

นายอนุกูล เย็นใจ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยนายกฤษฎา กิตติพรไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์ขยายงานการรับประกันภัยตะกาฟุล มอบสัญญาตะกาฟุลเดินทางเพื่อฮัจย์ ให้แก่ผู้ได้รับรางวัลแพ็คเกจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี 2566 จำนวน 12 รางวัล ความคุ้มครองทั้งสิ้นสูงสุดรวม 12 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์นี้ขยายความคุ้มครอง ดูแลผู้แสวงบุญระหว่างการเดินทางตลอดจนภายหลังจากเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยอีก 7 วัน พร้อมร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีจับสลากบัญชีเงินฝากอัลฮัจย์ ประจำปี 2566 และเปิดตัวผลิตภัณฑ์เงินรับฝากอัลฮัจย์และอุมเราะห์ จัดขึ้นโดยธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โดยมี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีฯ นอกจากนี้ ภายในงานทิพยตะกาฟุลได้ร่วมออกบูธเพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ตะกาฟุลที่ถูกต้องตามหลักศาสนา ด้วยระบบ รีตะกาฟุล (ประกันภัยต่อระบบอิสลามปราศจากดอกเบี้ย) งานดังกล่าวจัดขึ้น ณ โรงแรม อัล มิ รอซ รามคำแหง กรุงเทพฯ
นายชลัช รัตนบุญนิธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) รับรางวัลเกียรติคุณ Sustainability Disclosure Award 2023 ซึ่งเป็นรางวัลระดับสูงสุดให้แก่ EXIM BANK ในงานประกาศผลรางวัลการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืน (Sustainability Disclosure Award) ประจำปี 2566 จากนายวรณัฐ เพียรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันไทยพัฒน์ ซึ่งมอบให้แก่องค์กรสมาชิกเครือข่ายการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Sustainability Disclosure Community) ที่ดำเนินการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนต่อสาธารณชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง ครอบคลุมการดำเนินงานทุกมิติทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance : ESG) เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่สาธารณชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง นำไปสู่การยกระดับการเปิดเผยข้อมูลและการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนในระยะยาว รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมในการตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2566
แม้ Thailand Rice Fest 2023 จะจบลงแล้ว แต่งานนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นก้าวสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้ถึงความหลากหลายของสายพันธุ์ข้าวไทยและคุณค่าทั้งในแง่โภชนาการ รสชาติ และโอกาสที่ข้าวไทยจะไปไกลได้มากกว่าที่คิด สะท้อนให้เห็นจากศักยภาพของแบรนด์คนไทยที่นำข้าวมาต่อยอดสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในงานที่ผ่านมา ปลุกกระแสนิยมวัตถุดิบท้องถิ่นให้คึกคัก
A bowl of pasta เพิ่มลูกเล่นใหม่ให้พาสต้าด้วยข้าวไทย
