล่าวอีกว่า จากกระแสตอบรับที่ดีของลูกค้าในปี 2566 ธนาคารทิสโก้และกรุงเทพประกันชีวิต จะเดินหน้าจัดงานสัมมนา 4 ภาคอย่างต่อเนื่องในปีหน้า โดยยังคงเน้นเรื่องการวางแผนเกษียณที่เพียงพอต่อสังคมอายุยืน พร้อมทั้งเชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลชั้นนำให้ความรู้ด้านสุขภาพ รวมถึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันทั้งประกันสุขภาพ โรคร้ายแรงที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายการรักษาด้วยนวัตกรรมการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ และเตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันบำนาญรูปแบบใหม่โดยมุ่งหวังสร้างความคุ้มครองที่คุ้มค่าต่อลูกค้าทั้งสองฝ่าย เพื่อให้ลูกค้าสามารถวางแผนการเงินได้อย่างมีศักยภาพ
ประกันชีวิตเป็นทางเลือกในการใช้สิทธิลดหย่อนที่ผู้เสียภาษีบุคคลธรรมดาใช้ในการวางแผนภาษีในแต่ละปี เฉพาะเบี้ยประกันชีวิตสำหรับตัวผู้เสียภาษีสามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ถึง 100,000 บาท ไม่รวมกับเบี้ยประกันบำนาญและเบี้ยประกันสุขภาพของพ่อแม่ การใช้สิทธิลดหย่อนไม่ต้องคำนวณตามสัดส่วนของรายได้ของเราจึงลดหย่อนได้เต็มที่ไม่ว่าจะมีเงินได้พึงประเมินอย่างไร การวางแผนภาษีด้วยประกันชีวิตจึงสามารถช่วยลดภาระภาษีตามขั้นภาษีสูงสุดที่คำนวณได้ หรือสูงสุดถึง 35,000 บาททีเดียว
ประกันชีวิตที่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ประกอบด้วยแบบประกันที่มีระยะเวลาความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ประกันสุขภาพแต่คนส่วนใหญ่มักเลือกทำแบบประกันโดยคำนวณถึงการลดหย่อนภาษีเป็นหลัก จึงเลือกแบบประกันระยะเวลาต่ำสุดตามหลักเกณฑ์ คือความคุ้มครอง 10 ปี เราสามารถเลือกวางแผนลดหย่อนภาษีให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินของเราควบคู่ไป เพื่อให้เราสามารถบรรลุตามเป้าหมายการเงินโดยไม่มีภาระการชำระเบี้ยเกินจำเป็น ที่สำคัญเป็นการวางแผนการเงินระยะยาวให้กับตัวเราอีกด้วย ซึ่งจริง ๆ เป็นวัตถุประสงค์หลักที่รัฐมอบสิทธิประโยชน์ภาษีให้กับผู้เสียภาษี
การทำประกันชีวิตเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเงินของเรา ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่เราหาเป้าหมายการเงินระยะยาวของเราให้ได้หลายคนมีเพียงเป้าหมายเดียว แต่บางคนมีหลายเป้าหมายก็ได้ การวางแผนเพื่อการเกษียณเป็นเป้าหมายสำคัญเป้าหมายหนึ่งเพราะการที่คนมีอายุยืนยาวขึ้น จำเป็นต้องใช้เงินช่วงเกษียณมากขึ้น หากปัจจุบันเรามีอายุ 35 ปี การวางแผนเพื่อการเกษียณจะมีระยะเวลาประมาณ 25 ปี เราสามารถเลือกแบบประกันสะสมทรัพย์เพื่อเสริมแผนการเกษียณของเราและได้ประโยชน์จากการลดหย่อนในหมวดประกัน ตัวอย่างเช่น คุณ บี ปัจจุบัน อายุ 50 ปี มีประกันสุขภาพในปัจจุบันเบี้ยฯ ปีละ 15,000 บาท สามารถวางแผนภาษีเพื่อการเกษียณเพิ่มเติมโดยใช้ประกันสะสมทรัพย์ ระยะเวลา 10 ปี ชำระเบี้ยฯ ครั้งเดียว ผลประโยชน์รวม 99,880 บาท เบี้ยฯ ปีละ 85,000 บาท เพื่อรับเงินก้อนหลังเกษียณปีละ 100,000 บาท
เป้าหมายการเงินอีกเป้าหมายหนึ่งคือเป้าหมายการศึกษาของลูก เราสามารถวางแผนครอบครัวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาของลูกในระยะยาว หากลูกกำลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาล แผนการศึกษาของลูกจะมีระยะเวลา 12 ปีโดยประมาณสำหรับระดับปริญญาตรี และ 16 ปี สำหรับระดับปริญญาโท การเลือกทำประกันสะสมทรัพย์เพื่อลดหย่อนภาษีจึงไม่จำเป็นต้องเป็นแบบประกันที่มีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปี แต่อาจเลือกทำประกันในหลายรูปแบบเพื่อให้เหมาะสมกับเป้าหมายของเรา ตัวอย่างเช่น คุณใส่ใจ ปัจจุบันอายุ 35 ปี มีลูกอายุ 5 ปี ต้องการเลือกทำประกันเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเต็ม 100,000 บาท ประกันสุขภาพที่มีอยู่ในปัจจุบันเบี้ยฯ ปีละ 15,000 บาท ต้องการใช้ประกันเพื่อเป็นเงินทุนการศึกษาปริญญาโทให้ลูก 2 ล้านบาท แบบประกันเพื่อใช้สิทธิฯ ภาษีของคุณใส่ใจจะต่างกับของคุณบี โดยแผนภาษีจากประกันสะสมทรัพย์ ระยะเวลา 10 ปี ชำระเบี้ยครั้งเดียว แม้จะใช้สิทธิภาษีได้เท่ากัน แต่ไม่สามารถตอบเป้าหมายเพื่อการศึกษาของลูกได้ การวางแผนการศึกษาให้ลูกจะมีภาระชำระเบี้ยเพิ่มขึ้นและไม่สามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ คุณใส่ใจจึงควรเลือกแบบประกันสะสมทรัพย์เพื่อทุนการศึกษาปริญญาโท ระยะเวลาคุ้มครอง 15 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ยฯ 10 ปี ผลประโยชน์รวมตลอดสัญญา 977,500 บาท จำนวนเงินประกันภัย 700,000 บาท เบี้ยฯ ปีละ 85,000 บาท แทน
รูปแบบเป้าหมายที่สามารถนำมาประกอบการวางแผนภาษี สิ่งที่ต้องคำนึงถึง และรูปแบบของประกันชีวิตที่ตอบเป้าหมายต่างๆ อาจจะสรุปได้คร่าวๆ ตามตาราง ดังนี้
เมื่อเราจะวางแผนภาษีด้วยประกันทั้งที เราจึงควรวางแผนภาษีให้สอดคล้องไปกับเป้าหมายการเงินของเราด้วย เพื่อให้เราได้มากกว่าการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเพียงอย่างเดียว เพียงเท่านี้เราก็จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทำประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษีประจำปี
หมายเหตุ