ในหัวข้อ จะเกิดอะไรขึ้นถ้า Machine Learning สามารถเชื่อมโยงลูกค้ากับสิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุด? แอนดริว กวาลเซท รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด คนใหม่ของดีแทค กล่าวว่า แนวทางการตลาดในอนาคตจะเป็นในรูปแบบเฉพาะเจาะจงแบบรายบุคคล (Personalization) มากขึ้น ซึ่งต้องพึ่งพาการใช้ Big Data และMachine Learning อันเป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ดีแทคเป็นผู้บุกเบิกในตลาดโทรคมนาคม
“ต่อไปลูกค้าจะไม่ต้องค้นหาสิ่งที่เขาต้องการด้วยตัวเอง แต่เราจะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดและตรงกับความต้องการของเขามากที่สุดด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยเหล่านี้ ซึ่งจะสร้างความประหลาดใจ เสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า และนี่คือคอนเซ็ปต์ของ Personalization” แอนดริว กล่าว
ซึ่งเบื้องหลังของประสบการณ์ที่ดีนั้นคือ Machine Learning ที่ใช้วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล ประมวลข้อมูลหลายพันล้านชุด ซึ่งจะถูกอัพเดทตลอดเวลา ทำให้ทราบว่าลูกค้าต้องการอะไร เมื่อไหร่ อย่างไร และดีแทคสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า กว่า80% ของลูกค้าดีแทคได้ดาวน์โหลดแอปดีแทค สร้างรายได้จากการบริการดิจิทัลเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าในปีที่ผ่านมา และนั่นทำให้ประสบการณ์ลูกค้าดีขึ้น เสริมสร้างคุณค่าของผลิตภัณฑ์และบริการดีแทคในยุคดิจิทัล
หัวข้อ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเกษตรกรรมความแม่นยำ(Precision Farming) สามารถช่วยลดความเหลื่อมล้ำให้กับเกษตรกร? ชวิน ฉัตรศิริวิชัยกุล ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ รีคัลท์ สตาร์ตอัพในโครงการ dtac accelerate 5 กล่าวว่า ผลิตผลจากภาคการเกษตรในประเทศไทยยังต่ำกว่ามาตรฐานทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค ค่าใช้จ่ายของการเพาะปลูกหมดไปกับปุ๋ยและยาฆ่าแมลง แต่ในทางกลับกันผลผลิตแทบไม่เพิ่มขึ้นเลย ทำให้เกษตรกรเป็นประชากรประสบความยากลำบากจากความยากจน
Ricult สตาร์ตอัพที่ก่อตั้งโดย 4 บัณฑิตจากสถาบัน MIT จึงเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ โดยได้นำเอาเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมและการคาดการณ์สภาพอากาศที่แม่นยำมาช่วยเกษตรกร ภายใต้วิสัยทัศน์“Those who feed us need us”
Ricult ให้บริการข้อมูลเชิงเกษตร ที่จะช่วยเพิ่มผลผลิตได้สูงขึ้น57’ 40% และกำไรเติบโตขึ้นถึง 100% ในขณะที่ข้อมูลการคาดการณ์สภาพอากาศทั่วไปมีความละเอียดอยู่ที่ระดับ 50 กิโลเมตร แต่ระบบของ Ricult ครอบคลุมได้ละเอียดถึงระยะ 3 กิโลเมตร และยังได้นำเอาอัลกอริทึมของMachine Learning เข้ามาช่วยวิเคราะห์แสงสะท้อนจากใบไม้เพื่อประเมินสุขภาพของพืชอีกด้วย
Ricultยังร่วมมือกับโครงการ dtac smart farmer และมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิดในการเข้าถึงกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ โดยหวังว่าแอปพลิเคชันนี้จะช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้น
ในหัวข้อ จะเกิดอะไรขึ้นถ้า Big Data สามารถช่วยหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ? เคนท์ มอนเซน นักวิจัยอาวุโสจากเทเลนอร์รีเสิร์ช ภายใต้ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้ทำรายงานวิจัยเรื่องการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกและไข้มาลาเรียผ่านข้อมูลบนโทรศัพท์มือถือในประเทศปากีสถานและไทย กล่าวว่า จากข้อมูลการใช้งานโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้งาน ช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์การเดินทางสัญจรของผู้ใช้งานทั่วทั้งประเทศ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลการระบาดของไข้มาลาเรีย เพื่อคาดการณ์การระบาดของโรคในครั้งต่อไป ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีขนาดใหญ่มหาศาล ตลอดจนเน้นย้ำถึงความสำคัญด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
“ถ้าเราสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าไข้เลือดออกหรือไข้มาลาเรียจะแพร่ระบาดไปยังพื้นที่ใด จะช่วยให้สถาบันสุขภาพแห่งชาติสามารถวางมาตรการป้องกันได้อย่างเหมาะสม เช่น เตรียมการแจกจ่ายมุ้งกันยุง จัดเตรียมคลีนิกเคลื่อนที่ เผยแพร่ข้อมูลในการป้องกันโรคระบาด รวมถึงการลงตรวจสอบพื้นที่อย่างใกล้ชิดมากขึ้น” เคนท์ กล่าว
และหัวข้อสุดท้าย จะเกิดอะไรขึ้นถ้า AI ช่วยยกระดับการทำงานไปอีกขั้น? ฉัตรสุดา สันตานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสสาย Customer Value Management (CVM) ดีแทค กล่าวถึงเป้าหมายของCVM คือ การนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ในเวลาที่เหมาะสม ซึ่ง Machine Learning เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการตลาดแบบตัวต่อตัว (One-to-One Marketing) ให้ดียิ่งขึ้น
Machine Learning เข้ามาช่วยพัฒนาการตรวจสอบการลงทะเบียนของบริการระบบเติมเงิน โดยการใช้ระบบจดจำภาพใบหน้า นอกจากนี้มันยังถูกใช้ในการพัฒนา Social Listening Tool เพื่อช่วยในการจำแนกประเภทของความคิดเห็นบนสื่อสังคมต่าง ๆ โดยทั้งสองโปรเจ็กต์มีความแม่นยำสูงกว่า 90%
และเพื่อเสริมแกร่งศักยภาพการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดีแทคได้ร่วมมือวิจัยด้าน AI กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อสร้างทรัพยากรด้าน AI รุ่นใหม่กับประเทศ โดยมุ่งเน้นไปยังด้านระบบอัจฉริยะอัตโนมัติ (Intelligent Automation) Machine Learning การเสริมสร้างประสบการณ์ใช้งานของลูกค้า และการวิเคราะห์ข้อมูล
ตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยี Machine Learning, Big Data และอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ที่พูดคุยในงาน “dtac Loop: The Shapes of Data” คือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย และเป็นสิ่งที่อุตสาหกรรมต่างๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เห็นได้จากจำนวนผู้เข้าร่วมรับฟังงานนี้ที่เต็มห้อง เพราะโลกกำลังก้าวเข้าสู่โลกยุคดิจิทัลที่คนช้าอาจจะไม่มีที่ยืน