ทรูมันนี่ ผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จับมือ ‘อีโวลท์’ (Evolt) ผู้นำในการให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรรายแรกในประเทศไทย ยกระดับประสบการณ์การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เมื่อชำระเงินด้วยแอปทรูมันนี่ ณ จุดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของอีโวลท์ รับทันที! Welcome Points ถึง 100 คะแนนเมื่อสมัครสมาชิก พร้อมเลือกซื้อดีลสุดพิเศษและสะสมแต้มทุกครั้งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากับอีโวลท์
นายสุทธิพัฒน์ จันทร์สว่าง ผู้อำนวยการฝ่ายโซลูชันทางธุรกิจ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า “ทรูมันนี่มุ่งมั่นในการช่วยยกระดับแพลตฟอร์มการให้บริการแก่ธุรกิจด้วยโซลูชันการตลาดแบบครบวงจรด้วยTrueMoney for Business ที่เน้นช่วยเหลือร้านค้า ผู้ให้บริการ และพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการร่วมเป็นพันธมิตรกับทรูมันนี่ พร้อมช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าของทรูมันนี่ที่มีมากกว่า 30 ล้านรายทั่วประเทศ โดยก่อนหน้านี้ ร้านค้าบนแพลตฟอร์ม ShopReward+ ของทรูมันนี่ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าในหมวดหมู่อาหารและเครื่องดื่ม แต่เริ่มจากในปีที่ผ่านมา ทรูมันนี่ได้ร่วมมือกับธุรกิจแบบบริการตนเอง หรือ Self Service ผ่านคู่ค้าที่เป็นผู้ให้บริการในกลุ่มธุรกิจซักรีดที่กำลังเป็นที่นิยมและได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งอีโวลท์ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ Self Service ที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ การจับมือผ่าน ShopReward+ แพลตฟอร์มให้บริการระบบสมาชิกแบบครบวงจร (CRM) สามารถเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการทำการตลาด เพราะทำให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการระบบสมาชิกพร้อมกระตุ้นยอดขายด้วยการส่งโปรโมชัน ดีลพิเศษ และส่วนลดต่าง ๆ ให้กับลูกค้าโดยตรงผ่านแอปพลิเคชันทรูมันนี่ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจร้านอาหาร เครื่องดื่ม ไลฟ์สไตล์ สุขภาพและความงาม หรือ Self Service ก็สามารถเข้าร่วม ShopReward+ เพื่อส่งเสริมยอดขายได้เช่นเดียวกัน”
นายธนกร คติวิชชา ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท อีโวลท์ เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า “ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยในช่วงปี พ.ศ. 2567 - 2569 มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์และอุปทานภายในประเทศ โดยคาดว่าจะมียอดจดทะเบียนใหม่ของรถยนต์นั่งไฟฟ้าโดยรวมเฉลี่ยปีละ 190,000 คัน และมีกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโดยรวมอย่างน้อยประมาณ 400,000– 500,000 คันต่อปี ส่งผลให้ธุรกิจที่สนับสนุนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจุดให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจำเป็นที่จะต้องเร่งขยายจุดให้บริการ พร้อมยกระดับประสบการณ์ให้เข้าถึงและตอบโจทย์ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบัน อีโวลท์ ได้มีการเปิดให้บริการระบบอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าที่ครบวงจรที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมสถานีให้บริการมากกว่า 200 สาขาทั่วประเทศเพื่อรองรับความต้องการของผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างทั่วถึงและมีการวางแผนในการขยายจุดให้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความร่วมมือกับ ทรูมันนี่ ในครั้งนี้จะสามารถเพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้นด้วยฐานผู้ใช้บริการของทรูมันนี่ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ อีกทั้งยังช่วยตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายไร้เงินสดของผู้บริโภคได้อย่างไร้รอยต่อ”
