บริหารธุรกิจ นิด้า หลักสูตรเพื่อผู้บริหารยุคใหม่

February 14, 2020 4928

ธุรกิจในยุคปัจจุบันแตกต่างจากที่เคยเป็นมาด้วยอานุภาพของเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้น รูปแบบการใช้ชีวิตรูปแบบการทำธุรกิจใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น

ส่งผลต่อวิธีแสวงหาความรู้ของผู้คนทั่วโลก การเรียนการสอนในแบบเดิมๆ ถูกตั้งคำถามว่ายังคงสำคัญหรือไม่ในยุคที่มีวิธีการเรียนรู้ผ่านออนไลน์ที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลาที่สะดวก

สถาบันการศึกษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียนธุรกิจที่เปิดสอนหลักสูตร MBA อันเป็นหลักสูตรที่ได้รับความนิยมมายาวนานจำเป็นจะต้องปรับตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านเทคโนโลยี รูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ และความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร คือคำถามที่หลายคนให้ความสนใจ

ต่อคำถามเหล่านี้ รศ.ดร.ธัชวรรณ กนิษฐ์พงศ์ คณบดี คณะบริการธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ นิด้า ให้ภาพรวมของการจัดการศึกษาของโรงเรียนธุรกิจทั่วโลกว่า มีการปรับเปลี่ยนทั้งในเรื่องของเนื้อหาวิชา วิธีการสอน รวมถึงระยะเวลาการเรียนที่ตอบสนองความต้องการของผู้เรียนมากขึ้น

โดยในส่วนของเนื้อหาวิชาของหลักสูตร MBA การเรียนรู้วิชาพื้นฐานต่างๆ จะสั้นลง ปรับเวลาเรียนวิชาที่มีคำว่าเบื้องต้นต่างๆ ให้ลดลงไป หรืออาจกล่าวได้ว่า เรียนเรื่องทฤษฎีลดลง และไปเรียนวิชาที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น อาทิการเพิ่มเติมในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลมากขึ้นในแต่ละวิชา

ในส่วนของวิธีการเรียน จากการที่ผู้เรียนบางส่วนรู้สึกว่าสามารถใช้เวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่ามานั่งเรียนในห้องเรียนจึงมีการเรียนการสอนแบบออนไลน์เพิ่มขึ้น ตอบสนองการเรียนรู้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดเวลาใดก็สามารถเรียนได้ รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ที่อยู่ห่างไกลได้เรียนรู้จากสถาบันที่มีคุณภาพทั่วโลก

อีกแนวโน้มหนึ่งที่เห็นเพิ่มขึ้นคือ การเรียนหลักสูตรระยะสั้นในเรื่องที่แต่ละคนมีความสนใจ ก็เป็นทิศทางการศึกษาที่ผู้เรียนทั่วโลกนิยมเพิ่มขึ้น ในขณะผู้ที่จบการศึกษาไปแล้วก็มีแนวโน้มต้องการเพิ่มเติมความรู้ใหม่ๆ เพิ่มทักษะทางวิชาชีพให้กับตนเอง (Upskill, Reskill) ในรูปแบบการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพิ่มมากขึ้น ทำให้หลักสูตรระยะสั้นเป็นอีกเทรนด์หนึ่งของการศึกษายุคใหม่

คณบดีคณะบริหารธุรกิจ นิด้า มองว่า อย่างไรก็ตามผู้เรียนยังคงอยากได้วุฒิ เพราะปริญญาเป็นเสมือนใบเบิกทางที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้เรียนมีความรู้ “ใบปริญญายังมีความสำคัญอยู่แต่เวลาของคนอาจจะมีจำกัดมากขึ้น เขาจึงอยากหาทางออกที่ทำให้เขาได้ปริญญาและได้ใช้เวลาในการหาเงินด้วย”

เพิ่มความรู้ใหม่

คณะบริหารธุรกิจ นิด้า ก็เช่นเดียวกับโรงเรียนธุรกิจทั่วโลกที่มองเห็นเทรนด์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น รวมถึงแนวโน้มประชากรในประเทศที่กำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงวัย ทางคณะจึงมีการวางแผนงานเพื่อปรับปรุงให้คณะมีความทันโลกทันสมัย มีคอร์สใหม่ๆ และเปิดกว้างทางการศึกษาให้กับผู้ที่สนใจมากขึ้น เพื่อให้ผู้เรียนสามารถมาเพิ่มพูนความรู้ให้กับตนเองตามความสนใจที่มีอยู่ได้

รศ.ดร.ธัชวรรณ เปิดเผยว่า ในส่วนของหลักสูตรที่เปิดกว้างขึ้นนั้น จะมีการปรับเอารายวิชาใหม่ๆ เข้าไปโดยเฉพาะในหลักสูตร Executive MBA และ Young Executive MBA และจะมีการเปิดหลักสูตรที่เป็นเรื่องของการ Reskill และ Upskill เพิ่มขึ้น โดยจะเน้นความรู้ใหม่ๆ เพื่อให้นักศึกษาเก่าและผู้สนใจ สามารถมาเรียนรู้เพิ่มเติมความรู้เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้

ตัวอย่างเนื้อที่เปิดไปแล้วอย่างเช่น เทคโนโลยีบล็อกเชน ที่เพิ่งเปิดเป็นหลักสูตรอบรมไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาให้เป็นหนึ่งในวิชาเลือกของหลักสูตร MBA เพื่อให้นักศึกษาสามารถเลือกเรียนได้ และยังเปิดกว้างสำหรับนักศึกษาสมทบที่อาจจะเป็นศิษย์เก่าของนิด้าหรือบุคคลทั่วไป สามารถสมัครเข้ามาเรียนได้

และการที่นิด้าเป็นพันธมิตรกับ d.school แห่งมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเปิดสอนวิชา Design Thinking ทำให้นิด้าเป็นที่แรกและที่เดียวที่ทำเทรนนิ่งในเรื่องนี้ และออกไปร่วมกับชุมชนหรือองค์กรภายนอก เพื่อร่วมแก้ปัญหาโดยใช้ Design Thinking เป็นเครื่องมือ ก็เป็นอีกองค์ความรู้ที่คณะบริหารธุรกิจ นิด้าเตรียมไว้ให้กับผู้เรียน

วิชา Project Management เป็นอีกหนึ่งในความต้องการของผู้เรียนที่คณะบริหารธุรกิจเปิดสอนทั้งในรูปแบบวิชาเลือกในหลักสูตรและการอบรมระยะสั้น โดยมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญของคณะที่เป็นผู้ดูแลหลักสูตร

นอกจากนี้ยังมีความรู้ใหม่ๆ ทางด้าน ประสาทวิทยา (Neuroscience) ที่สามารถนำมาใช้ในการทำธุรกิจได้ โดยมีความร่วมมือกับต่างประเทศในการนำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้เรียนรู้ที่นิด้า

รศ.ดร.ธัชวรรณ กล่าวว่า “วิชาเหล่านี้ จะเปิดเป็นวิชาเลือกให้นักศึกษาในคณะและเปิดให้กับนักศึกษาสมทบ คือ มาเรียนวิชาเดียวแล้วก็ได้เกรด อาจไม่ใช่เป็นประกาศนียบัตร ซึ่งทางสถาบันมีนโยบายว่า อยากจะให้สะสมเป็น credit bank ได้ ถ้ามีระบบนั้นแล้ว เมื่อไรที่เขาอยากจะมาสมัครเรียนก็อาจจะโอนหน่วยกิตเข้ามาเรียนได้ เวลามาเรียนจริงๆ ก็จะร่นระยะเวลาการเรียนไปได้”

เรียนออนไลน์ได้ถึง 40 %

ด้านวิธีการเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปแบบการเรียนออนไลน์ที่นิด้าถือว่าเป็นหนึ่งในสถาบันที่ริเริ่มเรื่องนี้มานานแล้ว คณบดี คณะบริหารธุรกิจเปิดเผยว่า ปัจจุบันตามระเบียบของสถาบัน ระบุว่า สามารถสอนออนไลน์ได้ 40 เปอร์เซ็นต์ และอีก 60 เปอร์เซ็นต์ให้เรียนในห้องเรียน ซึ่งเป็นการเปิดกว้างรูปแบบการเรียนที่แตกต่างจากที่เคยเป็นมา

ดังนั้นผู้เรียนสามารถประหยัดเวลาด้วยการเรียนรู้วิชาส่วนหนึ่งด้วยตนเองผ่านคอร์สเรียนออนไลน์ของคณะ และใช้เวลาอีก 60 เปอร์เซ็นต์ของหลักสูตรเข้าห้องเรียนเพื่อร่วมทำกรณีศึกษา หรือนำเสนอรายงานกลุ่มต่างๆ รวมถึงเป็นเวลาที่นักศึกษาจะได้ปรึกษาเรียนรู้จากอาจารย์ผู้สอนโดยตรง

เพิ่มความร่วมมือต่างประเทศ

นอกจากการปรับภายในคณะแล้ว คณะบริหารธุรกิจ นิด้า ยังมองไปถึงการร่วมมือกับต่างประเทศเพิ่มเติม โดยปัจจุบันมีการไปพูดคุยกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศหลายแห่ง เพื่อทำความตกลงเช่นการแลกเปลี่ยนนักศึกษา อาจารย์ การทำหลักสูตร Double Degree

รศ.ดร.ธัชวรรณ เปิดเผยว่าการที่คณะได้รับการรับรอง AACSB ทำให้สามารถติดต่อประสานงานกับโรงเรียนธุรกิจชั้นนำทั่วโลกได้ โดยมีการพูดคุยกับหลายมหาวิทยาลัย เช่นที่ฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยลาโรซเช่ ที่มีความโดดเด่นในการเรียนการสอนด้านการบริหารจัดการ Luxury Goods ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ ก็มีการเซ็นบันทึกความเข้าใจร่วมกันแล้ว โดยนักศึกษาสามารถเรียนที่นิด้า 1 ปี และไปเรียนที่ฝรั่งเศสอีก 1 ปี จบแล้วจะได้ปริญญาทั้งของนิด้าและลาโรซเช่

ขณะเดียวกันคณะก็ยังมีความตกลงที่มีอยู่เดิมกับมหาวิทยาลัยอินเดียน่า ซึ่งนักศึกษาสามารถเลือกเรียนและได้ double degree เช่นกัน และยังอยู่ระหว่างพูดคุยกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ เช่นที่ในแคนาดาซึ่งจะทำความตกลงในรูปแบบเดียวกัน เพิ่มโอกาสให้กับนักศึกษาของนิด้าในการเรียนรู้กับโรงเรียนธุรกิจชั้นนำของโลกเพิ่มเติม

ความร่วมมือกับต่างประเทศยังช่วยทำให้คณะมีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้และวิธีการบริหารจัดการการศึกษากับสถาบันในระดับโลก เพิ่มความทันสมัยให้กับคณะบริหารธุรกิจได้อีกทางหนึ่ง

พร้อมกันนั้น คณบดีคณะบริหารธุรกิจระบุว่า คณะจะรักษาและเพิ่มมาตรฐานทางด้านการศึกษาระดับสากลโดยมีเป้าหมายคือการได้รับการรับรองมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทั้ง 3 สถาบันคือ AACSB - The Association to Advance Collegiate Schools of Business (United States) ที่คณะได้รับการรับรองแล้ว AMBA - The Association of MBAs (United Kingdom) และ EQUIS - EFMD Quality Improvement System (European Union)

มุ่งผลิตผู้นำทันโลก

สิ่งที่คณะบริหารธุรกิจ นิด้ากำลังทำอยู่นั้นเพื่อผลลัพธ์คือ การผลิตบัณฑิต ผู้มีความเป็นผู้นำเป็นนักบริหารที่สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกได้ มีความทันโลก ทันสมัย ผ่านรายวิชาใหม่ๆ ที่เปิดขึ้นแล้วและกำลังจะเปิดขึ้นตามมา

ขณะเดียวกันคณะก็สนับสนุนให้คณาจารย์ในคณะได้เรียนรู้องค์ความรู้ใหม่ที่น่าสนใจ เพื่อให้อาจารย์มีวัตถุดิบที่สดใหม่ทันสมัยมาถ่ายทอดเปิดโลกทัศน์ให้กับผู้เรียน รองรับรูปแบบการบริหารจัดการในโลกยุคเปลี่ยนแปลง

รศ.ดร.ธัชวรรณ กล่าวปิดท้ายว่า “คณะของเราพยายามปรับให้ทันโลก ทันสมัยมากขึ้น และเราเน้นให้มีคอร์สใหม่ๆ มากขึ้น คนที่สนใจจะเรียน MBA ก็อยากเชิญชวนให้มาเรียน และนอกจากนั้นคนที่จบไปแล้ว ไม่ว่าจากนิด้าเองหรือจบMBAจากที่ใด และสนใจคอร์สใหม่ๆ ก็อยากแนะนำให้ลองมาลงทะเบียนเป็นนักศึกษาสมทบดู สามารถมาเรียนวิชาใหม่ๆ ที่เราเปิดได้ โดยไม่ต้องมาเป็นนักศึกษาระยะยาว ไม่ต้องใช้เวลามากกับการเรียน ก็จะได้มาอัปเดตความรู้ให้กับตัวเอง ตามที่ตนเองสนใจจริงๆ”

นักศึกษาสมทบนิด้า

ตามข้อบังคับสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ว่าด้วยการศึกษา พ.ศ. 2557 แบ่งนักศึกษาของสถาบันเป็น 3 ประเภทได้แก่
1. นักศึกษาสามัญ ได้แก่ นักศึกษาที่ขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต หลักสูตรปริญญาโท หลักสูตรปริญญาเอก หรือหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาอื่น ๆ ซึ่งได้รับอนุมัติจากสภาสถาบัน
2. นักศึกษาสมทบ ได้แก่ นักศึกษาที่สถาบันรับขึ้นทะเบียนจากบุคคล หรือหน่วยงานขอส่งเข้าศึกษาใน วิชาใดวิชาหนึ่งหรือหลายวิชาในหลักสูตรตั้งแต่ระดับประกาศนียบัตรบัณฑิตขึ้นไป โดยไม่มีสิทธิรับประกาศนียบัตร หรือปริญญา
3. นักศึกษาสมทบพิเศษ ได้แก่ นักศึกษาที่สถาบันรับเข้าศึกษาในขณะที่ยังไม่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี โดยต้องศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า 100 หน่วยกิตหรือเทียบเท่า

 

 


เรื่อง: กองบรรณาธิการ

ภาพ: ณัฐพงศ์ เปรุนาวิน 

Last modified on Thursday, 24 June 2021 08:47
X

Right Click

No right click