December 21, 2025

ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี ร่วมกับ นางสาวฉัตรประอร นิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายศิริชัย เผ่าบรรจง นายกเทศมนตรีตำบลบางคล้า นางธัญรัตน์ อินทร รองเลขาธิการสายงานพื้นที่และชุมชน สกพอ. และ รศ.ดร.ดวงพร ภู่ผะกา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ฉะเชิงเทรา เปิดเส้นทางการท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด “ช้อปของดี เที่ยววัดดัง บางคล้า ฉะเชิงเทรา”เชื่อมโยงประโยชน์จากการลงทุนสู่การท่องเที่ยวชุมชนในพื้นที่ อีอีซี ณ วัดแจ้งบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อชู

อัตลักษณ์ ความโดดเด่นของสินค้าจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ผ่านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์ผ่านสายน้ำบางปะกง โดยบูรณาการร่วมกับจังหวัดฉะเชิงเทรา และเครือข่ายในพื้นที่ อีอีซี วิสาหกิจชุมชนนำสินค้า ผลิตภัณฑ์ชุมชน มาจำหน่ายในเส้นทางการท่องเที่ยว สร้างโอกาสเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวให้ชุมชนในพื้นที่โดยรอบ

 ดร. จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ อีอีซี กล่าวว่า กิจกรรมฯ ในครั้งนี้ อีอีซี ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเฉพาะสำนักงานเทศบาลตำบลบางคล้า และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขับเคลื่อนการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวอำเภอบางคล้า ฉะเชิงเทรา เชื่อมโยงองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์และของดี ของเด่นในชุมชน ยกระดับบริการด้านการท่องเที่ยวในชุมชนให้มีคุณภาพตรงความต้องการตลาด และนักท่องเที่ยวยิ่งขึ้น ซึ่งเริ่มนำร่องในพื้นที่บางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเชื่อมโยงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวไปยังพื้นที่และชุมชนโดยรอบที่มีศักยภาพ สำหรับรองรับกลุ่มนักลงทุน และผู้ที่จะเข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่อีอีซี ให้สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งวันหยุด และวันธรรมดา เป็นการสร้างโอกาสเพิ่มรายได้ให้แก่ ชุมชน วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และบริการที่เกี่ยวเนื่องในท้องถิ่น

สำหรับเส้นทางการท่องเที่ยว “ช้อปของดี เที่ยววัดดัง บางคล้า ฉะเชิงเทรา” ในครั้งนี้ มีกิจกรรมหลากหลายทั้งการเยี่ยมชมตลาดน้ำบางคล้าเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว พร้อมเลือกซื้อสินค้า และของดีฉะเชิงเทรา อาทิ ขนมเปี๊ยะ มะม่วง มะพร้าว น้ำตาลสด กุ้งแม่น้ำ และข้าวหอมมะลิจากอำเภอราชสาส์น ที่เป็นต้นกำเนิดของข้าวหอมมะลิ 105 เป็นต้น ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งลุ่มน้ำบางปะกง เช่น ท้าวเวสสุวรรณสามขาเหยียบหีบสมบัติ แห่งวัดแจ้งบางคล้า นั่งเรือชมพระอุโบสถเงิน วัดพุทธพรหมยาน หนึ่งเดียวบนเกาะลัด และร่วมสักการะพระพิฆเนศ

ณ อุทยานพระพิฆเนศคลองเขื่อน พระพิฆเนศเนื้อสำริดองค์ยืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนในฉะเชิงเทรา และนักท่องเที่ยวสายมู ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งนักท่องเที่ยวควรได้มาท่องเที่ยว และเข้าสักการะเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง สกพอ. ร่วมสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผลักดันให้พื้นที่นี้ เป็นอีกหนึ่ง destination ของนักลงทุนที่มาใช้ชีวิตยามว่าง และพักผ่อนจากการทำงาน

ลอรีอัล กรุ๊ป (L’Oréal Groupe) เปิดตัวเมลาซิล (MelasylTM) โมเลกุลที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสำหรับปัญหาเม็ดสีผิวเฉพาะจุด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดจุดด่างดำและรอยสิว จากผลการศึกษาในด้านระบาดวิทยาของผิวหนังทั่วโลก พบว่าผู้ที่มีส่วนร่วมในการศึกษาครึ่งหนึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับเม็ดสีผิวอย่างน้อย 1 ประเภท[1] ลอรีอัลจึงนำส่วนผสมอันเป็นกรรมสิทธิ์มาพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ซึ่งครอบคลุมทุกโทนสีผิว เพื่อจัดการกับปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอและช่วยให้ผิวพรรณแลดูดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ เมลาซิลยังผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด และถูกนำไปศึกษาทางวิทยาศาสตร์มาแล้วถึง 121 ครั้ง

เมลาซิลเป็นผลงานจากการวิจัยอย่างยาวนานถึง 18 ปี และเป็นนวัตกรรมที่ได้รับสิทธิบัตร ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของเมลาซิล สามารถช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอและดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น จัดการได้แม้กับรอยดำฝังลึก* ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยที่มีส่วนผสมของเมลาซิล ได้แก่ เมลา บี3 (​​Mela B3) ของลา โรช-โพเซย์ (La Roche Posay) ทั้งเซรั่มเมลาบี3 (MelaB3) และเมลาบี3 เอสพีเอฟ30 (MelaB3 SPF30) ในอนาคตอันใกล้นี้ ลอรีอัล ปารีส (L’Oréal Paris) และวิชี่ (Vichy) เตรียมนำเมลาซิลมาใช้กับผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ผู้เชี่ยวชาญคิดค้นขึ้นมาโดยใช้ส่วนผสมใหม่นี้ได้มากยิ่งขึ้น