ผู้ที่สนใจสมัครสมาชิกหรือรับดีลสุดพิเศษจากอีโวลท์ใน ShopReward+ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
ทรูมันนี่ และเข้าไปที่เมนู ‘สมาชิกร้านค้า’ หรือ ShopReward+ และเลือกรับสิทธิ์จากอีโวลท์ได้ทันที โดยทุก ๆ การชาร์จ 10 บาทจะได้รับ 100 คะเเนน เเละรับ Welcome Point 100 คะแนนทันทีเมื่อสมัครสมาชิก อีโวลท์ ใน ShopReward+ พิเศษ! ซื้อคูปองเงินสดมูลค่า 200 บาทสำหรับใช้จ่ายในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากับ อีโวลท์ ผ่าน ShopReward+ ได้ในราคาเพียง 179 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 สิงหาคม 2567
ผู้ที่สนใจบริการ ShopReward+ และโซลูชัน TrueMoney for Business สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.truemoney.com/business-partner/shoprewardplus-crm/
ทรู จัดเต็มถ่ายทอดสดมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ โอลิมปิก ปารีส เกมส์ 2024 ให้ชมสดพร้อมกันทั่วโลก พร้อมชวนชาวไทยร่วมส่งกำลังใจเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทย สู้สุดทุกสนามไปด้วยกัน ดูฟรี ทุกจอ ทุกเวลา ทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง แอปทรูวิชั่นส์ นาว(ใหม่) ทรูวิชั่นส์ ระบบจานดาวเทียม เคเบิ้ล และทรูไอดี
ดึงไฮไลท์ผู้บรรยายมากประสบการณ์ คอมเมนเตเตอร์ชื่อดังที่คุ้นเคย ร่วมวิเคราะห์และสร้างสีสันให้ตลอดการแข่งขัน และจัดเต็มกิจกรรมสุดอ็กซ์คลูชีฟร่วมสนุกลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษ เพิ่มความสุขในทุกการชมกีฬา ประเดิมพาชมบรรยากาศความยิ่งใหญ่ พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในกรุงปารีส ที่จะเริ่มต้นขึ้นในคืนวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะมีนักกีฬาและนักแสดงหลายพันคน เข้าร่วมขบวนในแม่น้ำแซน ตลอดระยะทาง 6 กิโลเมตร ผ่านทางทรูวิชันส์ระบบจานดาวเทียม และเคเบิ้ล 3 ช่องหลัก True Premier Football 3, 4, 5 (603 ,604, 605) และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ทรูวิชั่นส์ นาว (ใหม่) รับชมพิธีเปิดที่ช่อง NOW Olympic Special 1, 2, 3 รวมไปถึงผ่านทรูไอดีทั้ง แอป, เว็บไซต์ และ กล่องทรูไอดี ทีวี ชมพิธีเปิดที่ช่อง TrueID Sports 1
นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าผู้บริหารหน่วยงานทรูวิชั่นส์และมีเดีย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ โอลิมปิก ปารีส เกมส์ 2024 เป็นมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ทั่วโลกต่างรอคอย โดยเฉพาะในปีนี้ผู้คนทั่วโลกต่างเฝ้ารอชม ตั้งแต่พิธีเปิดการแข่งขันที่จะเริ่มอย่างเป็นทางการเวลา 19:30 น. และจะไปสิ้นสุดเวลา 23:00 น. ของวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งจะตรงกับเวลา 00:30-04:00 น. ของวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 ตามเวลาของประเทศไทย ซึ่งทรู คอร์ปอเรชั่น ในฐานะ Official Broadcaster ของการถ่ายทอดสดโอลิมปิก ปารีส เกมส์ 2024 ได้นำศักยภาพความเป็นผู้นำด้านการถ่ายทอดสดกีฬาชั้นนำ และซูเปอร์สตาร์ระดับโลกที่ดีที่สุดและมากที่สุด