

บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนากำลังคนในสาขาสะเต็มสู่ตลาดแรงงานโลกในอนาคต ในงาน 4th Integrated STEM Leadership Summit in Asia ภายใต้หัวข้อ “Navigating the AI Revolution: Equipping Asia’s Workforce and Learners for the Future” จัดโดย ศูนย์ภูมิภาคว่าด้วยสะเต็มศึกษาขององค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAMEO STEM-ED) ร่วมกับภาคีภาคเอกชนและภาคการศึกษา เพื่อสานความร่วมมือระหว่างนักการศึกษา นักวิชาการ ผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำในภาคอุตสาหกรรม และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ในการแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์เกี่ยวกับผลกระทบของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ที่มีต่อตลาดแรงงาน และกลยุทธ์ในการใช้ประโยชน์จาก AI ผนวกเข้ากับการศึกษาและการพัฒนาแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดย นางสาวพอพิชญ์ พงษ์พานิช รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายดิจิทัล และเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ในฐานะตัวแทนบริษัทพลังงานชั้นนำ ได้แชร์กลยุทธ์ในการนำ AI และเทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ประโยชน์ในการดำเนินงาน ควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะบุคลากร เพื่อตอบโจทย์การจัดหาพลังงาน ที่สะอาดขึ้น ปลอดภัย และเชื่อถือได้ให้กับประเทศอย่างยั่งยืน โดยในงานได้รับเกียรติจากผู้นำของหลากหลายอุตสาหกรรมทั้งด้านพลังงาน เทคโนโลยีทางการแพทย์ ความมั่งคงปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงมีตัวแทนภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคเอกชนเข้าร่วมงาน ณ โรงแรมเรดิสัน บลู พลาซ่า กรุงเทพฯ

งาน 4th Integrated STEM Leadership Summit in Asia ประกอบไปด้วยเวทีเสวนาในประเด็นการขับเคลื่อนการศึกษาสาขาสะเต็มในยุค AI เพื่อพูดคุยถึงแนวทางในการพัฒนากำลังคนให้ตอบโจทย์ความต้องการตลาดแรงงานในอนาคต ซึ่งนางสาวพอพิชญ์ ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นบนเวที Future STEM Careers พร้อมพูดถึงการเปลี่ยนผ่านในยุค AI ที่มีผลต่อภาคอุตสาหกรรม ร่วมกับผู้บริหารจาก บริษัท ไซเบอร์ดายน์ จำกัด (มหาชน) , บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด, มูลนิธิ Pilipinas Shell และ Ateneo School of Government (ASoG)

“เชฟรอนเป็นบริษัทพลังงานที่ไม่เคยหยุดยั้งในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการจัดหาพลังงานที่เชื่อถือได้ มีราคาที่เหมาะสม และสะอาดขึ้น โลกในยุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในภาคพลังงานเอง เรามองเห็นการเปลี่ยนผ่านอยู่สองส่วน ส่วนแรกคือ Energy Transition หรือ การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เนื่องจากความต้องการทางพลังงานเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอบสนองต่อเศรษฐกิจที่เติบโต การมีพลังงานจากแหล่งที่หลากหลายจึงมีความจำเป็น ทั้งพลังงานจากฟอสซิล หรือ Traditional Energy และพลังงานในรูปแบบใหม่ที่มีความสะอาดมากขึ้น ธุรกิจพลังงานจึงต้องพร้อมที่จะปรับตัวและปรับเปลี่ยน พนักงานอย่างวิศวกรนอกจากมีองค์ความรู้เดิม ยังต้องเรียนรู้ถึงแนวทางลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในกระบวนการปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัย เพื่อให้การจัดหาพลังงานมีความสะอาดมากขึ้น ส่วนที่สองคือ การเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยี องค์กรจะต้องเท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับโอกาสทางธุรกิจ และกล้าที่จะท้าทายในสิ่งที่เดิม โดยให้เริ่มต้นด้วยการมองถึงปัญหาทางธุรกิจที่เราต้องการแก้ไข แล้วจึงนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ที่เชฟรอน เรามองหาโอกาสในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้เสริมสร้างศักยภาพในการทำงานอยู่เสมอ โดยได้นำความสามารถของ AI Data Science, และ Machine Learning มาช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพทำงานมาเป็นระยะเวลากว่าทศวรรษ และนำร่องใช้ Generative AI สำหรับงานที่มีความซับซ้อนมายิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างศักยภาพของพนักงาน ให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกและเทคโนโลยีอยู่ตลอด” นางสาวพอพิชญ์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ได้ให้สนับสนุนการขับเคลื่อนสะเต็มศึกษามาตลอด ตั้งแต่การส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา ไปจนถึงการสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนและประกอบอาชีพสาขาสะเต็มให้กับเยาวชน เพื่อพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขันและนวัตกรรมของประเทศ ภายใต้โครงการต่างๆ มากมาย อาทิ โครงการ Chevron Enjoy Science ที่ดำเนินการในปี พ.ศ. 2558-2566 และได้ต่อยอดไปสู่โครงการ Southeast Asia Teacher Development Program เพื่อพัฒนาครูสาขาสะเต็มให้เท่าทันการ
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี โดยนายศรัณย์ ภู่พัฒน์ (ที่ 3 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ร่วมเป็นเกียรติลงนามสัญญาให้บริการรับชำระเงินค่าไฟฟ้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์สําหรับลูกค้านิติบุคคล ร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดย หม่อมราชวงศ์ สิริวัลย์ เกษมสันต์ ณ อยุธยา (ที่ 4 จากขวา) รองผู้ว่าการบัญชีและการเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกในการชําระเงินค่าไฟฟ้า สําหรับลูกค้านิติบุคคล ผ่านช่องทางออนไลน์ ttb business one ดิจิทัลแบงก์กิ้งของธนาคาร โดยทีทีบี เป็นธนาคารแรกที่พัฒนารูปแบบการให้บริการรับชำระเงินค่าไฟฟ้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์สําหรับลูกค้านิติบุคคล ที่สามารถแสดงรายละเอียดบิลและค่าไฟฟ้าปัจจุบันที่ต้องชําระตามหมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้าที่ลูกค้าระบุไว้

