December 15, 2025

TrueMoney Mastercard (หรือเดิมเรียกว่า WeCard) เพื่อชำระเงิน ณ ร้านค้าชั้นนำที่มีเครื่องหมายแตะจ่ายง่ายๆ แบบไร้สัมผัสผ่าน Google Pay ได้แล้ววันนี้

นายอภินันท์ ดาบเพ็ชร ผู้อำนวยการฝ่ายการเติบโตของวอลเล็ทแพลตฟอร์ม บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบัน ผู้ใช้ TrueMoney Mastercard หรือเดิมที่เราเรียกว่า WeCard มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดย TrueMoney Mastercard เป็น Virtual Prepaid Mastercard หรือบัตรที่เชื่อมต่อเงินในบัญชีทรูมันนี่ ที่ช่วยให้ผู้ใช้นำเงินจากบัญชีทรูมันนี่ไปใช้ใช้ซื้อของได้ตามร้านค้าต่างๆ ที่รับบัตรเครดิตได้ โดยผู้ใช้งานส่วนใหญ่ชื่นชอบ TrueMoney Mastercard เนื่องจากเปิดใช้ง่ายผ่านแอปพลิเคชันทรูมันนี่ และความคล่องตัวในการนำไปใช้จ่ายออนไลน์ได้แม้ไม่มีบัตรเครดิต นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังรู้สึกมั่นใจ เพราะ TrueMoney Mastercard จะเชื่อมตัดเงินจำกัดเฉพาะที่เติมไว้ในบัญชีทรูมันนี่เท่านั้น ทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ และยังเลือกเปิด-ปิดการใช้งานได้ทำให้รู้สึกปลอดภัย โดยล่าสุด ทรูมันนี่ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จับมือกับ มาสเตอร์การ์ด ร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง Google ในการเปิดให้ผู้ใช้ Google Wallet สามารถเพิ่ม TrueMoney Mastercard เพื่อใช้จ่ายผ่าน Google Pay ทั้งการแตะเพื่อจ่ายที่ร้านค้าและการใช้จ่ายออนไลน์บนเว็บไซต์ชั้นนำทั่วโลกได้”

นางสาวณัชสิชา วรพฤกษ์พิสุทธิ์ รองประธานและหัวหน้าฝ่ายการพัฒนาตลาด มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า “ผู้บริโภคทั่วโลกต้องการความยืดหยุ่นและทางเลือกในการชำระเงินมากขึ้น โดยการสำรวจพฤติกรรมและทัศนคติของผู้บริโภคด้านวิธีการชำระเงินทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกประจำปี 2022 ของมาสเตอร์การ์ด (Mastercard New Payments Index) ระบุว่า ผู้บริโภคชาวไทยใช้ระบบการชำระเงินแบบดิจิทัลสูงกว่าค่าเฉลี่ยของผู้บริโภคทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งความร่วมมือกับ TrueMoney และ Google ในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของมาสเตอร์การ์ดในการเพิ่มทางเลือกการชําระเงินเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและการทําธุรกรรมของลูกค้าชาวไทยในยุคดิจิทัล โดยมาสเตอร์การ์ดยังคงมุ่งมั่นนำเสนอทางเลือกการชำระเงินในโลกไร้เงินสดที่สะดวกสบาย ไม่ว่าจะด้วยบัตรหรืออุปกรณ์สมาร์ตโฟน”

 

นายอดิทิพ ภาณุพงศ์ Head of Industry, Strategic Partnerships, Google Thailand กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ผู้ใช้ TrueMoney Mastercard สามารถเพิ่มบัตรลงใน Google Wallet เพื่อใช้จ่ายแบบไร้สัมผัสได้อย่างปลอดภัยทั้งบนแอปพลิเคชันและร้านค้าออนไลน์ โดยทาง Google หวังว่าจะได้ร่วมมือกับพันธมิตรมากขึ้นเพื่อผลักดันให้ Google Wallet เป็นแอปพลิเคชันที่คนไทยเลือกใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายผ่านบัตร หรือการทำรายการทางดิจิทัลต่างๆ เช่น บัตรสะสมคะแนนและตั๋วโดยสาร”

ปัจจุบัน มีผู้ใช้บริการ Google Pay มากกว่า 150 ล้านคน จาก 40 ประเทศทั่วโลก ด้วยความสะดวกสบายในการใช้งาน ที่ช่วยให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์สามารถชำระค่าสินค้าและบริการจากร้านค้าชั้นนำทั่วโลกได้ทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์ ครอบคลุมร้านค้าชั้นนำระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านขายยา เสื้อผ้า ร้านเสริมสวย ไปจนถึงร้านค้าปลีกจำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็จะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวไทยให้เป็นไปอย่างราบรื่น และไร้พรมแดน