ของทรูวิชั่นส์ ในฐานะ “คิง ออฟ สปอร์ตส์” จัดเต็มเป็นพิเศษให้ชาวไทยไม่พลาดทุกกีฬาที่ชื่นชอบ ถ่ายทอดสดถึง 24 ช่อง ด้วยความคมชัดระดับ HD มาพร้อมระบบเสียง 2 ภาษา ที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสเข้าถึงการแข่งขันได้แบบเต็มอิ่ม เหมือนอยู่ในสนามการแข่งขัน และที่พลาดไม่ได้ ทรูวิชั่นส์ มาพร้อมการบรรยายไทย ด้วยทัพนักพากย์ระดับแถวหน้าของเมืองไทย ที่จะมาช่วยสร้างสีสันในการเชียร์ครั้งนี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการยกระดับการเชียร์กีฬายิ่งขึ้นไปอีก รวมถึงยังสามารถรับชมการแข่งขันกีฬาย้อนหลัง (รีรัน) ได้แบบทุกที่ ทุกเวลา ตามความต้องการ พร้อมเชิญชวนส่งกำลังใจเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทย สู้สุดทุกสนามไปด้วยกัน ดูฟรี ทุกจอ ทุกเวลา ผ่านหลากหลายแพลตฟอร์ม ดูฟรี ทั้งทรูวิชั่นส์ระบบจานดาวเทียม และระบบเคเบิ้ล แอปพลิเคชั่นทรูวิชั่นส์ นาว (ใหม่) และทรูไอดี ทั้ง แอป, เว็บไซต์ และ กล่องทรูไอดี ทีวี ตั้งแต่ 26 กรกฎาคม จนถึง 11 สิงหาคม 2567
เมื่อศิลปะไม่ได้ถูกจำกัดเพียงในกรอบ แต่ก้าวล้ำไปตามเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในช่วงที่ผ่านมานี้ “Immersive Art” ที่เป็นหนึ่งในรูปแบบงานศิลปะยุคดิจิทัลจึงเป็นที่น่าจับตา เพราะเป็นการจัดแสดงงานศิลปะในห้องโล่งกว้าง ผ่านการฉายภาพสาดแสงไปทั่วทุกมุม ให้ผู้ชมรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมกับแสงสี และมีส่วนร่วมกับงานศิลปะนั้นได้ และจะดีมากแค่ไหน ถ้าเราจะได้สัมผัสกับงานอาร์ตสุดล้ำในกลุ่มเล็กไม่เกิน 10 คน พร้อมกับเปิดให้รับชมงานถึง 2 รอบต่อการเข้าชมหนึ่งครั้ง เพื่อให้สัมผัสกับอรรถรสของการเสพศิลป์ของงาน Immersive Art ได้มากที่สุด
ความพิเศษเช่นนี้ จัดแสดงที่นิทรรศการ “The Abyss Beyond” ภายใต้ความร่วมมือกันอีกครั้งของ ทรู ดิจิทัล พาร์ค และ Topos Studio ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีการจัดแสดงงานดิจิทัลอาร์ตจากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งครั้งนี้จัดในพื้นที่ของ TDPK Studio 1 บนชั้น 2 ของ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ฝั่งเวสต์
ก่อนไปชมงาน อยากพาทุกคนไปสำรวจที่มาที่ไป ธีมหลักของงาน พร้อมคำแนะนำในการรับชม ที่จะทำให้ได้สัมผัสประสบการณ์แสนพิเศษไปด้วยกัน จากสตูดิโอชั้นนำจากเกาหลีใต้ สู่การจัดนิทรรศการดิจิทัลอาร์ตครั้งที่ 2 ในไทย
Topos Studio คือสตูดิโอที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการสร้างสรรค์ผลงานอาร์ตจากเทคโนโลยีดิจิทัลจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2019 โดยมีการร่วมมือทำงานกับศิลปินระดับโลกและครีเอเตอร์มากมาย โดยในปีที่ผ่านมา ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้เคยร่วมมือกับ Topos Studio จัดนิทรรศการศิลปะ “The Gate immersive Theater” ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดี ทำให้ในปี 2567 นี้เกิดความร่วมมือในการจัดแสดงงานอีกครั้งกับนิทรรศการดิจิทัลอาร์ต “The Abyss Beyond”
“นิทรรศการครั้งนี้ตั้งใจถ่ายทอดผลงานศิลปะในสไตล์ Contemporary โดยร่วมมือกับ 2 ศิลปิน เพื่อถ่ายทอดผลงานโดยใช้พลังของสื่อใหม่ สร้างสรรค์เป็นงาน Immersive Art เพื่อมอบประสบการณ์ศิลปะแบบใหม่ ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมเช่นเคย” Daegyeom Heo ซีอีโอของ Topos Studio กล่าว
พื้นที่จัดแสดงงานยังคงเป็น ทรู ดิจิทัล พาร์ค ฝั่งเวสต์ โดยมีการพัฒนาพื้นที่เป็นโซน TDPK Studio ที่เปิดกว้างสนับสนุนงานอาร์ตและศิลปินรุ่นใหม่อย่างเต็มที่ ดร.ธาริต นิมมานวุฒิพงษ์ ผู้จัดการทั่วไป ทรู ดิจิทัล พาร์ค กล่าวว่า
