December 21, 2025

คณะผู้บริหารระดับสูงบริษัท สหฟาร์ม จำกัด (SAHA FARMS) นำโดย ดร.ก้องเทวัญ โชติเทวัญ ประธานสายโรงงานแปรรูปการผลิต และโรงงานอาหารสำเร็จรูป พร้อมด้วยคุณหมอธนบูรณ์ ประเสริฐสังข์ ประธานสายปศุสัตว์ และทีมงานสายปศุสัตว์ และนายโยธิน บุญธะศรี ประธานฝ่ายกิจการประมง ร่วมให้การตอนรับทีมกรมประมง โดยมีนายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง และนายสง่า คำพันธ์ หัวหน้าประมงจังหวัดลพบุรี พร้อมคณะข้าราชการ เข้าเยี่ยมชมกิจการสหฟาร์มประมงลพบุรีครั้งแรก ณ โรงงานสหฟาร์ม จังหวัดลพบุรี เมื่อวานที่ผ่านมา โดยสืบเนื่องมาจากการที่สหฟาร์มได้เดินหน้าแตกไลน์ธุรกิจใหม่ “ปลาดุกอนามัย” บนความมุ่งหวังในการพัฒนาอาหารที่มีคุณภาพเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก ผ่านการยกระดับปลาดุกไทย ขยายโอกาสสู่ตลาดโลก

ซึ่งการเยี่ยมชมในครั้งนี้สหฟาร์มยังได้มีโอกาสนำเสนอ เปิดบ้านให้คณะกรมประมงได้รับชมกรรมวิธีการเลี้ยงปลาดุกในบ่อดินแบบธรรมชาติ โดยมีการดูแลและใส่ใจในทุกขั้นตอน มีเจ้าหน้าที่ดูแลถ่ายน้ำออกจากบ่อทุก 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้น้ำสะอาดและมีคุณภาพที่ดีอยู่เสมอ ซึ่งขนาดของบ่อเลี้ยงปลาดุก 1 ไร่ จะจำกัดปริมาณปลาเลี้ยงในปริมาณพอเหมาะ ไม่เกิน 20,000 ตัวต่อบ่อ เพื่อลดความแออัด และเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ นอกจากนี้ยังมีวิธีการจัดการแบบพิเศษเพื่อให้ปลาขับของเสีย ซึ่งจะเป็นการลดกลิ่นโคลน ลดกลิ่นคาว ทำให้สหฟาร์มได้ปลาดุกอนามัย แข็งแรง และมีคุณภาพ จนได้รับมาตรฐาน GAP (มาตรฐาน รับรองการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี สำหรับการผลิตสัตว์น้ำ) จากกรมประมง อีกด้วย

ประสบการณ์ชีวิตของนักทำคอนเทนต์ที่เติบโตจากการเผชิญหน้ากับความกลัว ความท้าทาย และขีดจำกัดของตัวเอง

บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมสนับสนุนเทศกาล Pride Month ครั้งแรกในเมืองหัวหิน กับงาน BLUPORT RISE OF PRIDE 2024” เฉลิมฉลองเทศกาล Pride Month 2024 ผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองหัวหิน และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการในเมืองหัวหินเพิ่มขึ้น อีกทั้งเป็นการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศให้ได้รับการยอมรับในสังคมปัจจุบัน และเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในระดับสากลอีกด้วย โดยนายณัฐพล คุณกรสิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และตัวแทนจากองค์กรอื่นๆ ร่วมเสวนาพูดคุยในหัวข้อเรื่องความหลากหลายทางเพศและความเท่าเทียมในสังคมของกลุ่ม LGBTQ+ ณ บริเวณลาน เอเทรี่ยม ชั้น G บลูพอร์ต หัวหิน

สาขาสถาปัตยกรรมที่มีการใช้สอยแบบผสมผสานยอดเยี่ยมจากอาคารเอไอเอ อีสต์ เกตเวย์ (AIA East Gateway)

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน Fortune Southeast Asia 500 โดยอยู่ในลำดับที่ 73 และนายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ถือเป็นผู้นำคนรุ่นใหม่ที่มีอายุน้อยที่สุดใน 500 บริษัทขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอกย้ำการเป็นองค์กรผู้นำการเปลี่ยนผ่าน โดยเฉพาะทีมผู้บริหารสูงสุดรุ่นใหม่ที่แข็งแกร่ง เพื่อสานต่อการเติบโตที่รุดหน้าและยั่งยืน

Fortune Southeast Asia 500 เป็นการจัดอันดับบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยนิตยสารฟอร์จูน (Fortune) พิจารณาจากรายได้ของบริษัทในปีงบประมาณ 2566  

นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) มีประสบการณ์ในธุรกิจพลังงานมากว่า 10 ปี ในด้านการบริหารเชิงกลยุทธ์ที่หลากหลาย ทั้งด้านการเงิน การลงทุน การจัดการโครงการระหว่างประเทศ โดยก่อนหน้านี้ได้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบ้านปู ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานฉลาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

2567 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง พร้อมชี้ ธุรกิจประกันในไทยเติบโตแข็งแกร่ง

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับคณะผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นำโดย รศ. ดร.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการ กสทช. ด้านโทรคมนาคม ในโอกาสเยี่ยมชมเสาสัญญาณและการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายภายหลังการควบรวมของทรูและดีแทค ในเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร โดยมีนายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี และนายจิระชัย คุณากร รองหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและทีมงานให้การต้อนรับ

การตรวจสอบในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้มั่นใจว่าภายหลังการควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทค ทางทรู คอร์ปอเรชั่นได้ดำเนินการพัฒนาโครงข่ายเพื่อคุณภาพการใช้งานสัญญาณมือถือ 5G และ 4G ให้แก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการจัดการโครงข่าย ทั้งนี้ ก่อนและหลัง การพัฒนาโครงข่ายทันสมัย (Network Modernization) มีบางแห่งที่รวมเสาสัญญาณเพื่อลดจุดซ้ำซ้อนแต่ไม่ได้ลดอุปกรณ์รับ-ส่งหรือสถานีฐาน อีกทั้งยังเพิ่มการลงทุนเปลี่ยนอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่ทันสมัยในการรับส่งสัญญาณครอบคลุมคลื่นความถี่ใช้งานทั้ง 5G และ 4G เพื่อเพิ่มความครอบคลุมของพื้นที่ให้บริการทั่วประเทศ

นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ทรูและดีแทคได้ผสานรวมกันสู่บริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีชั้นนำอันดับ 1 ของไทย และมีโครงการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย (Network Modernization) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนมือถือ 5G, 4G   มุ่งเน้นการขยายพื้นที่ให้บริการครอบคลุมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มคุณภาพและความเร็วของสัญญาณด้วยการผสานโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทีมงานได้วางแผนวิเคราะห์แต่ละพื้นที่อย่างละเอียด รวมทั้งประเมินการใช้งานในอนาคตของแต่ละแห่ง โดยให้ความสำคัญต่อการส่งมอบคุณภาพเครือข่ายที่ดีที่สุด และยังเป็นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ปัจจุบัน ทรู คอร์ปอเรชั่นเป็นผู้ให้บริการเครือข่าย 5G ที่ครอบคลุมประชากรมากที่สุดในประเทศไทย รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตลอดจนโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) โดยมีเครือข่าย 5G ครอบคลุม 99% ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และครอบคลุม 90% ทั่วประเทศ”

การพัฒนาโครงข่ายทันสมัย (Network Modernization) การผสานจุดแข็งเสาสัญญาณและคลื่นความถี่ของทรูและดีแทค

  • เพิ่มคุณภาพบริการและเปลี่ยนอุปกรณ์ทันสมัย: การรวมเสาสัญญาณของทั้งสองบริษัทจะช่วยลดจำนวนเสาสัญญาณในจุดที่ซ้ำซ้อน แต่ไม่ได้ลดจำนวนสถานีฐานหรืออุปกรณ์รับส่งสัญญาณ โดยจะเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่เพิ่มประสิทธิภาพบริการ และมีส่วนในการบริหารการลงทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ขยายพื้นที่ให้บริการ: การใช้งานเสาสัญญาณร่วมกันจะทำให้ทั้งทรูและดีแทคสามารถขยายพื้นที่ให้บริการได้กว้างขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล
  • รองรับเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง: การรวมเสาสัญญาณทรูและดีแทคจะสามารถพัฒนาและขยายโครงข่าย 5G, 4G ได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงการติดตั้งเพิ่มคลื่นความถี่ให้กับสถานีฐานมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเพิ่มคุณภาพและความเร็วการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: การลดความซ้ำซ้อนจำนวนเสาสัญญาณบางแห่ง และเปลี่ยนใช้อุปกรณ์รับส่งคลื่นความถี่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้ประหยัดพลังงาน และช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จากประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการวางแผน

"ประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าโดยเฉพาะเรื่องคุณภาพสัญญาณ เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด ทรู คอร์ปอเรชั่นจึงมุ่งพัฒนาเครือข่ายคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขยายพื้นที่ให้บริการ นำคลื่นความถี่ที่ครอบคลุมทุกย่านมาใช้งานร่วมกันเพื่อให้บริการมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายที่มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เราขอขอบคุณ กสทช. ที่ให้ความสำคัญและร่วมตรวจสอบการดำเนินงานของเรา  สร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าของเราทั้งทรูและดีแทคว่าจะได้รับบริการที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน" นายประเทศกล่าวในที่สุด

การพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย (Network Modernization) ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการพัฒนาโครงข่ายของทรูและดีแทค ที่จะช่วยให้ทั้งสองแบรนด์สามารถพัฒนาและให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ จากการร่วมตรวจสอบจาก กสทช. ได้ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าว่าการพัฒนาเสาสัญญาณหลังการควบรวมจะส่งผลดีต่อคุณภาพการให้บริการอย่างแท้จริง

บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (KCG) ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารตะวันตกเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ สัญชาติไทย ได้รับคัดเลือกให้เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) เข้าอยู่ในกลุ่มบริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน หรือ ESG Emerging List ปี 2567

สถาบันไทยพัฒน์ ประกาศให้ เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นหนึ่งในรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่น่าลงทุนในกลุ่ม ESG Emerging ปี 2567 ด้วยการคัดเลือกจาก 920 หลักทรัพย์จดทะเบียน โดยใช้ข้อมูลด้าน ESG ที่ปรากฏในการเปิดเผยข้อมูล การดำเนินงานที่สะท้อนปัจจัยด้าน ESG และความริเริ่มหรือลักษณะธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับประเด็นด้าน ESG ของกิจการ

นายดำรงชัย วิภาวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “KCG มุ่งมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจโดยการคำนึงถึงความต้องการของผู้มีส่วนได้เสีย ไปพร้อมๆ กับการสร้างคุณค่าร่วมกันในระยะยาว และเล็งเห็นถึงความสำคัญในการกำกับดูแลด้านความยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ Transition Towards Sustainable Growth - สร้างองค์กรสู่การเติบโตที่มั่นคง ยั่งยืน และพร้อมสู่อนาคตที่กำลังเปลี่ยนแปลง”

บริษัทฯ ได้วางกรอบการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสุขภาพและบริการใหม่ตามเทรนด์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นทั้งในประเทศไทยและระดับโลก เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถเจาะลึกถึงต้องการของผู้บริโภคกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดอย่างเหมาะสม โดยยึดมั่นดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG เพื่อเติบโตอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ การจัดอันดับหลักทรัพย์ที่น่าลงทุนในกลุ่ม ESG Emerging พิจารณาข้อมูลจากการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และผลประกอบการของบริษัทควบคู่กันในกระบวนการประเมิน

สำหรับสถาบันไทยพัฒน์ เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจ ได้เปิดเผยรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ในกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 เป็นครั้งแรกในปี 2558 และในกลุ่มหลักทรัพย์ ESG Emerging เป็นครั้งแรกในปี 2563

การจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนด้านการพัฒนาความยั่งยืนของธุรกิจในกลุ่มบริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน หรือ ESG Emerging List ถือเป็นแหล่งข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่ให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ และเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีคุณภาพและได้รับผลตอบแทนที่มิได้ด้อยไปกว่าการลงทุนในแบบทั่วไป

พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมแฟชั่น มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน

ขึ้นชื่อว่าเป็นนักสะสมนาฬิกาตัวยง สำหรับเซเลบริตี้หนุ่มนักธุรกิจ ดร.แชมป์ - ฤทธี กิจพิพิธ ผู้บริหารหัวเรือใหญ่แห่ง บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ล่าสุด ควงแขนภรรยาสาวคนสวย คุณแคท - ธัญมน กิจพิพิธ ร่วมชมนิทรรศการของ A. Lange & Söhne แบรนด์นาฬิกาชั้นนำจากประเทศเยอรมัน ณ Hall of Mirror ชั้น M สยามพารากอน เมื่อวานที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ดร.แชมป์ เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเชิญมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ในฐานะ Friend of Prestige โดยปกติจะให้ความสนใจ ชื่นชอบ และยังอยู่ในแวดวงนักสะสมนาฬิกา การมาร่วมงานในครั้งนี้ทำให้ได้เปิดประสบการณ์สุดพิเศษจาก A. Lange & Söhne และการเปิดตัว Datograph Perpetual Tourbillon Honeygold "Lumen" มูลค่า 22.7 ล้านบาท ที่เป็นนาฬิกาที่มีฟังก์ชันที่ซับซ้อนมาก รวมฟังก์ชันทั้ง ปฏิทินถาวร ฟังก์ชันโครโนกราฟ และฟังก์ชันทูร์บิญงไว้ในนาฬิกาเรือนเดียว ส่วนตัวเรือนยังทำจากวัสดุฮันนี่โกลด์ที่ส่องสว่างเป็นสีเขียว ช่วยสร้างความแตกต่างให้กับรูปลักษณ์ของนาฬิกาได้อย่างสมบูรณ์แบบ นับว่านาฬิกาที่สวยที่สุดเรือนหนึ่งในโลก

X

Right Click

No right click