นอกจากนี้ยังมี Paymentology พาร์ทเนอร์ที่มีบทบาทสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังการออกบัตรและประมวลผลบัตรเสมือน โดยใช้แพลตฟอร์มระบบคลาวด์ในการช่วยประสานระหว่างทรูมันนี่มาสเตอร์การ์ด และ Google Wallet เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมนำเสนอการประมวลผลแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่ที่มีความลื่นไหลและยืดหยุ่นที่สุด

นายเอมเร่ ดุรุสสุต ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ของ Paymentology กล่าวว่า "เรามีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับความไว้วางใจ และได้เป็นพันธมิตรผู้ดำเนินการการออกบัตรให้กับ TrueMoney และเราตื่นเต้นที่จะได้ร่วมฉลองความสำเร็จครั้งนี้ ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจ TrueMoney ในฐานะผู้บุกเบิกด้านการชำระเงินทางดิจิทัล ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย จาก Paymentology และความร่วมมือกับยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมอย่าง Mastercard และ Google เราภูมิใจที่มีส่วนร่วมทำให้ TrueMoney ได้เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกในการนำ Google Pay มาสู่ประเทศไทย"

โดยการร่วมมือกันของสี่พันธมิตรใหญ่ในครั้งนี้ นับเป็นการส่งเสริมเทรนด์การใช้จ่ายแบบไร้สัมผัสที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัย Mastercard New Payments Index 2022 ที่พบว่าผู้บริโภคชาวไทยกว่า 94% เคยใช้ระบบดิจิทัลเพื่อชำระค่าบริการต่างๆ มากกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคอยู่ที่ 88% โดยรูปแบบการชำระเงินที่มีการใช้งานมากที่สุดก็คือดิจิทัลวอลเล็ท ตามมาด้วยการชำระผ่านการโอนเข้าบัญชี และ QR code

ทั้งนี้ ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ หรือสมาร์ตวอตซ์ Wear OS ที่มี NFC ติดตั้งบนตัวเครื่อง สามารถใช้บริการ Google Pay ได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Wallet โดยดาวน์โหลดแอปฯ Google Wallet จาก Google Play Store

โดยการเพิ่มบัตรเสมือน TrueMoney Mastercard ลงใน Google Wallet สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงเปิดแอปฯ Google Wallet จากนั้นให้เลือกเมนู “Add to wallet” เพื่อเพิ่ม TrueMoney Mastercard โดยการใส่ข้อมูลบัตร และยืนยันตัวตนตามขั้นตอน เพียงเท่านี้ ผู้ใช้ TrueMoney Mastercard ก็สามารถชำระค่าสินค้าหรือบริการ ณ ร้านค้าทั่วโลกที่มีเครื่องหมายแตะจ่ายง่ายๆ แบบไร้สัมผัสผ่าน Google Pay ได้ทันที ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.truemoney.com/google-pay/

· 51Talk นำเสนอคลาสเรียนภาษาอังกฤษบนแพลตฟอร์มออนไลน์สอนสด เปิดเป็นพื้นที่กว้างให้เด็กและวัยรุ่นอายุ 3 – 15 ปี ได้ฝึกฝนพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติมากประสบการณ์ พร้อมคลาสเรียนหลากหลายที่ดีไซน์ได้ตามความต้องการ

51Talk (ไฟฟ์วันทอล์ก)  ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มการสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ชั้นนำที่โดดเด่นในด้านคลาสเรียนแบบสอนสด เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย มุ่งต่อยอดเป้าหมายของบริษัทเพื่อเสริมสร้างทักษะด้านภาษาให้กับผู้ที่ต้องการจะสื่อสารพูดคุยกับโลกกว้าง โดยหลักสูตรของ 51Talk เปิดโอกาสให้ผู้เรียนในประเทศไทยได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างสนุกสนานและได้สื่อสารโต้ตอบโดยตรง แบบตัวต่อตัวกับครูผู้สอนชาวต่างชาติ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของ 51Talk ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีให้ใช้งานง่ายและส่งเสริมการเรียนภาษาสำหรับเด็กและเยาวชน

51Talk ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 2011 และต่อมาได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange: NYSE:COE) จวบจนปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาอังกฤษให้แก่เด็ก ๆ กว่า 40 ล้านคนในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียกลาง อเมริกา และยุโรป และสอนนักเรียนไปแล้วมากกว่า 100 ล้านบทเรียน

