สู้วิกฤติพลังงานพุ่ง ปิโตรเคมีขาลง เร่งธุรกิจกรีนตอบเมกะเทรนด์โลก คว้าโอกาสเศรษฐกิจฟื้น มั่นใจเสถียรภาพการเงินมั่นคง

ยอดขายยังโต สะดุดราคาพลังงานฉุดผลประกอบการไตรมาส 4 เตรียมปรับแผนการผลิตสู้ พร้อมชู COTTO เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

ศึกษาเทคโนโลยีดักจับและใช้ประโยชน์คาร์บอน จากการผลิตปูนซีเมนต์ในไทยและประเทศในภูมิภาคอาเซียน มุ่งเป้าหมาย Net Zero Cement & Concrete ภายในปี 2050

ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี นำโดย คุณวชิระชัย คูนำวัฒนา (Head of Service Solution Business) ร่วมลงนามเพื่อลงทุนกับ Mr.Christian Weeks, Chief Executive Officer of enVerid Systems, Inc. สตาร์ทอัพชั้นนำสัญชาติอเมริกัน ผู้ให้บริการโซลูชันดูแลคุณภาพอากาศภายในอาคารอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายธุรกิจในการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและคุณภาพอากาศภายในอาคารต่างๆ ทั่วโลก

โดยการลงทุนระหว่างธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ในนามบริษัท NEXTER LIVING กับ enVerid Systems, Inc. ในครั้งนี้ ถือเป็นการลงทุนกับสตาร์ทอัพภายใต้แนวคิด Open Innovation ที่เชื่อว่าการร่วมมือกับสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของ Business Model เพื่อขยายธุรกิจได้เร็ว คล่องตัว และมีศักยภาพในการเติบโตได้ดีกว่า ซึ่งปัจจุบัน enVerid Systems, Inc. ถือเป็นสตาร์ทอัพที่เป็น Game Changer ของวงการระบบปรับอากาศ HVAC ที่น่าจับตามอง หลังจากที่คว้ารางวัล ASHRAE Innovation award product of the year ในปี 2019 ที่ผ่านมาได้

บริษัท เน็กซเตอร์ ลีฟวิ่ง จำกัด (NEXTER LIVING) เป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้น เพื่อผลักดันธุรกิจภายในเอสซีจี ให้สามารถพัฒนาธุรกิจใหม่ ในรูปแบบ Internal Start up ได้ โดยปัจจุบันมีธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จภายใต้ NEXTER LIVING ได้แก่ SCG Smart Building Solution ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสำหรับกลุ่มระบบงานอาคารทำหน้าที่เป็น System Integrator และ Solution Provider สำหรับตลาดอาคารพาณิชย์ นำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของอาคารแต่ละประเภท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอาคารด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย โดยเน้นเทคโนโลยีเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานและเพิ่มสุขภาวะที่ดีของผู้อยู่อาศัยภายในอาคาร

เอสซีจี เปิดตัวโซลูชันตอบโจทย์ความต้องการในโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ด้วยนวัตกรรมหลากหลาย รวมถึง “สมาร์ทลิฟวิ่ง” นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยและชีวิตสะดวก สุขภาพดี และปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม

เมื่อไม่นานนี้ เอสซีจีจัดงาน SCG: The Next Chapter Exposition ที่สำนักงานใหญ่ บางซื่อ มีเหล่าวิทยากรและผู้บริหารหลากเจนเนอเรชัน จากหลายธุรกิจมาร่วมอัปเดตเทรนด์นวัตกรรมในอนาคต บนเวที TALK ON STAGE คุย - คิด กับคนจริง - ครีเอท โซลูชันแห่งอนาคต

หนึ่งในหัวข้อที่น่าสนใจ คือ มารู้จัก SMART Living ธุรกิจเพื่อชีวิตอนาคต ซึ่งมี 2 ผู้บริหารอย่าง วชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Service Solution Business ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และ อภิรัตน์ หวานชะเอม Chief Digital Officer ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง มาร่วมแชร์ว่าสมาร์ทลิฟวิ่ง (Smart Living Solutions) ช่วยให้ชีวิตผู้คนดีขึ้นได้อย่างไร