ลอรีอัล กรุ๊ป (L’Oréal Groupe) เปิดตัวเมลาซิล (MelasylTM) โมเลกุลที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสำหรับปัญหาเม็ดสีผิวเฉพาะจุด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดจุดด่างดำและรอยสิว จากผลการศึกษาในด้านระบาดวิทยาของผิวหนังทั่วโลก พบว่าผู้ที่มีส่วนร่วมในการศึกษาครึ่งหนึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับเม็ดสีผิวอย่างน้อย 1 ประเภท[1] ลอรีอัลจึงนำส่วนผสมอันเป็นกรรมสิทธิ์มาพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ซึ่งครอบคลุมทุกโทนสีผิว เพื่อจัดการกับปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอและช่วยให้ผิวพรรณแลดูดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ เมลาซิลยังผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด และถูกนำไปศึกษาทางวิทยาศาสตร์มาแล้วถึง 121 ครั้ง

เมลาซิลเป็นผลงานจากการวิจัยอย่างยาวนานถึง 18 ปี และเป็นนวัตกรรมที่ได้รับสิทธิบัตร ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของเมลาซิล สามารถช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอและดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น จัดการได้แม้กับรอยดำฝังลึก* ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยที่มีส่วนผสมของเมลาซิล ได้แก่ เมลา บี3 (​​Mela B3) ของลา โรช-โพเซย์ (La Roche Posay) ทั้งเซรั่มเมลาบี3 (MelaB3) และเมลาบี3 เอสพีเอฟ30 (MelaB3 SPF30) ในอนาคตอันใกล้นี้ ลอรีอัล ปารีส (L’Oréal Paris) และวิชี่ (Vichy) เตรียมนำเมลาซิลมาใช้กับผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ผู้เชี่ยวชาญคิดค้นขึ้นมาโดยใช้ส่วนผสมใหม่นี้ได้มากยิ่งขึ้น

"ปัญหาเกี่ยวกับเม็ดสีผิวเฉพาะจุด และปัญหาฝ้า กระ เป็นปัญหาด้านปัญหาผิวพรรณที่มีการสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตสูงมากปัญหาหนึ่งในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนไทยไปพบแพทย์ผิวหนัง" นายแพทย์ภูมิ วิสุทธิ์จินดากรณ์ ผู้เชี่ยวชาญผิวหนังกล่าว "ความผิดปกติของเม็ดสีผิวมักจะรุนแรงขึ้นเมื่อสัมผัสกับปริมาณรังสียูวีและระดับมลภาวะระดับสูง ปัจจุบันคนไทยมีความต้องการมีผิวที่สุขภาพดี มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น และมีความสนใจเกี่ยวกับข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์และทางเทคนิคของส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และพัฒนาวิธีการดูแลผิวในหลากหลายขั้นตอนมากขึ้น"

เมลานินมีหน้าที่สำคัญในการแสดงโทนสีผิวจึงทำให้สีผิวของมนุษย์มีความหลากหลายแตกต่างกันไป ซึ่งเมื่อผิวถูกแสงแดด ร่างกายจะผลิตเมลานินเพิ่มขึ้นเพื่อปกป้องเซลล์ผิว การผลิตเมลานินที่มากหรือน้อยกว่าปกติเกิดได้จากหลายปัจจัย และอาจก่อให้เกิดปัญหาเม็ดสีผิวเฉพาะจุด เช่น จุดด่างดำแห่งวัยและรอยดำจากสิว ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ของลอรีอัล กรุ๊ป ที่มีเมลาซิลเป็นส่วนประกอบจะเข้ามาช่วยลดเลือนจุดด่างดำที่เกิดขึ้น รวมถึงรอยดำฝังลึก* เป็นปัญหากวนใจ ด้วยประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ได้รับการทดสอบแล้วในทางคลินิกครอบคลุมทุกโทนสีผิว

ลอรีอัล กรุ๊ป เป็นผู้นำในแวดวงวิทยาการก้าวหน้าทางความงามมาเป็นเวลากว่าหนึ่งศตวรรษ บริษัทได้ทุ่มเทศึกษาค้นคว้าเรื่องเม็ดสีผิวมาเป็นเวลาถึง 35 ปี เมลาซิลได้รับการนำเสนอครั้งแรกที่การประชุมแพทย์ผิวหนังโลก (World Congress of Dermatology) ประจำปี 2566 ที่สิงคโปร์ พร้อมกับผลการศึกษาทั่วโลกครั้งแรกเกี่ยวกับความผิดปกติของสีผิวในทางระบาดวิทยา และเมื่อไม่นานมานี้ เมลาซิลยังถูกพูดถึงในการประชุมใหญ่ประจำปีของสมาคมแพทย์ผิวหนังอเมริกา (American Academy of Dermatology) ในเมืองซานดิเอโก ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ข้อมูลนวัตกรรมระดับโลกอื่นๆ จากลอรีอัล กรุ๊ป

Mexoryl 400: ภายหลังจากที่ได้พัฒนาและค้นคว้าวิจัยสารกันแดด“เม็กโซริล 400” (Mexoryl 400) มาเป็นเวลา 10 ปี พร้อมด้วยสิทธิบัตร 25 ฉบับ ลอรีอัลได้ปฏิวัตินวัตกรรมครีมกันแดดครั้งสำคัญที่สุดในรอบ 30 ปี ในปี 2565 ด้วยการเปิดตัว “ยูวีมูน 400” (UVMUNE 400) ที่มีส่วนผสมของเม็กโซริล 400 เทคโนโลยีกันแดดตัวแรกจากแผนกวิจัยและนวัตกรรมของลอรีอัล (L'Oréal R&I) ที่สามารถปกป้องผิวจากรังสียูวีช่วงยาวในช่วงคลื่น 380-400 นาโนเมตร หรือ Ultra-Long UVA ซึ่งคิดเป็น 30% ของรังสียูวีทั้งหมด รังสียูวีเอช่วงยาวเป็นสาเหตุของภาวะความเครียดจากออกซิเดชั่น จุดด่างดำ การเปลี่ยนแปลงของยีนที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งผิวหนัง อีกทั้งยังขัดขวางการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน ทำให้ผิวถูกทำลายจากมลภาวะทางแสง และยังทำให้เกิดสัญญาณแห่งวัย เช่น ริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และจุดด่างดำ โดย “ลา โรช-โพเซย์” (La Roche-Posay) เป็นแบรนด์แรกของลอรีอัลที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของยูวีมูน 400 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์กันแดด “แอนเทลิโอส” (ANTHELIOS) 

