

วิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน (CADT) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) คว้าโอกาสอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลกเติบโตดีต่อเนื่อง เร่งติวเข้มเซอร์วิสระดับลักซ์ชัวรีผ่านหลักสูตรและโครงการจัดอบรม เพิ่มศักยภาพบุคลากรรุ่นใหม่ด้วยเสน่ห์จากบริการที่เหนือชั้น พร้อมเติมความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม วางเป้าดึงดูดคนรุ่นใหม่เดินเข้าสู่อุตสาหกรรมการบินมากขึ้นในอนาคต

อาจารย์ปวรรัตน์ สุภิมารส รักษาการคณบดี วิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน (CADT) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดเผยว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคเอเชีย และทั่วโลกฟื้นตัวดีอย่างต่อเนื่องจากหลายปัจจัยสนับสนุน ทั้งตัวเลขผลประกอบการของธุรกิจสายการบินที่เติบโตเป็นบวก การเปิดเส้นทางบินใหม่ พร้อมกับจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นในจุดท่องเที่ยวสำคัญ ๆ เช่น ไต้หวันและฮ่องกง ไปจนถึงการเปิดรับบุคลากรเข้าทำงานในหลายตำแหน่งงาน เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ ส่งผลให้ในภาพรวมทุกอย่างเริ่มกลับมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 โดยสอดรับกับรายงานการวิจัยตลาดของ Data Bridge Market Research ที่คาดการณ์อุตสาหกรรมการบินในเอเชียแปซิฟิก (APAC) ว่าเป็นภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดจากจำนวนผู้โดยสารทางอากาศเพิ่มมากขึ้น และการเพิ่มขนาดฝูงบินของสายการบินต่าง ๆ โดยคาดว่าการเติบโตขึ้นนี้จะเป็นไปอย่างต่อเนื่องถึงปี 2028
ติดปีก ‘ลักซ์ชัวรี เซอร์วิส’ คนธุรกิจการบิน
อาจารย์ปวรรัตน์ กล่าวว่า นอกจากการแข่งขันกันเปิดเส้นทางบิน และเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้นของธุรกิจสายการบินแล้ว อีกหนึ่งแนวโน้มที่เกิดขึ้นเป็นการแข่งขันกันนำเสนอบริการที่แตกต่างและเป็นพรีเมียมมากขึ้น ซึ่งทาง CADT DPU มองเห็นโอกาสที่เกิดขึ้นนี้พร้อมทั้งได้ยกระดับการเรียนการสอนไปในแนวทางที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมการบิน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาการให้บริการในระดับลักซ์ชัวรีให้กับนักศึกษาและบุคลากรในอุตสาหกรรมการบิน

โดยวิทยาลัยฯ และ DAA สถาบันฝึกอบรมด้านการบินที่ได้รับรองให้เป็น Authorized Training Center (ATC) ของสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) เตรียมนำเสนอความเป็น “ลักซ์ชัวรี เซอร์วิส” เข้าไปในการเรียนการสอน และจัดอบรม เพื่อยกระดับงานบริการที่มีความเป็นพิเศษและแตกต่างในทุกมิติ ตั้งแต่ท่าทาง การแต่งกาย บุคลิก การสื่อสาร และอื่น ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและพัฒนาศักยภาพบุคลากรในอุตสาหกรรม และนักศึกษาที่เรียนในหลักสูตรปริญญาตรีทั้ง 2 สาขา ได้แก่ สาขาธุรกิจการบิน และสาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีและการอำนวยการบิน
“การให้บริการเป็นจุดเด่นคนไทย ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากชาวต่างชาติอยู่แล้ว เมื่อเพิ่มการอบรมและพัฒนา พร้อมสร้างทัศนคติที่ดีด้านบริการเข้าไปจะยิ่งทำให้เป็นข้อได้เปรียบ นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับบุคลากรในอุตสาหกรรมการบิน และนักศึกษา ได้มีทักษะที่โดดเด่น และเป็นที่ต้องการของตลาดงานทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต อีกทั้งยังเป็นทักษะที่เอไอ หรือ Artificial Intelligence ไม่สามารถสัมผัสความรู้สึกระหว่างมนุษย์ต่อมนุษย์ได้ดีเท่ากับการบริการโดยบุคลากรที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเพิ่มมุมมองด้านลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้กับนักศึกษาตามแนวทางของอุตสาหกรรมการบินที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ หรือ Net Zero ในปี ค.ศ.2050” อาจารย์ปวรรัตน์ กล่าว

