

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้รับเกียรติจาก นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดการศึกษาอบรมหลักสูตรวิทยาการประกันภัยระดับสูง (วปส.) รุ่นที่ 12 ประจำปี 2567 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร โดยหลักสูตรนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงจากภาคส่วนต่าง ๆ ได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบประกันภัย ทั้งการประกันชีวิต การประกันวินาศภัย การบริหารจัดการความเสี่ยงภัยพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ของระบบประกันภัย ปัญหาและอุปสรรคที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเสริมสร้างการเป็นผู้นำที่มีคุณธรรม จริยธรรม การบริหารจัดการเชิงสร้างสรรค์ การนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จโดยสอดคล้องกับสภาวการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมของโลก ตลอดจนการระดมความคิดเห็นจากประสบการณ์ที่หลากหลาย ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาระบบประกันภัยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ในโอกาสนี้ นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “บทบาทการประกันภัยกับการส่งเสริมและสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน” โดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า การปรับตัวและการเรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีตเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้องค์กรเติบโตและประสบความสำเร็จในสภาวะที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยเฉพาะหน่วยงานกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ต้องเผชิญกับความท้าทายหลัก 5 ประการ คือ ประการแรก การเติบโตและความผันผวนของเศรษฐกิจ เช่น การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย การเติบโตของ GDP การขยายตัวของการประกันภัยรถไฟฟ้า (EV) ประการที่ 2 สังคมผู้สูงอายุและชีวิตหลังเกษียณ ซึ่งประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยระดับสุดยอด (Super-Aged Society) ในปี 2575 ถือเป็นโอกาสของภาคธุรกิจประกันภัยที่จะออกแบบผลิตภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ เช่น ประกันภัยสุขภาพ ประกันชีวิตแบบบำนาญ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดผู้สูงอายุ ประการที่ 3 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเข้าถึงลูกค้า โดยสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้าได้มากขึ้น ดูแลลูกค้าได้อย่างเหมาะสม และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ประการที่ 4 การนำหลักการการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ESG) ไปใช้ในกระบวนการต่าง ๆ ของบริษัทประกันภัย และ ประการที่ 5 การปรับปรุงกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดรับกับมาตรฐานสากล และบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น สิ่งสำคัญที่หน่วยงานกำกับและภาคธุรกิจประกันภัยจะต้องให้ความสำคัญอย่างมาก คือ ธุรกิจประกันภัยต้องมีความยืดหยุ่น คำนึงถึงความยั่งยืน ปรับตัวให้เท่าทันความเสี่ยงและสภาพแวดล้อม ประชาชนและภาคเอกชน เข้าใจ เข้าถึง และเชื่อมั่นระบบประกันภัย โดยสร้างความแข็งแกร่ง มั่นคง และความน่าเชื่อถือให้กับระบบประกันภัย เพื่อสร้างความมั่นใจและสร้างศรัทธาให้กับประชาชน ในการยกระดับมาตรฐานการกำกับความมั่นคงและการตรวจสอบบริษัทประกันภัย โดยธุรกิจประกันภัยต้องมีมาตรฐานและโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอเหมาะสม สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ยั่งยืน หลากหลาย และสะท้อนความเสี่ยงเฉพาะราย ในขณะเดียวกันธุรกิจประกันภัยเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ฐานข้อมูล และโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม ธุรกิจประกันภัยจึงมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศผ่านกลไกที่มีความหลากหลายและครอบคลุมความเสี่ยงในทุกมิติ ภายใต้การมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชนในการผลักดันและขับเคลื่อนนโยบายสำคัญต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และศิษย์เก่าหลักสูตร วปส. รุ่นที่ 1 ให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเข้าอบรมในหลักสูตร วปส. รวมถึงเน้นย้ำถึงความสำคัญและคุณค่าของธุรกิจประกันภัยแก่นักศึกษา วปส. รุ่นที่ 12

นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการศึกษาอบรมในหลักสูตร วปส. รุ่นที่ 12 ได้มีการปรับปรุงเนื้อหาวิชา จัดหมวดหมู่วิชาใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ตลอดจนการทำรายงานการศึกษากลุ่มเพื่อให้ผู้เข้ารับการศึกษาอบรมได้ร่วมกันระดมความคิดเห็นจากประสบการณ์ที่หลากหลายในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยที่น่าสนใจ และได้กำหนดให้ผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งจากภายนอกและภายในองค์กรมาร่วมเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งจากการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลักสูตร วปส. ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการเงิน และภาคธุรกิจประกันภัย เข้าร่วมรับการอบรมจำนวนทั้งสิ้น 144 คน ที่จะร่วมกันระดมความคิดเห็นจากประสบการณ์ที่หลากหลายเพื่อช่วยให้ข้อเสนอแนะและพัฒนาระบบประกันภัยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ในพิธีเปิดงาน อะกริเทคนิก้า เอเชีย และฮอร์ติ เอเชีย ประจำปี 2567 (AGRITECHNICA ASIA และ HORTI ASIA 2024) จัดขึ้นโดยสมาคมเกษตรกรรมเยอรมัน (DLG – The German Agricultural Society) และ บริษัท วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค จำกัด (VNU Asia Pacific Co. Ltd.) โดยมีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพร่วม ถือเป็นเวทีเพื่อการเรียกร้องอย่างเร่งด่วนในการแก้ไขวิกฤติที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นในอุตสาหกรรมการเกษตรและทั่วโลก ภาวะโลกร้อน มลพิษจากการเผาไม้ในที่โล่ง และการขาดแคลนอาหารไม่ใช่ภัยคุกคามที่ห่างไกลอีกต่อไป แต่เป็นความจริงที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้าน
ศูนย์รวมแห่งแนวทางการแก้ไขปัญหา
สำหรับงาน อะกริเทคนิก้า เอเชีย และฮอร์ติ เอเชีย ถือเป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร รวมถึงเทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ งานนี้ไม่ได้มีเพียงเวทีเพื่อการนำเสนอเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านการเกษตรที่ทันสมัย หรือเวทีสำหรับการเจรจาธุรกิจสำหรับผู้ผลิตเพื่อการเกษตรจากทั่วโลกกับผู้ประกอบการภาคเกษตรในเอเชียเท่านั้น แต่ยังเน้นการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อผลักดันการปฏิบัติที่ยั่งยืนและการแก้ปัญหาที่ครอบคลุม เพราะการแก้ปัญหาเหล่านี้ต้องการความร่วมมืออย่างเต็มที่จากพลเมืองทั่วโลกในการร่วมมือกันเพื่อสร้างอนาคตที่ดี ที่ยั่งยืนสำหรับธุรกิจการเกษตรและสิ่งแวดล้อม

พบกับองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมภายในงาน อะกริเทคนิก้า เอเชีย และฮอร์ติ เอเชีย
ตั้งแต่วันที่ 22-24 พฤษภาคม 2024 ณ ฮอลล์ 98-99 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 ถึง 18:00 น. ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนที่บริเวณหน้างาน
สามารถพบกับการเปิดตัวเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุดจากผู้แสดงสินค้ามากกว่า 320 ราย รวมถึงผู้ผลิตทางการเกษตรและพืชสวนชั้นนำของโลก เช่น แบรนด์ เนต้าฟิม (Netafim), คลาสมาน-เดลมันน์ (Klasmann-Deilmann), ดูมเมน ออ-เร้นจ์ (Dummen Orange), จอน เดียร์ (John Deere), มาฮินทรา แอนด์ มาฮินทรา (Mahindra & Mahindra), แอ๊คโค่ (AGCO), ซีเอ็นเอช - นิว ฮอลแลนด์ (CNH - New Holland) และคลาส (CLAAS) โดยบริษัทเหล่านี้จะนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนในการเกษตร

เป็นความร่วมมือระหว่างคณะผู้จัดงานฯ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการจัดเวทีเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรระดับโลกให้กับเกษตรกรไทยกว่า 1,000 คน ผ่านการนำชมงานเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และประสบการณ์ที่มีค่า รวมถึงแนวทางการปฏิบัติโดยการนำนวัตกรรมไปประยุกต์ใช้เพื่อปรับปรุงเทคนิคการทำฟาร์มให้เหมาะสมกับพื้นที่ในท้องถิ่น
คำกล่าวจากผู้จัดงานและผู้สนับสนุน





ไฮไลท์หัวข้อการสัมนา “เกษตรยั่งยืน” กำลังมาแรง!

