KMITL Business School (KBS) ยกเครื่องหลักสูตรบริหารธุรกิจ โกออนไลน์&โกอินเตอร์ 100%

April 05, 2022 8862

การเกิดขึ้นของวิกฤตโรคระบาดนับเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้การดิสรัปของเทคโนโลยีเกิดขึ้นอย่างชัดเจนมากขึ้น

และปรากฏการณ์นี้เองที่ส่งผลกับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาคการศึกษาต้องเร่งปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงภายในระยะเวลาอันสั้น และที่ผ่านมา สถาบันการศึกษาส่วนใหญ่ต่างมองว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นนี้เป็นโอกาสสำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมวิธีการศึกษา หลักสูตร และทุกองคาพยพให้ก้าวทัน เพื่อไม่ให้ตกรถไฟแห่งโอกาสขบวนนี้

KMITL Business School หรือ KBS หรือ คณะบริหารธุรกิจ แห่ง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. ก็เป็นหนึ่งในภาคการศึกษาไทยที่ปรับเอาแนวคิด “พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส” ไปใช้เป็นการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับเทรนด์การเรียนและความต้องการของผู้เรียนท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดที่ยังอยู่นี้ ด้วยจุดแข็งสองด้าน คือ การสร้างระบบการเรียนออนไลน์ที่เข้มแข็งและการเปิดหลักสูตรนานาชาติที่ตอบโจทย์เทรนด์การเรียนในยุคนี้

โดยในวันนี้ รศ.ดร.สุดาพร สาวม่วง คณบดี คณะบริหารธุรกิจ สจล. หรือ KMITL Business School (KBS) จะได้มาอัปเดตทั้งหลักสูตรใหม่และความท้าทาย ตลอดจนโอกาสที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งนำสู่การปฏิบัติการเรียน “บริหารธุรกิจ” ในมุมใหม่ที่อินเทรนด์และอินเตอร์มากขึ้น

อัปเดตหลักสูตรใหม่แกะกล่อง ปี 2565 @KMITL Business School (KBS)

ในปีการศึกษา 2565 นี้ KBS ได้เปิดตัวหลักสูตรใหม่แกะกล่อง International Online MBA ซึ่งเป็น International Fully Online MBA หรือ หลักสูตร MBA ออนไลน์แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ หลักสูตรแรกในประเทศไทย โดย รศ.ดร.สุดาพร ได้ชี้ให้เห็นถึงจุดเด่นของหลักสูตรนี้ให้ฟังเพิ่มเติมว่า

สำหรับหลักสูตร International Fully Online MBA นี้ นับเป็นการต่อยอดเอาความสำเร็จในการเปิดหลักสูตรนานาชาติ ที่ทางคณะฯได้เปิดสอนในแบบ Onsite และได้รับการยอมรับจากผู้เรียนมาระยะหนึ่งแล้ว International MBA และมาปรับให้เป็นหลักสูตร Online แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เรียนในยุคนี้และยังตอบโจทย์การเรียนยุคใหม่ที่ต้องปรับตามกระแสการดิสรัปเทคโนโลยีและมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อในยุคที่โรคระบาดยังคงอยู่ในตอนนี้

“โดยจุดเด่นของหลักสูตรนี้ที่ทำให้ผู้เรียนให้การตอบรับและสมัครเรียนกันอย่างต่อเนื่อง คือ