EpiSkin ผิวหนังจำลอง: ลอรีอัลมุ่งมั่นสร้างสรรค์ความงามโดยปราศจากการทดลองในสัตว์ เราจึงไม่ทดลองผลิตภัณฑ์หรือส่วนผสมกับสัตว์ ลอรีอัลยังเป็นบริษัทรายแรก ๆ ที่ใช้วิธีการทดลองแบบทางเลือกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี โดยในช่วงระยะเวลากว่า 40 ปีนี้ บริษัทได้บุกเบิกการพัฒนาแบบจำลองผิวมนุษย์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ หรือที่เรียกว่า เอพิสกิน (EpiSkin) เพื่อใช้ประเมินผลิตภัณฑ์และส่วนผสมเครื่องสำอางว่าจะส่งผลอย่างไรต่อผิวของมนุษย์ โดยเราได้พัฒนาแบบจำลองผิวมนุษย์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ในห้องปฏิบัติการเอพิสกินหลายแห่ง ทั้งในประเทศฝรั่งเศส จีน และบราซิล

ข้อมูลนวัตกรรมระดับโลกอื่นๆ จากลอรีอัล กรุ๊ป ภูมิภาค SAPMENA (เอเชียแปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ)

Bright Complete Vitamin C Booster Serum: SAPMENA เป็นภูมิภาคที่กว้างใหญ่และมีความหลากหลายอย่างมากในแง่ของประเภทเส้นผมและสีผิว จากระบบการจำแนกสีผิวทั่วโลกโดยพิจารณาจากสีผิวและการตอบสนองต่อแสงแดดนั้น มีการแบ่งระดับของสีผิวออกเป็น 6 ระดับ และทั้ง 6 ระดับนี้สามารถพบได้ในภูมิภาค SAPMENA ซึ่งหมายความว่า ลอรีอัลสามารถถอดรหัสความหลากหลายและคิดค้นโซลูชันที่ครอบคลุมมากที่สุด เหมาะสำหรับทุกสีผิวและทุกสภาพผิว เราได้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่ก้าวล้ำเพื่อตอบสนองความงามที่ครอบคลุมทุกความแตกต่างมากที่สุด และในปัจจุบัน นวัตกรรมที่ถือกำเนิดขึ้นในภูมิภาค SAPMENA กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก หนึ่งในตัวอย่างของความสำเร็จ คือ ไบรท์ คอมพลีท วิตามินซี บูสเตอร์ เซรั่ม (Bright Complete Vitamin C Booster Serum) จากการ์นิเย่ (Garnier) ซึ่งถูกคิดค้นและพัฒนาในภูมิภาค SAPMENA เพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับผิวพรรณที่กระจ่างใสไร้จุดด่างดำ เซรั่มสูตรนี้ประกอบด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติอันทรงประสิทธิภาพอย่างวิตามินซี ซึ่งมีประสิทธิภาพยาวนาน 3 วัน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวและทุกสีผิว โดยเปิดตัวครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปี 2562 ก่อนที่จะขยายไปยังเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และยุโรป


[1] โครงการวิจัยระดับบุกเบิก โดยลา โรช-โพเซย์ ได้ทำการศึกษากับอาสาสมัคร 48,000 รายใน 34 ประเทศ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นข่าวเด่น (breaking news) ในงานประชุมแพทย์ผิวหนังโลกที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 *ผิวชั้นนอก

 

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) นำผู้บริหาร EXIM BANK เยี่ยมชมกิจการและพบปะหารือกับนายมารุต เจริญศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ด แมชชินเนอรี่ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องจักรสำหรับกระบวนการแปรรูปอาหารตามหลักมาตรฐานและมุ่งเน้นนวัตกรรม จำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก EXIM BANK ณ ที่ทำการบริษัท ฟู้ด แมชชินเนอรี่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2567

ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน  ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่  บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ สุดยอดผู้บริหารองค์กรแห่งปี THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2024 ประเภทอุตสาหกรรมประกันวินาศภัย โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี ประธานในพิธี เป็นผู้มอบรางวัล ซึ่งจัดโดยนิตยสาร Business+ ในเครือบริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใต้แนวคิด “Iconify the Master” หรือต้นแบบผู้นำแห่งอนาคต เพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติผู้บริหารระดับสูงของกรุงเทพประกันภัยที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์และโดดเด่นในอุตสาหกรรมประกันวินาศภัย ด้วยความรู้ ความสามารถ และมีวิสัยทัศน์ในการบริหารงานที่พัฒนาธุรกิจขององค์กรให้เติบโตก้าวหน้า พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ ด้าน ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ส่งผลให้กรุงเทพประกันภัยมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำการเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จและเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่พนักงาน ณ ห้องบอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้

