December 24, 2025

ตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมาประเทศไทยให้การสนับสนุนประชาชนในการเข้าถึงบริการทางสุขภาพด้วยระบบสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขได้มากขึ้น แต่ไม่อาจสรุปได้ว่าคนไทยเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เพราะยังคงมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงการรักษาพยาบาล โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยยากไร้ ทั้งในแง่ของการเข้าถึงและค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และแม้ว่าคนไทยจะสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้มากขึ้น แต่ในบางสถานบริการสุขภาพก็ยังคงมีศักยภาพไม่เพียงพอต่อการรักษาที่ครอบคลุม โดยเฉพาะการรักษาในกลุ่มโรคซับซ้อน

มูลนิธิรามาธิบดีฯ จึงมุ่งมั่นสืบสานพันธกิจแห่ง “การให้” ตลอด 54 ปีที่ผ่านมา ด้วยบทบาทของการเป็นเสมือนที่พึ่งให้กับคนไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยจากบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษากลุ่มโรคซับซ้อน พร้อมมอบโอกาสให้ผู้ป่วยยากไร้สามารถเข้าถึงบริการทางสุขภาพได้อย่างทัดเทียม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตควบคู่ไปกับการเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีของคนไทย

ศ.นพ.วิบูลย์ บุญสร้างสุข ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เล่าถึงแง่มุมในการทำงานภายใต้บทบาทของการเป็นแพทย์ด้านระบบการหายใจว่า “ปัจจุบันการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยทำให้ แวดวงการแพทย์สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดในการรักษาและช่วยยืดระยะเวลาในการใช้ชีวิตของผู้ป่วยได้มากขึ้น สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดในระยะที่ลุกลามเข้ามาในอวัยวะสำคัญ เช่น บริเวณท่อหลอดลมจนทำให้เส้นผ่านศูนย์กลางของหลอดลมมีขนาดแคบลง ส่งผลให้การหายใจเป็นไปได้อย่างยากลำบากและมีอาการเหนื่อยหอบ ผู้ป่วยจึงจำเป็นต้องได้รับการใส่ท่อค้ำหลอดลม (airway stent) เพื่อขยายเส้นผ่านศูนย์กลางของหลอดลมให้มีขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับการหายใจ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถหายใจได้สะดวกมากขึ้น หลุดพ้นความทรมานจากอาการเหนื่อยหอบ และมีโอกาสดำเนินการรักษาโรคมะเร็งต่อไป นอกจากนี้ ท่อค้ำหลอดลมยังช่วยป้องกันไม่ให้มะเร็งลุกลามไปในบริเวณของหลอดลมได้อีกด้วย ในการใส่ท่อค้ำหลอดลมจะพิจารณาจากบริเวณการลุกลามของมะเร็ง ซึ่งมี 2 รูปแบบ ได้แก่ ท่อค้ำหลอดลมรูปแบบตรง และท่อค้ำหลอดลมรูปแบบตัว Y ซึ่งราคาของท่อค้ำหลอดลมอยู่ที่ประมาณ 20,000-45,000 บาทต่อชิ้น ขึ้นอยู่กับรูปแบบและความยาว โดยท่อค้ำหลอดลม อยู่นอกเหนือบัญชีการเบิกจ่ายกับสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทอง ทั้งผู้ป่วยของโรงพยาบาลรามาฯ เอง หรือผู้ป่วยที่ถูกส่งต่อมารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ไม่สามารถเบิกค่าท่อค้ำหลอดลมได้ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยลดลง”

“แม้การใส่ท่อค้ำหลอดลมจะมีประโยชน์เพื่อลดอาการเหนื่อยจากหลอดลมตีบ เนื่องจากมะเร็งที่ลุกลาม และยืดอายุของผู้ป่วยได้ แต่ในแง่ของการเข้าถึงของผู้ป่วยถือว่ายังคงมีอย่างจำกัด ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูง อีกทั้งสถานบริการที่มีศักยภาพในการใส่ท่อค้ำหลอดลมมักจะเป็นโรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์เหมือนกับโรงพยาบาลรามาธิบดีแห่งนี้ สำหรับเคสตัวอย่างเป็นเคสที่ถูกส่งต่อการรักษามาจากจังหวัดราชบุรีคือผู้ป่วยโรคมะเร็งหลอดอาหารที่ลุกลามไปในบริเวณผนังหลอดลม ไม่สามารถหายใจได้ แม้จะได้รับการใส่ท่อช่วยหายใจแล้ว แพทย์จึงใส่ท่อค้ำหลอดลมร่วมกับการเจาะคอจึงทำให้ผู้ป่วยสามารถหายใจได้สะดวกยิ่งขึ้น และสามารถส่งตัวกลับไปรักษาโรคมะเร็งต่อที่จังหวัดราชบุรีได้” ศ.นพ.วิบูลย์ บุญสร้างสุข กล่าวเสริม

