

สังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Societyใกล้สู่ความเป็นจริง ล่าสุดแบงค์ชาติ เดินหน้า จับมือกับสถาบันทางการเงินรายใหญ่หลายราย เตรียมพร้อม เปิด“QR Code มิติใหม่ของการชำระเงิน” อีกรูปแบบของการสานต่อแนวทางการพัฒนาระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-Payment คาดจะเริ่มนำมาใช้ได้ทั่วไปภายในไตรมาส 4 นี้
จากรายงานของสมาคมมีเดียเอเจนซี่ และธุรกิจสื่อประเทศไทย ถึงสถานการณ์การใช้สื่อในครึ่งปีแรก และแนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาในช่วงครึ่งปีหลังตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2560 คาดว่าจะลดลงกว่า 11% เมื่อเทียบกับปี 2559 ส่งผลต่อภาพรวมการใช้สื่อในปีนี้ยังคงติดลบ 5% โดยทั้งหมดนี้มีผลจากภาวะการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
การคิดค้นนวัตกรรม “จรวดนำวิถี” Made in Thailand งานวิจัยของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) " สทป."หรือ “DTI” ที่เริ่มแนวคิดจากการเป็นอาวุธ
MOC Biz Shop ร้านค้าต้นแบบผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ที่กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเปิดร้านค้าขึ้น เพื่อสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเชื่อมโยงสินค้าเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นข้ามจังหวัด ข้ามภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อสร้างความหลากหลายของสินค้า และการสร้างอัตลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ดึงดูดลูกค้าและนักท่องเที่ยว ซึ่งการผลักดันให้เป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าท้องถิ่นประจำภูมิภาคและจังหวัด ในเฟสแรกจะมีการเปิดร้านค้าต้นแบบได้ไม่น้อยกว่า 10 จังหวัดทั่วประเทศ
ครั้งแรกของวงการค้าปลีก ในการเผยเคล็ดลับ และเปิดพื้นที่ขายให้ SMEs รุ่นใหม่ ต่อยอดแบรนด์ ทดลองตลาดให้เติบโตได้จริง นำมาสู่ 3 SMEs สุดเจ๋ง - ซาลาเปาโฮลวีทแบรนด์ BUN101, แฟชั่นมัลติแบรนด์ CAMP, คอนเซ็ปต์สโตร์ชุดเครื่องนอนและของแต่งบ้านแบรนด์ VINTEL ได้รับรางวัล SMEs ดีเด่น 3 อันดับแรกที่มีไอเดียปั้นธุรกิจได้โดดเด่นที่สุด
ปัจจุบันการวิ่ง นับว่าเป็นกีฬาอีก 1 ชนิดที่สังคมไทยนิยมกันมากขึ้น จึงทำให้หลายคนหันมาออกกำลังกายด้วยการวิ่งหรือเข้าร่วมในการวิ่งมาราธอน
จากความลงตัวของ 2 ปัจจัยหลัก คือ น้ำผลไม้ 100% เป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงด้วยสัดส่วน 1 ใน 3 ของตลาดน้ำผลไม้มูลค่า 14,000 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2560) อีกทั้งน้ำผลไม้ เซกเมนท์นี้ยังเป็นผลิตภัณฑ์ฮีโร่ที่ขายดีที่สุดของมาลี โดยมียอดขายมากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 50% ของยอดขายในประเทศ
มาสู่ความเคลื่อนไหวล่าสุด ของมาลี กรุ๊ป เพื่อต่อยอดไปสู่จุดมุ่งหมายการเป็น “ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพระดับโลก” โดยใช้งบกว่า 60 ล้านบาท รุกตลาดน้ำผลไม้ 100% มูลค่า 5,000 ล้านบาท ภายใต้ 3 กลยุทธ์
กลยุทธ์ที่ 1) เปิดตัวบรรจุภัณฑ์โฉมใหม่ นับเป็นการปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เป็นสากล และยังเป็นผลิตภัณฑ์โดนใจผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเสริมแกร่งธุรกิจอินเตอร์เนชั่นแนลของมาลีในระดับนานาชาติ ด้วยการจับมือกับเวิลด์คลาส ดีไซเนอร์ ทำการวิจัยและพัฒนาดีไซน์บรรจุภัณฑ์โฉมใหม่ภายใต้แนวคิด “Grown With Love” ที่สะท้อนความมุ่งมั่นของมาลีในการผลิตน้ำผลไม้ ตั้งแต่การรอเวลาที่เหมาะสม การเก็บอย่างพิถีพิถัน และการดูแลด้วยใจ มาลีจึง ‘ให้ทุกคนได้คุณค่ามากกว่าน้ำผลไม้ 100%’