  • ระยะเวลาการเรียน ที่จากเดิมต้องเรียนถึง 2 ปี ก็ปรับลงเหลือปีครึ่งเท่านั้น
  • ค่าเล่าเรียน ลดลงกว่าการเรียนหลักสูตร MBA ในแบบ Onsite กว่าครึ่ง
  • เรียนออนไลน์จากที่ไหนก็ได้ในโลก ทำให้มีนักศึกษาต่างประเทศสมัครเข้ามาเรียน บรรยากาศในการเรียนจึงมีความเป็น International สูง
  • ทำการเรียนการสอนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ 100 % ทั้งสอนสดและสามารถเรียนออนไลน์ย้อนหลังได้
  • สะสมหน่วยกิตในระบบ Credit Bank ได้ หลักสูตรนี้เปิดโอกาสให้นักศึกษาปริญญาตรีสามารถเรียนออนไลน์ได้ถึง 1 ใน 3 ของจำนวนหน่วยกิตทั้งหมดในหลักสูตร แล้วนำรายวิชาที่เรียนมาเทียบโอนเมื่อมีความพร้อมที่จะเรียนในหลักสูตรปริญญาโทได้
  • Plug-in กับหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ (ป.ตรี) ได้ เป็นทางเลือกให้นักศึกษาปริญญาตรีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่เลือกเรียนในหลักสูตร International Fully Online MBA ต่อ เพื่อสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท MBA ได้ โดยใช้เวลาเรียนเพียง 5 ปี หรือ 4+1 ปี เท่านั้น และในขณะนี้กำลังขยายไปยังคณะอื่นๆ ด้วย

ชวนมาเปิดประสบการณ์การเรียนออนไลน์แบบไร้ขีดจำกัดกับทุกหลักสูตรที่ KBS

การเปิดตัวหลักสูตร MBA ที่เป็นหลักสูตรใหม่ในปี 2565 ของ KBS ปีนี้ ว่าเป็นหลักสูตร International Fully Online MBA หลักสูตรแรกของประเทศ เป็นเหมือนการประกาศความพร้อมของ KBS และ สจล. ด้วยว่าที่นี่มีความพร้อมในทุกองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับหลักสูตรออนไลน์ โดย รศ.ดร.สุดาพร ได้ขยายความ “ความพร้อม” นี้ให้ฟังว่า

“ทุกครั้งที่มีใครมาสัมภาษณ์ อาจารย์ก็ภูมิใจเสมอที่จะบอกว่า ทั้งวิกฤตโควิดที่เกิดขึ้นไปจนถึงการดิสรัปของเทคโนโลยี ที่มีส่วนทำให้สถาบันการศึกษาทุกแห่งต้องปรับตัวครั้งใหญ่นี้ คณะบริหารธุรกิจ สจล. ไม่ได้มองว่านี่เป็นวิกฤตหรือเหตุการณ์เลวร้ายเลย แต่เรากลับมองว่านี่คือโอกาสครั้งใหญ่ที่จะประกาศให้รู้ว่าเรามีความพร้อมมากในการทำการเรียนการสอนออนไลน์ ซึ่งบุคลากรผู้สอนของเรามีความคุ้นเคยและมีทักษะการสอนออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ มาตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤตโควิดเสียอีก”

“เพราะส่วนหนึ่งเราได้ทำการเรียนการสอนในหลักสูตรนานาชาติมานานแล้ว ทำให้มีนักศึกษาจากหลายชาติมาลงเรียนในหลักสูตร MBA คณาจารย์ของเราจึงคุ้นเคยดีกับการสอนออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ยกตัวอย่าง ประเทศจีน ที่ต้องสอนผ่านแพลตฟอร์ม DingTalk หรือ VooV เพราะประเทศจีนจะไม่อนุญาตให้ใช้ Zoom อาจารย์ที่คณะฯ จึงรู้จักการใช้เครื่องมือเฉพาะของแต่ละแพลตฟอร์มที่ใช้สอนออนไลน์เป็นอย่างดี”

 

นอกจากนั้น ในส่วนของหลักสูตร รศ.ดร.สุดาพร ยังเน้นย้ำว่าได้มีการปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับเทรนด์ Digital Marketing เป็นหลัก และให้ความมั่นใจว่า ประสิทธิภาพของการเรียนออนไลน์ไม่ได้ลดน้อยไปกว่าการเรียนในหลักสูตร Onsite หรือการเรียนแบบ Face to Face เลย ด้วยการวางกลยุทธ์การสอนของคณาจารย์ที่มีความเข้าใจวิธีการสอนออนไลน์อย่างแท้จริง