ร้านพาสต้าเส้นสด สไตล์ Homemade ที่นำข้าวไทยสายพันธุ์พิเศษมาทำเป็นเส้นพาสต้าให้เลือกถึง 4 แบบ ได้แก่ ข้าวกล้องสีชมพู ข้าวเหนียวงอก ข้าวเม่าอ่อน และข้าวลืมผัว ซึ่งข้าวแต่ละชนิดต่างให้กลิ่นหอม เนื้อสัมผัส และสีสวยโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถเลือกกินคู่กับซอสสูตรต่าง ๆ ได้ตามความชอบ โดยทางร้านจะมีเมนูซอสฮังเลสูตรพิเศษเป็นพระเอกในงาน ด้วยรสชาติเข้มข้นของแกงฮังเล นำมาผสมผสานเข้ากับความเป็นอิตาลี ทำให้เกิดเป็นความลงตัวที่ถูกปากคนไทยอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ยังมีเมนูที่น่าสนใจจากข้าวไทยอื่น ๆ ทั้งลาซานญ่า และรีซอตโต้จากข้าวดอยที่น้อยคนจะรู้จัก
ไสใส ร้านขนมหวานจากวัตถุดิบท้องถิ่น
จุดเริ่มต้นของร้านไสใสมาจาก Hatch แบรนด์ข้าวท้องถิ่นที่อยากให้คนรู้จักข้าวมากขึ้น และอยากรักษาวิถีการปลูกข้าวแบบยั่งยืนไว้ นำมาสู่การต่อยอดเป็นเมนูขนมหวานต่าง ๆ อย่างน้ำแข็งไส และเบเกอรี่ ที่ชูคุณค่าของวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างมีลูกเล่น ไม่ว่าจะเป็นรสหวานหลากหลายจากธรรมชาติ เช่น น้ำผึ้งโพรง ดอกไม้ป่า น้ำตาลดอกจาก น้ำตาลดอกเหนา หรือรสเค็มที่ได้มาจากเคย เป็นต้น รวมไปถึงการนำพันธุ์ข้าวท้องถิ่นมาทำเป็นวาฟเฟิล เค้ก และผงแป้งสำเร็จรูปที่ทุกคนสามารถนำไปทำเป็นแพนเค้กหรือเค้กกินเองที่บ้านได้ง่าย ๆ เพื่อผลักดันให้วัตถุดิบท้องถิ่นเป็นที่รู้จักและเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้คนได้มากขึ้นผ่านขนมที่คุ้นเคย

Na Ha Thai สกินแคร์แบรนด์ไทยด้วยพลังจากข้าว
แบรนด์สกินแคร์ไทยที่นำข้าวมาต่อยอดผลิตภัณฑ์ เนื่องจากต้องการช่วยเหลือวิสาหกิจชุมชนแปลงนาสะอาด จังหวัดกำแพงเพชรในช่วงที่ราคาข้าวตกต่ำ จึงนำข้าวไปวิจัยและพบว่ามีข้าว 2 ชนิดที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง คือ ข้าวทับทิมชุมแพ และข้าวมะลิสีนิลสุรินทร์ จนนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าจากน้ำมันรำข้าวเฉดสีสกัดที่มีประสิทธิภาพโดดเด่นในเรื่องของความชุ่มชื่น และลดความเสียหายของผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดด
นอกจากนี้ กากข้าวที่เหลือจากกระบวนการผลิตสกินแคร์ ยังถูกนำมาใช้หมักเป็นเครื่องดื่มคอมบูชาหรือชาหมักที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ภายใต้ชื่อแบรนด์ Marta’s และสุดท้ายนำของเหลือจากการหมักชามาทำเป็นสครับขัดผิวให้เป็นแบรนด์ Zero Waste อย่างแท้จริง
Rico น้ำข้าวหมัก เครื่องดื่มซูซ่าไร้แอลกอฮอล์ตอบโจทย์คนยุคใหม่
แบรนด์ Rico เกิดจากการทำโครงการหน้าแปลงใหญ่ที่สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกข้าวพันธุ์ กข43 และรับข้าวมาเพื่อพัฒนาต่อเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ ข้าวสารในถุงสุญญากาศ ข้าวโจ๊กเพื่อผู้สูงอายุ และล่าสุดคือเครื่องดื่มน้ำข้าวหมัก รสพีช ตอบโจทย์กลุ่มตลาดรักสุขภาพ ผู้ที่แพ้แอลกอฮอล์ และมุสลิม หรือจะนำไปผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็สามารถทำได้ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและผู้ใหญ่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์จากข้าวเพิ่มขึ้น และยังถือเป็นเครื่องดื่ม GI ที่มีดัชนีน้ำตาลปานกลางถึงต่ำ ซึ่งผู้ป่วยเบาหวานสามารถทานได้เนื่องจากไม่ได้มีการเติมน้ำตาลเพิ่ม

Lemon Farm Café เปลี่ยนไอศกรีมให้ดีต่อสุขภาพด้วยข้าวกล้องเขียวน้ำนมสุดหายาก
