

"Finno Efra Accelerator (FINE Accelerator)" ประกาศผล Startup 12 ทีม เข้าโปรแกรม พร้อมร่วม Bootcamp ขับเคี่ยวเข้มข้นเป็นเวลา 4 เดือน ร่วมกับ Mentor และโค้ชผู้เชี่ยวชาญ เปิดโอกาสได้รับเงินทุนสูงสุด 40 ล้านบาท ติดอาวุธเร่งสปีดสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ
หลังจากที่ "Krungsri Finnovate (กรุงศรี ฟินโนเวต)" ได้จับมือกับ "อีฟราสทรัคเจอร์ (Efra Structure)" เปิด “Finno Efra Accelerator Program” ที่เปรียบเสมือนเป็นโรงเรียนสำหรับ Startup ระดับ Seed ถึง Pre-series A ให้ได้เข้าเรียนรู้และร่วมเวิร์คช้อปในหลักสูตรเพื่อพัฒนาศักยภาพอันหลากหลายและครอบคุลม ซึ่งได้เปิดรับสมัครตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 67 ที่ผ่านมา โดยมี Startup ที่สมัครมากว่า 200 ทีม และด่านการคัดเลือกที่หลากหลาย ทั้งรอบคัดเลือกทั่วไป, Dungeon Pitch และ Selection day จนได้ทั้ง 12 ทีม ดังนี้

"คุณแซม ตันสกุล" กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด เผยว่า "ขอแสดงความยินดีกับ Startup ทั้ง 12 ทีมที่ผ่านเข้ารอบ Finno Efra Accelerator ซึ่งทั้ง 12 ทีมจะต้องเข้า Bootcamp เป็นระยะเวลา 4 เดือน กับ 4 เรื่องสำคัญ คือ 1.) Mentorship กับเมนเทอร์ที่เป็น Top Tech Leader ในประเทศไทย แบบ One On One 2.) Business Class คลาสเรียนที่จะต้องรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจ โดยจะมีเทรนเนอร์ในหลากหลายธุรกิจมาสอน 3.) Coaching ที่สามารถมาขอคำปรึกษา จากโค้ชผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านกว่า 100 คน 4.) VC Networking สนับสนุนการเชื่อมต่อระหว่าง Startup กับนักลงทุนและองค์กรต่างๆ ก็จะเป็น 4 เรื่องสำคัญใน Bootcamp ที่จะเกิดขึ้น"

เริ่มเรียน โดยแบ่งเป็น 2 เทอมคือ เทอม 1 เดือนตุลาคม - พฤศจิกายน ปี 2567 และ เทอม 2 เดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ ปี 2568 และจะไปจบ Demo Day ที่เดือนมีนาคม ปี 2568 เมื่อจบ 4 เดือนแล้ว Startup ทั้ง 12 ทีม จะมีโอกาสได้รับเงินทุนสูงสุด 40 ล้านบาท แต่เงื่อนไขคือต้องผ่าน KPI ที่ตั้งไว้ ส่วนทีมไหนถ้าปีนี้ยังไม่มีรายชื่อใน Finalists อย่าพึ่งรีบถอดใจ เจอกันใหม่ใน Batch หน้านะครับ"
ด้าน "คุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ" ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้ง บริษัท อีฟราสทรัคเจอร์ จำกัด เสริมต่อว่า "Finno Efra Accelerator เป็นโปรแกรมบ่มเพาะ Startup รายใหม่ๆ ซึ่งเป็นกุญแจที่จะช่วยให้ Startup ประสบความสำเร็จได้มากขึ้น และยังเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่เป็นจุดเริ่มต้นของการการสร้างระบบนิเวศของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เพราะจะมีส่วนช่วยให้ธุรกิจที่เข้าร่วมสามารถเติบโตได้เร็วขึ้น และยิ่งไปกว่านั้นโปรแกรมนี้ทำให้เหล่า Startup ได้ทั้งเงินลงทุนและความรู้กลับไปพัฒนาธุรกิจ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในการช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ เพราะเรากำลังค้นหา Unicorn ที่จะไประดับโลกให้ได้ในอนาคต"
ECOVACS (อีโคแวคส์) บริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยี Intelligent Home จากประเทศจีน ผู้จัดจำหน่ายหุ่นยนต์ทำความสะอาดคุณภาพสูง ในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก นำโดย นางสาวพรประภา รัชวัฒนะ ผู้บริหารผลิตภัณฑ์ แบรนด์ ECOVACS ในประเทศไทย รับมอบรางวัลอันทรงเกียรติ ความสำเร็จของหุ่นยนต์ทำความสะอาดอัจฉริยะรุ่นล่าสุด ECOVACS T30S COMBO ได้รับการยกย่องให้เป็นสุดยอดนวัตกรรมแห่งปี คว้ารางวัลชนะเลิศในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือนเครื่องใช้ไฟฟ้า จากงาน BUSINESS+ PRODUCT OF THE YEAR AWARDS 2024 ซึ่งจัดโดยนิตยสาร BUSINESS+ ร่วมกับวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ในพิธีมอบรางวัลครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นุรักษ์ มาประณีต เป็นประธานมอบรางวัล และได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญในวงการธุรกิจ การศึกษา มาร่วมกล่าวเปิดงานพร้อมแสดงความยินดี นำโดย คุณมนู เลียวไพโรจน์ ประธานกรรมการ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) และ ผศ.ดร.บุญยิ่ง คงอาชาภัทร ผู้ช่วยคณบดีงานวิชาการ และหัวหน้าสาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกล่าวเปิดงานและแสดงความยินดี งานจัดขึ้น ณ ห้องบอลรูม โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา

ECOVACS T30S COMBO นับเป็นการปฏิวัติวงการทำความสะอาดบ้านด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย ผสานการทำงานของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นและเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยเทคโนโลยี TruEdge™ หุ่นยนต์สามารถเข้าถึงทุกซอกทุกมุมของบ้านได้อย่างทั่วถึง ม็อบถูพื้นยืดหดได้อย่างอิสระ ทำให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการดูดฝุ่นหรือถูพื้น นอกจากนี้ เทคโนโลยี ZeroTangle™ ยังช่วยแก้ปัญหาเส้นผมพันแปรงที่มักพบในเครื่องดูดฝุ่นทั่วไป ด้วยระบบหวีคู่อัจฉริยะที่กวาดเส้นผมเข้าสู่ช่องดูดได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้การบำรุงรักษาเครื่องเป็นเรื่องง่าย อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบกรองอากาศสี่ขั้นตอนที่ช่วยให้อากาศในบ้านสะอาดบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น และระบบเพิ่มแรงดูดอัตโนมัติที่ปรับการทำงานให้เหมาะสมกับพื้นผิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพรมหรือพื้นแข็ง โดยยังคงรักษาระดับเสียงให้เงียบที่สุด และด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับรอบทิศทาง 3 มิติ หุ่นยนต์จะสามารถนำทางและหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างแม่นยำ ทำให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ในส่วนของ OMNI STATION ที่มาพร้อมกับเครื่อง ไม่เพียงแต่เป็นจุดชาร์จไฟเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นถังเก็บฝุ่นขนาดใหญ่ ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการเทฝุ่นบ่อยๆ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ให้มาแบบจัดเต็ม สำหรับจุดที่หุ่นยนต์เข้าถึงยาก เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับน้ำหนักเบาที่มาพร้อมกับชุด COMBO จะเข้ามาช่วยเติมเต็มการทำความสะอาดให้สมบูรณ์แบบ ทำให้ ECOVACS T30S COMBO เป็นทางเลือกการทำความสะอาดบ้านที่ครบวงจรอย่างแท้จริง

รางวัลอันทรงเกียรติจาก BUSINESS+ PRODUCT OF THE YEAR AWARDS 2024 นี้ไม่เพียงแต่เป็นการยืนยันถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของ ECOVACS ในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค ทำให้การทำความสะอาดบ้านเป็นเรื่องง่าย สะดวก และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
คุณอนุชา ภิงคารวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานบริหารตัวแทน พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ร่วมแสดงความยินดีกับคุณสุวภัทร แสงบุญส่ง และคุณจุราพร รายสันเทียะ ตัวแทนประกันชีวิต พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ที่ได้รับรางวัลคุณวุฒิ APFinSA Awards ครั้งที่ 5 ประจำปี 2024 ที่จัดขึ้นโดยสมาคมที่ปรึกษาการเงินแห่งเอเชียแปซิฟิก (Asia Pacific Financial Services Association – APFinSA) และสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน (THAIFA) ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้เพื่อเชิดชูเกียรติและเป็นกำลังใจให้แก่ตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพ และยกระดับความเป็นมืออาชีพในการทำงานตามมาตรฐานระดับเอเชียแปซิฟิก โดยรางวัลดังกล่าวถือเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของช่องทางตัวแทนพรูเด็นเชียลฯ ที่ต้องการสยายปีก บุกตลาดช่องทางตัวแทนและขยายการเติบโตในอนาคต