วชิระชัย กล่าวว่า สิ่งแรกที่สมาร์ทลิฟวิ่งตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนที่เปลี่ยนไป คือ “อากาศ” โดยเฉพาะในยุคโควิด 19 ซึ่งมีการแพร่เชื้อไวรัสผ่านอากาศที่อยู่รอบตัวและสูดหายใจกันทุกวัน เอสซีจีจึงคิดค้นนวัตกรรมฆ่าเชื้อในอากาศที่เรียกว่า SCG Bi-ion และได้ติดตั้งในหลายสถานที่สำคัญ เช่น ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ฯ ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุม APEC 2022 Thailand ศูนย์การค้า Terminal 21 Pattaya เพื่อคุณภาพของอากาศภายในอาคาร

SCG Bi-ion หรือระบบไอออนกำจัดเชื้อโรคในอากาศของเอสซีจี มีหลักการทำงานด้วยการปล่อยอนุภาคประจุบวกและลบ ที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคต่าง ๆ ในอากาศ เช่น เชื้อไวรัสรวมถึงตระกูลโคโรนาได้สูงสุดถึง 99%* และแบคทีเรียในอากาศ รวมถึงช่วยลดฝุ่น PM10-PM2.5 โดยอนุภาคไอออนนี้มีอยู่ตามธรรมชาติ จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อคนและสัตว์เลี้ยงขณะเปิดใช้งาน และมีการกำจัดเชื้อโรคแบบ Proactive ทันทีที่เปิดใช้เครื่องปรับอากาศ ทำให้มั่นใจในคุณภาพอากาศที่สะอาดปลอดภัยยิ่งกว่า (*ผลการทดสอบจากห้องปฏิบัติการ โดย Innovative Bioanalysis, Inc. ในสหรัฐฯ เมื่อช่วงธันวาคม 2564- กุมภาพันธ์ 2565 ด้วยไวรัสโคโรนา SARS-CoV-2 สายพันธุ์ Omicron ผลทดสอบพบว่า สามารถลดปริมาณไวรัสลงสูงถึง 99.945% เมื่อเปิดใช้งานไป 90 นาที)

นอกจากนี้ วชิระชัย กล่าวถึงนวัตกรรม SCG HVAC Air Scrubber ที่ช่วยฟอกอากาศในอาคารและประหยัดพลังงานสูงถึง 30% เมื่อเทียบกับระบบปรับอากาศของอาคารแบบทั่วไป

“ถามว่าประหยัดพลังงาน 30% เยอะขนาดไหน เท่าที่คำนวณมา เราลดการปล่อยคาร์บอนได้ปีละ 530 ตัน หรือเทียบเท่าต้นไม้ 325,000 ต้น”

สำหรับ SCG HVAC Air Scrubber เป็นนวัตกรรมบำบัดอากาศเสียที่ลดภาระการทำความเย็นของระบบปรับอากาศ ช่วยให้คนที่อาศัยอยู่ในอาคารมีสุขภาวะที่ดี พร้อมลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมไปถึง ลดมลพิษในอากาศ ด้วยเทคโนโลยีดูดซับสารพิษกลุ่มก๊าซได้มากกว่า 30 ชนิด ซึ่งระบบปรับอากาศแบบทั่วไปใช้การระบายอากาศอย่างเดียว และยังลดต้นทุนของระบบปรับและระบายอากาศลงได้อีกจำนวนมาก อีกทั้งช่วยให้อาคารได้คะแนนมาตรฐานอาคารสีเขียว (LEED Certified) และมาตรฐานอาคารสุขภาวะ (WELL Certified)

นอกเหนือจากโซลูชันด้านคุณภาพอากาศแล้ว นวัตกรรมเกี่ยวกับสุขภาพและความปลอดภัยก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน วชิระชัยได้สาธิตอุปกรณ์คล้องคอที่เรียกว่า DoCare หรือโซลูชันเฝ้าระวังสุขภาพและความปลอดภัยของผู้สวมใส่แบบเรียลไทม์ เช่น หากให้ผู้สูงอายุสวมใส่และเกิดหกล้มหรือรู้สึกไม่ค่อยดี สามารถกดปุ่มขอความช่วยเหลือ ซึ่งจะต่อสายไปโอเปอเรเตอร์ให้เรียกรถพยาบาลมารับได้ทันที

ทั้งนี้ DoCare ใช้เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) และ Digital Platform ที่เชื่อมต่อบ้านกับโรงพยาบาล ช่วยให้การดูแลสุขภาพและความปลอดภัยทำได้ที่บ้านง่ายแค่ปลายนิ้ว ระบบเก็บข้อมูลสุขภาพอัตโนมัติส่งตรงถึงโรงพยาบาล เช่น ความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด ระดับออกซิเจนในเลือด อุณหภูมิร่างกาย น้ำหนักตัว จึงสามารถติดตามอาการและปรึกษาแพทย์พยาบาลได้แบบเรียลไทม์ พร้อมระบบขอความช่วยเหลือและแจ้งเตือนทันทีเมื่อเกิดเหตุผิดปกติ เช่น หกล้ม (Fall Detection)