จบไปแล้วกับงาน “Experience Macao Thailand Roadshow” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานการท่องเที่ยวของรัฐบาลมาเก๊า ขนทัพโปรโมชั่นสุดคุ้ม จากโรงแรมชั้นนำภายใน Galaxy Macau พร้อมตัวเลือกตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษมากมาย ให้ผู้ที่สนใจร่วมชมร่วมชอปภายในงาน ทั้งยังขนเอาความสนุกจากเหล่าศิลปินดาราไม่ว่าจะเป็น คู่จิ้นสุดฮอต เต-ตะวัน และ นิว-ฐิติภูมิ หรือ คู่แม่ลูก โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ และคุณแม่โอ๋ ธนภรณ์ รวมไปถึงบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวสายฮา ว่านไฉ จากเพจ อาสาพาไปหลง มาฝากเหล่านักเดินทางและผู้คนที่ผ่านไปมา ณ ลานชั้น 1 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์

ซ้ายไปขวา: คุณ Sam Lei, Executive Director of Macao Trade and Investment Promotion Institute, คุณโสฬส ตังคอารีย์ หัวหน้างานเอเชีย 3 กองตลาดเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.), คุณ Maria Helena de Senna Fernandes, Director of Macao Government Tourism Office, คุณธนพล ชีวรัตนพร อุปนายก สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว และ คุณอุรชา จักรธรานนท์ ผู้จัดการทั่วไป การท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทย

-------------------------------------------------------------------------------

ครั้งนี้ Galaxy Macau ได้สนับสนุนและให้ความร่วมมือกับรัฐบาลมาเก๊า ในการเดินหน้าขยายตลาดไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งภายในงาน บูธของ Galaxy Macau ได้ถูกจัดขึ้นในธีมสุดคลาสิก ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชม เพลินเพลิดกับเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของมาเก๊าอย่าง “Tourism+” ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Galaxy Macau ในการส่งเสริมให้มาเก๊าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการพักผ่อนระดับโลก ดึดดูดนักท่องเที่ยวที่สนใจ มาเยี่ยมชมบูธกับอย่างคึกคักตลอดทั้งงาน

โอกาสนี้ Galaxy Macau ขอรวมภาพประทับใจ จากความสนุกสนานจากงาน Thailand Roadshow รวมถึงภาพบรรยากาศสุดหรูของ Galaxy Macau มาฝากทุก ๆ คนกัน!

Galaxy Macau มอบประสบการณ์การเข้าใช้บริการรีสอร์ทที่หลากหลายและไม่เหมือนใคร ให้กับคนไทยและนักท่องเที่ยวในประเทศไทย นักท่องเที่ยวที่มาร่วมงาน "Experience Macau – Thailand Roadshow" สามารถนำของที่ระลึกกลับบ้านเพื่อเฉลิมฉลองมรดกของมาเก๊าและโปรตุเกส 

จิ้นสุดฮอต เต-ตะวัน และ นิว-ฐิติภูมิ ร่วมโชว์พิเศษ เปิดงาน Experience Macao Thailand Roadshow

บรรยากาศสนุกสนาน จากพิธีเปิดงาน Experience Macao Thailand Roadshow

บรรยากาศสุดหรูจาก Galaxy Macau

 

Zentry และ Maxion ได้ร่วมประกาศความร่วมมือกันภายใต้คอนเซปต์ “Zentry x Maxion: The new era of blockchain gaming” Zentry ได้เข้ามาซื้อหุ้นใหญ่ใน Maxion บริษัทผู้มีชื่อเสียงจากการนำเกมกระแสหลักเข้าสู่โลกแห่งบล็อกเชน เพื่อผลักดันให้ Maxion เป็นผู้นำด้านการให้บริการเกมบล็อกเชนไปสู่ระดับโลก

ด้วยผลงานเป็นที่ประจักษ์ของ Maxion ในอุตสาหกรรมเกม ร่วมกับเครือข่ายที่กว้างขวางของ Zentry เกิดเป็นความร่วมมือที่ทำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและ มีเป้าหมายที่จะเสริมสร้างประสบการณ์ของผู้เล่น, ยกระดับการมีส่วนร่วมของผู้เล่น, เพิ่มการสร้างรายได้จากเกม และปรับปรุงการออกแบบเกมผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนสำหรับเกม AAA หลายเกมที่กำลังให้บริการอยู่

นายจรินทร ฐิตะดิลก Co-founder และ Project Lead จากบริษัท Zentry กล่าวว่า “ความเข้าใจในตลาดที่เฉพาะเจาะจง (hyper-localized market) พร้อมด้วยทีม Maxion ที่มีความเชี่ยวชาญและหาตัวจับยาก เมื่อรวมกับความสามารถในการเข้าถึงตลาดโลกและระบบนิเวศของ Zentry เรามั่นใจที่จะสามารถผลักดัน Maxion ให้เป็นหนึ่งในผู้พัฒนาและให้บริการเกม Web3 ที่ใหญ่ที่สุดในระดับโลกได้”

ทาง Maxion ได้พิสูจน์ความสามารถผ่านการยกระดับ Ragnarok ขึ้นไปอีกขั้นกับ Ragnarok Landverse ซึ่งได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งนวัตกรรมในอุตสาหกรรมเกมบล็อกเชน เป็นข้อพิสูจน์ว่าความสำเร็จสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องพึ่งพา ICOs ด้วยการมุ่งเน้นสร้างสรรค์การเล่นที่น่าสนใจ ทำให้ผู้เล่นเข้าถึงได้ทั่วโลก บวกกับการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ NFT เกม Ragnarok Landverse จึงเป็นผู้บุกเบิกในวงการเกม Web 3.0 ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

นายโชติวัน วัฒนลาภ CEO และ Co-Founder จากบริษัท Maxion กล่าวว่า “เมื่อพูดถึงชื่อ Ragnarok ทุกคนที่เล่นเกมจะหวนคิดถึงเกม MMORPG ในตำนาน ที่ทุกคนมีพื้นที่พิเศษไว้ให้ในใจ แต่สำหรับเรา Ragnarok เป็นมากกว่าความทรงจำ เราพร้อมที่จะยกระดับ Ragnarok และเกมอื่นๆโดยการรวมเข้ากับโลกของบล็อกเชน สร้างพื้นที่ๆ จะเป็นความทรงแห่งใหม่ให้กับผู้เล่นทุกคน”