“แน่นอนว่าในการเรียนการสอนแบบ Face to Face นักศึกษาก็ต้องเรียนทั้งในแบบ Project-based และ Problem-based ซึ่งอาจารย์ผู้สอนมีหน้าที่ชี้แนะ ให้ความรู้ ให้คำปรึกษา ซึ่งในการเรียนการสอนแบบออนไลน์ก็ทำได้เช่นกัน โดยกำหนดให้มีการทำ Capstone Project หรือการประมวลความรู้ทั้งหมดในการเรียนส่งด้วย ซึ่งที่ผ่านมา เราให้สิทธิ์นักศึกษาที่จะเลือกมาเรียนหรือมาสอบในแบบออนไลน์ หรือ Face to Face ที่คณะก็ได้ ทางปฏิบัติเช่นนี้จึงได้ก่อร่างเป็นวัฒนธรรมการเรียนแบบใหม่ ที่มีแพลตฟอร์มออนไลน์ KBS Online Platform เป็นฐานที่มั่นคง ทำให้หลักสูตรออนไลน์ที่นี่มีประสิทธิภาพไม่ต่างกับหลักสูตรแบบ Onsite เลย”

สัมผัสมิติใหม่ของ หลักสูตรบริหารธุรกิจ ที่ตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรมได้แบบตรงใจ

ประเด็นต่อมา ที่ รศ.ดร.สุดาพร บอกเล่าให้ฟังอย่างเห็นภาพ คือ เอกลักษณ์ของ บัณฑิตที่จบจาก KBS ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมในยุคนี้ได้อย่างตรงจุด รวมถึงยังมีหลักสูตรที่บ่มเพาะความเป็นผู้ประกอบการ ที่ตรงใจผู้เรียนรุ่นใหม่ใน พ.ศ. นี้ด้วย ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการวางหลักสูตรและสาขาวิชาที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานยุคใหม่นั่นเอง

“ในส่วนของ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต เราเปิดสอนใน 4 หลักสูตร คือ บริหารธุรกิจบัณฑิต บริหารธุรกิจบัณฑิตนานาชาติ เศรษฐศาสตร์ธุรกิจและการจัดการ และหลักสูตรนานาชาติบริหารธุรกิจบัณฑิตการเป็นผู้ประกอบการระดับโลก โดยทั้ง 4 หลักสูตร ในปีการศึกษานี้มีเด็กสมัครเข้ามาเรียนในหลักสูตรเกินในอัตราที่สูงมาก นี่เป็นสิ่งยืนยันว่าหลักสูตรของเราเป็นที่สนใจของผู้เรียน โดยเฉพาะหลักสูตรนานาชาติบริหารธุรกิจบัณฑิตการเป็นผู้ประกอบการระดับโลก ซึ่งมีผู้สมัครเรียนเกินโควต้าที่รับและเต็มเร็วตลอด เพราะหนึ่งในทักษะสำคัญที่เป็นเทรนด์ในยุคนี้ คือ ความเป็นผู้ประกอบการ หรือ Entrepreneurship ซึ่งที่ KBS เราให้ความสำคัญกับการสร้างบัณฑิตบริหารธุรกิจที่มีทักษะในด้านนี้”

“โดยล่าสุด เราได้เตรียมความพร้อม สร้าง Infrastructure เป็นอาคารเรียนใหม่ที่พร้อมเปิดใช้ในการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความเป็นผู้ประกอบการ Startup ให้กับนศ. เพราะฉะนั้นกล่าวได้ว่าในตอนนี้ทางคณะฯดีไซน์ให้ทุกอย่างเข้าสู่โหมดของการให้ นศ.ได้รับการฝึกปฏิบัติเพื่อการเป็นผู้ประกอบการที่ดี ประสบความสำเร็จ มี Entrepreneur Spirit ซึ่งเกิดขึ้นได้จริงจากการวางรายวิชาในทุกหลักสูตร ให้ช่วยบ่มเพาะ นักศึกษา ให้ได้คิด วิเคราะห์ ทำ แล้วต่อยอดองค์ความรู้นั้นไปสู่เชิงพาณิชย์ได้”