แพลตฟอร์มของ 51Talk ได้รับการออกแบบมาสำหรับเด็กและวัยรุ่น อายุระหว่าง 3-15 ปี โดยผู้ปกครองสามารถเลือกครูผู้สอนที่มีมากกว่า 20,000 ท่านในระบบได้เอง ซึ่งครูผู้สอนทุกคนของ 51Talk ผ่านการรับรองโดย TESOL (Teaching English to Speakers of Other Languages) ตามมาตรฐานระดับสากล รวมทั้งยังผ่านการอบรมการสอนมากกว่า 100 ชั่วโมง รวมถึงการอบรมด้านจิตวิทยาสำหรับเด็ก เทคนิคและทักษะการสอนภาษาที่สอง ผู้ปกครองจึงมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพและความเป็นมืออาชีพในด้านการสอนอย่างแท้จริง

เมื่อเด็ก ๆ เรียนภาษาอังกฤษกับ 51Talk พวกเขาสามารถเลือกได้ว่าจะเรียนกับครูผู้สอนท่านใด โดยอ้างอิงจากระดับคะแนนที่ประเมินโดยนักเรียนท่านอื่น ข้อมูลเกี่ยวกับสัญชาติ และประสบการณ์ของครูผู้สอนนั้น ๆ นอกจากนี้นักเรียนยังสามารถเลือกวันและเวลาที่จะเรียนได้ตามความต้องการอีกด้วย บทเรียนทั้งหมดเป็นรูปแบบการเรียนตัวต่อตัวซึ่งมีส่วนอย่างยิ่งในการเสริมสร้างพัฒนาการด้านทักษะภาษาอังกฤษให้แก่ผู้เรียน ในทุกคลาสเรียนมีเป้าหมายเพื่อปลูกฝังความสนใจในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียน ในขณะเดียวกันยังสอนให้นักเรียนได้ฝึกฝนทักษะทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียนควบคู่กันไป

51Talk มีการออกแบบและพัฒนาแบบเรียนและสื่อการเรียนการสอนให้มีเนื้อหาครอบคลุมเป็นไปตาม Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) มาตรฐานการวัดระดับความสามารถทางด้านภาษาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล จึงทำให้นักเรียนทุกคนมั่นใจได้ว่าจะมีพัฒนาการทักษะทางด้านภาษาอังกฤษตามมาตรฐานสากล และเป็นไปตามแนวทางการทดสอบภาษาอังกฤษระดับนานาชาติสำหรับเด็ก เพื่อช่วยให้เห็นพัฒนาการที่ชัดเจนและวัดผลได้สำหรับเด็กนักเรียนแต่ละคน

“ปัจจุบันเด็กนักเรียนในประเทศไทยมีความคุ้นเคยเป็นอย่างมากกับการเรียนออนไลน์ ที่กลายมาเป็นเรื่องปกตินับแต่เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ สำหรับ 51Talk เรามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์พิเศษให้เด็ก ๆ ได้รับประโยชน์เต็มที่จากการเรียนแบบตัวต่อตัวกับครูผู้สอนมืออาชีพที่พวกเขาสามารถเลือกเองได้ว่าจะเรียนกับครูท่านใด รูปแบบการเรียนการสอนเช่นนี้จะทำให้ผู้ปกครองและเด็กมีความยืดหยุ่นในการวางแผนการเรียนได้ดียิ่งขึ้นว่าจะเรียนตอนไหน ทั้งยังมีโอกาสได้ทดลองเรียนกับผู้สอนคนใหม่ ๆ อีกด้วย หลักสูตรของ 51Talk ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าประสบผลสำเร็จอย่างดีเยี่ยมทั่วโลก และเราเองก็รู้สึกตื่นเต้นที่ตอนนี้เด็กไทยจะได้ใช้แพลตฟอร์มของ 51Talk เพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ และเตรียมความพร้อมให้พวกเขาได้พูดคุยสื่อสารกับโลกกว้างต่อไป” แจ๊ค ฮวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 51Talk กล่าว

นักเรียนรุ่นเยาว์ของ 51Talk ทั่วโลกแสดงให้เห็นถึงทักษะด้านภาษาอังกฤษที่เป็นเลิศ และในปี ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมามีนักเรียนดาวเด่นของ 51Talk ได้รับเชิญให้กล่าวสุนทรพจน์เป็นภาษาอังกฤษในการประชุมสุดยอดด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ (The United Nations Climate Change Conference) และในปี ค.ศ. 2018, 51Talk ได้พัฒนา Air Class ห้องเรียนออนไลน์ที่เชื่อมโยงนักเรียนจากทั่วโลกไว้ในห้องเรียนเดียวกัน ที่ซึ่งพวกเขาสามารถเรียนรู้และสื่อสารถึงกันและกันได้

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในชุมชน 51Talk เรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อเปิดโลกกว้างไปกับเรา และทดลองเรียนแบบตัวต่อตัวกับครูผู้สอนชาวต่างชาติตัวจริงฟรีได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่เว็บไซต์ 51Talk Thailand หรือกด https://bit.ly/3Vpjpvr ได้เลย

ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ขอเชิญร่วมบริจาคโลหิต ภายใต้โครงการ “ไทยพาณิชย์รวมใจไทยให้โลหิต” ในวันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม 2566 เวลา 9.00-15.00 น. ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ (รัชโยธิน) เพื่อแบ่งปันต่อเพื่อนมนุษย์ และเติมเต็มปริมาณโลหิตให้มีเพียงพอต่อการรักษาพยาบาลผู้ป่วยทั่วประเทศ ผู้ที่ร่วมบริจาคโลหิต รับผ้ายันต์พระนารายณ์ทรงครุฑประทับบนพระราหู โดยสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร รุ่น Limited Edition เสริมพลังมงคลชีวิต และกระบอกน้ำลายกระต่าย จำนวนจำกัด

การบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องทุก 3 เดือนจะช่วยให้ผู้บริจาคมีร่างกายแข็งแรง เม็ดเลือดแดง และ ไขกระดูกทำงานได้ดี การเตรียมตัวสำหรับผู้ที่จะบริจาคโลหิต ได้แก่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง และควรดื่มน้ำ 3-4 แก้วก่อนบริจาคโลหิต 30 นาที เป็นต้น

เอปสัน ชวนเพื่อนๆ ทำความรู้จักกับเทคโนโลยี Heat-Free ผ่านประสบการณ์ Augmented Reality (AR) เพียงสแกน QR Code หรือคลิกที่ลิงค์ https://ecotank-ar.com/?session =online แล้วส่องที่พื้นผิวเรียบ เช่น โต๊ะ หรือ กำแพง เพื่อพบน้องหมี EcoBear ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเทคโนโลยีการพิมพ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่าง Heat-Free ในเครื่องพิมพ์เอปสัน EcoTank พร้อมรับโค้ดส่วนลด 100 บาท สำหรับซื้อเครื่องพิมพ์ Epson EcoTank ใน Epson Official Store บนร้านค้าออนไลน์อย่าง Shopee และ Lazada ร่วมสนุกและรับส่วนลดได้ตั้งแต่วันนี้ - 30 มิถุนายน 2566 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/epsonthailand

ปูนซีเมนต์นครหลวง ขยายโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกล ภายใต้โครงการโรงเรียนสีเขียว เป็นปีที่ 14 ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อสร้างโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน มาแล้วกว่า 33 แห่ง ด้วยวิสัยทัศน์ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน ปี 2573” ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ ของคนไทย ล่าสุดได้รับเข็มเชิดชูเกียรติผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องในโอกาสวันสถาปนาตำรวจตระเวนชายแดน ประจำปี 2566

ดร.สุนีย์ ศรไชยธนะสุข กรรมการอิสระและประธานคณะกรรมการตรวจสอบ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปูนซีเมนต์นครหลวงมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา โดยปัจจุบันได้ร่วมมือ กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สร้างโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กๆที่ด้อยโอกาส ในพื้นที่ห่างไกล ภายใต้โครงการโรงเรียนสีเขียว มาเป็นปีที่ 14 ด้วยวิสัยทัศน์ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน ปี 2573” ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย มากว่า 20 ปี โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนเยาวชนที่ด้อยโอกาสให้เข้าถึงโอกาส ในการศึกษาอย่างเท่าเทียม

ทั้งนี้ โรงเรียนสีเขียวได้ดำเนินการก่อสร้างล่าสุดคือ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนปูนอินทรี-มูลนิธิกรุงศรี อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนแห่งที่ 33 ของโครงการ โดยมีมูลนิธิกรุงศรีได้ร่วมสนับสนุนการก่อสร้างโรงเรียนดังกล่าวอีกด้วย

“รางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ถือเป็นกำลังใจและแรงผลักดันให้ปูนซีเมนต์นครหลวง ส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา สร้างขวัญและกำลังใจต่อการศึกษาของเยาวชน เพื่อต่อยอดและพัฒนาสู่การเป็นบุคลากรที่ดีของประเทศในอนาคต และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น โดยโครงการยังมุ่งเน้นการอนุรักษ์พลังงาน รักษาสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม” ดร.สุนีย์ กล่าว

 

นางประณยา นิถานานนท์ (ขวา) ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับนางสาวณัชสิชา วรพฤกษ์พิสุทธิ์ (ซ้าย) รองประธานและหัวหน้าฝ่ายการพัฒนาตลาด มาสเตอร์การ์ด บริษัท มาสเตอร์การ์ด (ประเทศไทย) มอบรางวัลตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพฯ – โตเกียว โดยสายการบินไทย รางวัลละ 2 ที่นั่ง มูลค่ารวม 66,650 บาท จำนวน 2 รางวัล และมอบรางวัลตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพฯ – ภูเก็ต โดยสายการบินไทยสมายล์ รางวัลละ 2 ที่นั่ง มูลค่ารวม 10,780 บาท จำนวน 8 รางวัล ให้กับผู้โชคดีสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี มาสเตอร์การ์ด และผู้โชคดีสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี - อโกด้า มาสเตอร์การ์ด ที่มียอดใช้จ่ายสะสมสูงสุดจากแคมเปญ “ท่องเที่ยวสุดคุ้ม...ส่งท้ายปี กับบัตรเครดิต KTC”

ทั้งนี้ สมาชิกที่ได้รับรางวัลจากแคมเปญดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 10 ท่าน รวมมูลค่าทั้งสิ้น 219,540 บาท โดยพิธีมอบรางวัลจัดขึ้นที่ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 11 อาคารสมัชชาวานิช 2 ต้นซอยสุขุมวิท 33 เมื่อเร็วๆ นี้

บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) โดย นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ประธานกรรมการ , ดร.ชญานิน เทพาคำ ประธานกรรมการบริหาร, นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยคณะกรรมการบริษัท จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 โดยมีวาระสำคัญเพื่อรายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2565 พร้อมลงมติอนุมัติจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น

นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.02 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลสูงถึง 42% ของกำไรสุทธิ การจ่ายปันผลในครั้งนี้เป็นผลมาจากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายในเงื่อนเวลาที่เร็วกว่าที่บริษัทฯ คาดการณ์ไว้ โดยในปี 2565 บริษัทฯ สร้างรายได้รวมเติบโตกว่า 62% พร้อมรายงานกำไรสุทธิสูงถึงประมาณ 500 ล้านบาท ความสำเร็จนี้เป็นเครื่องยืนยันความสามารถของบริษัทฯ ในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วและเต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้กลุ่มธุรกิจที่พักอาศัยประเภทบ้านแนวราบสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น ภายหลังจากการปรับโครงสร้างทางธุรกิจได้เพียง 1 ปี บริษัทฯสามารถเปิดตัวบ้านเดี่ยวโครงการแรกภายใต้ชื่อ โครงการศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ (SIRANINN Residences Pattanakarn) มูลค่าโครงการกว่า 2,900 ล้านบาท และได้รับการตอบรับจากลูกค้าเกินความคาดหมายด้วยยอดโอนกรรมสิทธิ์สูงกว่า 830 ล้านบาทภายในสองเดือนหลังจากเปิดตัวโครงการ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่น และการยอมรับในคุณภาพบ้านแบบสิงห์ เอสเตท นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการรุกตลาดโครงการบ้านแนวราบอย่างเต็มรูปแบบเพื่อเจาะตลาดกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

ในปี 2566 นี้ บริษัทฯ จะทยอยเปิดตัวโครงการใหม่อีก 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะพร้อมโอนกรรมสิทธิ์และหนุนรายได้ของบริษัทฯ ในช่วงปลายปีนี้ เสริมทัพด้วยผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากทุกหน่วยธุรกิจที่คาดว่าจะสร้างรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธรุกิจโรงแรมในปี 2566 นี้ ซึ่งถือว่าเป็นปีแรกของการฟื้นตัวอย่างเต็มรูปแบบของภาคการท่องเที่ยวทั่วโลก และโรงแรม ในทุกประเทศที่บริษัทฯ ดำเนินกิจการอยู่สามารถเทรดได้เต็มที่ ซึ่งจะผลักดันรายได้และผลกำไรจากธุรกิจโรงแรม ที่ดำเนินงานผ่าน SHR ให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด

จากปัจจัยสนับสนุนข้างต้น บริษัทฯ มีความมั่นใจที่จะขับเคลื่อนผลการดำเนินงาน สู่เป้าหมาย All-time High ทั้งรายได้และกำไรในทุกพอร์ตธุรกิจ ภายใต้แรงส่งสำคัญจากกลยุทธ์ S EXCELS มุ่งสู่ความเป็นเลิศในทุกมิติ โดยบริษัทฯ วางเป้าให้รายได้รวมของบริษัทฯเติบโตขึ้นอีก 34% สู่ 16,700 ล้านบาท ยังผลไปถึงการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่จะเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วยเช่นกัน” นางฐิติมา กล่าว

Kick Sport and Entertainment ประกาศเปิดตั"KICK NEW GEN" การแข่งขันมวยไทยที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาของนักชกช่วง(หรือมัธยมปลาย) อายุ 15 ถึง 19 ปี กับการแข่งขันชกมวยไทยที่ไม่เหมือนใครซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อผสมผสานความทันสมัย เข้ากับประเพณีวัฒธรรมไทยเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากทั่วประเทศได้แสดงฝีมือและเป็นตัวแทนของโรงเรียนในเข้าสู่การชกมวยไทยในสนามมวยเวทีลุมพินี เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา

KICK NEW GEN จะเริ่มมีการแข่งขันขึ้นในวันที่ 18 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป โดยจะจัดให้มีการแข่งขันในสี่รุ่นน้ำหนักในรูปแบบแพ้คัดออก ซึ่งในครั้งแรกจะเริ่มจาก 8 โรงเรียนที่มีชื่อเสียงและมีนักกีฬามวยไทยพร้อมเข้าร่วมการแข่งขัน ได้แก่ โรงเรียนหนองก็พิทยาคม โรงเรียนนิภาศิริ โรงเรียนถนนหักพิทยาคม โรงเรียนกีฬาโคราช โรงเรียนวัดบวรมงคล โรงเรียนกีฬานครสวรรค์ โรงเรียนปทุมคงคา โรงเรียนจำนงวทยา โรงเรียนสามโคก โดยจะใช้สนามมวยเวทีลุมพินี เป็นสังเวียนในการแข่งขันครั้งนี้

โดยในการประชุมชี้แจงรายละเอียดการแข่งขัน Kick New Gen ได้รับเกียรติจาก “พลตรี ทวีศักดิ์ จันทราสินธ์” รองผู้อำนวนการศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบกสนามมวยเวทีลุมพินี เป็นประธานในที่ประชุม “พลตรี ทวีศักดิ์ จันทราสินธ์” ได้กล่าวถึง นโยบายของศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบกสนามมวยเวทีลุมพินี ในเรื่องของการพฒนาและส่งเสริมมวยไทย ให้เป็นกีฬาอาชีพและเป็นมรดกอย่างยั่งยืน ว่าการส่งเสริมนักกีฬาเยาวชนให้มีพื้นที่ในการแสดงความสามารถด้านการกีฬา โดยเฉพาะมวยไทย เป็นเรื่องสำคัญและสอดคล้องกับนโยบายของสนาม เห็นด้วยและพร้อมส่งเสริมที่จะให้มีการจัดการแข่งขันการชกมวยไทยของเยาวชน ซึ่งจะเป็นนักมวยไทยอาชีพในอนาคต อย่างรายการ Kick New Gen

นายนนทวัชร ช่ำชอง MD Kick Thailand กล่าวด้วยว่า "Kick New Gen จะเป็นอีกสังเวียนหนึ่งที่ช่วงส่งเสริมและยกระดับมวยไทย ให้เป็นกีฬาอาชีพได้อีกทางหนึ่ง เพราะเราเปิดโอกาศให้นักชกมวยไทยที่มีความสามารถ แต่ไม่มีเวที่ที่จะขึ้นชกได้มีโอกาศ มาแสดงฝีมือในรายการนี้ ทั้งนี้ยังชี้ให้เห็นถึง ความเป็นไปได้ที่จะนำเอานักชกเยาวชนจาก Kick New Gen ไปต่อยอดในรายการอื่นๆของผู้จัดที่มีการแข่งขันที่สนามลุมพันีแห่งนี้”

อาจารย์กุหลาบ แสงจันทร์ และ ตัวแทนจากโรงเรียนทั้ง 8 กล่าวขอบคุณ โดยระบุว่า “ขอขอบคุณ KICK และ สนามมวยเวทีลุมพินี ที่ให้โอกาส น้องๆ ม.ปลาย และเด็กๆ จากทั่วประเทศไทยได้แข่งขันในสนามมาตรฐาน อย่างลุมพินี ความคิดริเริ่มนี้จะสร้างอนาคตที่สดใสให้กับมวยไทยและนักสู้รุ่นต่อไปอย่างไม่ต้องสงสัย และพร้อมที่จะ เป็นตัวแทน และสื่อกลางส่งต่อข้อมูลต่างๆ เพื่อคัดสรรค์นักมวยเยาวชนมือดีในภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศเพื่อเข้าร่วมในรายการของ Kick New Gen”

และในงาน ยังมี คุณ ชัชวาลล์ คงอุดม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี มาร่วมถ่ายรูปและให้กำลังใจกับ ผู้บริหารของ ศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบกสนามมวยเวทีลุมพินี และ Kick Sport and Entertainment โดยได้กล่าวถึงการทำงานที่ผ่านมา และแนวทางความร่วมมือต่างๆดที่กำลังเกิดขึ้น ถือเป็นการสร้างประโยช์นให้กับชาติบ้านเมืองอีกทางหนึ่ง

LINE MAN ผู้นำแพลตฟอร์มออนดีมานด์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของประเทศไทย กับแคมเปญ “ทุกเสียงมีค่า” ชวนคนไทยออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งปี 66 พร้อมแจกโค้ดส่วนลดค่าส่งสูงสุด 66 บาท ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้ ให้อิ่มฟินสุขคุ้มกับร้านอาหารกว่า 700,000 ร้านทั่วไทย ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พฤษภาคมนี้

แคมเปญ “ทุกเสียงมีค่า” เกิดจากความตั้งใจที่ต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการชวนคนไทยออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคมนี้ เพราะ “เสียงของคุณมีค่า” เลือกโหวตพรรคที่ใช่แล้วกลับบ้านพักหาของกินอร่อยที่ชอบบน LINE MAN รับส่วนลดค่าส่งทันที 66 บาท เพียงกรอกโค้ด “LMVOTE” เมื่อสั่งซื้ออาหารขั้นต่ำ 200 บาท ไม่จำกัดร้าน ใช้ได้กับทุกออเดอร์ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://lineman.onelink.me/1N3T/ojjb7px1

GWS CLOUD และ ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) สนับสนุน Cubinet ช่วยให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่เร็วยิ่งขึ้น ด้วยเวลาตอบสนองที่รวดเร็วเชื่อถือได้และ latency ต่ำ เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดของชุมชนเกมเมอร์ออนไลน์

อุตสาหกรรมวิดีโอเกมมีการเติบโตอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากข้อมูลสถิติในปัจจุบัน มีจำนวนผู้เล่นวิดีโอเกมทั่วโลกมากถึง 3.24 พันล้านคน หรือมากกว่า 40% ของจำนวนประชากรทั่วโลก และในทวีปเอเชียเพียงแห่งเดียวมีจำนวนผู้เล่นเกมอยู่เกือบถึง 1.5 พันล้านคน ส่งให้ทวีปเอเชียก้าวสู่การเป็นตลาดเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก

จากการเป็นงานอดิเรกของคนเฉพาะกลุ่ม วิดีโอเกมได้กลายมาเป็นหนึ่งในตลาดที่มีมูลค่าสูงสุดในอุตสาหกรรมบันเทิง ปัจจุบันอุตสาหกรรมวิดีโอเกมมีมูลค่ามากถึง 197.11 พันล้านดอลลาร์ และตัวเลขนี้คาดว่าจะเติบโตสูงยิ่งขึ้นไปอีกในไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ทำให้ความนิยมในการเล่นวิดีโอเกมเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยผู้คนหันมาเล่นวิดีโอเกมเพื่อความบันเทิงในขณะอยู่ที่บ้าน

แม้ว่าแนวโน้มการซื้อวิดีโอเกมจะกลับมาเป็นปกติในปี 2565 แต่อุตสาหกรรมนี้ยังคงเป็นตลาดหลักในอุตสาหกรรมบันเทิง โดยคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 268 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2568

เกมออนไลน์แบบมีผู้เล่นจำนวนมาก (MMO) ต้องอาศัยการมองเห็นร่วมกันแบบเรียลไทม์ระหว่างผู้เล่นเกมบนหน้าจอเดียวกัน ซึ่งในโลกของเกมออนไลน์ คุณภาพของเกมจะเป็นตัววัดความสำเร็จต่อประสบการณ์การเล่นเกมของผู้เล่น และช่วยให้เอาชนะผู้เล่นคนอื่นได้

การเล่นเกมบนคลาวด์เกี่ยวข้องกับการเรียกใช้วิดีโอเกมบนเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลและสตรีมไปยังอุปกรณ์ของผู้ใช้ ดังนั้นทางเลือกของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลมีผลอย่างมากต่อประสบการณ์การเล่นเกม รวมถึงประสิทธิภาพ ความเรียลไทม์ ความพร้อมใช้งานของเกม เวลาในการโหลด ความปลอดภัย ค่าใช้จ่าย และการสนับสนุนต่างๆ

Cubinet มอบความบันเทิงออนไลน์ไร้ขีดจำกัดด้วยเกมต่างๆมากมาย เช่น 9Yin, Perfect World และอื่นๆ มุ่งเน้นให้เกมเมอร์ทั่วโลกใช้งานได้ง่าย ในหลายอุปกรณ์ อาทิ พีซี โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน โดย Cubinet ก่อตั้งขึ้นในปี 2549 ในประเทศมาเลเซีย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บริษัทได้เติบโตขึ้นและกลายเป็นผู้นำอุตสาหกรรมวีดีโอเกมในเอเชียด้วยการเพิ่มขึ้นของพันธมิตรนักพัฒนาและจำนวนผู้เล่นมากกว่า 15 ล้านคนทั่วโลก

ในปี 2565 บริษัทเกมซึ่งโฮสต์อยู่บนคลาวด์ต้องเผชิญกับปัญหาด้าน latency หรือ ความหน่วงที่ส่งผลต่อความเร็วในการตอบสนองของเซิร์ฟเวอร์ ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มได้ จึงส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจของเกมเมอร์ จนกลายเป็นผลตอบรับในเชิงลบกลับมาที่บริษัท รวมไปถึงในโซเชียลมีเดียและออนไลน์ฟอรัมต่างๆ และในโลกปัจจุบันที่ทุกอย่างเชื่อมโยงถึงกันหมด การที่ข่าวสารแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลต่อชื่อเสียงและสร้างผลกระทบถึงคุณค่า