การเข้าร่วมกับ Zentry ไม่เพียงแต่จะเปิดโอกาสใหม่ที่น่าตื่นเต้นในวงการเกม แต่ยังทำให้ฐานะผู้นำด้านผู้พัฒนาและผู้ให้บริการเกม Web 3.0 ของ Maxion แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทั้งสองบริษัทกำลังนำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่ผู้เล่นเกมทั่วโลก โดยจะเริ่มที่ตลาด SEA เป็นอันดับแรก

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Zentry ได้ที่เว็บไซต์ https://medium.com/zentry และเพจเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/ZentryThailand และ Maxion ได้ที่ https://www.facebook.com/maxionplatform

โรงพยาบาลกรุงเทพ ผู้ให้บริการทางการแพทย์ และการรักษาพยาบาลชั้นนำของประเทศไทย ลงทุนกว่า 200 ล้านบาท เปิดศูนย์การผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ “The da Vinci Xi” หนึ่งในเทคโนโลยีการผ่าตัดผ่านกล้องแบบแผลเล็ก (Minimal Invasive Surgery: MIS) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา ลดความเสี่ยงให้ผู้ป่วยผ่าตัด เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว ตอกย้ำเป้าหมายสำคัญในการก้าวขึ้นเป็นโรงพยาบาลชั้นนำด้านหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดในระดับภูมิภาคอาเซียน

นายแพทย์เอกกิตติ์ สุรการ รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลกรุงเทพ เปิดเผยว่า การลงทุนในครั้งนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพ ประสิทธิภาพ และความแม่นยำให้กับการรักษาผู้ป่วยของโรงพยาบาล ผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตอกย้ำความมุ่งมั่นของโรงพยาบาลกรุงเทพในการเป็นโรงพยาบาลชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน และเป็นหมุดหมายสำคัญด้านการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ที่ทันสมัย โดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ

การผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ The da Vinci Xi ช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำ รักษาได้ตรงจุด โดยเฉพาะการผ่าตัดในบริเวณที่มีความซับซ้อน และเข้าถึงยาก ช่วยลดความเสี่ยงให้กับผู้ป่วยระหว่างการรักษา ลดความเจ็บปวด อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้รวดเร็วขึ้นภายหลังการผ่าตัด และช่วยให้แพทย์สามารถผ่าตัดได้ประณีตละเอียดขึ้นในหลายโรค โดยเฉพาะกับโรคที่มีความซับซ้อน อาทิ โรคที่เกี่ยวกับทรวงอก โรคที่เกี่ยวกับระบบช่องท้อง โรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ ต่อมไธมัส มะเร็งปอด มะเร็งตับ รวมไปถึงโรคที่เกี่ยวกับนรีเวช ภาวะก้อนที่รังไข่ ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เป็นต้น”

ที่ผ่านมาโรงพยาบาลกรุงเทพ ประสบความสำเร็จมากกว่า 200 ราย ในการนำเอาระบบหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเข้ามาช่วยรักษาผู้ป่วย ซึ่งมีข้อดีคือ ผู้ป่วยสูญเสียเลือดน้อยลง ระยะเวลาการฟื้นตัวสั้นลง ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อลดลง และอัตราการกลับเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลโดยไม่ได้คาดการณ์ไว้ลดลง ในการผ่าตัดเฉพาะทางบางโรค เช่น การผ่าตัดเพื่อรักษาการทำงานของระบบทางเดินปัสสาวะในผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก และผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองในผู้ป่วยมะเร็งปอด หุ่นยนต์ช่วยให้ผ่าตัดไม่กระทบหรือทำลายเส้นประสาท ส่งผลให้ผลการรักษาและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น

“เรามุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพด้านการผ่าตัดรักษาผู้ป่วย โดยทีมศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ผสมผสานกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ  ท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคที่มีผลกระทบต่อการดูแลรักษาสุขภาพของคนทั่วไป เช่น การอัตราการเติบโตของโรคมะเร็งที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยของแต่ละประเทศ และความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพ” นพ. เอกกิตติ์ กล่าว

“อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่อย่างหุ่นยนต์ผ่าตัด The da Vinci Xi  จะมีต้นทุนที่สูงและอาจมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น สำหรับผู้ป่วยมีผลลัพธ์ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประสิทธิภาพในการรักษาผ่าตัดที่แม่นยำ ลดภาวะแทรกซ้อน ช่วยให้คนไข้ฟื้นตัวเร็ว และรักษาโรคได้ตรงจุด ลดค่ารักษาพยาบาลได้ในระยะยาว” ผู้ป่วยสามารถใช้สิทธิประกันที่ขยายความคุ้มครองสำหรับการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ ครอบคลุมการรักษา ทำให้การรักษาขั้นสูงนี้เข้าถึงได้ง่ายและคุ้มค่ายิ่งขึ้น

สำหรับโปรแกรมการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์รองรับผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ต้องการเข้ารับการผ่าตัดแบบแผลเล็กขั้นสูง นอกจากนี้มีบริการให้คำปรึกษาเฉพาะบุคคล เพื่อช่วยเหลือแนะนำผู้ป่วยที่มารับบริการ ปลดล็อคความกังวลด้านค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่ตัดสินใจง่ายไม่แตกต่างจากการการผ่าตัดแบบส่องกล้อง