ทั้งนี้ มาลียังถือเป็นน้ำผลไม้รายแรกในประเทศไทยที่ใช้นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์กล่อง UHT ขนาด 200 มล. ที่มีแถบดีไซน์รูปทรง “ใบไม้” ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคจับถนัดมือมากขึ้นและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะกล่องเครื่องดื่มรุ่นใหม่ทุกกล่องของมาลีนั้นได้รับการรับรองจากองค์การจัดการด้านป่าไม้ระดับสากล Forest Stewardship Council™ และติดฉลาก FSC™ ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคได้ว่ากระดาษที่ใช้ทำกล่องนั้นมาจากป่าปลูกเชิงพาณิชย์ ที่ผ่านการจัดการอย่างมีความรับผิดชอบ หลังจากดื่มหมดแล้วยังสามารถนำกล่องไปรีไซเคิลได้อย่างครบวงจร เป็นการช่วยลดปริมาณขยะและลดภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย
กลยุทธ์ที่ 2) การกระชับพอร์ตผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในทุกขั้นตอน ตั้งแต่กระบวนการผลิต การเก็บรักษา การทำตลาด และการจัดจำหน่าย โดยได้ปรับลด SKU ที่ได้รับความนิยมน้อยลง 20% ที่ช่วยทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ตรงตามความต้องการได้ง่ายขึ้น
กลยุทธ์ที่ 3) โปรแกรมสื่อสารทางการตลาดรอบด้าน ที่เข้าถึงผู้บริโภคด้วยช่องทางการสื่อสารแบบครบวงจร 360 องศา ประกอบด้วย ภาพยนตร์โฆษณาที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมาลีในการผลิตน้ำผลไม้ที่ “ให้คุณค่ามากกว่าน้ำผลไม้ 100%” ซึ่งจะออกอากาศพร้อมกันทั่วประเทศในวันนี้ (21 สิงหาคม) เป็นต้นไป โดยประเดิมในช่วงละครหลังข่าว สื่อออนไลน์ ทั้งในเฟสบุ๊คของผลิตภัณฑ์มาลี ยูทูป ไลน์ทีวี พร้อมทั้งสื่อสารผ่านกลุ่ม Online Influencer ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ กิจกรรมโรดโชว์และแจกสินค้าตัวอย่างให้ชิมในซูปเปอร์มาร์เก็ต โมเดิร์นเทรด ร้านค้าหลักในต่างจังหวัดครอบคลุมทุกช่องการจำหน่ายทั่วประเทศเพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์การดื่มมาลี น้ำผลไม้ 100%
นางสาวรุ่งฉัตร บุญรัตน์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท มาลี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “การรุกตลาดน้ำผลไม้ 100% ในช่วงครึ่งปีหลัง 2560 ถือเป็นอีกก้าวของมาลีกรุ๊ปในการเดินหน้าสู่จุดมุ่งหมาย “ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพระดับโลก “เราเชื่อมั่นว่าการรุกเซกเมนท์น้ำผลไม้ 100% ในครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการเติบโตให้กับกลุ่มน้ำผลไม้ 100% เพิ่มขึ้น 10% ภายในสิ้นปี 2560 และสร้างยอดจัดจำหน่ายในขนาด 200 มล. ในช่องทางร้านสะดวกซื้อ เพิ่มขึ้น 15% และขยายฐานผู้บริโภคกลุ่มใหม่ ให้หันมาดื่มน้ำผลไม้ 100% รวมทั้งเป็นก้าวสำคัญของมาลีกรุ๊ปเพื่อเดินหน้าสู่จุดมุ่งหมาย “ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพระดับโลกได้อย่างแน่นอน”
บล็อกเชน (Blockchain) ถือกำเนิดขึ้นเพื่อรับรองความถูกต้องให้กับบิทคอยน์ (Bitcoin) ระบบสกุลเงินที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับอุตสาหกรรมการเงินอย่างมากเมื่อปี 2008 (พ.ศ. 2551) แกนหลักของเทคโนโลยีนี้คือการกำจัดระบบควบคุมแบบเบ็ดเสร็จจากส่วนกลางด้วยการนำเสนอเครือข่ายแบบกระจายที่มีข้อกำหนดและกฎระเบียบในแบบฉบับของตัวเอง
บริษัทนีลเส็น (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและตรวจวัดข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภค เปิดเผยข้อมูลงบโฆษณาประจำเดือนกรกฎาคม 2560 โดยการแบ่งตามประเภทสื่อต่างๆ มูลค่ารวมการใช้งบโฆษณาทั้งสิ้น 8,549 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 14.12% และสื่อที่ใช้งบโฆษณามากที่สุด 3 อันดับแรก คือ
สำหรับสื่ออื่นๆ ได้แก่ สื่อเคเบิล 295 ล้านบาท, สื่อวิทยุ 405 ล้านบาท, สื่อแมกกาซีน 134 ล้านบาท, สื่อในโรงภาพยนตร์ 585 ล้านบาท, สื่อนอกบ้าน 533 ล้านบาท, สื่อเคลื่อนที่ 452 ล้านบาท, สื่อ ณ จุดขาย 80 ล้านบาท และสื่ออินเทอร์เน็ต 119 ล้านบาท