ทั้งหมดได้ Cubinet ตระหนักดีถึงความเสี่ยงและผลกระทบดังกล่าว จึงเร่งตัดสินใจดำเนินการและมองหาบริการคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพ โดยได้ร่วมมือกับ GWS CLOUD เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เล่น

GWS CLOUD มีการประมวลผลประสิทธิภาพสูง ให้ความครอบคลุม และมีคุณสมบัติทางด้านเทคนิคที่ดีกว่าของคู่แข่งหลายราย ยิ่งไปกว่านั้น ยังอยู่ในตำแหน่งที่ตั้งซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของเอเชีย ใกล้กับผู้ใช้งาน (end user) ทำให้ latency ต่ำ และตอบโจทย์ความต้องการของทีมนักพัฒนา รวมถึงพื้นที่เก็บข้อมูล ตลอดจนความเร็ว SSD และเครือข่ายแบนด์วิธความเร็วสูง

โซลูชั่น GWS CLOUD ได้รับการสนับสนุนโดย eASPNet ซึ่งเป็นผู้ให้บริการคลาวด์อันดับหนึ่งในไต้หวัน และโฮสต์อยู่ที่ ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลไฮเปอร์สเกลที่ทันสมัยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงการย้ายข้อมูลและการใช้งาน เราประทับใจในบริการของทีม ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) และการตอบสนองที่รวดเร็วในการแก้ปัญหา เรายังรู้สึกทึ่งกับทักษะทางด้านภาษาของทีมงาน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการสื่อสารกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ระหว่างประเทศของเรา ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี การร้องเรียนของลูกค้าลดลงถึง 90% ในทันที ซึ่งทำให้เรามั่นใจที่จะขยายทั้งฐานลูกค้าและบริการบันเทิงออนไลน์ของเราในอนาคต” คุณพีรพล อัศวถาวรวานิช เจ้าหน้าที่ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ, บริษัท คิวบิเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

การรักษาประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่นบนอุปกรณ์ต่างๆนั้น ต้องอาศัยทั้งพลังและความพร้อมใช้งานที่เชื่อถือได้อย่างต่อเนื่อง การหยุดทำงานใดๆ อาจส่งผลให้ผู้เล่นสูญเสียความก้าวหน้าและความสนใจต่อเกม ซึ่งส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อประสบการณ์ของผู้เล่น โซลูชั่น GWS CLOUD ช่วยให้ Cubinet มีโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ขั้นสูงที่สำคัญต่อภารกิจในเกม พร้อมยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ด้วย latency ที่ลดลง มีการตอบสนองและอัตราการแสดงผลภาพที่สูงขึ้น ช่วยลดการหยุดชะงักในเกมบนมือถือ

“ทุกวันนี้ ใครๆ ก็พูดถึงคลาวด์ และสิ่งสำคัญคือต้องสร้างความแตกต่างระหว่างคุณภาพและความสามารถของคลาวด์ ตัวอย่างเช่น เครือข่ายผู้ให้บริการเนื้อหา (CDN) และอุตสาหกรรมเกม มีข้อกำหนดเฉพาะซึ่งจำเป็นต้องได้รับการจัดการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับไฮเอนด์ เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดของตนได้ การเป็นพันธมิตรกับ ซุปเปอร์แนป (ประเทศไทย) นั้น มุ่งเน้นที่ลูกค้าเป็นหลัก และเราสามารถใช้จุดแข็งของทั้งสองบริษัทในการปรับแต่งโซลูชั่นคลาวด์ทั้งแบบส่วนตัว สาธารณะ หรือแบบผสมผสานสำหรับลูกค้าของเรา” Mr. Hans Huang ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี ของ GWS CLOUD กล่าว

นอกจากนี้ ด้วยบริการคลาวด์คอมพิวติ้งที่ทรงพลังและเชื่อถือได้ ทำให้ Cubinet สามารถทุ่มเททรัพยากรไปที่การพัฒนาแอปพลิเคชั่นและการบริการลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบัน ทีมเทคนิคสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์การเล่นวิดีโอเกมที่โดดเด่น และใช้เวลาดูแลเรื่องโครงสร้างพื้นฐานน้อยลง ทำให้สามารถเร่งความเร็วในการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ แพตช์เพิ่มเติม หรือเกมใหม่ๆ และสามารถเข้าถึงทรัพยากรด้านการประมวลผลได้อย่างง่ายดายเพื่อจัดการกับปริมาณการใช้งานของผู้เล่นที่เพิ่มมากขึ้น

X

Right Click

No right click