ภายในงาน อะกริเทคนิก้า เอเชีย และฮอร์ติ เอเชีย มีผู้แสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตรจากทั่วโลกกว่า 353 ราย จาก 28 ประเทศ คณะผู้จัดงานฯ ได้จัดเตรียมเวทีที่สร้างแรงจูงใจสำหรับการเข้าชมงานในครั้งนี้ ซึ่งจะเปิดโอกาสทางธุรกิจที่ดีให้กับผู้เข้าร่วมงานได้มีส่วนร่วมโดยตรงกับผู้ผลิตชั้นนำและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม รวมถึงโอกาสในการพิจารณาความร่วมมือที่เป็นไปได้ และค้นพบแนวโน้มของตลาดใหม่ ถือเป็นโอกาสพิเศษในการทำความรู้จักกับผู้ประกอบการสำคัญๆ ในอุตสาหกรรม และถือเป็นการเปิดรับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่า ในการขับเคลื่อนธุรกิจด้านการเกษตรไปข้างหน้าในตลาดเกษตรกรรมที่กำลังเติบโตของเอเชีย
ในฐานะผู้นำด้านการจัดประชุมและนิทรรศการสำหรับการผลิตพืชผลและการเกษตรอัจฉริยะในเอเชีย คณะผู้จัดงานฯ มีความมุ่งมั่นในการร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วนเพื่อนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จำเป็นเพื่อเสริมสร้างธุรกิจการเกษตร ในขณะเดียวกันคณะผู้จัดงานฯ ยังคงมุ่งมั่นในการผลักดันการปกป้องสิ่งแวดล้อมและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในเอเชียผ่านการปฏิบัติที่ยั่งยืน

ประโยชน์จากงาน อะกริเทคนิก้า เอเชีย และฮอร์ติ เอเชีย
เกษตรกร ผู้ประกอบการด้านการเกษตร รวมถึงผู้เข้าร่วมงานทุกท่านจะได้มีโอกาสในการสำรวจนวัตกรรมด้านการเกษตรที่ทันสมัยและหลากหลาย รวมถึงการเข้าร่วมฟังการสัมมนาที่ให้ความรู้ อีกทั้งยังสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้นำในอุตสาหกรรม นี่เป็นโอกาสของเกษตรกรและผู้ประกอบการด้านการเกษตรในการใช้ประโยชน์จากเวทีนี้ในการเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนต่อการเกษตรและโลกของเรา อย่างก้าวหน้าและยั่งยืน
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานสามารถเข้าชมได้ที่ www.agritechnica-asia.com and www.horti-asia.com
ขอสงวนสิทธิ์สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 16 ปีขึ้น และกรุณาแต่งกายสุภาพสำหรับการเยี่ยมชมงาน
กรุงเทพประกันชีวิต จัดแคมเปญฉลองวาระครบรอบ “ใส่ใจตลอด 73 ปี แจกหนัก 73 รางวัล” สำหรับลูกค้าที่ได้ให้ความไว้วางใจทำประกันในช่วงวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ถึง วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ลุ้นรับรางวัลใส่ใจ เดอะ ซีรีส์ จำนวน 73 รางวัล พร้อมร่วมลุ้นรางวัลใหญ่ ทองคำแท่งหนัก 5 บาท และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมายรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท เพียงลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน BLA Happy Life ภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 และพิเศษสำหรับลูกค้าทุกท่านที่ชำระเบี้ยประกันภัยทุกๆ 50,000 บาท รับบัตรกำนัลโลตัส มูลค่า 500 บาท
