กลุ่มดุสิตธานีโดย “ดุสิต ฟู้ดส์” เผยความสำเร็จจากการจัดทัพนำ “ดุสิต กาสโทร” และ “ปิ่นโตฮับ” ร่วมงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ThaiFex Anuga Asia 2024 ครั้งแรกอย่างยิ่งใหญ่ เปิดประตูสู่ฐานลูกค้าต่างชาติภายใต้แนวคิด Bring Asian Food to the World นำเสนอสินค้าและนวัตกรรมอาหารของบริษัทในเครือ โดยมีผู้สนใจร่วมชมบูธกว่าหมื่นคน พร้อมสร้างคอนเนคชั่นกับผู้ประกอบการด้านอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลก ซึ่งเป็นลูกค้าใหม่กว่า 1,000 ราย จาก 20 ประเทศทั่วโลก ปลื้มในจำนวนนี้เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพในการซื้อสูงถึง 83 ราย พร้อมเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จ

นางสาวมณิศา มิตรไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด เปิดเผยว่า ดุสิต ฟู้ดส์ ได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ThaiFex Anuga Asia 2024 ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยนับเป็นครั้งแรกที่บริษัทฯ นำ “ดุสิต กาสโทร” (Dusit Gastro) และ “ปิ่นโตฮับ” (Pinto Hub) เข้าร่วมงาน เพื่อเปิดประตูสู่ฐานลูกค้าต่างชาติ ตามแนวคิด Bring Asian Food to the World และนับว่า การเข้าร่วมงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เนื่องจากตลอดระยะเวลา 5 วันของการจัดงาน ทั้ง “ดุสิต ฟู้ดส์” รวมถึงสินค้าต่างๆ ของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มจากทั่วโลก ที่มีผู้สนใจเยี่ยมชมบูธของบริษัทฯ กว่าหมื่นคน รวมถึงยังสามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าใหม่กว่า 1,000 ราย จาก 20 ประเทศ โดยในจำนวนนี้เป็นกลุ่มลูกค้ามีศักยภาพและมีกำลังซื้อสูงถึง 83 ราย

“ในการร่วมงาน ThaiFex Anuga Asia 2024  ครั้งนี้ เรานำนวัตกรรมอาหารของบริษัทในเครือ เข้าร่วมจัดแสดงภายในบูธ ซึ่งอยู่ในโซน “ไฟน์ ฟู้ดส์” (Fine Food) โดยแบ่งเป็นโชว์เคส 3 โซน ได้แก่ โซน “ดุสิต กาสโทร” โซน “ปิ่นโตฮับ” และโซนสาธิตการทำอาหาร จากโรงเรียนสอนทำอาหารในเครือดุสิต ได้แก่ วิทยาลัยดุสิตธานี, โรงเรียนสอนทำอาหารเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต และโรงเรียนสอนทำอาหารเดอะฟู้ด สคูล ที่ร่วมกันนำเชฟชื่อดังมาสาธิตเทคนิคการประกอบอาหารไทย โดยใช้เครื่องแกงและผลิตภัณฑ์ของ “ดุสิต กาสโทร” รวมถึงสาธิตการทำเบเกอรี่ ตลอดจนนำเสนอเคล็ดลับและวัตถุดิบหลักที่สำคัญ ที่ทำให้อาหารและขนมมีรสชาติอร่อยลงตัว ซึ่งปรากฏว่าได้รับความสนใจอย่างมาก” กรรมการผู้จัดการ ดุสิต ฟู้ดส์ กล่าว

ทั้งนี้ ดุสิต ฟู้ดส์ ตั้งเป้ากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เป็นลูกค้าในประเทศ 63% และลูกค้าต่างประเทศ 37%  ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังวางแผนที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าในเซ็กเมนต์ที่หลากหลาย ทั้งกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร และการจัดเลี้ยง (HORECA) กลุ่มอุตสาหกรรมส่งออกอาหาร กลุ่มผู้รักสุขภาพ หรือผู้ที่กำลังมองหาอาหารที่สะดวกและรวดเร็ว รวมถึงผู้ที่สนใจในนวัตกรรมอาหารใหม่ ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอในงาน ThaiFex Anuga Asia 2024   มีความหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว  อาทิเช่น “ดุสิต กาสโทร” จัดแสดงสินค้าเบเกอรี่ ทั้งอบสดภายในงาน และแบบแช่แข็งพร้อมส่งออกต่างประเทศ,  เครื่องแกงรสจัดจ้านสูตรร้านอาหารเบญจรงค์, เครื่องปรุงรส, สินค้าจ้างผลิต (OEM) สำหรับธุรกิจ HORECA รวมถึงอาหารพร้อมทานหลากหลายเมนู ในขณะที่ “ปิ่นโตฮับ” ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์น้องใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวแพลตฟอร์มไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา นำเมนูสตรีทฟู้ดส์เจ้าเด็ดเมนูดัง ที่มาในรูปแบบพร้อมทานสะอาด ได้มาตรฐาน สะดวกรวดเร็ว และเข้าถึงง่าย

“หลังจากการเข้าร่วมงาน Thaifex Anuga Asia 2024 ในครั้งนี้แล้ว “ดุสิต ฟู้ดส์” ยังมีแผนที่จะเดินหน้าดันอาหารไทยและอาหารเอเชียไปสู่ตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง ด้วยสินค้าที่หลากหลายและนวัตกรรมด้านอาหารที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคทั้งในไทยและต่างประเทศ ทำให้เชื่อว่า เราจะเติบโตในอุตสาหกรรมอาหารได้อย่างแข็งแกร่ง ภายใต้การสนับสนุนของกลุ่มดุสิตธานี”  นางสาวมณิศากล่าว

สำหรับงาน Thaifex Anuga Asia 2024  เป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่และครบวงจรที่สุดแห่งเอเชีย เป็นเวทีสำคัญของไทยในการสร้างพันธมิตรระดับโลกและยกระดับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไทย เพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมทางเศรษฐกิจของประเทศให้เป็นศูนย์กลางทางด้านอาหาร จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หอการค้าไทยและโคโลญเมสเซ่ ภายใต้แนวคิด Beyond Food Experience เปิดประสบการณ์ที่มากกว่างานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ที่รวมทุกความต้องการไว้ในงานเดียวบนพื้นที่กว่า 107,000 ตร.ม. ณ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี

ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้สรุปตัวเลขจำนวนผู้เข้าชมงานทั้ง 5 วัน รวมทั้งสิ้น 138,508 คน เพิ่มขึ้น 5.70% เมื่อเทียบกับการจัดงานครั้งที่ผ่านมา โดยพบจำนวนผู้เข้าชมชาวต่างชาติจาก 130 ประเทศ เพิ่มขึ้น 21.60% และ 5 อันดับแรกของชาวต่างชาติที่เข้าชมงานมากที่สุด ได้แก่ จีน มาเลเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ตามลำดับ สะท้อนความสำเร็จการสนับสนุน Soft Power อาหารไทยสู่สากล ชูศักยภาพไทยในฐานะการเป็น “ฮับ” (Hub) หรือศูนย์กลางสินค้าด้านอาหารในภูมิภาค และเป็นครัวของโลก ได้เป็นอย่างดี