สิ่งที่ทำให้โรงพยาบาลกรุงเทพแตกต่างในฐานะผู้นำศูนย์การผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ การลงทุนสูงในเทคโนโลยีการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ที่ทันสมัย ผสานความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ผู้ชำนาญการที่ผ่านการฝึกอบรมขั้นสูง ร่วมกับแนวทางการดูแลโดยทีมบุคลากรสหสาขาวิชาชีพ วางแผนการดูแลรักษาผู้ป่วยเฉพาะบุคคล รวมไปถึงการสร้างความร่วมมือกับศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์จากทั่วโลกเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เพิ่มพูนทักษะการดูแลผู้ป่วยให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น

การลงทุนในการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ของโรงพยาบาลกรุงเทพนั้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่มุ่งเป็นโรงพยาบาลชั้นนำในเอเชีย นพ.เอกกิตติ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า "แผนงานระยะ 5 ปีของเรา คือการขยายขีดความสามารถในการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ ให้ครอบคลุมมากขึ้น เช่น ศัลยกรรมหู คอ จมูก ควบคู่ไปกับการลงทุนด้านพัฒนาทักษะ การศึกษาและอบรมเพื่อให้โรงพยาบาลกรุงเทพก้าวขึ้นเป็นศูนย์แห่งความเป็นเลิศด้านการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ระดับโลกในอนาคต"

“พฤกษา” ตอกย้ำความเป็นผู้นำที่มุ่งสนับสนุนให้อุตสาหกรรมก่อสร้างขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่การดูแลสิ่งแวดล้อม จับมือพันธมิตร “ปูนซีเมนต์นครหลวง หรือ ปูนอินทรี” นำผลิตภัณฑ์ “ปูนซีเมนต์อินทรีเพชร Easy Flow” ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกหรือปูนซีเมนต์ลดโลกร้อน (กรีนซีเมนต์) มาใช้เป็นส่วนผสมในคอนกรีตในโครงการพฤกษา ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เกือบ 5 ล้านตัน พร้อมเดินหน้านำเทคโนโลยีสีเขียวมาใช้ในการผลิตแผ่นพรีคาสท์คาร์บอนต่ำ และดีไซน์บ้านลดโลกร้อน

นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า พฤกษามีวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่ผู้นําในการสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “ใส่ใจเพื่อทั้งชีวิต....อยู่ดี มีสุข” ซึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ใช้ในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ดังกล่าว คือ แนวคิด “Green to Great” เดินหน้าพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของ ESG (Environment, Social, Governance) โดยพฤกษาได้ประกาศเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 30 ภายในปี 2573 และมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2593 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยและนานาประเทศ

จากวิสัยทัศน์ดังกล่าว พฤกษา ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ ปูนอินทรี มาตั้งแต่ปี 2562 โดยเลือกใช้ปูนซีเมนต์อินทรีเพชร Easy Flow ซึ่งเป็นปูนซีเมนต์ลดโลกร้อน ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ นำร่องในโครงการพฤกษาแนวราบ ปัจจุบันมีการใช้ ปูนซีเมนต์อินทรีเพชร Easy Flow ในโครงการแนวราบ ประมาณ 327 โครงการ ซึ่งสามารถลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้เกือบ  5 ล้านตัน เทียบเคียงกับการปลูกต้นไม้ทดแทนถึงกว่า 524,483 ต้น  

“บ้านภายใต้แบรนด์พฤกษาเป็นบ้านคาร์บอนต่ำ นอกจากการก่อสร้างโครงการโดยเลือกใช้ปูนรักษ์โลกจากปูนซีเมนต์อินทรีเพชร Easy Flow พฤกษายังเป็น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกที่ใช้คาร์บอนเคียว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสีเขียวในการผลิตแผ่นพรีคาสท์คาร์บอนต่ำในการสร้างบ้าน โดยนำคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นตัวการสำคัญในการทำลายชั้นบรรยากาศมาฉีดกักเก็บเข้าไปในขั้นตอนการผสมคอนกรีต จึงช่วยลดการปล่อยคาร์บอนและก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ ขณะเดียวกันยังสามารถลดปริมาณการใช้ซีเมนต์ลงร้อยละ 5 แต่ยังคงประสิทธิภาพความแข็งแกร่งได้ตามมาตรฐาน และเมื่อเร็ว ๆ นี้ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ได้ประกาศรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้กับ อินโน พรีคาสท์ โดยได้รับฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ Carbon Footprint Reduction (CFR) หรือฉลากลดโลกร้อน ซึ่งถือเป็นพรีคาสท์รายแรก รายเดียว ของอุตสาหกรรมในประเทศไทยที่ได้การรับรอง อีกทั้งยังมีวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ ด้วยเช่นกันที่ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ Carbon Footprint of Product (CFP)

นอกจากนี้ บ้านภายใต้แบรนด์พฤกษา ยังให้ความสำคัญกับ ดีไซน์บ้านที่ช่วยลดความร้อน และ ใช้นวัตกรรมที่ช่วยประหยัดพลังงาน อาทิ โซล่าเซลล์ ระบบระบายอากาศ นวัตกรรมกรองอากาศและลดพลังงาน รองรับ EV Charger และมีบริการจากแอปพลิเคชัน MyHaus ซึ่งเป็นนวัตกรรมระบบบ้านอัจฉริยะที่ช่วยควบคุม IOT และความปลอดภัยในบ้าน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้ผู้อยู่อาศัยได้ด้วย” นายอุเทน กล่าว

นายมนตรี นิธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจปูนซีเมนต์ของประเทศไทย บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดปูนซีเมนต์ของประเทศไทย ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพสูงสุด และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์และคอนกรีตผสมเสร็จ ที่มีเป้าหมายการทำงานด้านความอย่างยั่งยืน ที่มุ่งเป้าชัดเจนในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ซึ่งปูนซีเมนต์อินทรีเพชร Easy Flow เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนขององค์กร เนื่องจากเป็นปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกประเภท GU ตามมาตรฐาน มอก. 2594-2556 ที่ได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) มีค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ทั่วไปมากกว่า 50 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหนึ่งตันซีเมนต์ จึงสามารถนำไปคำนวณเรตติ้งสำหรับการจัดอันดับอาคารสีเขียวได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

“นอกจากเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ปูนซีเมนต์อินทรีเพชร Easy Flow ยังมีคุณสมบัติเด่นอีกหลายด้าน อาทิ ช่วยเพิ่มความไหลลื่นให้กับคอนกรีตได้ดี เทเข้าแบบได้ง่าย เพิ่มความสะดวกในการทำงาน รับกำลังอัดได้สูง ใช้ได้ในงานก่อสร้างโครงสร้างทั่วไป โครงสร้างขนาดใหญ่ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์คอนกรีตหล่อสำเร็จ นอกจากนี้ ยังช่วยลดโอกาสการเกิดรอยแตกร้าวที่ผิวคอนกรีต เนื่องจากการหดตัวจากเนื้อคอนกรีตที่ละเอียดและไหลตัวได้ดี ปูนซีเมนต์อินทรีเพชร Easy Flow จึงตอบโจทย์โครงการของพฤกษา และสร้างความมั่นใจให้กับลูกบ้านของพฤกษาด้วย” นายมนตรี กล่าว

เอปสัน เตรียมจัดแสดงนวัตกรรมในงานแสดงสินค้าเพื่ออุตสาหกรรมใหญ่ประจำปี งานแรก ASSEMBLY & AUTOMATION TECHNOLOGY 2024 งานแสดงเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมสนับสนุน เอปสัน ได้นำหุ่นยนต์แขนกลทั้งแบบ 6 แกน และ Scara Robot ที่ทำงานด้วยความรวดเร็ว แม่นยำสำหรับไลน์การผลิตและการประกอบชิ้นส่วนขนาดเล็กที่ต้องการความแม่นยำสูงในการทำงานมาจัดแสดงในงาน โดยมีสินค้าไฮไลท์ อาทิ Epson VT6L หุ่นยนต์แขนกล 6 แกน ออกแบบให้ประหยัดพื้นที่ ติดตั้งง่าย และรองรับน้ำหนักได้ 6 กิโลกรัม Epson GX8 มีความรวดเร็วแม่นยำในการทำงาน โดยเฉพาะการทำงานในพื้นที่จำกัดและสภาพแวดล้อมที่หลาก หลาย เพื่อกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจยานยนต์  อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และฮาร์ดไดร์ฟ เป็นต้น

นอกจากนี้ภายในงานยังได้จัดแสดงอุปกรณ์เชื่อมต่อที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของแขนกลหุ่นยนต์ อาทิ  Epson force-sensor S250P เซ็นเซอร์วัดแรงกด S250 Series ที่เมื่อติดตั้งเข้ากับหุ่นยนต์แขนกล จะทำให้สัมผัสได้ถึงแรงบิดหรือแรงกดที่เบาที่สุดเพียง 0.1 นิวตัน ใน 6 ทิศทาง ทำให้หุ่นยนต์สามารถทำงานที่ซับซ้อนได้ดียิ่งขึ้น และ Epson Spectroscopic Vision SV-700S-CVI กล้องสเปกโทรสโกปีที่ใช้ความยาวคลื่นสำหรับแยกแยะสีต่างๆ อย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบลักษณะภายนอกของความสม่ำเสมอของสี เคลือบพื้นผิวชิ้นส่วน และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ รวมถึงจะได้พบกับเครื่องพิมพ์ฉลาก Epson ColorWorks และ Epson LabelWorks ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการพิมพ์ฉลากประเภทต่างๆ ภายในโรงงานตามมาตรฐาน GHS ไม่ว่าจะเป็นบาร์โค้ดติดผลิตภัณฑ์หรือฉลากติดบนบรรจุภัณฑ์อีกด้วย พบกับนวัตกรรมหุ่นยนต์แขนกลเอปสัน ได้ตั้งแต่วันที่ 19 - 22 มิถุนายน 2567 ณ บูธ 9B11 ฮอลล์ 99 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค

สำหรับผู้ประกอบการสิ่งทอ เตรียมพบนวัตกรรมเครื่องพิมพ์ผ้าระบบดิจิทัลของเอปสันในงานงาน GFT 2024 งานแสดงเครื่องจักรและเทคโนโลยีเพื่อการผลิตเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอที่ครบครันที่สุดในอาเซียน โดยเอปสันได้นำเครื่องพิมพ์ Dye-Sublimation 2 รุ่นไปจัด Epson SureColor SC F130  เครื่องพิมพ์ Dye-Sublimation ขนาด A4 ที่เล็กที่สุดจากเอปสัน มีแท็งค์หมึก 4 สี CYMK ในตัวเครื่อง รองรับวัสดุพื้นผิวแข็งและวัสดุสิ่งทอ เหมาะสำหรับสินค้าของที่ระลึกหรือของพรีเมียม ตอบโจทย์การผลิตสินค้าขนาดเล็กหรืองานสั่งทำพิเศษได้อย่างลงตัว  และEpson SureColor SC-F530 หน้ากว้าง  24 นิ้ว ขนาดกะทัดรัด ครบครันด้วย Epson Total Solutions และ LFP Accounting Tool รองรับการทำงานได้ต่อเนื่องยาวนานเนื่องจากการบำรุงรักษาต่ำ เหมาะสำหรับธุรกิจ ที่มีปริมาณการพิมพ์ไม่มาก เช่น สตาร์ทอัพ นักออกแบบ เป็นต้น