ชูจุดแข็ง-ผนึกพันธมิตร ปูทางความสำเร็จสายอาชีพ
นอกจากการเพิ่มทักษะด้านบริการที่เหนือชั้นแล้ว CADT DPU ได้ให้ความสำคัญการสร้างอุปกรณ์การเรียน และสิ่งอำนวยความสะดวก (Facility) เช่น อุปกรณ์ฝึกการอพยพจากเครื่องบินกรณีฉุกเฉิน (Slide Drill), ห้องฝึกปฏิบัติการบนเครื่องบิน (Airbus300-600) และ เครื่องช่วยฝึกบินจำลอง Flight Simulator (Cessna 172 และ Boeing 737-800NG) เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ในอุตสาหกรรมการบินที่มากขึ้น
ในขณะเดียวกันได้พัฒนาความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อยกระดับการเรียนการสอน และเปิดโอกาสให้กับนักศึกษาไปฝึกงานในสถานที่ปฏิบัติงานจริง โดยล่าสุดมีการลงนามบันทึกความร่วมมือทางวิชาการและวิชาชีพกับบริษัท ไทย เวียตเจ็ท แอร์ จอยท์ สต็อค จำกัด (เวียตเจ็ทไทยแลนด์) ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกงานปฏิบัติงานจริงในตำแหน่งต่าง ๆ ของทางสายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์
ทั้งนี้ CADT DPU ได้วางเป้าหมายการเติบโตไปพร้อมอุตสาหกรรมบินของไทยและทั่วโลก ด้วยการผลิตบุคลากรที่มีทักษะสูง และมีความพร้อมสำหรับการทำงานในสายงานที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดงาน เช่น กราวด์ เซอร์วิส และ นักบิน เป็นต้น รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://cadt.dpu.ac.th/ และ https://www.daatraining.com/
คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้นำวิสัยทัศน์ สถาบันการศึกษาทางทันตแพทยศาสตร์ระดับโลก ที่สร้างบัณฑิต องค์ความรู้ นวัตกรรมเพื่อพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน นำโดย ศาสตราจารย์ ทพ.ดร.พรชัย จันศิษย์ยานนท์ คณบดี คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ด้วยผลงานที่สง่างามในปี 2567 กับความสำเร็จที่เกิดขึ้น คือ คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้รับการจัดอันดับความเป็นเลิศด้านวิชาการ จาก QS WORLD UNIVERSITY RANKINGS by Subject Areas 2024 คือ อันดับ 1 ในประเทศไทย อันดับ 11 ในเอเชีย อันดับ 60 ของโลก
คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้มุ่งมั่นสู่ความสำเร็จที่จะสร้างสรรค์ให้ก้าวไกลต่อไป ด้วยการเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ ในกิจกรรมต้อนรับเปิดเทอม ด้วยงานปฐมนิเทศนิสิตใหม่ รุ่นที่ 86 พิธีมอบเสื้อกาวน์ นิสิตชั้นปี 4 และ พิธีไหว้ครู 2567

งานปฐมนิเทศนิสิตใหม่ คณะทันตแพทยศาสตร์ รุ่นที่ 86 เป็นงานต้อนรับนิสิตใหม่พร้อมครอบครัวในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรัก ความสุข ที่ฝ่ายวิชาการและฝ่ายกิจการนิสิต นำโดย รศ.ทพ.สุพจน์ ตามสายลม รองคณบดีฝ่ายวิชาการ และฝ่ายกิจการนิสิต รศ.ทพ.ขจร กังสดาลพิภพ รองคณบดีฝ่ายกิจการนิสิตและนิสิตเก่าสัมพันธ์ ได้จัดขึ้น โดยมีคณาจารย์ ฝ่ายบริหาร และรุ่นพี่นิสิต ได้ร่วมกันต้อนรับนิสิตใหม่พร้อมครอบครัว เข้ามาเป็นนิสิตใหม่คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ที่มีความพร้อมทั้งด้านวิชาการและการศึกษาด้านทันตกรรม คลินิกบริการทันตกรรม งานวิจัยและงานนวัตกรรม

งานแห่งความภูมิใจกับวิชาชีพแพทย์ ด้วยพิธีมอบเสื้อกาวน์ นิสิตชั้นปี 4 เป็นพิธีการสำคัญสำหรับนิสิตทันตแพทย์ เพื่อรับเสื้อกาวน์ ซึ่งเป็นเสื้อที่สัญลักษณ์ของวิชาชีพแพทย์ โดยนิสิตที่รับเสื้อกาวน์ จะเป็นนิสิตปี 4 ที่กำลังจะก้าวสู่การเรียนในระดับชั้นคลินิกในปี 4 – ปี 6 เพื่อให้นิสิตได้ตระหนักถึงความสำคัญ รับรู้บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบในวิชาชีพและคุณธรรมจริยธรรมตามจรรยาบรรณแพทย์ โดยในงานนี้คณาจารย์ ได้เป็นผู้สวมเสื้อกาวน์ให้นิสิตพร้อมกล่าวอวยพร ด้วยความภูมิใจ และคณาจารย์ได้ร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จ ชื่นชมความสุขกับทุกครอบครัวนิสิตด้วย

งานประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงาม ด้วยพิธีไหว้ครู 2567 ที่นิสิตทันตแพทยศาสตร์ทุกคน จะได้มีโอกาสแสดงความเคารพคณาจารย์ ครูผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้กับลูกศิษย์ ด้วยความรัก ความเมตตา ความปรารถนาดี และกิจกรรมที่ดีงามนี้ ได้ช่วยสร้างความรัก ความสุข ความผูกพัน ความสามัคคีในกลุ่มนิสิตได้ด้วย

อลิอันซ์ ผู้นำด้านการประกันภัยและการบริหารสินทรัพย์ระดับโลก ประกาศความภาคภูมิใจในการเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปารีส 2024 ในฐานะพันธมิตรประกันภัยระดับโลก โดยมีบทบาทสำคัญในการสร้างบรรยากาศการแข่งขันที่ปลอดภัยและเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ การมีส่วนร่วมของอลิอันซ์ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับทั้งบริษัทและงานกีฬาระดับโลก โดยได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนความทุ่มเทและพยายามของนักกีฬาจากกว่า 200 ประเทศ และถ่ายทอดให้ผู้ชมทั่วโลกได้เห็น
การจัดงานกีฬาระดับโลกอย่างโอลิมปิกปารีส 2024 สร้างความตื่นเต้นและรวมใจผู้คนหลายพันล้านทั่วโลก แต่สำหรับผู้จัดงาน การจัดงานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงจากสภาพอากาศสุดขั้วหรือเหตุการณ์ไซเบอร์ ด้วยประสบการณ์หลายปี การเรียนรู้ และการวางแผนจัดการความเสี่ยง ทำให้การแข่งขันดำเนินไปได้อย่างราบรื่น โดยการสนับสนุนจากประกันภัยมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้งานกีฬาน่าทึ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้

อลิอันซ์ได้นำเสนอความคุ้มครองประกันภัยที่ครอบคลุมหลากหลายด้าน ประกอบด้วยความคุ้มครองเชิงพาณิชย์ เช่น ประกันความรับผิด ประกันภัยไซเบอร์ และประกันความเสียหายต่อทรัพย์สินสำหรับสถานที่จัดการแข่งขันโอลิมปิกหลายแห่ง นอกจากนี้ อลิอันซ์ยังจัดหาประกันการยกเลิกตั๋ว เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับแฟนๆ มีการจัดโปรแกรมความช่วยเหลือทางการแพทย์ที่ครอบคลุมนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครกว่า 155,000 คน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการเสนอประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล เพื่อคุ้มครองความเป็นอยู่ที่ดีของทีมชาติต่างๆ
มร.โทมัส วิลสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า "ในฐานะพันธมิตรโอลิมปิกอย่างเป็นทางการ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับนักกีฬาจากประเทศไทยที่คว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ ความมุ่งมั่น ทุ่มเท และความพยายามที่ไม่ย่อท้อของทุกคนได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการยืนยันถึงความสามารถและความแข็งแกร่งของนักกีฬาไทย แต่ยังเป็นเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่สำหรับประเทศไทยอีกด้วย"
อลิอันซ์ อยุธยา ขอแสดงความยินดีอีกครั้งกับนักกีฬาไทยที่สร้างผลงานยอดเยี่ยมด้วยการคว้า 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง โดยฮีโร่ทัพนักกีฬาไทย ได้แก่ นักกีฬาเหรียญทอง พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เทควันโด หญิง รุ่น 49 กิโลกรัม นักกีฬาเหรียญเงิน กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แบดมินตัน ชายเดี่ยว ธีรพงศ์ ศิลาชัย ยกน้ำหนัก ชาย รุ่น 61 กิโลกรัม และวีรพล วิชุมา ยกน้ำหนัก ชาย รุ่น 73 กิโลกรัม นักกีฬาเหรียญทองแดง จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง มวยสากล หญิง รุ่น 66 กิโลกรัม และสุรจนา คำเบ้า ยกน้ำหนัก หญิง รุ่น 49 กิโลกรัม
การสนับสนุนนี้ไม่เพียงสร้างช่วงเวลาน่าจดจำ แต่ยังเน้นถึงบทบาทสำคัญของอลิอันซ์ในกีฬาโอลิมปิก โดยความร่วมมือจะดำเนินต่อไปถึงปี 2571 ครอบคลุมการแข่งขันโอลิมปิกมิลาโน คอร์ติน่า 2026 และลอสแองเจลิส 2028 ซึ่งช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ประกันภัยระดับโลกของอลิอันซ์และสร้างผลกระทบทางธุรกิจในตลาดสำคัญที่มีการเติบโตสูง
บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมจัดโครงการสร้างบุญมหากุศล "พลังบุญทิพย 9 เดือน 9 ปีที่ 15" ในวันฤกษ์ดี ณ วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

คณะผู้บริหารและพนักงาน นำคณะผู้ถือหุ้นและกัลยาณมิตรธรรม กว่า 72 คน ร่วมสร้างบุญมหากุศล โดยนิมนต์ พระธรรมรัตนมงคล ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 2 เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นประธานสงฆ์ และพระเมธีวราภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รองเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นรองประธานสงฆ์ พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์อีกจำนวน 7 รูป ร่วมเจริญพระพุทธมนต์ ถวายผ้าห่มองค์พระ “พระพุทธไตรรัตนนายก” รวมถึงถวายภัตตาหารเพล สังฆทานและเครื่องจตุปัจจัยไทยธรรม แด่พระภิกษุสงฆ์ นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันปล่อยปลามหากุศล จำนวน 572 กิโลกรัม ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อส่งเสริมคุณธรรมและความเมตตา รวมถึงยังเป็นการสะท้อนถึงหลักธรรมาภิบาลที่บริษัทฯ ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการทำความดี

บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นในการส่งเสริมคุณธรรม ความกตัญญูต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นหลักการที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนและสืบสานความเป็นไทยให้คงอยู่คู่แผ่นดินสืบไป
แกร็บ ประเทศไทย ประกาศปรับพอร์ตฯ สินเชื่อเงินสดเพื่อพาร์ทเนอร์ร้านค้า นำเสนอ 3 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการร้านค้าและร้านอาหารให้ครอบคลุมทุกขนาดธุรกิจ พร้อมขยายวงเงินสินเชื่อสูงสุดถึง 10 ล้านบาท พร้อมอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 1% ต่อเดือนสำหรับร้านขนาดใหญ่ หวังช่วยเพิ่มทุนหมุนเวียน เสริมสภาพคล่องและให้ผู้ประกอบการสามารถต่อยอดธุรกิจท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ท้าทาย โดยยังชูจุดเด่น ขั้นตอนที่สะดวกไม่ต้องยื่นเอกสาร อนุมัติไวภายใน 1 วัน และผ่อนจ่ายสบายแบบรายวัน
นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพาณิชย์และการตลาด แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “ด้วยสภาพเศรฐกิจในปัจจุบันที่ชะลอตัว จากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ประกอบกับอัตราหนี้ครัวเรือนไทยอยู่ในระดับที่สูงส่งผลต่อการเบิกใช้สินเชื่อใหม่ อีกทั้งในช่วงไตรมาสที่สองยังคงมีแรงกดดันจากการทยอยชำระคืนสินเชื่อโดยเฉพาะสินเชื่อภาครัฐและภาคธุรกิจ ทำให้ภาพรวมตลาดสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ขยายตัวชะลอลงราว 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว1 โดยเป็นที่คาดการณ์ว่าตลาดสินเชื่อในปี 2567 จะมีอัตราการเติบโตเพียง 1.5% ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่ 3%2 แม้ภาพรวมตลาดสินเชื่อของประเทศจะอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่ธุรกิจสินเชื่อของแกร็บยังคงมีผลประกอบการที่ดีและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการให้สินเชื่อกับกลุ่มพาร์ทเนอร์ร้านค้า ซึ่งในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมามีจำนวนผู้ได้รับสินเชื่อเงินสดจากแกร็บเพิ่มขึ้นมากกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีอัตราหนี้เสีย (NPL) อยู่ที่ 2.35% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอัตราหนี้เสียของประเทศ3 สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของกลุ่มผู้ขอสินเชื่อเงินสดจากแกร็บ”

แกร็บได้นำเทคโนโลยี AI และ Big Data เข้ามาใช้เป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการประเมินความเสี่ยง โดยพิจารณาจากพฤติกรรมและข้อมูลการทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชันของพาร์ทเนอร์ร้านค้า (Behavioural Scorecard) เพื่อการอนุมัติสินเชื่อและลดความเสี่ยงในการผิดนัดชำระ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่ขอสินเชื่อจากแกร็บมีความต้องการสินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ เช่น การซื้อวัตถุดิบและบริหารสต็อกสินค้า การบริหารลูกจ้างและพนักงาน การจัดการกระแสเงินสด การปรับปรุงหน้าร้าน รวมไปถึงการอัพเกรดเทคโนโลยีและการขยายธุรกิจ เป็นต้น
“เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหาร ทั้งรายย่อยและ SME อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด แกร็บได้ปรับพอร์ตฯ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับพาร์ทเนอร์ร้านค้าเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายตามขนาดและรูปแบบธุรกิจ พร้อมขยายวงเงินสูงสุดถึง 10 ล้านบาท โดยยังคงจุดเด่นในเรื่องของขั้นตอนการขอรับสินเชื่อที่ไม่ยุ่งยาก (ไม่ต้องยื่นเอกสาร) อนุมัติไวภายใน 1 วัน และสามารถผ่อนชำระคืนแบบรายวัน” นางสาวจันต์สุดา กล่าวเสริม

สำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อเงินสดเพื่อพาร์ทเนอร์ร้านค้าของแกร็บถูกออกแบบมาเพื่อเป็นตัวช่วยในการประกอบอาชีพและส่งเสริมการดำเนินธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย รวมถึงเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยมีการกำหนดวงเงินสินเชื่อเพื่อให้สอดคล้องไปกับขนาดและรูปแบบของธุรกิจที่ต่างกันไป ซึ่งประกอบไปด้วย
“นอกจากบริการสินเชื่อแล้ว ล่าสุด แกร็บยังได้ร่วมกับ บริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) พัฒนาบริการประกันภัยสำหรับพาร์ทเนอร์ร้านค้าแกร็บในชื่อ ‘ประกันค้าขายหายห่วง’ เพื่อให้ความคุ้มครองผู้ประกอบการธุรกิจจากเหตุไม่คาดฝันอย่างอุบัติภัยหรือภัยธรรมชาติ เช่น ไฟไหม้หรือน้ำท่วม ด้วยวงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 5 ล้านบาท โดยมีค่าเบี้ยประกันเริ่มต้นเพียงวันละ 14 บาทเท่านั้น ทั้งนี้ แกร็บจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ สินเชื่อ รวมถึงประกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและส่งเสริมการเข้าถึงโอกาสทางการเงินให้กับทุกคนในอีโคซิสเต็ม ทั้งผู้ใช้บริการ พาร์ทเนอร์ร้านค้าและคนขับ เพื่ออำนวยความสะดวกและเสริมศักยภาพในการสร้างรายได้และเติบโตทางธุรกิจได้อย่างมั่นคง” นางสาวจันต์สุดา กล่าวทิ้งท้าย
1, 3 อ้างอิงข้อมูล ธนาคารแห่งประเทศไทย
2 อ้างอิงบทวิเคราะห์ Econ Digest “แนวโน้มสินเชื่อช่วงที่เหลือปี 2567 เติบโตต่ำ ถูกกดดันตามภาวะเศรษฐกิจ” โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย
4 คำนวณตามอัตราดอกเบี้ย 33% ต่อปี (ลดต้นลดดอก) ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด และมีการหักชำระเป็นรายวัน
5 คำนวณตามอัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี (ลดต้นลดดอก) ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด และมีการหักชำระเป็นรายวัน
บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยนายธีรยุทธ กิจวรพัฒน์ ผู้อำนวยการ ธุรกิจสาขาและการร่วมทุน นำพนักงานจิตอาสาของบริษัทฯ กว่า 30 คน ที่ร่วมโครงการ BKI อาสาพัฒนาโรงเรียน ทำกิจกรรมพัฒนาโรงเรียนวัดเขาพระ โดยการสร้างแปลงผักและปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบประกอบอาหารเช้าและอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียน พร้อมการติดตั้งสปริงเกอร์สำหรับรดน้ำและตาข่ายกรองแสงสำหรับคลุมแปลงผักเพื่อการเติบโตที่ดี อีกทั้งจัดเลี้ยงอาหารกลางวันน้องๆ นักเรียน โดยมีนางสาววิจิตรา อินทรมณี ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมด้วยคณะครูและนักเรียนให้การต้อนรับและร่วมทำกิจกรรม ณ โรงเรียนวัดเขาพระ อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2567