อ.นพ.ธัช อธิวิทวัส (สาขาวิชามะเร็งวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์) แพทย์ผู้ให้การรักษาผู้ป่วยมะเร็งต่อเนื่องหลังจากการถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งปอด และมะเร็งหลอดอาหาร เผยว่า “ในอดีตโรคมะเร็งที่พบได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ในกลุ่มชายไทย คือ โรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี แต่ในปัจจุบันโรคมะเร็งปอด ถือเป็นโรคที่พบได้มากที่สุดในกลุ่มชายไทย และเริ่มพบมากขึ้นเรื่อย ๆ ในเพศหญิง ในปัจจุบันการรักษามะเร็งปอดพัฒนาไปมาก ทั้งยาเคมีบำบัด ยามุ่งเป้า และยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน หากร่างกายของผู้ป่วยตอบสนองต่อยารักษาอย่างดีและติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง จะช่วยยืดระยะเวลาการใช้ชีวิตของผู้ป่วยได้ถึง 2-3 ปี แต่การรักษามะเร็งปอดในกลุ่มผู้ป่วยระยะลุกลามจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากผู้ป่วยไม่ได้รับการใส่ท่อค้ำหลอดลมเพื่อรักษาชีวิตของผู้ป่วยก่อน เพราะช่วงที่ผู้ป่วยไม่สามารถหายใจได้ ผู้ป่วยจะเสียชีวิตลงภายในไม่กี่นาทีในปี 2565 ที่ผ่านมา มูลนิธิรามาธิบดีฯ ได้ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใส่ท่อค้ำหลอดลมแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์กว่า 10 ราย แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามีผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่ต้องการเข้ารับการรักษาในการใส่ท่อค้ำหลอดลมเพื่อบรรเทาอาการทรมานจากเหนื่อยหอบแต่ไม่สามารถเข้าถึงบริการนี้ได้”

อีกหนึ่งกลุ่มโรคเรื้อรังที่มีจำนวนผู้ป่วยไทยเพิ่มมากขึ้นในทุกปีนั่นคือ โรคแพ้ภูมิตัวเอง ผศ.พญ.พิณทิพย์ งามจรรยาภรณ์ สาขาวิชาโรคภูมิแพ้อิมมูโนวิทยาและโรคข้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “โรคแพ้ภูมิตัวเองคือโรคที่ร่างกายของผู้ป่วยมีการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติและทำลายอวัยวะภายในร่างกายตนเอง สาเหตุของโรคมาจาก 2 ปัจจัยร่วม ได้แก่ 1) พันธุกรรมเสี่ยง และ 2) สิ่งแวดล้อมที่เป็นปัจจัยกระตุ้น เช่น พฤติกรรมการสูบบุหรี่ และการติดเชื้อของแบคทีเรียในช่องปาก เป็นต้น แต่กลุ่มโรคแพ้ภูมิตัวเองนั้นไม่ได้มีแค่โรคพุ่มพวง หรือ SLE (Systemic Lupus Erythematosus) อย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ เพราะกลุ่มโรคนี้ยังประกอบไปด้วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) โรคผิวหนังแข็ง (Scleroderma) และโรคหลอดเลือดอักเสบ (Vasculitis) โดยในแต่ละโรคนั้นผู้ป่วยจะมีช่วงอายุที่หลากหลาย โดยเฉพาะโรคพุ่มพวงที่เมื่อก่อนมักจะพบในกลุ่มผู้หญิงที่อายุน้อย แต่ปัจจุบันก็สามารถพบได้ในกลุ่มผู้ชายมากขึ้น ในระยะหลังมานี้อัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยกลุ่มโรคแพ้ภูมิตัวเองเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการพัฒนาของเทคโนโลยีทางการแพทย์และแนวทางในการรักษาที่ทันสมัย อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงการรักษายังถือว่าค่อนข้างจำกัด เนื่องจากจำนวนของแพทย์เฉพาะทางโรคแพ้ภูมิตัวเองยังมีไม่เพียงพอที่จะรองรับการรักษาของคนไทยทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงปัจจัยด้านค่าใช้จ่ายที่มีราคาสูง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อยาที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ และจำเป็นต้องใช้สารชีวภาพ (Biologic Agents)”