ไมโครซอฟท์ นำเสนอประสบการณ์ใหม่บนระบบปฏิบัติการ Windows 11 สำหรับพีซี ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยให้การทำงานในชีวิตประจำวันสะดวกมากยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังเสริมศักยภาพให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสถึงความสามารถใหม่ ๆ ที่ช่วยในการรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อน โดยฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้จะช่วยให้การทำงานบนคอมพิวเตอร์เร็วขึ้น ง่ายขึ้น และตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละคนได้มากยิ่งขึ้น
ในยุคแห่ง AI นี้ ไมโครซอฟท์มุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดและนำไปสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งในปัจจุบัน นวัตกรรมไม่ได้เป็นเพียงแค่การสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ขึ้นมาเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานได้จินตนาการถึงวิธีการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันอีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายผ่านการใช้คำพูดของผู้ใช้งานเอง เพื่อเรียกหาแอปพลิเคชันที่ต้องการ ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างลื่นไหล ไมโครซอฟท์มีเป้าหมายในการพัฒนาระบบปฏิบัติการ Windows 11 ด้วยเทคโนโลยี AI เพื่อให้ลูกค้าสามารถสร้างสรรค์ทุกผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่ทำได้โดยไม่ยุ่งยากซับซ้อน
ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์ไม่เพียงแต่พูดถึงนวัตกรรม AI หรือแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเท่านั้น เพราะในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ประกาศเปิดตัว Copilot+ PC ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่นำเสนอประสบการณ์จากขุมพลัง AI ให้กับลูกค้าที่ใช้งาน Windows
เร็วๆ นี้ ลูกค้าที่ใช้ Copilot+ PC และ Windows 11 จะสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ มากมายที่ออกแบบมาเพื่อทำให้คอมพิวเตอร์ฉลาดขึ้น มีประโยชน์มากขึ้น และปลอดภัยยิ่งขึ้น
Copilot+ PC ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากจากตลาด เพราะได้รับการออกแบบมาให้ใช้งาน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เป็นคอมพิวเตอร์ Windows ที่เร็ว ฉลาด และปลอดภัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยผู้เชี่ยวชาญในวงการเทคโนโลยีแนะนำว่าเป็นสินค้าที่ "ควรซื้อ" และหลายร้านค้าพบว่าลูกค้าให้ความสนใจมากขึ้น ไมโครซอฟท์จึงพร้อมที่จะพัฒนาต่อยอด โดยเพิ่มความสามารถพิเศษด้วยชิปประมวลผล AI ที่มีประสิทธิภาพสูง
คอมพิวเตอร์ Windows 11 รุ่นใหม่ที่มี Copilot+ จะได้รับการจำหน่ายจากแบรนด์ชั้นนำหลากหลายแบรนด์ เช่น Acer, Asus, Dell, HP, Lenovo, Samsung และ Microsoft Surface โดยใช้ชิปประมวลผลจาก Qualcomm, Intel และ AMD ซึ่งจะมีระดับราคาเริ่มต้นประมาณ 699 ดอลลาร์สหรัฐ จะเปลี่ยนมุมมองของคุณที่มีต่อคอมพิวเตอร์รุ่นต่อไปอย่างแน่นอน
ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป ผู้ใช้ที่เป็นสมาชิกในคอมมูนิตี้ Windows Insider จะได้ลองใช้งานฟีเจอร์ใหม่ก่อนใคร หลังจากนั้นในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ไมโครซอฟท์จะทยอยเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ใช้งานในเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง

Recall เป็นฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดที่ช่วยให้ผู้ใช้งานค้นหาข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัว Recall ในเดือนพฤษภาคม ผู้ใช้งานของเราได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัย ไมโครซอฟท์จึงได้ทุ่มเทเวลาในการปรับปรุงพัฒนา Recall ให้มีความปลอดภัยมากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลของผู้ใช้จะได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่
ในการใช้งานฟีเจอร์ Recall ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะให้บันทึกภาพหน้าจอหรือไม่ หากเลือกให้บันทึก จะต้องเปิด Windows Hello เพื่อยืนยันตัวตนก่อนใช้งาน นอกจากนี้ Recall ยังมีระบบกรองข้อมูลสำคัญ เช่น หมายเลขบัตรเครดิตหรือเลขประจำตัวบัตรประชาชน เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัว ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสบายใจ
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของ Recall สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
ไมโครซอฟท์กำลังเตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ Recall ให้ผู้ใช้ได้ทดลองใช้ โดยจะเริ่มในเดือนตุลาคมสำหรับผู้ใช้งานกลุ่ม Windows Insider ที่มีคอมพิวเตอร์ Copilot+ ซึ่งใช้ชิป Qualcomm ตามด้วยเดือนพฤศจิกายนสำหรับผู้ใช้งาน Windows Insider ที่มีคอมพิวเตอร์ Copilot+ ซึ่งใช้ชิป Intel หรือ AMD สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป โดยไมโครซอฟท์จะประกาศวันเปิดให้บริการ Recall อย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้

Click to Do เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ทำงานบนคอมพิวเตอร์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยจะแสดงผลตัวเลือกการทำงานต่าง ๆ (Interactive Overlay) ขึ้นมาบนหน้าจอทันทีที่ต้องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานกับรูปภาพหรือข้อความ เช่น การค้นหารูปภาพด้วย Bing, แก้ไขรูปภาพโดยเบลอพื้นหลังหรือลบวัตถุที่ไม่ต้องการ, ลบพื้นหลังของรูปภาพด้วย Paint รวมถึงการจัดการกับข้อความ เช่น เขียนใหม่ สรุป หรืออธิบายข้อความ
การใช้งานฟีเจอร์ Click to Do ทำได้ง่าย ๆ เพียงกดปุ่ม Windows และคลิกเมาส์ คุณก็จะเห็นตัวเลือก Click to Do ในเครื่องมือ Snipping Tool หรือ Print Screen นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้งาน Click to Do เพื่อเปิดโปรแกรมแก้ไขข้อความ ส่งอีเมล หรือเปิดเว็บไซต์ (ที่มี URL ที่เชื่อถือได้) ได้ทันทีอีกด้วย
เร็ว ๆ นี้ เรามีแผนที่จะเพิ่มความสามารถใหม่ ๆ ที่หลากหลายให้กับฟีเจอร์ Click to Do อย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

การค้นหาไฟล์ที่ถูกต้อง ซึ่งรวมถึงเอกสาร การตั้งค่า หรือรูปภาพ บนคอมพิวเตอร์ Copilot+ PCs จะกลายเป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าเดิม ด้วยการค้นหาด้วยเสียง เหมือนกับการพูดว่า "ปาร์ตี้บาร์บีคิว" วันนี้คุณสามารถอธิบายสิ่งที่คุณต้องการค้นหาบน Windows ได้แล้ว โดยคุณไม่จำเป็นต้องจดจำชื่อไฟล์ ตำแหน่งการตั้งค่า หรือแม้แต่กังวลเรื่องการสะกดคำอีกต่อไป ขอเพียงพิมพ์สิ่งที่อยู่ในใจคุณเพื่อค้นหาบน Copilot+ PC ซึ่งคุณยังสามารถค้นหารูปภาพใน OneDrive ด้วยการอธิบายเนื้อหาในลักษณะเดียวกันได้ จากขุมพลังการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพติด 40 อันดับแรกบน Copilot+ PC ที่สามารถทำงานได้แบบออฟไลน์ การค้นหาที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพนี้จะเปิดให้ใช้งานเป็นครั้งแรกใน File Explorer และจะขยายไปยัง Windows Search รวมถึงการตั้งค่าต่าง ๆ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ลองจินตนาการว่า หากสามารถเพิ่มความคมชัดให้กับรูปภาพความละเอียดต่ำและรูปภาพเก่าให้กลายเป็นรูปภาพที่มีความคมชัดสูงได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าภาพจะดูเบลอหรือแตกเป็นพิกเซล และยังไม่จำเป็นต้องจัดการกับรูปภาพที่ผิดอัตราส่วนหรือแตกเป็นพิกเซลหลังจากเพิ่มขนาดอีกต่อไป ด้วยการใช้ AI ประสิทธิภาพสูงบนเครื่อง ฟีเจอร์ super resolution ใน Photos จะเปลี่ยนรูปภาพเก่าหรือรูปภาพความละเอียดต่ำ ให้กลายเป็นความทรงจำครั้งใหม่ โดยเลือกปรับเพิ่มความละเอียดได้สูงสุดถึง 8 เท่า พร้อมทั้งสามารถปรับแต่งรูปภาพได้อย่างครอบคลุมและตรงจุด ด้วยขุมพลังของการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพติด 40 อันดับแรก ทำให้ฟีเจอร์เยี่ยมใน Photos สามารถเพิ่มขนาดรูปภาพได้สูงสุดถึงระดับ 4K ได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที และทั้งหมดนี้สามารถทำได้ฟรี! ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ

โปรแกรม Paint คือเพื่อนที่รู้ใจในงานสร้างสรรค์ ช่วยให้สามารถนำจินตนาการออกมาโลดแล่นในรูปแบบของภาพวาด ด้วยการใช้เครื่องมือ AI ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ผู้สร้างสรรค์สามารถออกคำสั่งด้วยเสียงหรือใช้การปัดพู่กันเพียงไม่กี่ครั้ง เพื่อสร้างภาพที่น่าทึ่งได้ทั้งหมด โดยไม่มีค่าใช้จ่ายและไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิก
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้เพิ่มฟีเจอร์ Generative Fill และ Generative Erase สามารถแก้ไขและเปลี่ยนแปลงรูปภาพได้อย่างแม่นยำและมีอิสระในการสร้างสรรค์มากขึ้น โดยใช้แปรงที่ปรับขนาดได้ สามารถลบองค์ประกอบที่ไม่ต้องการหรือรบกวนสายตาในรูปภาพ หรือเพิ่มองค์ประกอบใหม่ได้ตรงจุดที่ต้องการ เราได้ปรับปรุงโมเดลพื้นฐานที่ใช้เทคนิคการแพร่กระจาย (diffusion-based model) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและเร็วขึ้น และด้วยระบบการช่วยปรับแต่งที่มีอยู่ มอบประสบการณ์การสร้างสรรค์ผลงานที่มั่นใจได้
Copilot+ PC มาพร้อมสถาปัตยกรรม Arm ได้เพิ่มแอปพลิเคชันใหม่ ๆ จากนักพัฒนาชั้นนำ เรายังคงเพิ่มรายการแอปพลิเคชันและประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมใน Copilot+ PCs ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm อย่างต่อเนื่อง ด้วยแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ที่ได้รับการเปิดตัวทุกวัน ไมโครซอฟท์รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นนักพัฒนาใช้ประโยชน์จากขุมพลังของการประมวลผลชั้นนำในอุตสาหกรรม เพื่อมานำเสนอประสบการณ์และประสิทธิภาพที่เป็นเอกลักษณ์ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านประสิทธิภาพการทำงาน ด้านความความบันเทิง VPN และด้านความปลอดภัย
แอปพลิเคชันยอดนิยมจำนวนมากที่มีให้บริการสำหรับระบบปฏิบัติการ Windows ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm แล้ว คุณสามารถเพลิดเพลินกับโปรแกรมต่าง ๆ เช่น Chrome, Zoom, Brave, Opera, Slack, Spotify, Adobe (InDesign, Illustrator และ Premiere), Davinci Resolve, Algoriddim djayPro, Libre Office, 1Password และ Todoist ได้แล้ว วันนี้เรามีแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ที่กำลังจะมาถึง อาทิ Vegas Pro, Fantastical, Sketchbook Pro, Arc Browser, Google Drive และอื่น ๆ อีกมากมาย
เรายังเห็นความต้องการใช้งานเป็นอย่างมากในกลุ่ม VPN และเครื่องพิมพ์ แอปพลิเคชันยอดนิยม เช่น ExpressVPN, Private Internet Access, Surfshark และ Windscribe พร้อมให้บริการแล้ว โดย NordVPN จะตามมาในเร็ว ๆ นี้ และการที่เครื่องพิมพ์มากกว่า 90% ที่ผู้ใช้ซื้อใช้งานในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นกับ Copilot+ PC ลูกค้าของเราสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันและประสิทธิภาพที่พวกเขาคาดหวังบนคอมพิวเตอร์ Windows PC ได้
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อัปเดต Windows 11 24H2 จะเริ่มทยอยปล่อยออกมาให้ลูกค้า Windows 11 การอัพเดตรวมถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น Energy Saver ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่และลดการใช้พลังงาน แม้ในขณะที่อุปกรณ์กำลังชาร์จอยู่ ซึ่งเราตื่นเต้นที่จะประกาศการสนับสนุนเครื่องช่วยฟัง Hearing Aid ที่ได้รับการปรับปรุงด้วยเทคโนโลยี Bluetooth LE Audio พร้อมความสามารถใหม่ในการควบคุมค่าเสียงที่ตั้งไว้ล่วงหน้า เสียงรอบข้าง และการเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การใช้งาน เรายังแนะนำให้ใช้งานบนเครือข่าย Wi-Fi 7 ซึ่งมอบความเร็ว ความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้ Windows 11 24H2 ยังรองรับภาพพื้นหลังที่ใช้ช่วงสีไดนามิกสูงแบบ HDR อีกด้วย
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้ปรับปรุงแถบ taskbar, system tray, File Explorer และการตั้งค่า (Settings) เพื่อให้การทำสิ่งต่าง ๆ ใน Windows บน PC ง่ายขึ้นและใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น เรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่ฟีเจอร์เหล่านี้ได้ที่นี่ สำหรับลูกค้าองค์กร สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือด้านไอทีที่เกี่ยวข้องกับการอัปเดตนี้ได้ ที่นี่