ในส่วนเครื่องพิมพ์ผ้าโดยตรง (Direct-to-garment printer) เอปสันได้นำเครื่องพิมพ์รุ่นล่าสุดมาจัดแสดง คือ Epson SureColor SC-F1030  ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์ผ้าขนาดเล็กที่สุดของเอปสัน มาพร้อมฟีเจอร์อินเตอร์แอคทีฟ เหมาะกับการพิมพ์ผ้าได้โดยตรงสำหรับของชิ้นใหญ่ และสามารถพิมพ์ลงแผ่นฟิล์มโดยตรง ซึ่งเหมาะกับพิมพ์โลโก้ขนาดเล็ก และ Epson SureColor SC-F2230  ด้วยเทคโนโลยีหัวพิมพ์ PrecisionCore MicroTFP แบบใหม่ของเอปสัน ช่วยให้พิมพ์งานได้เร็วขึ้นถึง 135%  ทั้งสองรุ่นมีความยืดหยุ่นในการสร้างสรรค์งาน สรรค์งานให้ลูกค้าพร้อมเติมเต็มความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

เตรียมพบนวัตกรรมเพื่อสิ่งทอของเอปสัน ได้ตั้งแต่วันที่ 26 - 29 มิถุนายน 2567 ณ บูธ E09 ฮอลล์ 103 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค โดยวันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน เชิญร่วมฟังเสวนาในหัวข้อ แรงบันดาลใจในการออกแบบชุดที่โชว์ในงาน AFDS Thailand 2020” กับคุณพิษฎ์ณภัทร โยธินรัตนชัย ดีไซน์เนอร์ เจ้าของห้องเสื้อ “PITNAPAT” ASEAN Fashion Designers Showcase ที่ห้อง MR211- 212 ชั้น 2

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เอปสัน คอลเซ็นเตอร์ 0-2460-9699 ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08:30-17:30 น.  facebook.com/epsonthailand และ LINE Official Account: Epson Thailand

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เปิดตัวผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียว (Green Term Deposit) ในสกุลเงินบาท สกุลเงินเหรียญสิงคโปร์ และสกุลเงินเหรียญสหรัฐ เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าองค์กรและลูกค้าสถาบันรายใหญ่มีส่วนร่วมในโครงการที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาที่ยั่งยืน

เงินฝากที่ธนาคารยูโอบีได้รับจากลูกค้าจะถูกนำไปใช้สนับสนุนสินเชื่อสีเขียวสำหรับกิจกรรมและสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้าน ESG ภายใต้กรอบแนวคิดการให้สินเชื่อเพื่อความยั่งยืนของธนาคาร (Sustainable Finance Framework) ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SGDs) เช่น สินเชื่อเพื่ออาคารสีเขียว สินเชื่อเพื่อเมืองอัจฉริยะซึ่งรวมถึงเรื่องการประหยัดพลังงานและการใช้พลังงานหมุนเวียน  และสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นต้น

องค์กรที่ใช้บริการผลิตภัณฑ์เงินฝากประเภทนี้นอกจากจะได้รับดอกเบี้ยเงินฝากแล้ว ยังมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพัฒนาการเติบโตที่ยังยืน โดยธนาคารจะจัดส่งรายงานเงินฝากสีเขียวประจำปี ที่รวบรวมข้อมูล และผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม จากโครงการด้านความยั่งยืนที่ได้รับการอนุมัติของธนาคาร เช่น ข้อมูลการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เทียบเท่ากับจำนวนต้นไม้ที่ปลูก และจำนวนปริมาณการใช้รถยนต์ที่ลดลงในแต่ละปี ซึ่งบริษัทสามารถนำข้อมูลจากรายงานฉบับนี้ไปเป็นส่วนหนึ่งของการจัดทำรายงานด้านความยั่งยืน เพื่อตอกย้ำถึงความโปร่งใสและความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลของบริษัท

นางพณิตตรา เวชชาชีวะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Financial Institutions และ ESG Solutions กล่าวว่า “ความยั่งยืนเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของยูโอบีในการดำเนินธุรกิจ เราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากสีเขียว (Green Term Deposit) ที่ช่วยเปิดโอกาสให้ธุรกิจมีส่วนในการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน และได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่งธุรกิจสามารถมั่นใจได้ว่าโครงการต่างๆ ที่ธนาคารให้สินเชื่อจะอยู่ภายใต้กรอบแนวคิดการให้สินเชื่อเพื่อความยั่งยืนของธนาคาร ที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นไปตามมาตรฐานความยั่งยืนระดับสากล”

บริษัท อาร์เซลิก ฮิตาชิ โฮม แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (อาร์เซลิก) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่เริ่มใช้บริการผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากสีเขียวของธนาคารยูโอบี ในประเทศไทย

นายอูมุท ออซซอส กรรมการบริหารฝ่ายการเงินและบัญชี กลุ่มบริษัทอาร์เซลิก ฮิตาชิ โฮม แอพพลายแอนซ์ และ บริษัท อาร์เซลิก ฮิตาชิ โฮม แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “บริษัทมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับมาตราฐานระดับโลกและหลักการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล บริษัทมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (net zero) ภายในปี 2593 เราจึงมีการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจของเรา โดยการเปิดบัญชีเงินฝากสีเขียวกับยูโอบีช่วยให้เรามีส่วนร่วมในการสนับสนุนการทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น”  

นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าบลจ.เอ็มเอฟซีเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นอย่างมาก เพราะความยั่งยืนส่งผลต่อวิธีการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่างๆ ในปัจจุบัน และเราในฐานะผู้ลงทุนสามารถมีบทบาทในการขับเคลื่อนการลงทุนที่เกี่ยวกับความยั่งยืน เราเลือกเปิดบัญชีเงินฝากสีเขียวกับธนาคารยูโอบี เพราะธนาคารยูโอบีมีกรอบแนวคิดการให้สินเชื่อเพื่อความยั่งยืนที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เรามั่นใจว่าเงินลงทุนของเราจะถูกนำไปปล่อยสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนที่เป็นไปตามมาตรฐานด้าน ESG และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ 

X

Right Click

No right click