นางสาวอรนาฎ นชะพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายกลยุทธ์การตลาดและบริหารจัดการลูกค้า บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เนื่องจากในเดือนมิถุนายนศกนี้ กรุงเทพประกันชีวิตจะมีวาระครบรอบ 73 ปี จึงถือโอกาสนี้ ฉลองวาระพิเศษด้วยการจัดแคมเปญ “ใส่ใจตลอด 73 ปี แจกหนัก 73 รางวัล” เพื่อเป็นการมอบของขวัญให้แก่ลูกค้าที่ได้ให้ความไว้วางใจให้กรุงเทพประกันชีวิตได้ดูแล เมื่อสมัครทำประกันกับกรุงเทพประกันชีวิตแบบใดก็ได้ ยกเว้นประกันชีวิตควบการลงทุน และประกันกลุ่มลูกค้าองค์กร ระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ถึง วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 พร้อมดาวน์โหลด ลงทะเบียน และเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน BLA Happy Life ภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2567 รับสิทธิลุ้นรับรางวัลใส่ใจ เดอะ ซีรีส์* ทั้งหมดจำนวน 73 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าทุกท่านสำหรับการชำระเบี้ยประกันภัยทุกๆ 50,000 บาท รับบัตรกำนัลโลตัส มูลค่า 500 บาท**
สำหรับของรางวัลแคมเปญ “ใส่ใจตลอด 73 ปี แจกหนัก 73 รางวัล” ประกอบด้วย
รางวัลที่ 1
ทองคำแท่ง น้ำหนัก 5 บาท มูลค่า 198,500 บาท จำนวน 1 รางวัล รวมมูลค่า 198,750 บาท
รางวัลที่ 2
การ์ดทอง น้ำหนักรวม 3 บาท มูลค่า 119,100 บาท จำนวน 2 รางวัล รวมมูลค่า 238,900 บาท
รางวัลที่ 3
โทรศัพท์มือถือ Samsung รุ่น Galaxy S24 Ultra 5G ความจุ 256GB มูลค่า 42,586 บาท จำนวน 2 รางวัล รวมมูลค่า 85,172 บาท
รางวัลที่ 4
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า LION รุ่น Q1 SMART มูลค่า 33,500 บาท จำนวน 3 รางวัล รวมมูลค่า 100,500 บาท
รางวัลที่ 5
เครื่องฟอกอากาศ Dyson Purifier Cool Formaldehyde รุ่น TP09 มูลค่า 32,900 บาท จำนวน 5 รายการ รวมมูลค่า 164,500 บาท
รางวัลที่ 6
หม้อทอดไร้น้ำมัน PHILIPS AirFryer รุ่น HD9255/30 มูลค่า 5,564 บาท จำนวน 5 รางวัล รวมมูลค่า 27,820 บาท
รางวัลที่ 7
บัตรของขวัญเซ็นทารา สำหรับชำระค่าห้องพัก อาหารและเครื่องดื่ม และบริการสปาที่โรงแรมและรีสอร์ทเครือเซ็นทารา มูลค่า 5,000 บาท จำนวน 10 รางวัล รวมมูลค่า 50,000 บาท
รางวัลที่ 8
บัตรเติมน้ำมัน PTT Station Privilege Card มูลค่า 3,000 บาท จำนวน 20 รางวัล รวมมูลค่า 60,000 บาท
รางวัลที่ 9
บัตรกำนัลโลตัส มูลค่า 3,000 บาท จำนวน 20 รางวัล รวมมูลค่า 60,000 บาท
รางวัลที่ 10
เครื่องตรวจน้ำตาลแบบต่อเนื่อง 14 วัน ยี่ห้อ Anytime รุ่น CT3 มูลค่า 2,480 บาท จำนวน 5รางวัล รวมมูลค่า 12,400 บาท
ผู้ที่สนใจสามารถสมัครทำประกันได้ผ่านตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน กรุงเทพประกันชีวิต และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรุงเทพประกันชีวิต www.bangkoklife.com หรือติดต่อ Call Center โทร. 02-777-8888 และสามารถดูรายละเอียดแคมเปญเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bangkoklife.com/th/promotion
*สงวนสิทธิ์ 1 รายชื่อ ต่อ 1 สิทธิในการลุ้นรับของรางวัล
**คำนวณสิทธิประโยชน์ต่อรายกรมธรรม์ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ชำระเบี้ยประกันภัย รายปี รายหกเดือน รายสามเดือน หรือ รายเดือน
บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์นนทบุรี จัดโครงการฝึกอบรมการเตรียมความพร้อมเพื่อยกระดับอู่ในสัญญาสำหรับงานซ่อมรถไฟฟ้า รุ่นที่ 1 ให้แก่เจ้าหน้าที่ของอู่ในสัญญาของบริษัทฯ และเจ้าหน้าที่สินไหมทดแทนยานยนต์ เพื่อรองรับงานซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าจากแนวโน้มการเติบโตทางการตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์นนทบุรี เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 และจะจัดโครงการฝึกอบรม รุ่นที่ 2 ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2567
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี จัดโปรโมชั่นรับฟรี สินค้าพรีเมียมคอลเลคชั่น Garfield สุดน่ารัก เมื่อซื้อบัตรศูนย์อาหารแบบแลกคืนไม่ได้ มูลค่า 199 บาท (บัตรมีอายุ 30 วัน) เพื่อมอบความคุ้มค่าสุดพิเศษให้แก่ลูกค้าศูนย์อาหารบิ๊กซี และเอาใจผู้ที่ชื่นชอบ คาร์แรคเตอร์การ์ตูนแมวส้ม Garfield เริ่มสะสมสินค้าพรีเมียมคอลเลคชั่นนี้ได้ ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. 67 – 15 ก.ค. 67 ณ ศูนย์อาหารบิ๊กซีที่ร่วมรายการทุกสาขา
สำหรับรายละเอียดสินค้าพรีเมียมคอลเลคชั่น Garfield ลายลิขสิทธิ์แท้ แบ่งเป็น สินค้าตะกร้าลาย Garfield 2 แบบ จัดทำโปรโมชั่นระหว่างวันที่ 10 พ.ค. 67 – 14 มิ.ย. 67 และสินค้าแก้วน้ำแบบมีหูจับลาย Garfield 2 แบบ จัดทำโปรโมชั่นระหว่างวันที่ 15 มิ.ย. 67 – 15 ก.ค. 67 (หรือจนกว่าสินค้าจะหมด) โดยจำกัดจำนวนการมอบสินค้าพรีเมียมดังกล่าว 1 ชิ้น/ การซื้อบัตรศูนย์อาหาร มูลค่า 199 บาท 1 ใบ แต่ไม่จำกัดจำนวนการซื้อบัตรฯ
ทั้งนี้ Garfield คือ ตัวการ์ตูนแมวสีส้มชื่อดังและเป็น 1 ในคาแรคเตอร์การ์ตูนขวัญใจของหลายคนทั่วโลก โดยในปีนี้ยังมีภาพยนตร์อนิเมชั่น The Garfield Movie เป็นอีกหนึ่งตอนสำคัญที่ Garfield และผองเพื่อนจะร่วมกันออกผจญภัยครั้งใหม่กันอย่างสนุกสนาน สามารถติดตามเรื่องราวความบันเทิงนี้ที่กำลังจะเข้าฉายได้ในโรงภาพยนตร์วันที่ 22 พ.ค. 67 นี้ สำหรับลูกค้าที่สนใจโปรโมชั่นดังกล่าวสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บิ๊กซีทุกสาขาทั่วประเทศ หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bigc.co.th หรือ เฟซบุ๊ก Big C – บิ๊กซี https://www.facebook.com/BigCBigService/ หรือโทรฯ.1756
ทรู คอร์ปอเรชั่น นำทีมโดย นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี พร้อมคณะผู้บริหารและทีมวิศวกรเยือนสงขลา ตรวจสอบคุณภาพสัญญาณทรู 5G ให้ดีที่สุด เน้นแลนด์มาร์ค และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของจังหวัด เช่น หาดสมิหลา เมืองเก่าสงขลา จุดชมวิวเขาคอหงส์ พระพุทธมงคลมหาราช ให้ดีที่สุด และครอบคลุมทั่วภาคใต้ ชูความโดดเด่นเน็ตเวิร์คคุณภาพ รองรับการท่องเที่ยว ภาคใต้ ทรู 5G ใช้ดีทุกย่าน ครบทุกคลื่น แรงลื่นทุกที่ทุกจุดท่องเที่ยวอันซีนต้องไม่อันสัญญาณ เพื่อร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ชูแคมเปญ “ทรูทั่วไทย” ทั่วไทย ทั่วถึง ทุกคน เช็คสัญญาณถึงที่ 4 ภาคทั่วไทย เช็คอินความสุขให้คนไทย เช็คสปีดเน็ตไม่สะดุด ชัวร์ทุกพื้นที่ ร่วมสร้างประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาสเพื่อลูกค้าทั้งทรูและดีแทค นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ พร้อม สินค้าบริการ และสิทธิพิเศษ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวยุคดิจิทัลอย่างครบครัน

ทิพยประกันชีวิต จับมือกับทิพยประกันภัย ร่วมออกบูธงาน มหกรรมการเงินกรุงเทพ ครั้งที่ 24 MONEY EXPO 2024 BANGKOK ภายใต้แนวคิด “Digital Finance for All การเงินดิจิทัลเพื่อทุกคน”โดยมี คุณสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงาน พร้อมด้วย คุณสมพร สืบถวิลกุล รองประธานกรรมการ และ คุณปราโมทย์ พรมวิเศษ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานคณิตศาสตร์ประกันภัย บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และผู้บริหารบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดบูธอย่างเป็นทางการ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผนึกกำลัง TAGTHAi มอบประกันอุบัติเหตุทิพยตะกาฟุล ฟรี! เพื่อเสริมสร้างความอุ่นใจให้นักท่องเที่ยวที่ซื้อบัตร TAGTHAi Pass ทุกประเภท รองรับโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐบาลในแคมเปญ “เมืองไทยปลอดภัย” มุ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกศาสนาให้เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