ทั้งนี้ โครงการ BKI อาสาพัฒนาโรงเรียน เป็นหนึ่งในโครงการที่บริษัทฯ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยนำพนักงานจิตอาสาร่วมทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ ทั้งด้านการศึกษาและความเป็นอยู่ของนักเรียนในโรงเรียนให้มีสุขอนามัยที่ดี และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
ในยุคที่คอมมิวนิตี้ออนไลน์กำลังมาแรง เกิดการรวมตัวของผู้คนที่มีความสนใจเดียวกันเพื่อพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยจะเห็นได้จากการจัดตั้งกลุ่มความสนใจต่างๆ บนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนแพลตฟอร์ม LINE ที่มีฟีเจอร์ LINE OpenChat คอมมิวนิตี้ออนไลน์ แหล่งรวมความสนใจที่หลากหลายให้ผู้คนที่มีความสนใจและมีความชอบในเรื่องเดียวกัน เข้ามาพูดคุยกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีกลุ่มความสนใจต่างๆ มากกว่า 21 ความสนใจให้ผู้ใช้งานได้เลือกเข้าร่วม
LINE OpenChat ได้เปิดให้บริการมากว่า 5 ปี ได้รับความนิยมต่อเนื่อง และยังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ด้วยจุดเด่นที่ทำให้ใครที่ได้ลองใช้บริการเป็นต้องติดใจ เพราะสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกับสมาชิกในกลุ่มได้แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน ดังนั้นไม่ว่าจะมีความชอบที่หลากหลายแค่ไหน ก็เป็นตัวของตัวเองได้แบบไม่สะดุด
LINE OpenChat ได้รับการยอมรับว่าเป็นคอมมิวนิตี้ออนไลน์ที่อิมแพ็กสูง จนขึ้นแท่นเป็นช่องทางเนื้อหอมในหมู่ศิลปินดารา คนดังจากหลากหลายวงการ อาทิ แวดวงนางงาม นักการเมือง เกมเมอร์ ไปจนถึง เหล่าครีเอเตอร์ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ที่ต้องการขยายฐาน และสร้าง Engagement กับแฟนคลับ ล้วนตบเท้าเข้ามาเปิดด้อมอยู่ในจักรวาล LINE OpenChat จนก่อให้เกิดปรากฏการณ์ชวนแฟนคลับเข้าด้อม ที่กลายเป็นศัพท์ฮิต อินเทรนด์บนโลกออนไลน์
ที่สำคัญแวะเข้า LINE OpenChat เมื่อไหร่ไม่ต้องกลัวเหงา หรือไม่มีเพื่อนคุย เพราะคอมมิวนิตี้แห่งนี้ คึกคักอยู่ตลอด ด้วยจำนวนผู้ใช้งานที่มากกว่าเดือนละ 20 ล้านคน หรือคิดเป็นเป็นราว 1 ใน 3 ของผู้ใช้งาน LINE
อย่างไรก็ตาม นอกจาก LINE OpenChat จะเป็นเหมือนจุดรวมพลของคนที่มีความชอบและความสนใจคล้ายๆ กัน เป็นเหมือนสเปซที่ทำให้ศิลปิน คนดัง และเหล่าแฟนคลับได้มาพบปะ พูดคุยได้อย่างใกล้ชิด ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา LINE OpenChat ยังสร้างการเปลี่ยนแปลงของสังคม ผ่าน 5 บทบาทในฐานะตัวกลางในการเชื่อมโยงทุกความสนใจคนไทยให้มีความหมายในด้านต่างๆ ได้แก่
เชื่อมจักรวาลวัยเรียน พร้อมไขทุกคำถามคาใจ
LINE OpenChat ไม่ได้มีประโยชน์แค่ช่วยบริหารจัดการห้องเรียนออนไลน์ แต่ยังเป็นคอมมิวนิตี้ ที่พร้อมเชื่อมต่อทุกเรื่องในวัยเรียนอย่างครบเครื่อง แทนที่จะต้องนั่งหาความรู้เองในโลกอินเตอร์เน็ต หรือ รอปรึกษาครูแนะนำในการเรียนต่อ หรือ หาคนช่วยติวข้อสอบ แค่กดเข้ากลุ่ม LINE OpenChat เลือกหัวข้อที่ตอบโจทย์ เช่น กลุ่มติวเตรียมสอบ กลุ่มให้คำปรึกษาเรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือ การเลือกคณะ ก็เหมือนมีที่ปรึกษาส่วนตัว และมีเพื่อนที่หัวอกเดียวกัน มาช่วยฮีลใจ
ไม่เฉพาะวัยว้าวุ่นอย่างช่วงมัธยม พอเข้ารั้วมหาลัยวิทยาลัยแล้ว LINE OpenChat ก็ยังพร้อมเชื่อมต่อไปสู่การหาเพื่อนใหม่ หรือ รุ่นพี่ ที่พร้อมให้คำปรึกษาตั้งแต่เรื่องซีเรียสอย่างเรื่องเรียน หาทุน หรือการวางแผนไปเรียนต่อต่างประเทศ ไปจนถึงเรื่องรอง อย่างการหาหอ หรือหาแหล่งของกินอร่อยรอบๆ รั้วมหาวิทยาลัย
เชื่อมเหล่าแฟนด้อม ผูกมิตรคนแปลกหน้าสู่เพื่อนที่เข้าใจกัน
จุดแข็งของ LINE OpenChat คือ นอกจากจะเป็นพื้นที่สานฝันชีวิตแฟนคลับให้คอมพลีต ในฐานะศูนย์รวม “ด้อม” คนดังจากแทบทุกวงการ ได้มาพูดคุยอัปเดตตารางงานศิลปินคนโปรด แชร์รูป แชร์คลิป หรือชวนกันไปสนับสนุนศิลปิน ด้วยการอุดหนุนตั๋วคอนเสิร์ตหรือสินค้าต่างๆ ก็สามารถทำได้ครบจบในที่เดียว LINE OpenChat ยังเป็นเวทีแจ้งเกิดให้เหล่า Creator หน้าใหม่ที่ต้องการสร้างตัวตน ด้วยการสร้างด้อมของตัวเองได้ง่ายๆแค่ปลายนิ้ว อย่างล่าสุด จูเนียร์ - ภาคิน กาญจนจูฑะ พ่อค้าไทป์หมาเด็ก ที่แจ้งเกิดจากไลฟ์ขายเสื้อมือสอง จนตกเหล่าพี่ชายพี่สาวที่ไม่เพียงมาแย่งกัน CF สินค้า แต่ยังตกเข้าด้อมไว้อัพเดตผลงาน และพูดคุยเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งข้อดีของ “การเข้าด้อม” นอกจากจะทำให้เหล่าแฟนคลับใจฟู ยังเปิดโอกาสไปสู่การสร้างมิตรภาพใหม่ ของคนที่มีความชอบคล้ายกันอีกด้วย
เชื่อมโยงความรู้หลากหลาย รวมพลังคำแนะนำช่วยซ่อมทั้งกายใจ
ในยุค ‘Health is the New Wealth’ ใครๆ ก็ให้ความสำคัญกับสุขภาพกายและใจ LINE OpenChat จึงเป็นอีกช่องทาง ที่เหล่าคนรักสุขภาพมารวมตัวกัน เพื่อดูแลสุขภาพกายและใจ กลุ่มสุขภาพใน LINE OpenChat จึงเป็นเหมือนจุดนัดพบของเหล่ากูรูด้านสุขภาพ นักจิตวิทยา และผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมแชร์ความรู้และเทคนิคดีๆ แบบไม่มีกั๊ก ตั้งแต่ปัญหาสุขภาพทั่วไป หรือคนที่ป่วยเป็นโรคร้ายอย่างมะเร็ง ก็มีกลุ่มที่พร้อมฮีลกายและใจ ไปจนถึงกลุ่มคนที่ใจพัง มีปัญหาสุขภาพจิต
ที่น่าสนใจ คือ แม้จำนวนห้อง OpenChat กลุ่มสุขภาพจะไม่เยอะมาก แต่กลับเป็นกลุ่มที่สมาชิกค่อนข้างแอกทีฟ มีส่วนร่วมในการสนทนาเพิ่มขึ้นจาก จากปี 23 มากถึง 31% และยังมีตัวเลขสมาชิกใหม่ เพิ่มขึ้นถึง 13% โดยข้อมูลที่นิยยมมาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันมักเป็นข้อมูลเชิงลึกจากผู้มีประสบการณ์ โดยเฉพาะห้องแม่และเด็กกับวัคซีน เป็นคลังข้อมูลชั้นดีที่เหล่ามนุษย์แม่ไม่ควรพลาด
เชื่อมนักเดินทางทุกวัย ชวนกันไปแตะขอบฟ้า สู่หมุดหมายใหม่ที่น่าจดจำ
แทนที่จะมัวอ่านรีวิว หลายคนเลือกเก็บ Bucket list หรือหาที่เที่ยวน่าไปจาก LINE OpenChat ที่พร้อมตอบโจทย์เหล่านักเดินทางขั้นสุด ที่แค่กดเข้ากรุุ๊ป ก็อยากลุกไปจัดกระเป๋า เพราะมีกลุ่มที่พร้อมป้ายยา อัปเดตสถานที่ท่องเที่ยวชิคๆ น่าจะไปเช็กอิน ตอบโจทย์ทั้งสายชิล ชอบเช็กอินแหล่งท่องเที่ยวปังๆ ไปจนถึงขาลุยชอบเดินป่าหรือโรดทริป ก็มีกลุ่มที่พร้อมแชร์ประสบการณ์และให้คำแนะนำว่าควรเตรียมตัวอย่างไร เลือกรถยี่ห้อไหน หรือรุ่นใด ส่วนใครที่สายโซเชียล ควักกระเป๋าไปเที่ยวทั้งที ต้องได้รูปจึ้งๆ ก็มีกลุ่มที่พร้อมแนะนำที่เด็ด มุมปัง หรือถ้าอยากหาเพื่อนเที่ยว เพื่อนมู ทัวร์ไหว้พระ ก็หาได้ผ่าน LINE OpenChat
เชื่อมทุกอินไซต์ของลูกค้า ส่งตรงถึงแบรนด์ แบบไม่ต้องเสียเวลาเดาใจ
หมดยุคปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่นี่คือยุคปลาเร็ว กินปลาช้า ใครที่ทำการตลาดโดนใจลูกค้าที่สุด คือ ผู้ชนะ แต่จะคว้าใจลูกค้าได้ก็ต้องรู้ใจลูกค้าก่อน ซึ่ง LINE OpenChat คือ ช่องทางสุดปังที่ทำให้แบรนด์เหมือนได้เปิดบ้านต้อนรับลูกค้า เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นและฟีดแบ็กตรงถึงแบรนด์ เพื่อให้แบรนด์นำไปแก้ไขหรือต่อยอดการทำการตลาดเพื่อรับรู้ความต้องการและฟีดแบ็กของลูกค้าอย่างตรงจุดที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ‘ด้อมน้องเนย’ ที่ ‘ทำถึง’ ในทุกความเคลื่อนไหวจน ‘ได้ใจ’ แฟนคลับไปเต็มๆ รวมถึง เวทีประกวดความงามต่างๆ ที่นำความคิดเห็นดีๆ ไปพัฒนาเวที สร้างสรรค์การประกวดให้เข้มข้น สนุกยิ่งขึ้น แถมแบรนด์ยังได้อินไซต์ดีๆ ไปต่อยอดการทำการตลาดแบบปังๆ ได้แบบเต็มอิ่มครบทุกมิติ
นอกจาก 5 บทบาทในการเชื่อมทุกความสนใจ ให้มีความหมาย LINE OpenChat ยังเป็นชุมชนในการเชื่อมทุกความรู้ผ่านกูรูด้านต่างๆ เรียกว่าต่อไปนี้ ไม่ว่าสงสัยอะไร ลองกดเข้า LINE OpenChat ก็มีโอกาสได้ปรึกษากูรูด้านต่างๆ หรือถือโอกาสเก็บประสบการณ์จากคนอื่นๆ เพราะ LINE OpenChat มีครบตั้งแต่ห้องแชร์ประสบการณ์การใช้งานสินค้าต่างๆ ห้องให้คำแนะนำด้านการลงทุน การเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ทั่วไป สัตว์เลี้ยงเอ็กโซติก หรือใครที่อยากหาบ้านให้น้องหมา-แมว ห้องแชร์สูตรอาหารการกิน ห้องหาเพื่อนเล่นกีฬา ไปจนถึงห้องที่ไม่คิดว่าจะมี อย่างห้องแชร์ประสบการณ์สารพัดการสอบประเภทต่างๆ เช่น สอบข้าราชการ สอบครู
ด้วยความครบเครื่องนี้เอง ทำให้ LINE OpenChat ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้ผู้ใช้งานที่เติบโตอย่าก้าวกระโดด สำหรับห้อง OpenChat ที่มีสมาชิกมากกว่าพันคน และแอดมินมีการจัดการที่ดี จะสามารถได้รับการรับรองว่าเป็น Super Openchat หรือหากเป็นด้อมที่ศิลปิน ดารา KOL เจ้าของห้องเป็นผู้ดูแลด้วยตัวเอง ก็จะได้รับ Official Badge เครื่องหมายการันตีว่า ห้อง OpenChat นั้นเป็นคอมมิวนิตี้หลัก และเป็นโอกาสให้เหล่าแฟนคลับได้เข้ามาพูดคุยและแลกเปลี่ยนเรื่องราวในคอมมิวนิตี้ใกล้ชิดกับศิลปินกันอย่างเต็มที่
เรียกได้ว่า LINE OpenChat ถือเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มคอมมิวนิตี้ออนไลน์ ที่ไม่ใช่แค่ทำถึง แต่ยังครบเครื่อง พร้อมเชื่อมต่อทุกความสนใจให้มีความหมายอย่างแท้จริง งานนี้ สำหรับใครที่อยากเปิดโลกใหม่ ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งในคอมมิวนิตี้ที่ใช่ โอกาสอยู่แค่ปลายนิ้ว เพียงเข้าแอปพลิเคชัน LINE แล้วกดเลือก OpenChat จะพบว่าไม่ว่าจะมีความชอบหรือความสนใจแบบไหน ก็สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ผ่าน LINE OpenChat #ครบรอบ5ปีโอเพนแชท #ด้อมดีๆยังมีอีกเยอะ
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 3/2567 ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงจากสถาบันการเงินของรัฐ ผู้แทนจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีธนาคารกรุงไทย เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม โดยที่ประชุมมีมติและเห็นชอบในประเด็นสำคัญ เกี่ยวกับกรอบทิศทาง การดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ของสมาคมฯ ปี 2568 – 2570 ซึ่งมีการปรับเพิ่มภารกิจสำคัญในส่วนของยุทธศาสตร์ด้าน Synergy ในการยกระดับความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง

โดยเฉพาะความร่วมมือด้านข้อมูลเพื่อใช้เทียบเคียงผลการดำเนินงานในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านการเงิน และกระบวนการทำงาน รวมทั้งความร่วมมือด้านการเงินและสนับสนุนสภาพคล่องระหว่างกัน การกำกับดูแล บริหารความเสี่ยง เป็นต้น พร้อมรับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการ 7 ด้าน ประจำไตรมาสที่ 2/2567 ผลการประชุมคณะขับเคลื่อนระบบการชำระเงิน ครั้งที่ 1/2567 และกรณีสมาคมสถาบันการเงินของรัฐและหน่วยงานอื่นถูกมิจฉาชีพแอบอ้างใช้โลโก้สมาคมฯ เพื่อหลอกลวงประชาชนให้โอนเงิน ณ ห้อง Pinnacle 4-6 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ถนนเพลินจิต กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567