“นอกเหนือจากความตั้งใจให้พื้นที่ของเราเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีล้ำสมัยแล้ว เรายังเปิดกว้างสำหรับงานศิลปะรูปแบบต่างๆ รวมถึงงานศิลปะรูปแบบใหม่ที่ถ่ายทอดภาพและเสียงผ่านเทคโนโลยี ให้ได้มาจัดแสดงในคอมมูนิตี้แห่งนี้ โดยตั้งใจให้เป็นเวทีของศิลปิน สตูดิโอ รวมถึงสตาร์ทอัพต่างๆ ที่มีความสามารถทั้งไทยและต่างประเทศ”
“The Abyss Beyond” เปิดประสบการณ์อันลึกซึ้งของห้วงเวลาลึกลับที่ยากจะเข้าถึง
นิทรรศการ “The Abyss Beyond” ได้คัดสรร 2 ผลงานจาก 2 ศิลปินร่วมสมัยที่มีผลงานในธีมเดียวกัน นั่นคือการสื่อสารถึงเรื่องห้วงของจิตไร้สำนึก ช่วงเวลาที่เชื่อมต่อของความเป็นและความตาย ซึ่งเป็นห้วงเวลาลึกลับที่อยากให้งาน Immersive Art พาผู้ชมเข้าไปสำรวจ สร้างแรงบันดาลใจ และขยายความเข้าใจของเราเกี่ยวกับโลก และตัวตนของตัวเอง
ผลงานชิ้นที่หนึ่ง “Abyss of Black and Light: We are the Primitive of New Era” คือผลงานสุดท้ายในชีวิตของ Aldo Tambellini ศิลปินชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาลี ผู้บุกเบิกศิลปะ Media Art และนักสำรวจพื้นที่มืดตลอดชีวิต เรียกได้ว่าเขาเป็นผู้นำด้าน Avant-garde โดยร่วมก่อตั้ง Gate Theatre ในมหานครนิวยอร์ก และมีผลงานจัดแสดงในระดับนานาชาติมากมาย สำหรับผลงานที่จัดแสดงในครั้งนี้ใช้ภาพ สื่อที่สมจริง ที่มาพร้อมเสียง Ambisonics เพื่อสร้าง ‘มิติ’ ของพื้นที่
ผลงานชิ้นที่สอง “Abyss of the Unconscious: After Death Before the Birth” โดยคามิน เลิศชัยประเสริฐ ศิลปินไทยที่ผสานศิลปะเข้ากับจิตวิญญาณ สร้างสรรค์ผลงานที่มีเนื้อหาที่เน้นเรื่องความไม่เที่ยง การมีสติ และความเชี่อมโยงระหว่างกันของชีวิต สำหรับผลงานนี้จะพาไปสำรวจส่วนลึกอันมืดมิดของจิตใจมนุษย์ ดำดิ่งสู่สภาวะระหว่างช่วงท้ายของชีวิต สัมผัสปรัชญาของศิลปินเกี่ยวกับชีวิตและจักรวาลผ่าน ‘Golden Skull’ อันเป็นชิ้นงานที่แสดงถึงตัวตนของศิลปิน
จัดกลุ่มผู้เข้าชมกลุ่มเล็ก พร้อมข้อแนะนำให้สัมผัสกับประสบการณ์รับชมเต็มที่
“เนื่องจากทั้งสองผลงานเป็นการสื่อสารถึง Fine Art ที่มีความเป็นนามธรรมอย่างมาก จึงเป็นความตั้งใจที่จะจัดแสดงภายในห้องสตูดิโอสีขาวขนาดกำลังพอดีที่เรียกได้ว่าเป็น Theater และแสดงงานภาพบนจอแสดงผลมีเดีย 250 องศา พร้อมเสียง Ambisonics เพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่ดีที่สุด เพราะเสียงไม่ใช่เพียงส่วนประกอบ แต่นับเป็นหนึ่งส่วนสำคัญในการส่งสารสู่ผู้ชม” Daegyeom Heo เน้นย้ำ
และเพื่อการรับชมแบบเต็มประสบการณ์ดังที่ผู้จัดแสดงตั้งใจ การเข้าชมในเวลาประมาณ 30 นาที โดยจะจัดแสดงผลงานให้ผู้ชมได้รับชม 2 รอบ โดยมีคำแนะนำในการชมดังนี้
ทรู ดิจิทัล พาร์ค สตูดิโอ พื้นที่สนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ และการชมงานศิลปะที่ควรเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
อีกหนึ่งความพิเศษของการแสดงงานครั้งนี้ คือ การจัดแสดงทุกวัน แบบไม่มีวันหยุด เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนได้เข้ามาสัมผัสงานศิลปะได้อย่างสะดวกที่สุด
“เพราะเราเชื่อว่าศิลปะควรเป็นเรื่องใกล้ตัวผู้คนมากที่สุด นิทรรศการที่ทรู ดิจิทัล พาร์คจึงเปิดทุกวัน ไม่ได้มีวันหยุดประจำสัปดาห์ในวันจันทร์หรือวันพุธเหมือนกับที่อื่นทั่วไป เราอยากให้ผู้คนได้มีเวลาเข้ามาสัมผัสงานศิลปะได้ในช่วงที่พวกเขาสะดวก อาจเป็นเวลาพักกลางวันของวันทำงาน หรือในวันหยุดต่างๆ ที่สะดวกได้เช่นกัน” ดร.ธาริตทิ้งท้าย