จากความร่วมมือดังกล่าว ทำให้ลูกค้านิติบุคคลสามารถทำรายการสะดวกผ่าน ttb business one ได้ทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ให้บริการทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง ป้องกันความเสี่ยง ลดการจัดการด้านเอกสาร และไม่ต้องเสียเวลาจากการเดินทางไปชำระเงินค่าไฟฟ้าด้วยเงินสดหรือเช็ค ณ สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พร้อมสามารถยืนยันการทำรายการหรือหักเงินในบัญชีเพื่อชำระเงิน โดยผ่านผู้มีอำนาจอนุมัติของบริษัท ซึ่งหลักฐานการชำระเงินสามารถใช้ตรวจสอบย้อนหลังได้ โดยผู้ใช้บริการจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการจ่ายบิล ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2567
ทีทีบี มีความมุ่งมั่นที่จะทําให้ลูกค้าและธุรกิจมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งในวันนี้และอนาคต สามารถบริหารจัดการเรื่องสำคัญในชีวิตและธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและรอบด้าน โดยธนาคารพร้อมเคียงข้างสนับสนุนให้ลูกค้าธุรกิจประสบความสําเร็จในทุกสถานการณ์ และเติบโตอย่างยั่งยืน
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะดำเนินการเพิ่มช่องเก็บค่าผ่านทางพิเศษแบบอัตโนมัติ (ETC) ของทางพิเศษ เพื่อรองรับรถผู้ใช้ Easy Pass บนทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษศรีรัชที่เพิ่มมากขึ้น โดยจะเริ่มเปิดให้บริการในวันพุธที่ 24 กรกฎาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 00.01 น. เป็นต้นไป จำนวน 11 ด่านฯ
11 ช่องทางฯ รายละเอียดดังนี้
ทางพิเศษเฉลิมมหานคร
- ด่านฯ สุขุมวิท ช่องทางที่ 3
- ด่านฯ อาจณรงค์ 3 ช่องทางที่ 2
- ด่านฯ เลียบแม่น้ำ ช่องทางที่ 3
- ด่านฯ สุขุมวิท 62 ช่องทางที่ 4
- ด่านฯ อาจณรงค์ ช่องทางที่ 3
- ด่านฯ สาธุประดิษฐ์ 1 ช่องทางที่ 3
- ด่านฯ สาธุประดิษฐ์ 2 ช่องทางที่ 3
ทางพิเศษศรีรัช
- ด่านฯ จันทร์ ช่องทางที่ 2
- ด่านฯ คลองประปา 2 ช่องทางที่ 2
- ด่านฯ อโศก 3 ช่องทางที่ 5
- ด่านฯ ศรีนครินทร์ ช่องทางที่ 11
กทพ. ได้พัฒนาการให้บริการบัตร Easy Pass มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บัตร Easy Pass รองรับการเข้าสู่สังคมไร้เงินสด โดยการใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตแทนเงินสดในการเติมเงินบัตร Easy Pass หรือการแสกนจ่ายผ่าน QR Code เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว อีกทั้งเป็นการสนับสนุนให้มีการใช้บัตร Easy Pass มากยิ่งขึ้น เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษอีกด้วย
ทั้งนี้ผู้ใช้ทางพิเศษสามารถดาวน์โหลด Application “EXAT Portal” เพื่อตรวจสอบยอดเงินคงเหลือและ การใช้บัตร Easy Pass รับข่าวสารโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ รวมทั้งสามารถขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน (SOS) ได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูล ผู้ใช้ทางพิเศษ (EXAT Call Center) โทร 1543 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง