ระดับเครือข่ายพัฒนาสหกิจศึกษา ภาคกลางตอนบน โดยในรอบนี้ นักศึกษาจาก วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (CIBA DPU) คว้าไปได้ถึง 2 รางวัลด้วยกัน ประกอบด้วย Mr.Moy Bunneam นศ.ชั้นปีที่ 3 หลักสูตรบริหารธุรกิจ นานาชาติ รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทนานาชาติดีเด่น จากโครงงาน Toyota Fund Raising Campaign และนางสาวสุทธิดา อยู่ทอง นศ.ชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสมัยใหม่ รับรางวัลชมเชย ประเภทสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และการจัดการดีเด่น จากโครงงาน การศึกษาปริมาณการจัดซื้อที่เหมาะสม กรณีศึกษา บริษัท คิทซ์โช อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ทั้งนี้ การประกวดโครงงานสหกิจศึกษามีทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ 1. ประเภทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2. ประเภทสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และการจัดการดีเด่น 3. ประเภทนวัตกรรมดีเด่น และ 4. ประเภทนานาชาติดีเด่น โดยมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยในภาคกลางตอนบนที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 44 มหาวิทยาลัย
Mr.Moy Bunneam กล่าวถึงโครงการ Toyota Fund Raising Campaign ว่า เป็นแคมเปญการระดมทุนออนไลน์สำหรับโรงพยาบาลเด็ก 2 แห่งในกัมพูชาช่วงที่โควิด-19 ระบาด เพื่อเป็นทุนรักษาเด็กๆ โดยเป็นความร่วมมือของสองพันธมิตรใหญ่ในกัมพูชา ได้แก่ บริษัท Last2ticket Asia ที่ตนเองได้ไปปฏิบัติสหกิจศึกษา และบริษัท Toyota Cambodia โดยทุนที่ระดมรับบริจาคจะไปสนับสนุนโรงพยาบาลเด็ก 2 แห่ง คือ Angkor Hospital for Children และ The Kantha Bopha Hospital ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่เด็กส่วนใหญ่ในกัมพูชาจะเข้าไปรับการรักษา ระยะเวลาโครงการเริ่มตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2563 ถึง กลางเดือนมีนาคม 2564 แต่เนื่องจากตนจบการฝึกสหกิจศึกษาก่อนที่โครงการจะสิ้นสุดลง จึงไม่ทราบว่าทางโครงการระดมทุนได้ทั้งหมดเท่าไหร่ แต่ทราบว่าแคมเปญดำเนินการไปได้ด้วยดีและทั้งสองบริษัทก็ให้การสนับสนุนเต็มที่เพื่อระดมทุนช่วยเหลือเด็กให้ได้มากที่สุดตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานที่ได้ตั้งไว้
การระดมทุนออนไลน์เป็นเรื่องใหม่ของทั้งสองบริษัท และบริษัท Last2ticket Asia ที่ผมปฏิบัติสหกิจศึกษาอยู่ในตอนนั้นก็ไม่เคยจัดกิจกรรมระดมทุนออนไลน์มาก่อน ทำให้ผมมีโอกาสได้มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนการทำงาน ตั้งแต่การคิดกระบวนการให้ได้ว่า จะทำอย่างไรให้สามารถระดมทุนออนไลน์ได้สำเร็จ หลังจากที่มีการระดมความคิดกันก็สามามารถแก้ปัญหาได้ แล้วก็ได้วิธีการที่สามารถระดมทุนจากเงินทุนหลายรูปแบบได้และทำให้ผู้บริจาคสามารถบริจาคได้หลายครั้ง
Mr.Moy Bunneam กล่าวอีกว่า การปฏิบัติสหกิจศึกษาครั้งนี้นับเป็นประสบการณ์ที่ดีได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมายและสนุก ทั้งยังมีโอกาสได้กลับบ้านเกิด ได้ใช้ความรู้ความสามารถจากสิ่งที่ได้ร่ำเรียนมา โดยเฉพาะแคมเปญที่คิดขึ้นมานี้ ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการดำเนินโครงการในช่วงการระบาดของโควิด-19 โดยหลังจากนี้จะได้เตรียมตัวในการแข่งขันระดับประเทศ ซึ่งจะมีผู้ชนะเลิศจากเครือข่ายอื่นๆ จากทั่วประเทศรวม 9 เครือข่าย เข้าร่วมการแข่งขัน ในวันที่ 17 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งตนมีความมั่นใจและมีความพร้อมในการแข่งขันครั้งนี้
ด้านนางสาวสุทธิดา อยู่ทอง กล่าวว่า บริษัทที่ไปปฏิบัติสหกิจศึกษาในครั้งนั้น เป็นบริษัทชั้นนำผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไม้แปรรูป เฟอร์นิเจอร์ และชุดครัวสำเร็จรูป ซึ่งตนเองพบว่าในแต่ละเดือนมีการสั่งซื้อหิน compact set บ่อยครั้ง จึงมีแนวคิดในการศึกษาปริมาณการจัดซื้อที่เหมาะสมเพื่อให้สินค้าคงคลังสมดุลกับการขาย ทำให้สามารถช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของการจัดซื้อหิน compact set ลงได้ โดยเฉพาะต้นทุนรวม (TC) ในการจัดการของสินค้าคงคลัง
“รู้สึกภูมิใจที่มีโอกาสได้แสดงความรู้ความสามารถในฐานะเด็กฝึกงาน ที่ผู้ใหญ่ให้การยอมรับในความสามารถของเราและนำสิ่งที่เราเสนอไปปรับใช้จริง ในการปฏิบัติสหกิจศึกษาไม่ใช่โอกาสที่เราจะหาได้ง่ายๆ ในที่ซึ่งให้เรามีโอกาสได้แสดงศักยภาพตนเองออกมา นอกจากนี้ เรายังได้นำทฤษฎีในการเรียนด้านโลจิสติกส์จากห้องเรียนมาใช้ได้จริง และที่สำคัญได้เรียนรู้ประสบการณ์ในการทำงานจริงๆก่อนเราจบการศึกษาออกไป นับเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับตนเองก่อนจบออกไปทำงานจริง” นางสาวสุทธิดา กล่าวในตอนท้าย