ดร.พลรัตน์ เอกโยคยะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการขายและการตลาด 2 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ”ทิพยประกันภัย ในฐานะบริษัทประกันภัยที่มีความเชี่ยวชาญในการรับประกันภัยมากกว่า 72 ปี มีความเข้าใจในความต้องการในทุกกลุ่มของลูกค้า โดยทิพยประกันภัยได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันภัย ทิพยตะกาฟุล ซึ่งเป็นประกันภัยที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามเจ้าแรกของประเทศไทย และในความร่วมมือนี้ บริษัทฯ ได้มอบความอุ่นใจด้วยประกันอุบัติเหตุทิพยตะกาฟุลฟรี! ให้กับลูกค้า นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการผ่านบัตร TAGTHAi Pass ทุกประเภท โดยจะได้รับความคุ้มครองค่าชดเชยกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ สูงสุด 50,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 10,000 บาท/ครั้ง”
นางธีรธิดา คุวันทรารัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย ดิจิทัล แพลตฟอร์ม วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มท่องเที่ยวแห่งชาติ TAGTHAi กล่าวว่า “มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จับมือกับทิพยประกันภัย เพื่อมอบประกันอุบัติเหตุทิพยตะกาฟุล ให้นักท่องเที่ยวที่ซื้อบัตร TAGTHAi Pass ทุกประเภท เพื่อลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่าย และเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างไร้กังวล นอกจากนี้ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพและภาพลักษณ์การท่องเที่ยวที่ดีให้กับประเทศไทย”

นักท่องเที่ยวทุกชาติ ทุกศาสนา ที่ซื้อ TAGTHAi Pass จะได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุจากทิพยประกันภัย ตามอายุการใช้งานของ TAGTHAi Pass โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มีนาคม 2568 ผู้ที่สนใจสามารถซื้อ TAGTHAi City Pass เพื่อรับสิทธิ์ประกันอุบัติเหตุฟรีได้ที่แอปพลิเคชัน TAGTHAi หรือ www.tagthai.com
นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง และประธานกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและความยั่งยืน ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) พร้อมด้วย ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นำผู้บริหารเข้าเยี่ยมคารวะนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง พร้อมทั้งนำเสนอยุทธศาสตร์และบทบาทของ EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังที่มุ่งสู่บทบาท Green Development Bank มีบริการครบวงจรเพื่อเติมความรู้ เติมโอกาส เติมเงินทุนให้แก่ผู้ประกอบการทุกขนาดธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม ส่งเสริมการค้าและการลงทุนที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ณ กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567