“นวัตกรรมที่พูดไปทั้ง 3 อย่างนี้ใช้งานจริงแล้วนะครับ โดยเฉพาะ DoCare ใช้ช่วยคนเกินกว่า 100 เคสไปแล้ว” วชิระชัยเผย

ขณะที่อภิรัตน์ กล่าวถึงสมาร์ทลิฟวิ่งในมุมมองของตนว่า คำว่า สมาร์ท ต้องประกอบด้วย 3 อย่าง ได้แก่ เทคโนโลยีที่ชาญฉลาดดูแลชีวิตคนให้ดีขึ้นได้ เทคโนโลยีที่ให้ทุกคน รวมถึงผู้พิการและผู้สูงอายุเข้าถึงได้ และเทคโนโลยีที่ใช้งานง่าย มีหน้าตาเป็นเอกลักษณ์สื่อถึงความเป็นไทย

จากนั้น อภิรัตน์ได้โชว์นวัตกรรม เครื่องคิดเลขพูดได้ (ONE Smart Calculator)” ที่คิดผลลัพธ์ได้ทันใจ ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้การคำนวณเป็นเรื่องง่ายไม่ซับซ้อน ใช้งานได้ทุกคนและทุกที่ ซึ่งถือว่ามีคุณสมบัติสมาร์ทครบทั้ง 3 ข้อที่กล่าวไป

นวัตกรรมเครื่องคิดเลขพูดได้ สั่งการด้วยเสียง ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ไขความซับซ้อนและลดเวลาในการหาคำตอบ เพียงแค่พูดก็จะทราบคำตอบทันทีผ่านระบบโต้ตอบที่เป็นภาษาไทย ในรูปแบบออฟไลน์ ช่วยเพิ่มโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มผู้พิการทางสายตา ผู้ที่อ่านและเขียนหนังสือไม่ได้ โดยสามารถหาผลลัพธ์ของตัวเลขได้ตั้งแต่ บวก ลบ คูณ หาร ไปจนถึงระดับการถอดสมการ ซึ่งเทคโนโลยีสั่งการด้วยเสียงยังสามารถนำไปใช้กับเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อทำให้สิ่งของเหล่านั้นสื่อสารและโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้

นอกจากนั้น อภิรัตน์ ยังกล่าวถึง ก๊อกน้ำพูดได้ (ONE Smart Faucet)” ซึ่งเป็นก๊อกน้ำระบบสั่งการด้วยเสียงช่วยให้ผู้ใช้งานสั่งเปิด-ปิดควบคุมการใช้น้ำได้สะดวก สร้างจิตสำนึกร่วมกันประหยัดน้ำ ขณะเดียวกันยังเป็นมิตรต่อผู้พิการทางสายตา และช่วยลดความเสี่ยงต่อการสัมผัสจุดร่วมที่มักปะปนไปด้วยเชื้อโรค

“Next Chapter ของเอสซีจี คือการที่เราอยากจะดูแลชีวิตลูกค้าให้มีความสุข เราเคยดูแลมาอย่างดีในเรื่องที่อยู่อาศัย ในอนาคตเราอยากดูแลชีวิตทั้งชีวิตเลย ไม่ใช่เฉพาะที่อยู่อาศัย” อภิรัตน์กล่าว “เราจะเริ่มจากการออกแบบก่อน ต้องเข้าใจชีวิตคน ทำให้ใช้ง่าย เมื่อเข้าสู่ยุค IoT เราก็อยากดูแลในเรื่องสุขภาพ สมาร์ทลิฟวิ่ง และสมาร์ทซิตี้ด้วย”

รับชม “TALK ON STAGE: มารู้จัก SMART LIVING ธุรกิจเพื่อชีวิตอนาคต” ย้อนหลังได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=oVuE2AQzveU และสามารถติดตามนวัตกรรมและข่าวสารอื่นๆ ของเอสซีจีได้ที่ https://www.scg.com/esg/ https://scgnewschannel.com /Facebook: scgnewschannel / Twitter: @scgnewschannel หรือ Line@: @scgnewschannel

X

Right Click

No right click