Lemon Farm เป็นธุรกิจค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าออร์แกนิค ทั้งผัก ผลไม้ ข้าวสาร อาหารแห้ง และสินค้าอื่น ๆ จากชุมชน พร้อมนำวัตถุดิบที่มีมาต่อยอดเป็นร้าน Lemon Farm Café ที่รังสรรค์เมนูแสนอร่อยพร้อมทานแถมยังดีต่อสุขภาพทั้งคนปลูกและคนกิน โดยในงาน Thailand Rice Fest 2023 ที่ผ่านมา ได้มีการนำข้าวหายากเฉพาะฤดูอย่างข้าวกล้องเขียวน้ำนมมาทำเป็นเมนูพิเศษ อาทิ ปลานิลกินข้าวยำสมุนไพร, แรปสุดเฮลตี้จากข้าวโอ๊ตและข้าวกล้องเขียว, น้ำนมข้าวเขียว และไอศกรีมข้าวกล้องเขียวน้ำนมกินคู่กับขนมปังจากข้าว ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูง น้ำตาลน้อยไม่ทำร้ายสุขภาพ และมีรสชาติอร่อยหอมมันเฉพาะตัวจากข้าว
ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างไม่กี่แบรนด์ที่นำความสร้างสรรค์มาเชื่อมโยงเกษตรกรและผู้บริโภคไว้ด้วยกันในบริบทโลกยุคใหม่ ยังมีแบรนด์ที่มีศักยภาพอีกมากมายที่รอให้ทุกคนมารู้จัก แล้วพบกันใหม่ในปีหน้ากับ ‘Thailand Rice Fest 2024’ เรามีนัดกันที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 5 วันที่ 12 - 15 ธันวาคม 2024 I 10.00 - 20.00 น.
สจล. จับมือ บริษัท เคเอ็มไอที ลาดกระบัง จำกัด และ บริษัท ไอออนโฮลดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายปุ๋ยอินทรีย์ ที่มีเทคโนโลยีในการผสมชีวพันธุ์ ที่สามารถทดแทนปุ๋ยเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผสมผสานกับองค์ความรู้กระบวนการที่มาจากการวิจัย ของนักวิจัยสถาบันวิจัยนวัตกรรมเกษตรอินทรีย์ยุคใหม่ สจล. ที่คิดค้นชีวพันธุ์และกรรมวิธีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ดังกล่าว ที่ได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งส่งผลให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดย รศ. ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี ได้ลงนามร่วมกับผู้บริหารทั้ง 2 บริษัท ได้แก่ คุณภัสชา อัยยปัญญา และดร.กฤชนนท์ อัยยปัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน โฮลดิ้ง จำกัด พร้อมกับ รองศาสตราจารย์ ดร.สุดาพร สาวม่วง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคเอ็มไอที ลาดกระบัง จำกัด โดยมี รศ.ดร.เกษม สร้อยทอง ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยเกษตรอินทรีย์ยุคใหม่ สจล. ร่วมลงนามในฐานะพยาน
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิดงาน “คปภ. เพื่อคนพิการปี 3” เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ณ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ จังหวัดนนทบุรีโดยเปิดเผยว่า “คนพิการ” ถือเป็นกลุ่มคนสำคัญที่รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและมุ่งเน้นให้คนพิการมีศักยภาพ มีความเข้มแข็ง และสามารถเข้าถึงการใช้บริการของรัฐในทุกมิติอย่างไม่เลือกปฏิบัติ ในขณะเดียวกันสำนักงาน คปภ. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการอย่างยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาล จึงมีการดำเนินการส่งเสริมความรู้ และสร้างความตระหนักรู้ของการประกันภัย ผ่านโครงการ “คปภ. เพื่อคนพิการ” เพื่อให้การประกันภัยเป็นเครื่องมือสำหรับบริหารความเสี่ยงแก่กลุ่มคนพิการเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินให้แก่คนพิการและครอบครัวอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพสูงสุด

โครงการ คปภ. เพื่อคนพิการ ปี 3 ได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “โอกาส ความสุข ความสำเร็จ ส่งต่อได้ (Sharing Happiness Together)” ซึ่งนอกจากจะมีการส่งเสริมความรู้ และการเข้าถึงการประกันภัยแก่คนพิการแล้ว แนวคิดหลักสำหรับการจัดงานในครั้งนี้คือ “การส่งเสริมอาชีพแก่คนพิการ” ซึ่งสำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัยได้พิจารณาร่วมกันแล้วเห็นว่า การส่งเสริมอาชีพจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาอย่างยั่งยืน คือเมื่อคนพิการได้มีอาชีพมีงานทำ นอกจากจะมีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวแล้ว ยังเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพ และศักยภาพของตนเอง ส่งผลถึงการดำเนินชีวิตในสังคมอย่างปกติสุขอย่างยั่งยืน

สำหรับกิจกรรมในโครงการ คปภ. เพื่อคนพิการ ปี 3 ภายใต้แนวคิด “โอกาส ความสุข ความสำเร็จ ส่งต่อได้ (Sharing Happiness Together)” มี 5 กิจกรรมหลัก ๆ คือ กิจกรรมแรก เป็นการเสวนา ความรู้ด้านการประกันภัย และการเข้าสู่อาชีพคนกลางประกันภัย กิจกรรมที่ 2 การบรรยาย หัวข้อการเข้าสู่อาชีพคนกลางประกันภัยสำหรับคนพิการ ด้วยการบอกเล่าประสบการณ์ตรงจากตัวแทนประกันชีวิต กิจกรรมที่ 3 มินิคอนเสิร์ต จากคุณเก่ง ธชย และน้องแพรวา ทัตพิชา กิตติพนังกุล จากรายการ The Golden Singer และศิลปินวง Happy Unlimit กิจกรรมที่ 4 Showcase การประกอบอาชีพของผู้พิการที่มีการประกอบอาชีพที่หลากหลาย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพ และมีฝีมือของผู้พิการ ที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก เช่น ช่างล้างเครื่องปรับอากาศ หมอดู โดยสมาคมโหราศาสตร์คนตาบอดแห่งประเทศไทย ช่างศิลปะเป่าแก้ว อาหาร และสินค้าเกษตร เป็นต้น และกิจกรรมที่ 5 พิธีมอบกรมธรรม์อุบัติเหตุเพื่อคนพิการสำหรับรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์) แก่สมาคมคนพิการ จำนวน 6 สมาคม สมาคมละ 20 กรมธรรม์ และมอบกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุแก่ศิลปินคนพิการ จำนวน 6 กรมธรรม์ รวมทั้งสิ้น 126 กรมธรรม์ รวมความคุ้มครองสูงสุด 12,600,000 บาท นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ได้จัดทำวีดิทัศน์ความสำคัญของการประกันภัยต่อการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพของคนพิการ รวมทั้งภาพรวมโครงการ คปภ. เพื่อคนพิการ โดยสามารถติดตามรับชมได้ที่ Facebook สำนักงาน คปภ. : oicthailand และ YouTube สำนักงาน คปภ. : oic.thailand
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (ราชมงคลพระนคร) จัดงานชมและสัมผัสการทำอาหาร ภายใต้แนวคิด Immersive Fine Dining โดยนายปารเมศ สายสุทธิ นักศึกษาสาขาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ แชมป์รางวัล The Winner ในรายการ Real California Milk Pizza Challenge ซึ่งเป็นหนึ่งในการแข่งขันทำอาหารระดับนานาชาติ Thailand Ultimate Chef Challenge (TUCC) 2023 ในงาน “THAIFEX – Anurag Asia 2023” และนายภานุพงศ์ ใยยอง นักศึกษาสาขาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ เจ้าของรางวัลเหรียญทองแดง ในการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 13 (WorldSkills ASEAN Singapore 2023) สาขาการประกอบอาหาร (Cooking) ณ Singapore Expo สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยภายในงานได้รับเกียรติจากแพทยหญิงเพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุมโชติเวช คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ (ศูนย์โชติเวช) ราชมงคลพระนคร

ดร.ณัฐวรพล รัชสิริวัชรบุล อธิการบดี ราชมงคลพระนคร กล่าวว่า มหาวิทยาลัยฯ เป็นสถาบันการศึกษาที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน มีชื่อเสียงในด้านการเรียนการสอนผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติสู่ภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ในด้านคหกรรมศาสตร์ ยังได้รับการยอมรับจากสังคมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ทั้งในด้านฝีมือการประดิษฐ์ประดอย และรสชาติอาหารไทยที่โดดเด่นจนได้รับการขนานนาม “ครัวโชติเวช” จากต้นทุนของมหาวิทยาลัยฯ สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) และขยายมาสู่ในด้าน Soft Power เนื่องจากประเทศไทยมีทุนทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และสามารถดึงดูดความสนใจให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นชาวต่างชาติเกิดการยอมรับ เช่น อาหารไทย มวยไทย ประเพณีไทย ฯลฯ ดังนั้นเพื่อสนับสนุนผลักดันนโยบายมหาวิทยาลัยจึงมีเป้าหมายส่งเสริมอาหารไทยซึ่งมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ผ่านรายวิชาต่าง ๆ ในด้านคหกรรมศาสตร์ เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้และนำไปปรับใช้ และพร้อมสนับสนุนให้นักศึกษามีโอกาสแสดงความสามารถในเวทีการแข่งขันเพื่อพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายภานุพงศ์ ใยยอง หรือ ตาเชนทร์ เล่าว่า เมนูที่นำมาเสิร์ฟครั้งนี้เป็นเมนูเดียวกับที่ใช้ในการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 13 โดยการรังสรรค์เมนูและรสชาติใหม่ ๆ ในแต่ละเมนู ซึ่งประกอบด้วย Carrot Cream Soup, Potato Custard ความโดดเด่นของอาหารจะมีความละมุนของซุปคัสตาร์ด และมันฝรั่งผสมผสานเนื้อเนียนนุ่มเข้ากันอย่างลงตัว ปรุงรสด้วยกระบวนการพิเศษโดยการแช่เกลือและพริกไทยจึงจะได้รสชาติพิเศษขึ้นมา โดยก่อนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันเมนูเหล่านี้จะต้องปรับปรุงสูตรและผ่านการประเมินจากคณะอนุกรรมการแข่งขัน WorldSkills Thailand ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการในการฝึกซ้อมระดับประเทศ ส่วนเมนู Chicken Roulade, Jus Sauce ทุกคนที่ได้รับประทานจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นสมุนไพร เมนูสุดท้าย Black Forest Chocolate Mousse เป็นเมนูขนมหวาน ที่ทำให้การแข่งขันกลับมาพลิกจนได้รับเหรียญรางวัล “รู้สึกภาคภูมิใจกับรางวัลที่ได้รับ นอกจากจะเป็นการเผยแพร่รสชาติอาหารจากฝีมือคนไทยแล้ว และยังช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย โดยใช้ความรู้ ความสามารถของตนเองมาแข่งขันในเวทีระดับชาติ อีกทั้งยังเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพื่อจะได้นำไปใช้ในการทำงานในอนาคตได้อีกด้วย”