“และด้วยกลยุทธ์การวางหลักสูตรนี้เอง ทำให้ล่าสุด องค์กรระดับโลกอย่าง WURI (World University Ranking International) มอบรางวัลให้ KBS เป็นสถาบันการศึกษาอันดับที่ 35 ของโลก ที่มีความโดดเด่นในแง่ของ Entrepreneur Spirit นั่นหมายความว่า การบริหารการจัดการเรียนการสอนทุกรายวิชาของเราสามารถบ่มเพาะให้นักศึกษามีดีเอ็นเอของความเป็นผู้ประกอบการ กระตุ้นให้ผู้เรียนมี Passion ที่จะนำไปต่อยอดเป็นเจ้าของกิจการได้จริง”

ส่วนแนวทางที่ KBS ใช้ในการวางเนื้อหาหลักสูตรให้ตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรมยุคใหม่นี้ ก็มีจุดแข็งอยู่ที่การใช้เทคนิค Skill mapping นั่นเอง

“ที่ผ่านมา ทางคณะฯได้หยิบเอาเทคนิค Skill Mapping หรือการจับคู่เชื่อมโยงทักษะกับวิชาชีพของคนรุ่นใหม่ ยกตัวอย่าง ใน 1 หลักสูตร คุณต้องเรียนทั้งหมด 90 วิชา เราก็จะทำ Skill mapping ให้ผู้เรียนได้เห็นเลยว่าในแต่ละวิชาได้เรียนรู้ทักษะอะไร แล้วเมื่อเรียนจบโมดูลแล้วคุณจะสามารถนำไปใช้ในการทำงาน ไปผลิตหรือประกอบอาชีพอะไรได้บ้าง โดยผลจากการ Mapping เราก็พบว่า ทักษะในรายวิชาที่สอนมีความสอดคล้องทั้งกับความต้องการของผู้เรียนและภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ”

“โดยจากการสำรวจความพึงพอใจของภาคอุตสาหกรรม ก็ให้การตอบรับว่า บัณฑิตจาก KBS ที่ได้ไปทำงานในองค์กร มีจุดแข็งอยู่ที่ความขยัน อดทน มีความรู้จริงทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ นี่เป็นเพราะส่วนหนึ่งเราก่อกำเนิดมาจากสถาบันการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดีเอ็นเอด้านความ ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน สู้งาน จึงโดดเด่น และถ่ายทอดมายัง คณะบริหารธุรกิจ แม้จะเป็นคณะที่เรียนรู้ในด้านสังคมศาสตร์ก็ตาม”

“นอกจากนั้น ที่คณะฯ ยังมีการเปิด ศูนย์บริการวิชาการทางด้านบริหารธุรกิจแก่สังคม ซึ่งได้เปิดสอนในหลักสูตรอบรมระยะสั้น หรือ Short course training เพื่อให้ศิษย์เก่าหรือผู้ที่สนใจมา Reskill Upskill ทักษะที่จำเป็นในการทำงานยุคนี้ รวมถึงการเปิดหลักสูตรอบรมผู้บริหารระดับสูง ที่ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทำให้เราวิทยากรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาสอน เช่นหลักสูตร Smart Supervisor ที่ร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กระทรวงกลาโหม หรือร่วมมือกับสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ จนเกิดหลักสูตรนักบริหารคิงบริดจ์ระดับสูง ที่ทำร่วมกับ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ ด้วย”

แชร์วิสัยทัศน์ขับเคลื่อน KBS และคุณสมบัติที่บัณฑิตบริหารธุรกิจพันธุ์ใหม่ต้องมี

ในฐานะที่เป็นทั้ง คณบดีคณะบริหารธุรกิจ สจล. หรือ KMITL Business School (KBS) รศ.ดร.สุดาพร ได้กล่าวถึง Mission หรือภารกิจสำคัญ ที่ทางคณะฯจะขับเคลื่อนไปถึงให้ได้ เพื่อสร้างมาตรฐานให้หลักสูตรบริหารธุรกิจของประเทศไทยให้ก้าวหน้าทัดเทียมกับนานาประเทศ นั่นคือ