ไมโครซอฟท์ ภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำในการเดินทางครั้งนี้ และขับเคลื่อนนวัตกรรมของ Windows 11 บน Copilot+ PCs ความสำเร็จเหล่านี้ไม่เพียงแต่ยกระดับประสบการณ์การใช้เท่านั้น แต่ยังเสริมพลังให้ลูกค้าของเราสามารถทำให้แนวคิดของพวกเขาเป็นจริงด้วยโซลูชันจาก Windows 11 ที่ทั้งปลอดภัยและล้ำสมัย
ในขณะที่วิธีการใช้งานเทคโนโลยีของเรายังคงพัฒนาต่อไป ไมโครซอฟท์มุ่งมั่นที่จะทำให้นวัตกรรมของเราไม่เพียงแต่ล้ำสมัย แต่ยังมีความปลอดภัยและให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นส่วนตัว เราตระหนักดีว่าในยุคดิจิทัล การปกป้องข้อมูลของผู้ใช้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด นั่นคือเหตุผลที่ไมโครซอฟท์ได้ผสานการป้องกันความปลอดภัยขั้นสูงและมาตรการความเป็นส่วนตัวเข้ากับผลิตภัณฑ์ของเรา เพื่อให้มั่นใจว่า AI มีประโยชน์และปลอดภัยในชีวิตประจำวัน Copilot+ PCs มาพร้อมกับคุณสมบัติอัจฉริยะที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน พร้อมกับรักษาระดับความปลอดภัยสูงสุด ไม่ว่ากำลังทำงานกับเอกสารที่มีความละเอียดอ่อน สื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน หรือจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ก็สามารถไว้วางใจได้ว่าข้อมูลจะได้รับการปกป้องอย่างปลอดภัย
สัมผัสนวัตกรรมและขีดความสามารถใหม่ๆ ของ Windows และ Copilot+ PCs ได้เร็ว ๆ นี้ และสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอัปเดตใหม่ ๆ ได้ที่ aka.ms/copilotpluspcs
บทความโดย Pavan Davuluri, Corporate Vice President, Windows + Devices
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี จัดสัมมนา ttb I Global Trade & FX Forum ภายใต้หัวข้อ “The Future of Asia : Economic Trends and Trade Challenges for Thailand 2025” วิเคราะห์เจาะลึกสภาวการณ์เศรษฐกิจของไทยและการค้าโลกในปี 2025 เปิดมุมมองและประสบการณ์ตรงในการทำการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดในเอเชีย ทั้งจากผู้เชี่ยวชาญในภาครัฐ ผู้นำเข้าและผู้ส่งออกจากธุรกิจขนาดใหญ่ พร้อมแนะนำเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกของไทย บริหารความเสี่ยงในการทำการค้าระหว่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายศรัณย์ ภู่พัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า อิทธิพลของภูมิรัฐศาสตร์ ความขัดแย้งทางการค้า ความไม่แน่นอนทางการเมือง และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยังคงเป็นปัญหาหลักที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งถือเป็นความท้าทายและเป็นความเสี่ยงอย่างมาก สำหรับผู้ประกอบการการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากความผันผวนของค่าเงินสามารถส่งผลกระทบต่อกำไรและต้นทุนของธุรกิจ นอกจากนี้ สาธารณรัฐประชาชนจีนยังเป็นประเทศที่มีอิทธิพลต่อระบบเศรษฐกิจโลก การเปลี่ยนแปลงนโยบายของจีนส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและโอกาสทางการค้าของธุรกิจทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ในขณะที่ตลาดเอเชียยังคงมีศักยภาพในการเติบโตสูง ซึ่งการเข้าถึงตลาดเหล่านี้ช่วยกระจายความเสี่ยงและเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคต

จากปัจจัยดังกล่าว นับเป็นความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการที่ทำการค้าระหว่างประเทศต้องมีความเข้าใจสถานการณ์เศรษฐกิจ ตลาดการค้าโลกและในเอเชีย เพื่อปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในระดับโลก รักษาความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตในระยะยาว ซึ่งงานสัมมนาในครั้งนี้ ทีทีบีมุ่งหวังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถวางแผนและปรับกลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสม รู้วิธีการบริหารจัดการความเสี่ยงจากการทำการค้าระหว่างประเทศ และได้รับประสบการณ์ตรงจากผู้ที่ดำเนินธุรกิจขนาดใหญ่ที่ทำการค้าระหว่างประเทศในตลาดการค้าโลก