ส่วน น้อย หรือ นายปารเมศ สายสุทธิ เล่าว่า มีความชื่นชอบในการทำอาหารตั้งแต่เด็ก พอเริ่มโตขึ้นจึงนำความชอบมาประกอบทำธุรกิจเพื่อหารายได้ระหว่างเรียนโดยทำขนมเค้กต่าง ๆ ขาย ได้ปรับปรุงสูตรและพัฒนาขนมอยู่หลายครั้ง จนพบความชื่นชอบที่อยากศึกษาต่อเพื่อพัฒนาทักษะที่มีอยู่จึงเลือกเรียนในสายอาชีพ และเลือกเข้าศึกษาต่อคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เนื่องจากที่นี่เป็นต้นตำรับของโรงเรียนการเรือน ที่สอนงานทางด้านคหกรรมศาสตร์ หรืออาหารไทยโบราณต้นตำรับ เป็นอันดับแรกของประเทศไทย ระหว่างที่กำลังศึกษาได้เข้าร่วมในการแข่งขันทำอาหารในหลายรายการ ซึ่งได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ในด้านต่าง ๆ เพื่อมาพัฒนาปรับปรุง โดยรางวัลที่ภาคภูมิใจมากที่สุดคือรายการแข่งขันทำพิซซ่า จากรายการ Real California Milk Pizza Challenge ในงาน Thailand Ultimate Chef Challenge 2022 เป็นการแข่งขันเมนูพิซซ่าโดยใช้ชีส และตนสามารถทำคะแนนได้สูงสุดจากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดกว่า 200 คน จึงเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันในงาน Pizza Expo 2024 หรือในรายการ International Pizza Challenge ที่ ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะไปแข่งขันในกลางเดือนมีนาคม 2567 ดังนั้นเมนู Smoked Duck Red Curry Pizza จึงถูกคิดค้นขึ้นมาด้วยความพิถีพิถันในทุกกระบวนการ และใช้แรงบันดาลใจจากเมนูอาหารไทยอย่างแกงเผ็ดเป็ดย่าง โดยนำมาปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอใหม่ในรูปแบบของพิซซ่า ใช้แป้งสูตรพิเศษที่คิดค้นขึ้นมาใหม่จะมีความเหนียวนุ่มเมื่อผสมผสานเข้ากับเครื่องแกงรสชาติจะมีความกลมกล่อมมีเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่ชัดเจนจากพริกแกงเผ็ดและมีความหอมความนุ่มจากอกเป็ดรมควันสอดแทรกด้วยความเปรี้ยวหวานจากผลไม้ที่ใส่ลงไปในซอสไม่ว่าจะเป็นองุ่น สับปะรด และมะเขือเทศราชินี เสริมความหอมด้วยใบโหระพา เมนูนี้เป็นไอเดียที่จะนำไปต่อยอดในการแข่งขันทำพิซซ่าชิงแชมป์โลก ณ สหรัฐอเมริกาต่อไป
พรูเด็นเชียล ประเทศไทย หนึ่งในผู้นำธุรกิจประกันชีวิต ร่วมกับ พรูเด็นซ์ ฟาวน์เดชัน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มุ่งดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและชุมชนของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทบริหารการลงทุนชั้นนำในภูมิภาคเอเชียของกลุ่มพรูเด็นเชียล เดินหน้าดูแลสุขภาพที่ดีของคนไทยด้วยสุขภาพใจที่แข็งแรง มอบ “PRU Wellness Clinic” อันได้แก่ คลินิกจิตเวชเด็กและวัยรุ่นของโรงพยาบาลศรีธัญญา และ เตรียมส่งมอบเร็วๆให้แก่ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา และมูลนิธิกระจกเงา ด้วยงบประมาณรวมกว่า 5 ล้านบาท
จากข้อมูลของกรมสุขภาพจิต ปี 2564 พบว่า จำนวนผู้ป่วยทางจิตเวชในไทย เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า จาก 1.3 ล้านคนในปี 2558 เป็น 2.3 ล้านคน ในปี 2564 ซึ่งยังไม่รวม ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าราว 1.35 ล้านคน ที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในรอบสิบปีที่ผ่านมา[1] ซึ่งปัญหาสุขภาวะจิตในประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ทุกภาคส่วนควรหันมาให้ความสนใจ
นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล ประเทศไทย เปิดเผยว่า “พรูเด็นเชียล เชื่อในเจตนารมณ์ที่ว่า Prudential For Every Life For Every Future : พรูเด็นเชียล ชีวิตมีกันทุกวันดีกว่า เราเชื่อว่าการมีกันและกันจะช่วยเติมเต็มทุกวันให้ดีกว่าเดิม เรามองว่าองค์กรไม่สามารถเดินหน้าไปเพียงลำพังได้ แต่ต้องเดินหน้าอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อลูกค้า พนักงาน ชุมชน และสังคม ดังนั้น การที่สังคมจะแข็งแรง ทุกคนต้องมีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่ใช่แค่เพียงร่างกายแต่รวมถึงจิตใจด้วย ด้วยสถานการณ์ที่ตึงเครียดด้านต่างๆทุกวันนี้ ทำให้ผู้คนต้องเผชิญความท้าท้ายกับความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตมากขึ้น เราตระหนักถึงความสำคัญต่อการดูแลสุขภาวะจิต จึงได้จัดทำโครงการ “คลินิกสุขภาพพรู (PRU Wellness Clinic)” เพื่อดูแลและให้คำปรึกษา ด้วยมุ่งหวังว่าจะช่วยเหลือผู้ที่มีความเปราะบางด้านสุขภาวะจิตให้ได้รับคำปรึกษาอย่างถูกต้องและรวดเร็ว”

นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “วันนี้รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ บลจ.อีสท์สปริง ได้ร่วมกับ พรูเด็นซ์ ฟาวน์เดชัน และ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ส่งมอบ “คลินิกสุขภาพพรู (PRU Wellness Clinic)” ให้แก่ คลินิกจิตเวชเด็กและวัยรุ่นของโรงพยาบาลศรีธัญญา เนื่องจากทุกวันนี้ สุขภาวะทางจิตโดยเฉพาะกับเด็กและวัยรุ่น ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก จากรายงานของกรมสุขภาพจิต[2]พบว่าเด็กไทยมีภาวะเครียดสูงขึ้น ดังนั้น เรามุ่งหวังว่า คลินิกจิตเวชแห่งนี้จะเป็นที่พักใจในการดูแลและให้คำปรึกษาแก่เด็กๆ ทุกคน”
โครงการ คลินิกสุขภาพพรู (PRU Wellness Clinic) ให้บริการแบบ One Stop Service คือ บริการครบวงจรตั้งแต่การประเมินการรักษาตลอดจนให้คำปรึกษาและดูแลจากคลินิกสุขภาพจิต นอกจากนั้น ยังให้การสนับสนุนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มเสี่ยงที่ไม่สามารถเข้าไม่ถึงกระบวนการในการบำบัดและรักษา อาทิ กลุ่มผู้ป่วยด้อยโอกาส กลุ่มคนไร้บ้าน และคนยากจน โดยขณะนี้ได้ส่งมอบ PRU Wellness Clinic ที่แรกให้แก่ คลินิกสุขภาพจิตของโรงพยาบาลศรีธัญญา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และ เตรียมส่งมอบเร็วๆนี้ ให้แก่ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา และ มูลนิธิกระจกเงา เพื่อการรักษาผู้ป่วยด้อยโอกาส โดยมุ่งหวังว่าคลินิกแห่งนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระงาน รวมถึงช่วยในการคัดกรองผู้ป่วยให้กับโรงพยาบาล และมีส่วนช่วยเพิ่มโอกาสให้กลุ่มคนที่เปราะบางเหล่านั้น ได้กลับเข้าสู่สังคมปกติได้ในเร็ววัน มีความพร้อมทั้งสุขภาพกายและใจ สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติอย่างคนทั่วไป
[1] https://www.etda.or.th/th/
[2] ประเมินสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นไทยกว่า 1.8 แสนราย พบเครียดสูง เสี่ยงซึมเศร้า ติดจอติดเกมออนไลน์มากขึ้น!! | Hfocus.org