ในมุมมองของ พรทิพย์ ผู้ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง หนึ่งในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดอักเสบที่ได้รับการสนับสนุนด้านค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจากมูลนิธิรามาธิบดีฯ กล่าวว่า “ในช่วงปี 2553 เริ่มมีอาการปวดตาข้างซ้ายจึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลจังหวัดนครสวรรค์ แต่อาการดีขึ้นแค่ช่วงหนึ่งก็กลับมาปวดตาอย่างรุนแรง จึงถูกส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลรามาธิบดี คุณหมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดอักเสบ ตอนนั้นมีก้อนเนื้อบริเวณหลังตาจึงต้องผ่าตัดเพื่อนำก้อนเนื้อและลูกตาออก หลังจากนั้นก็พบอาการผิดปกติที่หลายอวัยวะจึงทำให้ต้องรักษาอย่างต่อเนื่องที่โรงพยาบาลรามาธิบดีตลอด 10 ปี โดยได้เข้ารับการผ่าตัดมากกว่า 10 ครั้ง ช่วงที่ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลไม่มีรายได้เลย แต่โชคดีที่ได้รับเงินทุนช่วยเหลือจากมูลนิธิรามาธิบดีฯ ช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลเกือบทั้งหมด ภายหลังการรักษารู้สึกเหมือนได้หลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานของโรคร้าย แม้จะเหลือดวงตาขวาเพียงข้างเดียวแต่ก็ดีใจที่ยังมีชีวิต มีโอกาสได้ใช้เวลากับครอบครัวและหลานรัก ทุกวันนี้ยังคงเดินทางมาติดตามอาการที่โรงพยาบาลรามาฯ ขอขอบคุณคุณหมอและพยาบาลที่โรงพยาบาลรามาฯ ที่ให้ความช่วยเหลือและให้การรักษาอย่างเต็มที่ รวมถึงให้กำลังใจอย่างดีมาโดยตลอด ทำให้รู้สึกว่าไปโรงพยาบาลไหนก็ยังไม่ดีเท่าโรงพยาบาลรามาธิบดี”

มูลนิธิรามาธิบดีฯ มุ่งมั่นที่จะมอบโอกาสในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดีและมีประสิทธิภาพให้กับผู้ป่วยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ภายใต้ “โครงการเพื่อผู้ป่วยยากไร้” เพื่อระดมเงินทุนสนับสนุนงบประมาณท่อค้ำหลอดลมให้แก่ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ตามสิทธิการรักษา จำนวน 1,000,000 บาท และสนับสนุนงบประมาณในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง จำนวน 2,000,000 บาท เพื่อต่อชีวิตให้กับผู้ป่วยที่ยังรอคอยความช่วยเหลือ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสุขภาวะที่ดีของคนไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “การให้” ที่ยิ่งใหญ่ ร่วมบริจาคกับมูลนิธิรามาธิบดีฯ

คำว่าให้...ไม่สิ้นสุด

###

 

ต่อยอดความสำเร็จ พร้อมปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ในกัมพูชา หนุนกำไรโตแกร่งปี 67

อุณา วัชโรบล (ที่ 2 จากขวา) ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารทรัพยากรบุคคล กรุงศรี คอนซูมเมอร์ รับรางวัลยอดเยี่ยมด้านกลยุทธ์ขับเคลื่อนการทำงานแบบไฮบริด ("Bronze" Excellence in Hybrid Working) จาก HR Excellence Awards Thailand 2023 ที่จัดขึ้นโดยนิตยสาร Human Resources Online จากความสำเร็จด้านการวางนโยบายเชิงกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนวิถีการทำงานรูปแบบใหม่ Hybrid Working/Remote Working ภายใต้แนวคิด Flexi Workplace, Flexi Work-life เพื่อสร้างความยืดหยุ่น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของพนักงานที่หลากหลายในองค์กร ควบคู่กันกับการรักษามาตรฐานระบบความปลอดภัยของข้อมูลและคุณภาพการให้บริการแก่ลูกค้า

เมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย จับมือร่วมกับ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประเทศไทย แพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ระดับโลก และเพย์โอเนียร์ ผู้ให้บริการรับจ่ายเงินระหว่างประเทศชั้นนำของประเทศจัดงานสัมมนาในหัวข้อ “Global E-Commerce Expo : โอกาสบุกตลาดอีคอมเมิร์ซในต่างประเทศ สำหรับ SME ไทย” เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่และให้คำแนะนำผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่กำลังพิจารณาเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซระดับโลกผ่านทาง Amazon.com

รายงาน UOB Business Outlook Study 2023 (SME& Large Enterprises)[1] พบว่า ร้อยละ 93 ของธุรกิจไทยสนใจที่จะนำดิจิทัลแพลตฟอร์มที่สนับสนุนการค้าข้ามพรมแดนมาใช้เพื่อขยายธุรกิจไปต่างประเทศ และร้อยละ 34 ใช้อีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มสำหรับสรรหาวัตถุดิบและผู้ขาย [2]งานสัมมนาในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีไทยที่มองหาโอกาสในการขยายฐานลูกค้าออนไลน์และเพิ่มช่องทางใหม่ในการสร้างรายได้ ผู้เข้าร่วมกว่า 150 คน ได้เรียนรู้เกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดอีคอมเมิร์ซจากอดีต ปัจจุบัน และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต วิธีการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมมาขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ช การจัดการโลจิสติกส์ข้ามพรมแดน และการสนับสนุนทางการเงินของธนาคารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจในการบุกตลาดการซื้อขายสินค้าออนไลน์ระดับโลก

นางสยุมรัตน์ มาระเนตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Business Banking ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “การขยายธุรกิจไปต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซระดับโลกอย่างอเมซอน จะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงตลาดโลกได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น งานสัมมนาที่ธนาคารจัดขึ้นร่วมกับ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง และ เพยโอเนียร์ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของธนาคารที่ต้องการมอบความรู้และการสนับสนุนทางการเงินสำหรับลูกค้าเอสเอ็มอีที่สนใจขยายธุรกิจไปตลาดต่างประเทศ สอดคล้องกับกลยุทธ์หลักของธนาคารที่ต้องการเชื่อมโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ธนาคารเชื่อมั่นว่าลูกค้าที่เข้าร่วมงานสัมมนาในครั้งนี้จะหันมาสนใจทำธุรกิจบนตลาดอีคอมเมิรช์เพื่อขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศ และช่วยสนับสนุนให้สินค้าไทยสามารถส่งออกไปขายในตลาดโลกได้มากขึ้น” 

นายธเธียร์ อนุจรพันธ์ หัวหน้าทีมอเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประเทศไทย กล่าวว่า “ มีโอกาสมากมายบนตลาดอีคอมเมิรซ์ระดับโลกที่ธุรกิจเอสเอ็มอีไทยสามารถยกระดับผลิตภัณฑ์ของตนเองให้เข้าถึงผู้บริโภคทั่วโลก ทางอเมซอนพร้อมสร้างความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับสถาบันการเงินชั้นนำอย่างธนาคารยูโอบี เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ธุรกิจในประเทศไทยในการแข่งขันระดับโลก เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้ขายสินค้าที่สนใจสร้างฟุตพรินท์ทางธุรกิจในระดับสากลบนตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ของอเมซอนที่เข้าถึงผู้ซื้อกว่า 300 ล้านรายทั่วโลก”

นายเจริญ หิรัญตระกูล  Country Lead บริษัท เพย์โอเนียร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “บริษัทรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสนับสนุนโซลูชันทางการเงินสำหรับธุรกิจการซื้อขายสินค้าข้ามพรมแดนที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ระบบจ่ายเงินของเพย์โอเนียร์จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ธุรกิจในการจัดการธุรกรรมทางการเงินและลดขั้นตอนในการรับชำระเงิน โดยผู้ขายสินค้าบนอเมซอนสามารถเลือกรับเงินเข้าบัญชีจากผู้ซื้อทั่วโลกเป็นสกุลเงินบาทหรือสกุลเงินต่างประเทศได้โดยทันที และสามารถโอนเงินจากบัญชีเพย์โอเนียร์เป็นสกุลเงินท้องถิ่น เข้าไปยังบัญชีเงินฝากจากทางธนาคารยูโอบีได้ทันที”


[1] ที่มา ผลสำรวจยูโอบีเผย ธุรกิจ 3 ใน 4 เชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวในปีนี้

[2] ทีมา UOB Business Outlook Study 2023 ผู้ตอบ: ธุรกิจเอสเอ็มอีและองค์กรขนาดใหญ่จากภาคอุตสาหกรรมหลักในประเทศไทย N=530

ห้าดาว (Five Star) ในกลุ่ม บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดตัว 2 นักวอลเลย์บอลทีมชาติไทย 'บุ๋มบิ๋ม-ชัชชุอร โมกศรี' มือตบหัวเสา และ 'บีม-พิมพิชยา ก๊กรัมย์' ตัวตบตรงข้ามหัวเสา เป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ พร้อมแคมเปญ “เติมมื้ออร่อยให้ชีวิตมีพลัง” ด้วยการร่วมถ่ายทอดเมนูแสนอร่อยที่ช่วยเติมพลังให้แก่ทุกคน