สำหรับงานสัมมนา ttb I Global Trade & FX Forum ภายใต้หัวข้อ “The Future of Asia : Economic Trends and Trade Challenges for Thailand 2025” มีผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์เศรษฐกิจทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้บริหารธุรกิจขนาดใหญ่ที่ทำการค้าระหว่างประเทศในตลาดเอเชีย ผู้บริหารความเสี่ยงการทำการค้าระหว่างประเทศมาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานนำไปปรับใช้กับองค์กรได้ตรงจุดมากขึ้น โดยมีวิทยากร ได้แก่ ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษาและรองคณบดี คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาบรรยายเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวเศรษฐกิจจีนที่ส่งผลกระทบต่อการค้าโลกและการค้าไทย ในหัวข้อ “The 2025 Horizon: China’s Impact on Global Trade” และนายนริศ สถาผลเดชา ประธานกลุ่มงาน Data และ Analytics ทีเอ็มบีธนชาต ให้มุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและประเทศไทย ในหัวข้อ “Global & Thailand Economic Outlook 2025”
นอกจากนี้ มีการจัดเวทีเสวนาแบ่งปันประสบการณ์จากผู้บริหารเจ้าของธุรกิจนำเข้าและส่งออก และมุมมองของภาครัฐ ในหัวข้อ “Asia Trade Link Opportunities and Challenges” โอกาสและความท้าทายของผู้ประกอบการไทย ในตลาดเอเชีย โดย นายอรรถ เมธาพิพัฒนกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงิน บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) ดร.ธนภัท แสงอรุณ ผู้แทนกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ อดีตรองกงสุลฝ่ายพาณิชย์ ณ เมืองมุมไบ และนางสาวบุษรัตน์ เบญจรงคกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต ที่มาแนะนำเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกของไทย บริหารความเสี่ยงในการทำการค้าระหว่างประเทศ
ทีทีบี เป็นธนาคารที่พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยที่ทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่นในทุกสถานการณ์ ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยบริหารความเสี่ยงสำหรับการนำเข้า-ส่งออก สำหรับการวางแผนการบริหารงานและกลยุทธ์การเติบโตขององค์กรได้อย่างยั่งยืน
“ดุสิตธานี กรุงเทพ” โรงแรมสัญชาติไทยระดับลักชัวรี่แบรนด์แรกของเมืองไทย เปิดประตูต้อนรับแขกวีไอพี ที่เข้าพักเป็นวันแรก ท่ามกลางบรรยากาศสุดอบอุ่นและการบริการเหนือระดับในสไตล์ดุสิต ที่จะส่งมอบความประทับใจ ในฐานะ “หมุดหมายกรุงเทพฯ” พร้อมเปิดบริการสิ่งอำนวยความสะดวกบางส่วนในเฟสแรก อาทิ แกรนด์ ล็อบบี้ บาร์, ห้องอาหารพาวิลเลียน, ดุสิตกูร์เมต์ และ ห้องจัดงานเลี้ยง ประชุมสัมมนา ให้แขกได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อน อย่างเหนือระดับ ภายใต้รูปโฉมใหม่ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของแขกผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลก
ในโอกาสพิเศษนี้ผู้บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ชนินทธ์ โทณวณิก ประธานคณะกรรมการบริหาร ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม และมร.เอเดรียน รูดิน กรรมการผู้จัดการโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ พร้อมทีมผู้บริหารและพนักงาน ได้ร่วมกันต้อนรับแขกอย่างอบอุ่น พร้อมจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล

โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ พร้อมส่งมอบประสบการณ์ของโรงแรมห้าดาวระดับลักชัวรีในความสูง 39 ชั้น ที่นักเดินทางทั่วทุกมุมโลกจะได้ประทับใจกับห้องพักและห้องสวีททั้งหมด 257 ห้อง มอบความสะดวกสบายเต็มที่ด้วยขนาดห้องที่กว้างขวางเริ่มต้นที่ 50 ตร.ม. ในห้องดีลักซ์ ห้องพรีเมียร์ ที่โดดเด่นด้วยทัศนียภาพอันเขียวขจี ของสวนลุมพินีและวิวเมืองอันงดงามที่จะได้ชื่นชมเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพมหานครอย่างเต็มที่ในทุกๆ ห้อง ผ่านกรอบหน้าต่างสีทองที่ออกแบบเสมือนกรอบภาพขนาดใหญ่ ส่งมอบโมเมนต์แสนตรึงตาต่อแขกทุกท่านในการพักผ่อนเหนือระดับอย่างแตกต่างและความหรูหราสง่างามแนวร่วมสมัยที่ผสานกลิ่นอายแบบไทยในการตกแต่ง ควบคู่ไปกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ สอดคล้องกับมาตรฐานสากลพร้อมความสะดวกสบายอย่างเต็มที่

