ปัญหาใหญ่ของสิ่งแวดล้อมภายในชุมชนอันยากที่จะจัดการในปัจจุบัน คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของการจัดการขยะ
บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ยังคงยกระดับการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการนำศักยภาพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ดิจิทัลผ่านโครงการเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) ภายใต้โครงการ "เพาะพันธุ์ดี NT Youth Club" สู่การพัฒนาชุมชนอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ควบคู่ไปกับกลยุทธ์การดำเนินกิจกรรมด้าน CSR ในกระบวนการทำงาน
นอกจากเป็นหน่วยงานหลักภาครัฐในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล ภายใต้ยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 แล้ว NT ยังได้นำศักยภาพหลัก Core Competency ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และโทรคมนาคมเป็นกลไกสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals - SDGs) และเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดย NT ได้จัดทำแผนแม่บทความรับผิดชอบขององค์กรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2564-2568 เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินการให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งองค์กร และถือเป็นหนึ่งในพันธกิจเพื่อการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน
ในช่วงปีงบประมาณ 2564 ที่ผ่านมา NT ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมหลากหลายด้าน โดยเฉพาะการขยายโครงการ เพราะพันธุ์ดี NT Youth Club เพิ่มขึ้น ณ ชุมชนเทศบาล 2 อำเภอตะพานหิน จ. พิจิตร และชุมชนวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีหนองแก จ. อุทัยธานี ทั้งนี้ NT ร่วมกับทางจังหวัด สถาบันการศึกษา และชุมชน เพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์เรียนรู้และชุมชนต้นแบบในการทำการเกษตรสมัยใหม่ หรือ Smart Farming จากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี IoT (Internet of Things) ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของนโยบาย Thailand 4.0
โครงการ เพราะพันธุ์ดี NT Youth Club ถือเป็นกิจกรรมหลักตามแผนงาน CSR after Process ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 ภายใต้แนวคิดการสร้างคุณค่าร่วม (Creating Shared Value หรือ CSV) ด้วยการนำศักยภาพขององค์กรด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมสร้างประโยชน์แก่ชุมชน สังคม ส่งเสริมการเรียนรู้ สร้างโอกาสการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล โดยมีชุมชนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 70 แห่งทั่วประเทศ
ไม่เพียงการฝึกอบรมเพื่อให้เรียนรู้และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในการเพิ่มศักยภาพทั้งด้านการเกษตรและการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวของชุมชนแล้ว NT ยังได้ร่วมมือกับธนาคารออมสิน เพื่อต่อยอดโครงการ เพราะพันธุ์ดี NT Youth Club ไปสู่แพลตฟอร์มธุรกิจอีคอมเมิร์ซด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายตลาด สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและความยั่งยืนให้กับชุมชน
ขณะเดียวกัน NT ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการสนับสนุนการศึกษาวิถีใหม่ที่ต้องใช้ระบบการเรียนการสอนออนไลน์ ดังนั้น NT จึงจัดทำโครงการมอบ SIM NT Mobile เพื่อใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนออนไลน์ ให้กับเยาวชน โรงเรียน และชุมชน ในโครงการเพราะพันธุ์ดี NT Youth Club ประจำปี 2564 โดยเริ่มส่งมอบไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน จนถึงปัจจุบันนับเป็นอีกแนวทางในการส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียม
NT ยังมอบอุปกรณ์สำหรับการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนออนไลน์ให้กับบุคลากร และนักเรียนของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายเเดน ในการค้นคว้าข้อมูลต่างๆ และยังเป็นการลดช่องว่างทางการศึกษาระหว่างโรงเรียนในเมืองกับพื้นที่ห่างไกล ส่งผลในการพัฒนาระบบการศึกษาของเด็กและเยาวชนต่อไป
นอกจากนี้ NT ยังดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอีกหลายโครงการ อาทิ โครงการเน็ตประชารัฐ การสนับสนุนห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” สุขศาลาพระราชทาน โครงการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (Universal Service Obligation : USO) และโครงการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เป็นต้น
ขณะเดียวกัน NT ก็ยกระดับการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในกระบวนการทำงาน หรือ CSR in Process มากขึ้นเช่นกัน เพื่อให้มีการใช้ทรัพยากรและสินทรัพย์อย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจและผู้มีส่วนได้เสีย อาทิ โครงการ Green NT การจัดซื้อจัดจ้าง (Procurement) การใช้อุปกรณ์ด้าน IT ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ โครงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco Innovation) ทั้งนี้ NT มีการณรงค์ให้เกิดการขับเคลื่อนการดำเนินกิจกรรมสังคมในกระบวนการทำงานอย่างจริงจังทั่วทั้งองค์กร
นอกเหนือจากโครงการที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องแล้ว NT ยังมีบทบาทในการช่วยเหลือสังคมในภาวะวิกฤต เช่น การสนับสนุนนโยบายภาครัฐ ในกิจกรรม“พลังน้ำใจเอ็นที” โดยลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประภัยนํ้าท่วมอย่างต่อเนื่องในพื้นที่หลายจังหวัด อาทิ พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี พิจิตร นครราชสีมา นครศรีธรรมราช รวมถึงกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมในภาวะการแพร่ระบาด ของ โควิด-19 อาทิ ด้วยการสนับสนุนด้านโทรคมนาคม บริการอินเทอร์เน็ต เครื่องคอมพิวเตอร์ ให้กับศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ และโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ เป็นต้น
นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)
‘บ้านปู เน็กซ์’ เปิดตัว ‘ระบบไมโครกริด’ (Microgrid) ผลิต กักเก็บ และจ่ายไฟฟ้าภายในระบบเดี
สร้างคุณค่าให้ทุกชีวิต มอบของใช้จำเป็นสำหรับผู้พิการทางสายตา สู้วิกฤตโควิด-19
บ้านคือจุดเริ่มต้นของชีวิตที่ช่วยเติมเต็มความสุข ให้กับใครหลาย ๆ คน
NT นำนวัตกรรมดิจิทัล ลงพื้นที่ โรงเรียนเรณูนครวิทยานุกูล อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม ในโครงการอเพาะพันธุ์ดี NT Youth Club เกษตรสมัยใหม่ Smart Framing
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น จำกัด จัดกิจกรรม "ชวนน้องรักษ์โลก รักษ์ชีวิต กับความพอเพียง"
บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน)
ตามที่ศูนย์วิจัยเทเลนอร์ได้คาดการณ์ 5 ความก้าวหน้าสำคัญทางเทคโนโลยีของโลก
บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด (DTN) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (มหาชน) จำกัด หรือดีแทค ได้ลงนามสัญญาสินเชื่อระยะยาวอายุ 5 ปี ที่เชื่อมโยงกับ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social, and Governance) เป็นครั้งแรก โดยมีอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรภาคเอกชนระยะข้ามคืนระหว่างธนาคาร THOR (Thai Overnight Repurchase Rate) กับ ธนาคาร มิซูโฮ จำกัด
เงินกู้ระยะยาวที่เชื่อมโยงกับ ESG โดยมีอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง THOR มูลค่า 6 พันล้านบาทนี้ มีการปรับอัตราดอกเบี้ยที่เชื่อมโยงกับคะแนน ESG ของดีแทค ซึ่งเงินกู้นี้ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาตลาดการเงินทั้งในแง่การส่งเสริมการใช้อัตราอ้างอิง THOR ใหม่และเครื่องมือทางการเงินที่เชื่อมโยงกับ ESG ให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น
ธุรกรรมที่ไม่เหมือนใครนี้แสดงถึงหมุดหมายใหม่ในการร่วมส่งเสริมแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ด้วยการใช้ THOR เพื่อปรับปรุงเสถียรภาพของตลาดการเงินควบคู่ไปกับการรับรู้ถึงความสำคัญของด้าน ESG ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
นายนกุล เซห์กัล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการเงิน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมลงนามสัญญาณสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล กับธนาคารมิซูโฮ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจการเงินชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น นี่เป็นโอกาสอันดีสำหรับดีแทคในการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม เราจะยังคงเดินหน้าบูรณาการแนวคิดด้านความยั่งยืนหรือ ESG ในการดำเนินงานของเราในมิติต่างๆ เนื่องจากเราเชื่อว่านี่เป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่จะสร้างผลกระทบในวงกว้างในสังคมไทย และในการสร้างอนาคตที่แข็งแกร่งยั่งยืน อีกทั้งเรามีความยินดีที่ได้ร่วมส่งเสริมอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงใหม่ THOR ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และถือเป็นหมุดหมายสำคัญของพัฒนาการตลาดการเงินไทย”
นาย เคอิ ชิโรตะ ผู้จัดการทั่วไปของ ธนาคาร มิซูโอ จำกัด สาขากรุงเทพ กล่าวว่า “มิซูโฮขอแสดงความยินดีต่อความสำเร็จครั้งแรกของ DTN สำหรับสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับ ESG ที่ใช้ THOR เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง และเราภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้
เราประทับใจในนโยบายการพัฒนาที่ยั่งยืนของดีแทค ตลอดจนความพยายามที่จะนำอัตราอ้างอิง THOR ที่เพิ่งเปิดตัวไปใช้ในธุรกรรมทางการเงินของบริษัท ซึ่งจะกระตุ้นการพัฒนาตลาดการเงินของประเทศไทยในอนาคตให้สอดคล้องกับแนวโน้มของโลก
นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ความเห็นว่า “ธุรกรรมสินเชื่ออ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR และเชื่อมโยงกับคะแนน ESG ที่ ธนาคาร มิซูโฮ จำกัด สาขากรุงเทพ ได้ทำสัญญาร่วมกับ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด แสดงให้เห็นวิสัยทัศน์ของทั้ง 2 หน่วยงานที่มุ่งเน้นความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล รวมถึงความพร้อมของธนาคารในการทำธุรกรรมอ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR ขณะเดียวกันยังเอื้อให้ภาคธุรกิจมีแหล่งเงินทุนเพื่อขับเคลื่อนให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนด้วยต้นทุนที่ลดลง ธปท. จึงขอขอบคุณในความร่วมมือที่ได้ส่งเสริมให้มีเครื่องมือระดมทุนที่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศในระยะยาวทั้งในด้านการสนับสนุนอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง THOR และการร่วมสร้างสมดุลทางด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม”
สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนคือประเด็นสำคัญที่ทุกองค์กรธุรกิจใส่ใจ บริษัท โทรคมนาคม แห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ไม่เพียงแต่มุ่งมั่นพัฒนาในธุรกิจโทรคมนาคมเท่านั้น แต่ยังตระหนักถึงความสำคัญในการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG หรือ Bio Circular Green Economy Model
“ผลไม้สด” ถือเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศ เกษตรกรส่วนใหญ่จึงมุ่งเน้นทำเกษตรเพื่อการส่งออกมากกว่าจำหน่ายภายในประเทศ
ในทุกๆ ปี พนักงานของ ชับบ์ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 12 ประเทศ จะทำกิจกรรมเพื่อสังคมประจำปี ภายใต้ชื่อ ‘Regional Day of Service’