นายสุนทร จักษุกรรฐ์ กรรมการผู้จัดการธุรกิจห้าดาว บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด เปิดเผยว่า ห้าดาว เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน นำเสนอเมนูไก่คุณภาพหลากหลาย รสชาติถูกปาก ในราคาคุ้มค่า พร้อมให้บริการทั่วประเทศ ครั้งนี้เรามีแคมเปญ 'เติมมื้ออร่อยให้ชีวิตมีพลัง' นำเสนอทอดผ่าน 2 พรีเซนเตอร์ นักตบลูกยางสาวขวัญใจแฟนวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ที่มาช่วยเติมมื้ออร่อยแก่ทุกคนให้ชีวิตมีพลัง ไม่ว่าจะเป็นหลังซ้อมกีฬาเหนื่อยๆ หรือช่วยเติมพลังในชั่วโมงเร่งด่วนให้สามารถลุยงานหรือกิจกรรมต่อได้

"การเลือก 'บุ๋มบิ๋ม-ชัชชุอร โมกศรี' และ 'บีม-พิมพิชยา ก๊กรัมย์' มาถ่ายทอดเรื่องราวของแบรนด์ห้าดาว กับเมนูแสนอร่อยที่ช่วยเติมพลังทั้งแรงกายแรงใจในการฝึกซ้อมและการแข่งขัน พร้อมทั้งเป็นช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มแฟนวอลเลย์บอลชาวไทยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี รวมถึงกลุ่ม Gen Z ที่ให้ความสนใจและโปรดปรานกีฬาชนิดนี้อีกด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า แคมเปญนี้จะช่วยให้ 'ห้าดาว' มีฐานลูกค้าที่ครอบคลุมและเหนียวแน่นมากยิ่งขึ้น" นายสุนทร กล่าว

ห้าดาว มีประสบการณ์การดำเนินกิจการประเภทแฟรนไชส์มาอย่างยาวนาน และเติบโตอย่างต่อเนื่องกว่า 5,000 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และกว่า 2,300 สาขาในต่างประเทศ ได้รับกระแสการตอบรับดีอย่างต่อเนื่อง เปิดโอกาสให้ผู้ที่อยากมีธุรกิจร้านอาหารเป็นของตัวเองเข้าร่วมธุรกิจได้ง่าย คืนทุนไว ด้วยงบลงทุนในราคาไม่สูง เริ่มต้นเพียงหลักหมื่น ใช้พื้นที่ขนาดเล็กกะทัดรัด ขายได้ทุกที่ ทุกทำเล ทั่วทุกภูมิภาค มีอุปกรณ์ วัตถุดิบมาตรฐานจากโรงงานโดยตรง ผู้ประกอบการสามารถนำไปปรุงสุก และจำหน่ายในราคาที่กำหนดเป็นมาตรฐาน รวมถึงทีมงานทำการตลาด คอยดูแลตลอดกิจการ สำหรับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของธุรกิจ ห้าดาว สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://fivestar.in.th/franchise/grilled-chicken/ หรือ https://www.facebook.com/Fivestarbusiness 

หรือสั่งเมนูอร่อยจากห้าดาวได้ที่ร้านห้าดาวทุกสาขาทั่วประเทศใกล้บ้าน  โดยสามารถตรวจสอบสาขาบริการจัดส่งได้ที่ Star Delivery: https://fivestar.in.th/deliverylocation/ หรือแอปพลิเคชันฟู้ดส์เดลิเวอรี่ต่างๆ อาทิ Grab food, LINE MAN และTrue Food เป็นต้น

ลงพื้นที่ตามรอยศึกษาประวัติศาสตร์ ผืนแผ่นดินแห่งพระมหากรุณาธิคุณของกษัตริย์ไทย

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เข้าพบนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง พร้อมทั้งนำเสนอยุทธศาสตร์และบทบาทของ EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มุ่งสู่การเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย (Thailand Development Bank) สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่เพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขันของธุรกิจไทยให้เติบโตและแข่งขันได้ในระดับโลก ณ กระทรวงการคลัง เมื่อเร็วๆ นี้

กรุงเทพประกันชีวิต ร่วมรณรงค์เนื่องในวันอัลไซเมอร์โลก 21 กันยายน ของทุกปี

พร้อมฟิล์มมินิลายใหม่ Soft Lavender กรอบสีม่วงพาสเทลสุดละมุน

ตอกย้ำปณิธานในการสร้างสุขภาวะที่ดีขึ้นให้แก่คนทั่วโลก

X

Right Click

No right click