ด้านการใช้สื่อในองค์กรพบว่า 10 อันดับที่ใช้งบโฆษณาสูงสุดในเดือนกรกฎาคม 2560 มีดังนี้

ขณะเดียวกัน 10 แบรนด์ที่ใช้งบโฆษณาสูงสุดในเดือนกรกฎาคม 2560 มีดังนี้

อย่างไรก็ตาม ที่มาของข้อมูลสื่อกลางแจ้ง (outdoor) และสื่อเคลื่อนที่(transit):มีการรวมข้อมูลจาก JCDecaux สำหรับข้อมูลจากสื่อในสนามบินตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2560 และข้อมูลของสื่อ outdorr และ transit จาก JCDecaux ได้ถูกรวมเข้าไว้ในรายงานตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560
นอกจากนี้นีลเส็นได้มีการเพิ่มพื้นที่การเก็บข้อมูลสื่อกลางแจ้ง (outdoor) เช่นสื่อเคลื่อนที่(transit),ป้ายบิลบอร์ด, ป้ายโฆษณาบนทางเท้า, สื่อในสนามบิน และอื่นๆ ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2559 เป็นต้นมา
ส่วนสื่ออินเทอร์เน็ท – ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2559 นีลเส็นได้มีการขยายการเก็บข้อมูลโมษณาผ่านสื่อ อินเทอร์เน็ทโดยครอบคลุม 50 เว็บไซต์ยอดนิยม และ 10 เว็บไซต์ยอดนิยมบนมือถือ
สำหรับภาพรวมการใช้งบโฆษณาผ่านสื่ออินเทอร์เน็ททั้งหมดกรุณาอ้างอิงข้อมูลจาก DAAT
สื่อในห้าง – นีลเส็นได้มีการเพิ่มข้อมูล สื่อวิทยุในห้าง Big C และ 7 Eleven เข้ามาในฐานข้อมูล ตั้งแต่เดือนมกราคม 2559
ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2558 ข้อมูลของสื่อในห้างTesco Lotus และ Big C ไม่ได้รวมอยู่ในฐานข้อมูลของนีลเส็น
ตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2559 เป็นต้นมา ได้มีการเพิ่มสื่อที่บริหารจัดการโดยบริษัท Plan B เข้ามาในฐานข้อมูลของสื่อกลางแจ้ง, สื่อเคลื่อนที่, และสื่อในห้าง
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จับมือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โชว์ผลสำเร็จ 6 บทเรียนจากแพลตฟอร์มการเรียนรู้ธุรกิจออนไลน์ www.NEClearning.com อาทิ การสร้างแนวคิดทางธุรกิจ กลยุทธ์ด้าน Digital Marketing ฯลฯ ที่กำลังประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยหลังจากเปิดให้บริการเพียง 90 วัน มีผู้ลงทะเบียนและเข้ามาเรียนรู้ผ่านบทเรียนต่าง ๆ สูงถึง 11,000 คน ทั้งนี้ในอนาคต กสอ. ยังจะพัฒนาบทเรียนให้มีความครอบคลุมและดึงดูดให้ผู้ประกอบการเข้าถึงช่องทางดังกล่าวได้อย่างคล่องตัว โดยคาดว่าระบบดังกล่าวจะมีผู้ประกอบการใช้งานไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นรายต่อปี
อย่างไรก็ดี เมื่อเร็ว ๆ นี้ กสอ. ยังได้ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จการอบรมเรียนรู้ความเป็นผู้ประกอบการใหม่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ NEClearning.com ณ ห้องชฎาบอลลูม ชั้น 2 โรงแรมสยามเคมปินสกี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ด้วยนโยบายการผลักดันผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมให้สอดรับกับเศรษฐกิจดิจิทัล กสอ. ได้มุ่งเน้นพัฒนากระบวนการการทำงานให้เป็นไปอย่างชาญฉลาด (SMART) ด้วยการผสมผสานและบูรณาการองค์ประกอบที่สำคัญให้เกิดพร้อมกันทั้ง 3 ส่วน เริ่มตั้งแต่
ดร.พสุ กล่าวต่อว่า กสอ. ได้ร่วมมือกับคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการพัฒนาช่องทางการเรียนรู้ผ่านระบบอีเลิร์นนิ่ง (E-Learning) บนเว็บไซต์ www.NEClearning.com เผยแพร่ในแบบ Edutainment ประกอบด้วย 6 บทเรียน คือ 1. การสร้างแนวคิดทางธุรกิจ 2. Digital Marketing 3. การออกแบบและพัฒนาร้านค้าออนไลน์ 4. การประมาณเงินลงทุนธุรกิจและวางแผนบริหารทางการเงิน 5. การเขียนและจำลองแผนธุรกิจ และ 6.กฎหมายสำหรับผู้ประกอบการให้กับผู้ที่ตั้งใจจะปรับโมเดลและพัฒนาธุรกิจโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งตั้งแต่เริ่มเปิดโครงการเมื่อวันที่ 1 พ.ค. – 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เนื่องจากในระยะเวลาเพียงแค่ 90 วัน มีผู้ลงทะเบียนและเข้ามาเรียนรู้ผ่านบทเรียนต่าง ๆ สูงถึง 11,000 คน เกินกว่าความคาดหมายที่ทางโครงการตั้งเอาไว้อย่างมาก และคาดว่าระบบดังกล่าวจะมีผู้ใช้งานต่อปี ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นรายต่อปี ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมบริการของ กสอ. ในเรื่องการเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการที่ได้พัฒนาองค์ความรู้ด้วยสื่อความรู้ที่ทันสมัย
อย่างไรก็ดี การนำระบบอีเลิร์นนิ่งเข้ามาให้บริการแก่ผู้ประกอบการในครั้งถัดไป กสอ. จะพัฒนาบทเรียนให้มีความครอบคลุม พร้อมทั้งพัฒนาระบบการจัดการหลักสูตรฝึกอบรมการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อลดช่องว่างในการเข้าถึงโอกาสการเรียนรู้มากขึ้นและให้ผู้ที่สนใจจะเริ่มต้นธุรกิจทั่วประเทศได้เข้าถึงเว็บไซต์นี้ได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัว นอกจากนี้ยังตั้งเป้าขยายการให้บริการผ่านออนไลน์ในทุกรูปแบบให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการในทุกประเภท ซึ่งเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าบริการที่ดีเหล่านี้จะช่วยดึงดูดผู้ประกอบการให้ตื่นตัวกับการใช้ดิจิทัลในการทำธุรกิจเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ กสอ.ยังได้มีบริการออนไลน์ใน 2 รูปแบบ คือ 1.การพัฒนาแอปพลิเคชั่นให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ประกอบการผ่านสมาร์ทโฟนและระบบอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ ได้แก่ แอปพลิเคชัน DIP Business Plan Money Flow, Stock Flow, Billing Flow และDIP Business Evaluation มาช่วยลดปัญหาพื้นฐานความยุ่งยากและซับซ้อนด้านระบบการทำบัญชีและการเงินและช่วยให้การดำเนินธุรกิจมีความรวดเร็วมากขึ้น และ 2.การพัฒนาบริการต่างๆผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.bsc.dip.go.th, www.e-consult.dip.go.th, www.id-society.com เพื่อให้ผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไปได้เข้าถึงการขอคำปรึกษา แก้ปัญหา การออกแบบและพัฒนาสินค้า ข้อมูลข่าวสาร การร้องเรียน โครงการ/กิจกรรมที่เป็นประโยชน์ในระบบออนไลน์ ซึ่งมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการพบที่ปรึกษาหรือการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ โดยตรง ดร.พสุ กล่าวปิดท้าย
ด้าน รศ.ดร.ใจทิพย์ ณ สงขลา หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่าการก้าวหน้าของเทคโนโลยีมีส่วนช่วยในการศึกษาให้มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง “อีเลิร์นนิ่ง” คือคำตอบหนึ่งที่ผู้เรียนไม่จำเป็นต้องมาเรียนอยู่ในห้องเรียนตามปกติไม่จำเป็นต้องเรียนพร้อมกัน ในเวลาเดียวกัน แต่สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลาที่มีความสะดวก ดังนั้นจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในระบบโรงเรียนหรือการศึกษาปกติ
สำหรับ NEClearning.com ที่คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) พัฒนาขึ้นนี้เชื่อมั่นอย่างมากว่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับความรู้ได้อย่างรวดเร็ว เกิดความสะดวกสบายในการเข้าถึงการเรียนรู้ พร้อมทั้งช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะด้านการสร้างนวัตกรรมเพื่อต่อยอดธุรกิจ ต่อเนื่องถึงการเป็นผู้ผลิตที่สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าต่าง ๆ เพื่อตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างดีเยี่ยม