"ตั้งแต่ได้เข้ามารับตำแหน่งคณบดี ก็ได้วางโรดแมปเอาไว้ว่า ปีที่ 3-4 ของการอยู่ในตำแหน่งนี้ จะมุ่งเน้นในการสร้างความเป็น International Outlook ทุกอย่างเกียร์อัพหรือขับเคลื่อนเข้าสู่ความเป็นสากล ความเป็นนานาชาติ ทั้งการออกหลักสูตรใหม่ ทั้งแนวทางการรับบุคลากรทั้งอาจารย์ใหม่ที่เข้ามาจะต้องจบจากสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ และบุคลากรสายสนับสนุนก็ต้องสื่อสารภาษาต่างประเทศได้ ตลอดจนมีการทำ MOU กับมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ หรือมหาวิทยาลัยระดับท็อปของโลกในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องต่าง ๆ และสร้างหลักสูตรร่วมกันนั่นคือ หลักสูตรนักบริหารคิงส์บริดจ์ และยังมีการทำงานวิจัยตีพิมพ์ในระดับนานาชาติ ทุกภารกิจที่พูดมาล้วนเป็นบทพิสูจน์ของการปรับทุกองคาพยพของคณะฯให้เข้าสู่ความเป็น International Outlook นั่นเอง”

“นอกจากนั้น อีกหนึ่งภารกิจที่ยังโกออนอยู่ คือการดำเนินการเพื่อให้ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน AACSB ซึ่งตอนนี้เราเข้าเป็นสมาชิกแล้ว และอยู่ในช่วงรอรับการประเมิน ที่เราคาดว่าจะใช้เวลาภายใน 3 ปีต่อจากนี้”

“ส่วนการสร้างมาตรฐานบัณฑิตของ KBS ยังขอย้ำว่า บัณฑิตบริหารธุรกิจยุคนี้จำเป็นต้องมีทักษะดิจิทัล หรือ Digital Literacy ติดตัวอย่างรอบด้าน เพราะไม่ว่าคุณจะจบไปทำงานบริษัท หรือมีกิจการของตนเอง ทักษะดิจิทัลล้วนจำเป็นทั้งสิ้น” “และทักษะอีกด้านที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถฝ่าทุกวิกฤตไปได้นั่นคือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือ Lifelong Learning ยกตัวอย่าง แต่ก่อน เราเรียนเรื่องการตลาด สิ่งที่ต้องรู้และเข้าใจให้แจ่มแจ้งคือ หลัก 4P Product, Price, Place, Promotion แค่นั้น แต่มาในยุคนี้ เราต้องหาความรู้ใน P ตัวอื่น เช่น P ที่หมายถึง Process กระบวนการหรือกลยุทธ์การตลาดที่จะทำให้สินค้าบริการเป็นที่สนใจ หรือ P อาจหมายถึง Physical Evidence ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเห็นกว้าง ๆ ทั่วไปที่จะเชิญชวนให้คนสนใจผลิตภัณฑ์ของเรา หรือ P อาจหมายถึง Productivity and Quality ทำยังไงให้ผลิตภัณฑ์ของเรา ซึ่งก็มีคู่แข่งในตลาดเยอะ ขายได้ ในจุดนี้ก็ต้องสู้ด้วยคุณภาพที่เมื่อลูกค้าได้ใช้แล้ว บอกต่อกันปากต่อปาก เป็นต้น”

ติดตามเสวนา หลักสูตร 4+1 ที่ KBS ทำร่วมกับวิศวฯ ได้ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 ได้ตามช่องทางออนไลน์ 


เรื่อง: กองบรรณาธิการ
ภาพ: จิรภัทร หอวัฒนาพาณิชย์

Rate this item
(0 votes)
Last modified on Friday, 08 July 2022 07:04
X

Right Click

No right click