ในส่วนของห้องอาหารและบาร์อื่นๆ ซึ่งนำทีมโดยเชฟมากความสามารถ จะทะยอยเปิดให้บริการเพิ่มเติมในเดือนหน้า สำหรับท่านที่รักสุขภาพมีบริการเวลเนสและสปาแบบครบวงจรเพื่อความผ่อนคลายใจกลางเมือง ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนหน้าเช่นกัน

เพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ มอบประสบการณ์ ลีมูซีน รับ-ส่งสนามบินเหนือระดับ กับรถปอร์เช่ Panamera 4 E-Hybrid Executive นับได้ว่าเป็นโรงแรมแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นโรงแรมแรกในประเทศไทย ที่นำรถปอร์เช่ รุ่น Panamera 4 E-Hybrid Executive มาให้บริการเป็นรถรับ - ส่ง สำหรับแขกที่จองห้องพักแบบคลับรูม หรือห้องสวีท รวมถึงแขกที่เลือกจองข้อเสนอสุดพิเศษ 'Iconic Stay' ที่ประกอบด้วย บริการรับส่งสนามบิน สิทธิ์รับประทานอาหารสุดพิเศษ ในชั้นคลับ, บริการ Devarana Mind & Wellness และเลทเช็คเอาท์ ได้ถึงเวลา 16.00 น. สามารถสำรองห้องพักได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2567 สำหรับการเข้าพักระหว่างวันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2568ได้ทาง dusit.com เพียงเท่านั้น
ประกันภัยไทยวิวัฒน์ เดินหน้าจัดโครงการ CSR เพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการ Caring is giving ให้ด้วยใจให้ด้วยรัก ล่าสุด จัดกิจกรรม Protect Your Health ปกป้องคุณทุกสถานการณ์ เดินสายคาราวานทรูปน้องไทวี่ แจกเสื้อกันฝน รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยบนท้องถนน พร้อมสนับสนุนทุกคนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเอง
จากการเดินหน้าจัดทำโครงการ CSR เพื่อสังคมของ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) มาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นการเดินสายคาราวานทรูป แจกม่านบังแดด สำหรับปกป้องรถยนต์จากความร้อนที่ย่านหมอชิต และวิภาวดีและบริเวณลานจอดรถทั่วกรุงเทพฯ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ล่าสุดประกันภัยไทยวิวัฒน์ ผู้นำนวัตกรรมประกันภัยชั้นนำที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนไทย สานต่อจัดกิจกรรมเพื่อสังคม ภายใต้โครงการ “Caring is Giving” ให้ด้วยใจให้ด้วยรัก จัดกิจกรรม “Protect Your Health” ปกป้องคุณทุกสถานการณ์ เพื่อสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเอง โดยเฉพาะฤดูฝน ที่นอกจากจะต้องระมัดระวังในการขับขี่บนท้องถนนและการเดินทางด้วยรถสาธารณะให้ปลอดภัย เนื่องจากภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วม และอาจทำให้ถนนลื่น จนเกิดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ ยังต้องดูแลร่างกายให้แข็งแรงด้วยการไม่ตากฝนขณะเดินทาง หรือทำงานบริเวณกลางแจ้ง
ด้วยความห่วงใย ประกันภัยไทยวิวัฒน์จึงส่งคาราวานทรูปน้องไทวี่ แจกเสื้อกันฝนไทยวิวัฒน์ #Protect Your Health บริเวณ BTS อารีย์, BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และ BTS จตุจักร รวมทั้งบริเวณ BTS ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ให้แก่ผู้คนที่สัญจรไปมาในละแวกนั้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดินทางช่วงฝนตก พร้อมรณรงค์ให้ทุกคนหันมาใส่ใจสุขภาพของตัวเอง เข้ากับแนวคิดของกิจกรรมเพื่อสังคม Protect Your Health ปกป้องคุณทุกสถานการณ์ ที่ประกันภัยไทยวิวัฒน์คิดและใส่ใจอยู่เคียงข้างคนไทยมาตลอด 73 ปี

นอกจากกิจกรรมดีๆ ที่ประกันภัยไทยวิวัฒน์มอบให้แล้ว ยังมีประกันสุขภาพ Active Health ที่สนับสนุนให้ทุกคนดูแลสุขภาพ ยิ่งออกกำลังกายเบี้ยยิ่งลดสูงสุดถึง 40% ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 1 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมทั้ง IPD และ OPD ,อุบัติเหตุส่วนบุคคล รวมถึงกีฬาเสี่ยงภัย แบบไม่ต้องสำรองจ่าย ค่าเบี้ยรายเดือนเริ่มต้นเพียง 1,199 บาทต่อเดือนทั้งนี้ยังสามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชันสุดคุ้ม ผ่านทุกช่องทาง Official ของประกันภัยไทยวิวัฒน์ www.thaivivat.co.th , https://www.facebook.com/thaivivat และ LINE Official Account “THAIVIVAT INSURANCE”, หรือโทร. 02-200-7000 เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม