December 20, 2025

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มุ่งมั่นเดินหน้าเปลี่ยน...ชุมชนเพื่อความยั่งยืน เชิญชวนผู้ที่สนใจเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรม fai-fah for Communities ที่ดำเนินการโดย มูลนิธิทีทีบี ภายใต้แคมเปญ “ขอ 1 วัน ใน 1 ปี มาทำอะไรดี ๆ ด้วยกัน” ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม เพื่อจุดประกายและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ชุมชนดีขึ้นอย่างยั่งยืน

นางประภาศิริ โฆษิตธนากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการรวมตัวกันของอาสาสมัครทีทีบี (ttb volunteer) เพราะเชื่อว่า นอกเหนือจากการมาทำงานที่ธนาคารแห่งนี้ พวกเราชาวทีทีบีไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ยังทำกิจกรรมอาสาสมัครเพื่อสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้ชุมชนด้วยเช่นกัน จึงเกิดโครงการที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้ใช้ความรู้ความสามารถในการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ชุมชนดีขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งนอกจากจะช่วยจุดประกายโอกาสให้กับสังคมแล้ว ยังเป็นโอกาสดี ๆ ที่อาสาสมัครจะได้ทำความรู้จัก พบปะเพื่อนใหม่ต่างแผนก พัฒนาโครงการเพื่อสังคมที่ตนเองสนใจ วางแผนงานร่วมกับชุมชน และสุดท้าย ส่งต่อให้ชุมชนสามารถดำเนินงานต่อได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญา Make REAL Change ที่พนักงานทุกคนยึดถือมาโดยตลอด

โดยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา อาสาสมัครทีทีบีกว่า 20,000 คน ได้นำความรู้ความสามารถ เข้าช่วยเหลือชุมชนแล้วกว่า 260 ชุมชน เป็นจำนวน 262 โครงการทั่วประเทศ ซึ่งส่งเสริมให้ชุมชนมีรายได้ มีช่องทางในการประกอบอาชีพที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเพิ่มทักษะการบริหารจัดการทางการเงิน การทำบัญชี เพื่อให้วิสาหกิจชุมชน หรือองค์กรเหล่านั้นเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ในปี 2567 นี้ เหล่าอาสาสมัครทีทีบี ยังคงมุ่งมั่นค้นหาชุมชนที่ต้องการความช่วยเหลือและพัฒนาสังคมต่อไป และเพื่อต่อยอดพร้อมทั้งส่งต่อความรู้สึกแห่งการให้แก่ผู้มีจิตอาสาภายนอกองค์กร เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงโลกให้น่าอยู่มากขึ้น จึงขอเชิญชวนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปัน ในกิจกรรม fai-fah for Communities ภายใต้แคมเปญ “ขอ 1 วัน ใน 1 ปี มาทำอะไรดี ๆ ด้วยกัน” กับ “ฝาขวด...รักษ์โลก” โดยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยน...ขยะพลาสติกเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อลดขยะพลาสติก ลดมลพิษ และสร้างคุณค่าให้แก่ฝาขวดพลาสติกสามารถนำไปเป็นทรัพยากรหมุนเวียนใช้ประโยชน์ต่อได้ โดยฝาขวดน้ำพลาสติกที่ได้รับจะนำไปรีไซเคิลเปลี่ยนเป็นโต๊ะ เก้าอี้เพื่ออุปกรณ์การเรียน เครื่องดนตรี บล็อกปูพื้นถนน ฯลฯ โดยผู้เชี่ยวชาญอย่างมหาวิทยาลัยศิลปากร คณะวิทยาศาสตร์ และโครงการกรีนโรด จังหวัดลำพูน ก่อนนำไปมอบให้น้องนักเรียนที่ขาดแคลนต่อไป” นางประภาศิริ กล่าว

ผู้ที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับอาสาสมัครทีทีบี สามารถส่งฝาขวดมาได้ที่ โครงการอาสาช่วยกันทำ ที่อยู่ 1/31 ซ.เพิ่มสิน 39 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. 10220

ทรูมันนี่ ผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการให้บริการทางการเงินที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ส่งบริการสำหรับธุรกิจ "TrueMoney Gift Card" ซึ่งเป็นการ์ดของขวัญออนไลน์แทนเงินสดไว้ใช้แลกเข้าแอปทรูมันนี่ โดยเป็นบริการที่เจาะกลุ่มองค์กรเพื่อใช้มอบให้ลูกค้าเป็นของขวัญหรือแจกพนักงานเป็นของรางวัล เพื่อความสุขที่มากกว่า คนรับดีใจ คนให้สะดวกดี ชูจุดเด่น โอนและใช้จ่ายได้หลากหลายช่องทาง จัดการง่าย ไม่ต้องกลัวสูญหาย โดยองค์กรที่สนใจสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ช่วยอำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ให้และผู้รั

นางสาวมนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน ทรูมันนี่ กล่าวว่า “ปัจจุบัน ภาพรวมของตลาดบัตรของขวัญออนไลน์ (Online Gift Card) ในประเทศไทย กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 24.8% ตั้งแต่ปี 2563 - 2567 โดยประมาณการว่าตลาดบัตรของขวัญออนไลน์มีมูลค่าสูงถึง 3 หมื่น 9 พันล้านบาทในปี พ.ศ. 2567 สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นของบัตรของขวัญในฐานะตัวเลือกสำหรับการมอบของขวัญที่สะดวก ซึ่งมักเป็นที่นิยมในองค์กรต่าง ๆ เพื่อมอบให้ลูกค้าในเทศกาลสำคัญ วันพิเศษ หรือเป็นของรางวัลจากการจัดแคมเปญการตลาดต่าง ๆ ตลอดทั้งมอบให้เป็นสวัสดิการหรือเพื่อส่งมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่พนักงาน ทรูมันนี่ จึงเล็งเห็นโอกาสตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจ และต่อยอดขยายบริการที่ตอบโจทย์ต่อความต้องการของลูกค้าแต่ละองค์กร โดย “TrueMoney Gift Card” ได้ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวก มอบสิทธิพิเศษ และประโยชน์ให้ลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ เพราะสามารถซื้อและมอบให้ผู้รับผ่านทางออนไลน์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการบริหารองค์กร ขับเคลื่อนแรงจูงใจ พร้อมทั้งเติมเต็มความประทับใจให้กับลูกค้าหรือพนักงานขององค์กร”

สำหรับการเปิดตัว TrueMoney Gift Card ในครั้งนี้ ทรูมันนี่ ได้ร่วมกับ โวกิ (Wogi) ผู้ให้บริการด้านบัตรของขวัญดิจิทัลชั้นนำ เพื่อส่งเสริมประสบการณ์ในการใช้บริการ TrueMoney Gift Card ได้อย่างราบรื่นผ่านโซลูชันที่ล้ำสมัยและตอบโจทย์ผู้ใช้งาน พร้อมกับ 3 จุดเด่น ได้แก่

· โอนและใช้จ่ายได้หลากหลายกว่า TrueMoney Gift Card สามารถอำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ความต้องการในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนได้อย่างครอบคลุมผ่านแอป ทรูมันนี่ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของใช้จำเป็นในร้านสะดวกซื้อ จ่ายค่าอาหารตามสั่ง ช็อปออนไลน์ จ่ายบิลค่าน้ำค่าไฟ ฯลฯ

· จัดการง่าย ไม่เสี่ยงสูญหาย ด้วยจุดเด่นที่เป็น E-Voucher ทำให้การใช้งานนั้นสะดวกสบาย ไร้กังวล ลดต้นทุนและความยุ่งยากในการเก็บรักษาและการจัดส่ง ปลอดภัย หมดปัญหาเรื่องการสูญหาย หรือถูกทำลาย เพิ่มความมั่นใจ สะดวกทั้งผู้ให้และผู้รับ

· ตอบโจทย์แคมเปญการตลาดให้ทุกองค์กร เพราะ TrueMoney Gift Card สามารถนำไปใช้งานได้อย่างง่ายดาย จึงเหมาะสำหรับการใช้ในแคมเปญการตลาด ทั้งการเพิ่มยอดขายหรือการสร้าง Brand Loyalty ให้กับลูกค้า

องค์กรที่สนใจสั่งซื้อ TrueMoney Gift Card สามารถติดต่อฝ่ายขายของทรูมันนี่ที่ https://www.truemoney.com/business-partner/giftcard/ โดยเลือกรูปแบบ Gift Card ที่ต้องการได้ เช่น แบบโค้ด หรือ ลิงก์ พร้อมทั้งมีเครื่องมือจัดการ Gift Card และอำนวยความสะดวกในการจัดส่ง Gift Card ให้ลูกค้าบนช่องทางออนไลน์ เพื่อให้ตรงกับความต้องการขององค์กรในการนำ Gift Card ไปแจกให้กับลูกค้าหรือพนักงานต่อไป

“โรคฝีดาษวานร” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “โรคฝีดาษลิง” หลายๆ คนคงคิดว่าเป็นโรคระบาดที่ไกลตัวไม่สามารถป่วยหรือติดเชื้อกันได้ง่ายๆ แต่รู้หรือไม่ว่า “โรคฝีดาษวานร” อันตรายกว่าที่คิด เพราะปัจจุบันเป็นโรคที่ องค์การอนามัยโลก (WHO) และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทย ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

โดยตั้งแต่ปี 2022 ที่เริ่มมีการระบาดจนถึงปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อ “โรคฝีดาษวานร” จากทั่วโลกมากกว่าหนึ่งแสนราย ถึงแม้ในขณะนี้สถานการณ์ของโรคฝีดาษวานรในประเทศต่างๆ ดีขึ้น จำนวนผู้ป่วยลดลงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แต่ในประเทศแถบแอฟริกากลางโดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (DRC) กลับพบว่ามีการระบาดของสายพันธุ์ใหม่ Clade Ib ซึ่งแพร่จากคนสู่คนได้ง่ายขึ้นและมีการระบาดไปยังประเทศข้างเคียงอีก 4 ประเทศได้แก่ รวันดา บุรุนดี ยูกันดา เคนยา

ในปี 2024 มีรายงานจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกและประเทศข้างเคียง ตรวจพบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโรคฝีดาษลิงมากถึง 25,000 ราย และเสียชีวิตไปแล้ว 700 กว่าราย และมีรายงานผู้ป่วยในประเทศไทย 1 รายจากชาวยุโรป แต่ยังไม่พบการระบาดของสายพันธุ์ใหม่ Clade Ib นี้ในประเทศไทย สำหรับในประเทศไทยสถานการณ์โรคยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ จำนวนผู้ป่วยใหม่เฉลี่ย 10 กว่ารายในแต่ละเดือน เป็นสายพันธุ์ Clade IIb เช่นเดียวกับที่มีการระบาดทั่วโลกตั้งแต่ปี 2022

 

พญ.จิตรฟ้า หรูรุ่งโรจน์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว โรงพยาบาลพระรามเก้า ให้ข้อมูลว่า โรคฝีดาษวานร หรือ โรคฝีดาษลิง เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส Mpox ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสในกลุ่มเดียวกับโรคฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษ พบการติดเชื้อในลิงครั้งแรกในปี 1958 ต่อมาพบว่าเชื้อสามารถแพร่จากสัตว์สู่คน โดยตรวจพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงครั้งแรกที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (DRC) ทวีปแอฟริกากลาง ซึ่งโรคฝีดาษลิง ส่วนใหญ่จะมีการระบาดในประเทศที่อยู่ในทวีปแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตก อาทิ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, สาธารณรัฐคองโก, ประเทศไนจีเรีย, สาธารณรัฐเบนิน และสาธารณรัฐเซียร์ราลีโอน เป็นต้น

“โรคฝีดาษลิง” เป็นโรคที่พบในสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระรอก กระต่าย โรคนี้ยังสามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้จากการสัมผัสใกล้ชิดสัตว์ การสัมผัสซากสัตว์ รับประทานเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุกและติดต่อจากคนสู่คนได้ จากการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย การสัมผัสตุ่มหนองและสารคัดหลั่ง การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วย การพูดคุยในระยะใกล้ชิดเป็นระยะเวลานาน การใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว เครื่องนอน แก้วน้ำดื่ม สำหรับการระบาดตั้งแต่ปี 2022 พบว่า 90 กว่าเปอร์เซ็นต์เป็นผู้ป่วยกลุ่มชายรักชายที่ติดผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้นผู้ที่มีคู่นอนมากกว่า 1 คน หรือมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะกลุ่มชายรักชาย ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อได้

พญ.จิตรฟ้า หรูรุ่งโรจน์ ให้ข้อมูลต่อว่า สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ “โรคฝีดาษลิง” ไวรัสจะใช้เวลาฟักตัวได้ตั้งแต่ 6-21 วัน จึงเริ่มแสดงอาการ โดยเริ่มจากอาการไข้สูงเกินกว่า 38 องศาเซลเซียส ต่อมน้ำเหลืองโต เจ็บคอ เมื่อยตัว ปวดศีรษะ ในช่วง 3-5 วันแรก หลังจากนั้นจะเริ่มมีผื่นแดงนูน พบได้บริเวณใบหน้า แขน ขา มือ ในช่องปาก ลำตัว รวมไปถึง อวัยวะเพศ หรือบริเวณทวารหนัก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการสัมผัส หลังจากนั้นผื่นแดงนูน จะเปลี่ยนเป็นตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง และแตกเป็นสะเก็ดและค่อยๆ หลุดไป หลังจากติดเชื้อผู้ป่วยจะสามารถหายจากโรคนี้เองได้ภายใน 2-4 สัปดาห์

สำหรับการรักษา “โรคฝีดาษลิง” แพทย์จะทำการวินิจฉัยและรักษาโรคตามอาการ เช่นการให้สารน้ำ การดูแลแผล การให้ยาแก้ปวด เนื่องจากโรคนี้ยังไม่มียาในการรักษาเฉพาะ แต่อาจใช้ยาต้านไวรัส Tecovirimat ที่ใช้รักษาฝีดาษคนมาใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจมีอาการรุนแรงหรือผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงได้ อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพของยายังไม่ชัดเจน ในปัจจุบันสามารถควบคุมการระบาดของโรคฝีดาษลิง ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกัน ซึ่งวัคซีนที่ใช้เป็นวัคซีนโรคฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษ แต่สามารถนำมาใช้ป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ โดยแนะนำฉีดได้เฉพาะกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงเท่านั้น กลุ่มแรก คือการฉีดวัคซีนก่อนสัมผัสเชื้อ เช่น กลุ่มเสี่ยงชายรักชายที่มีคู่นอนหลายคน บุคลากรทางการแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ห้องแล็บที่ต้องสัมผัสเชื้อ กลุ่มที่สอง คือ หลังสัมผัสโรคคือผู้ที่ใกล้ชิดผู้ที่ป่วยด้วยโรคฝีดาษลิง โดยการฉีดวัคซีนจะสามารถป้องกันโรคได้ต้องฉีดภายใน 4 วันหลังสัมผัสเชื้อ และฉีดได้ถึงภายใน 14 วัน แต่การฉีดภายใน 4-14 วัน จะไม่ป้องกันการติดเชื้อแต่ลดความรุนแรงได้ ประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันอาการป่วยได้กว่า 66-80 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

พญ.จิตรฟ้า หรูรุ่งโรจน์ กล่าวปิดท้ายว่า วิธีสังเกตอาการโรคฝีดาษลิงง่ายๆ ด้วยตัวเอง คือหากมีการสัมผัสผู้ที่มีอาการเข้าข่ายน่าสงสัยที่จะเป็นโรคฝีดาษลิง เช่น สัมผัสกอดใกล้ชิดผู้ป่วย มีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า เดินทางหรือสัมผัสสัตว์ป่าที่นำเข้ามาจากประเทศในทวีปแอฟริกากลางและทวีปแอฟริกาตะวันตก ภายใน 21 วันก่อนหน้า ควรเฝ้าระวังการติดเชื้อ หากเกิดตุ่มน้ำบริเวณผิวหนัง ช่องปาก หรือ อวัยวะเพศ ทวารหนัก ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัย และรักษา เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนและลดการแพร่ระบาดของโรค

บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ผู้พัฒนา Dusit Central Park โครงการมิกซ์ยูส ภายใต้คอนเซ็ปต์ Here for Bangkok และผู้พัฒนา The Residences at Dusit Central Park โครงการที่อยู่อาศัยระดับอัลตร้า ลักชัวรี่ที่สุดใน Super Core CBD ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ได้เข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ “From Legend to Future: Transforming a Legacy into a Market-shaping Development” บนเวทีเสวนาระดับโลก “CTBUH 2024 International Conference” ซึ่งรวบรวมผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากนานาประเทศ เพื่อการแลกเปลี่ยน กลยุทธ์การพัฒนา และแปลงโฉมโครงการอสังหาริมทรัพย์จากทั่วทุกมุมโลกสู่อาคารสมัยใหม่ที่สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 - 27 กันยายน พ.ศ. 2567 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร และกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดย Council on Tall Building and Urban Habitat CTBUH (CTBUH) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่มุ่งมั่นส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อความยั่งยืน 

โดยงานในปีนี้ถูกจัดภายใต้ธีม “New or Renew” เพื่อเน้นย้ำความท้าทายของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องคำนึงถึงการรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของสถานที่ สิ่งแวดล้อม รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไปพร้อมกัน ซึ่ง Dusit Central Park เป็นโครงการหนึ่งเดียวจากประเทศไทยที่เข้าร่วมในการแนะนำโครงการบนเวทีนี้

บนเวทีนี้ ละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ Dusit Central Park ได้ร่วมนำเสนอมุมมองและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนา การออกแบบ และรายละเอียดของโครงการ Dusit Central Park โครงการมิกซ์ยูสระดับเวิลด์คลาสแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร พร้อมถ่ายทอดการรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของโรงแรมดุสิตธานีเดิม ควบคู่กับการเสริมศักยภาพเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในปัจจุบันและอนาคตด้วยการสร้างโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส รวมถึงการพัฒนา The Residences at Dusit Central Park ซึ่งเป็น Thai Branded Residences มาตรฐานระดับโลกจนได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ในหัวข้อ “From Legend to Future: Transforming a Legacy into a Market-shaping Development” ให้แก่ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลกกว่า 55 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นมุมมองใหม่สำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในประเทศไทยที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน และนับว่าเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ที่มีศักยภาพเทียบเคียงกับนานาชาติ ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยในอนาคต โครงการแห่งนี้นับว่าเป็นหนึ่งในโครงการแห่งความภาคภูมิใจของประเทศไทยที่ทุกคนทั่วโลกจับตามอง โดยสามารถรักษาคุณค่าของมรดกเดิมจาก Dusit Thani Bangkok โรงแรมระดับตำนานของประเทศไทย และเคยเป็นโรงแรมที่สูงที่สุดของประเทศไทย ในช่วงปี พ.ศ. 2513 มาต่อยอดพร้อมกับสร้างคุณค่าใหม่เพิ่มเติม 3 ส่วน ได้แก่ The Residences at Dusit Central Park พื้นที่พักอาศัย Central Park Retail พื้นที่รีเทล และ Central Park Offices พื้นที่สำนักงาน โดยมี Roof Park ขนาดใหญ่เชื่อมโยงทุกส่วนเข้าไว้ด้วยกัน โดยโครงการ The Residences at Dusit Central Park มีความสูงจากฐานถึงยอดอาคาร 299 เมตร นับว่าเป็นโครงการระหว่างการก่อสร้างที่มีความสูงอันดับ 1 และเมื่อแล้วเสร็จจะกลายเป็นโครงการที่สูงสุด 5 อันดับแรกของประเทศไทย (รับรองโดย CTBUH ณ 29 สิงหาคม 2567)

ทรู คอร์ปอเรชั่นเร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่แม่สาย จ. เชียงราย จัดทีมทรูร่วมลงพื้นที่ช่วยอพยพผู้ที่ติดค้างตามบ้าน มอบความช่วยเหลืออาหาร-น้ำดื่ม-เสื้อ พร้อมทั้งยกระดับมาตรการรับมือภัยพิบัติฉุกเฉินดูแลการสื่อสารในพื้นที่ให้บริการได้ต่อเนื่อง

ทีมงานจากทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ลงพื้นที่น้ำท่วมเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในจังหวัดเชียงราย ส่งรถโมบายล์ชุมสายเคลื่อนที่เร็ว (COW) ประจำจุดฉุกเฉิน และศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อรองรับการสื่อสารในภาวะภัยพิบัติ พร้อมทีมภาคเข้าพื้นที่น้ำท่วมบางแห่งเพื่อร่วมช่วยเหลือและลำเลียงผู้ประสบภัยออกจากบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม เพื่อนำไปยังพื้นที่ปลอดภัย

นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ทีมเน็ตเวิร์กของทรูได้นำเครื่องปั่นไฟและน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปในพื้นที่น้ำท่วม จังหวัดเชียงราย ตามจุดที่สถานการณ์เริ่มอำนวยจากมวลน้ำป่าไหลแรง เพื่อให้เสาสัญญาณในจุดที่การไฟฟ้าจำเป็นต้องตัดกระแสไฟเพื่อความปลอดภัย ให้ทำงานต่อได้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ยังสามารถติดต่อสื่อสารได้แม้ในภาวะวิกฤต พร้อมกันนี้ เราก็เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ด้วย”

ทางด้านการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้จัดตั้งทีมปฏิบัติการพิเศษประจำศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ หรือ BNIC ซึ่งทำงานร่วมกับระบบ AI เพื่อดูแลเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมด้านเครื่องมือ อุปกรณ์สำรอง และทีมเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลเสาสัญญาณ รวมถึงการเตรียมรถขับเคลื่อน 4 ล้อ และเรือท้องแบน สำหรับนำเครื่องปั่นไฟฉุกเฉินเข้าพื้นที่เสาสัญญาณที่ได้รับผลกระทบ

ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าในพื้นที่ประสบภัย โดยขยายวันใช้งานให้ลูกค้าเติมเงินเพิ่มอีก 7 วัน พร้อมระงับการตัดสัญญาณ และขยายเวลาชำระค่าบริการแก่ลูกค้ารายเดือนของทรูมูฟ เอช ดีแทค ทรูออนไลน์ และทรูวิชั่นส์ เพิ่มอีก 7 วันเช่นกัน

ทั้งนี้ ทีมปฏิบัติการพิเศษประจำ War Room ของทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ในทุกจังหวัดที่ประสบอุทกภัยและระวังเส้นทางมวลน้ำไหลผ่าน เพื่อเตรียมรับมือตามแผนปฏิบัติการฉุกเฉินเพื่อดูแลระบบสื่อสารในช่วงวิกฤต และช่วยเหลือชุมชนที่ประสบภัย

ทรูมันนี่ ผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณจากกองบังคับการปราบปรามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ในฐานะที่ ทรูมันนี่ ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือภารกิจของกองบังคับการปราบปราม ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางการเงินและอาชญากรรมออนไลน์ เนื่องในวันสถาปนากองปราบปรามประจำปี 2567

ทั้งนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทรูมันนี่ ได้ประสานงานช่วยเหลือด้านข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้สามารถหยุดยั้งและติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในหลายคดี โดยบริษัทฯ ยังคงทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาและยกระดับความปลอดภัยทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์ของไทย รวมทั้งให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปเพื่อสามารถป้องกันตนเองจากการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้

เตรียมพบกับมหกรรมของคนรัก Pop Culture กลางหน้าฝน พื้นที่เพื่อให้ทุกคนมาปล่อยของใน Addict Con #3 พร้อมเปิดงาน 15 กันยายน 2567 เวลา 11.00 น. ถึง 21.00 น. ณ สามย่าน มิตรทาวน์ ฮอลล์ ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์

เตรียมเปิดงานด้วยแขกรับเชิญสุดพิเศษ "สมาชม on Stage" ทอล์กโชว์เต็มระบบ นำทีมเล่นมุก เล่าเรื่องให้ฮาลั่นฮอลล์ โดย Sunny HellGate, Gamer Inside และแขกรับเชิญสุดเซอร์ไพรส์อีกมากมาย พร้อมกับ "แห่หัว on Stage" ที่จะกลับมาอีกครั้งบนเวทีแห่งนี้
ในรอบนี้ Addict Con #3 ขอเอาใจแฟนเกมกันอีกครั้ง กับกิจกรรมของสองเกมน่าจับตามอง เริ่มกันที่ Ragnarok Online Landverse ที่เชิญชวนเหล่านักผจญภัยมาชิงรางวัลในเกมอีกมากมาย ต่อด้วยกิจกรรมเอาใจสาย Sim Racing จาก GMOT Racing ให้ทุกคนได้ลิ้มลอง

กับการจัดแสดงรถซิ่งของจริงในพื้นที่งาน พร้อมพบกับแขกรับเชิญสายคอสเพลย์อัดแน่น มาครบทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น Anong, Airi Cosplayer, LOLA LittleSheep, Emil Cosplayer, CMYK.cosplay พิเศษสุดกับการเปิดบูธโดย “Nanahoshi Nana” วีทูบเบอร์เจ้าของช่อง YouTube ผู้ติดตามมากกว่า 1 แสนคน พร้อมการแสดงบนเวที พร้อมบูธวางจำหน่ายสินค้าโดย Tomodachi T-Shirt, BEARHOUSE, Folk Rider และอีกมากมาย และบูธเซอร์เคิลจากทั้งนักคอสเพลย์ และศิลปินผู้ผลิตผลงานพร้อมให้ทุกคนจับจองเป็นเจ้าของ รวมกว่า 120 เซอร์เคิล! ตรวจสอบเลขบูธในแต่ละตำแหน่งได้ที่นี่

และเป็นการทำเพื่อชาวคอสเพลย์ไปอีกขั้น งานนี้สามารถคอสเพลย์มาร่วมงานได้ “Cosplay OK” พร้อมกฎการคอสเพลย์ที่รัดกุม ผ่านการดูแลของทีมงานที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เพื่อความปลอดภัยของทุกคน

ECOM Thailand แถลงข่าวเตรียมความพร้อมจัดงาน ECOM Thailand Convergence ภายใต้แนวคิด Scale Up To Global งานมหกรรมอีคอมเมิร์ซแห่งปีที่จัดขึ้นด้วยวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมและยกระดับผู้ประกอบการไทย ให้สามารถขยายธุรกิจสู่ตลาดออนไลน์ระดับสากลได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ งานเดียวที่จะทำให้ผู้ประกอบการทุกคนก้าวไปอีกขั้น เสริมสร้างความรู้รอบด้านในการทำธุรกิจ เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสำหรับ SMEs ไทย พร้อมเปิดโอกาสในการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายขึ้น โดยงาน ECOM Thailand Convergence จะจัดขึ้นในวันที่ 29 กันยายน 2567 เวลา 08.00 - 19.00 น. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ห้องภิรัชฮอลล์ 1-3


เนตรประวีณ์ ศักดิ์ศรี CEO - 2T Multimedia and Marketing กล่าวว่า "งาน ECOM Thailand Convergence จะเป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมความรู้และประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญในวงการ E-commerce เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถพัฒนาธุรกิจของตนเองบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้อย่างครบวงจร เป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทยในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการแข่งขันในตลาดโลก"
อรรณพ สลิดบัว CEO - GDK GROUP เสริมว่า "เรามุ่งหวังให้งานนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับ SMEs ไทย เป็นอีกหนึ่งแรงเสริมที่ช่วยในการเติบโตทางธุรกิจ โดยเฉพาะการเพิ่มช่องทางการขายในรูปแบบตัวแทน ซึ่งจะช่วยขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
งาน ECOM Thailand Convergence 2024 ตั้งเป้าผู้เข้าร่วมงานกว่า 10,000 คน ประกอบด้วย ผู้ประกอบการ SMEs, ครีเอเตอร์, นักศึกษา, ประชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการจากหลากหลายธุรกิจ ทั้งในกลุ่ม Lifestyle & Bank Financial, Manufacturing & Shipping & Software และ Brand & Celebrity" ภายในงานอัดแน่นด้วยความรู้และแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อทุกธุรกิจ อัปเดตเทรนด์ใหม่ ๆ พร้อมด้วยการบรรยายจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ อาทิ E-commerce, Live Commerce, Creator's World, Branding และ Business & Financial อีกทั้งมีบูธแสดงสินค้าจากแบรนด์เซเลปและแบรนด์ชั้นนำกว่า 100 บูธ พิเศษด้วยการรวมตัวของครีเอเตอร์กว่า 2,000 คน ที่พร้อมมาส่งต่อและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เทคนิค เพื่อต่อยอดธุรกิจบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ไฮไลท์สำคัญของงานมหกรรม ECOM Thailand Convergence ที่จะช่วยผลักดันและแก้เกมส์ธุรกิจให้กับผู้เข้าร่วมงาน ประกอบด้วย
Conference Stage อัพเดทความรู้สู่เทรนด์การทำธุรกิจสมัยใหม่ ที่จะผสานรวม E-Commerce และ Creator Economy เข้าด้วยกันและต่อยอดสู่การขยายไปตลาดโลก
Business Solutions and Future Direction พบทางออกของทุกปัญหาการทำธุรกิจและทิศทางที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตต่อแบบก้าวกระโดด
New Opportunities ขยายโอกาสทางธุรกิจ พบปะกับผู้ประกอบการ ลูกค้า พาร์ทเนอร์ ครีเอเตอร์ ที่พร้อมทำ business matching กับธุรกิจคุณ
Lessons Learned with Workshop Sessions เรียนรู้และลงมือทำจริงผ่านการเวิร์คชอปแบบเข้มข้นและเน้นผลลัพธ์จริง


นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก อุ้ม ลักขณา วัธนวงส์ศิริ ผู้จัดร่วม งาน ECOM Thailand Convergence 2024 ที่มองเห็นโอกาสและทิศทางการเจริญเติบโตของวงการ E-commerce ที่มีทิศทางและกราฟที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในโลกยุคปัจจุบัน และไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือไม่มีชื่อเสียงก็ล้วนเข้าสู่วงการออนไลน์กันถ้วนหน้า พร้อมด้วยอดีตนางงามจากหลากหลายเวที อาทิ ชนากานต์ ชัยศรี, อิสริยะ อภิชัย, เมลิสา มหาพล, สิริรัตน เรืองศรี,รินทร์ณฐา อัจฉริยวัฒนกุล, ภัทลดา กุลภัคธนภัทร์ และ กฤชภร หอมบุญญาศักดิ์
ชาวอีคอมเมิร์ซและSME ห้ามพลาด! เตรียมพบกับ 16 Workshop ที่หลากหลาย พร้อมยกทัพวิทยากรแนวหน้าของประเทศไทย การันตีสาระดีทุก sessions ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม ๆ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่าให้ธุรกิจ Scale up to Global ภายในงานมหกรรม ECOM Thailand Convergence ในวันที่ 29 กันยายน 2567 เวลา 08.00 - 19.00 น. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ห้องภิรัชฮอลล์ 1-3
ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานผ่านทาง https://forms.gle/vBWK45HjZ3Uh1nuq9 เข้าร่วมได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน Ecom Thailand Convergence ได้ที่ FB: Ecom Thailand Convergence (https://www.facebook.com/ecomthailandconvergence) หรือ Line: @ecomconvergence (https://lin.ee/KonI8Rh)

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) (SCBX) ประกาศความสำเร็จคว้า 3 รางวัลความเป็นเลิศด้านทรัพยากรบุคคลในประเทศไทย ได้แก่ รางวัลสรรหาบุคลากรยอดเยี่ยม ระดับ Gold (Excellence in Talent Acquisition) รางวัลกลยุทธ์การบริหารค่าตอบแทนรวมยอดเยี่ยม ระดับ Silver (Excellence in Total Rewards Strategy) และรางวัลยอดเยี่ยมด้าน AI โซลูชันสำหรับทรัพยากรบุคคล ระดับ Bronze (Excellence in AI-Powered HR Solutions) จากเวที HR Excellence Awards Thailand 2024 ซึ่งจัดโดย Human Resources Online ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเชิดชูความสำเร็จขององค์กรที่มีกลยุทธ์และนวัตกรรมด้านการบริหารบุคลากรโดดเด่น สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกลุ่ม SCBX ในการนำเทคโนโลยี AI มายกระดับประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อพัฒนาศักยภาพและเสริมทักษะพนักงานขององค์กรให้สามารถอยู่ในกระแสความต้องการของโลกปัจจุบัน

นางพัตราภรณ์ สิโรดม Chief Talent Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กล่าวว่า “SCBX มุ่งมั่นเดินหน้าสู่การเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำระดับภูมิภาค โดยมีเป้าหมายหลัก คือ การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างแท้จริง หรือ AI-first Organization การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลจึงมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ เราจึงมีการประยุกต์นำเอาเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อช่วยยกระดับกระบวนการทำงานด้าน HR ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยโซลูชันที่ช่วยเฟ้นหาบุคลากรที่เหมาะสมกับองค์กร ลดเวลาและต้นทุนการทำธุรกิจ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี เพื่อรักษาและดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ (Talent) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร อีกทั้งยังสามารถสร้างแรงจูงใจในการสร้างผลงานให้กับองค์กรได้อย่างต่อเนื่อง โดยภายในสิ้นปี 2024 พนักงานกว่า 80% ขององค์กรต้องมีความเข้าใจพื้นฐานด้าน AI จึงได้จัดทำหลักสูตรออนไลน์และสื่อการฝึกอบรมด้าน AI ให้กับพนักงาน รวมถึงบริษัทยังสนับสนุนเครื่องมือ AI ให้กับพนักงาน เพื่อปลูกฝังและสร้าง AI Culture หรือวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่อง AI อันเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างบุคลากรคนรุ่นใหม่ให้เหมาะสมกับความต้องการของโลกการทำงานแห่งอนาคต”

รางวัล HR Excellence Awards Thailand ประจำปี 2024 ครั้งที่ 4 ซึ่งจัดโดย Human Resources Online ประเทศสิงคโปร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่องความสำเร็จและนวัตกรรมที่โดดเด่นของบริษัทชั้นนำในประเทศไทยที่มีการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลที่ยอดเยี่ยม ภายใต้ภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปของการจัดการทรัพยากรบุคคลในประเทศไทย โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาตัดสินจากหลักเกณฑ์ภายใต้ 38 หมวดหมู่ ครอบคลุมวิสัยทัศน์ เป้าหมายองค์กร การดำเนินธุรกิจ และแนวทางการพัฒนาการบริหารทรัพยากรบุคคลขององค์กรในมิติต่างๆ

 ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ร่วมมือกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR พันธมิตรทางธุรกิจ ต่อยอดขยาย ยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์ หรือร้านสาขานอกศูนย์การค้า เปิดตัว ยูนิโคล่โรดไซด์ รามคำแหง ยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์สาขาล่าสุด และนับเป็นครั้งแรกที่ทางยูนิโคล่ ประเทศไทย เปิดร้าน โรดไซด์สโตร์ที่คอมมูนิตี้มอลล์ของ OR พร้อมมอบความสะดวกสบายให้ชาวรามคำแหงและละแวกใกล้เคียงตั้งแต่ 13 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

ยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์ เปิดให้บริการสาขาแรกในประเทศไทย และอาเซียนในปี 2561 เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ใน การช้อปปิ้งที่ตอบโจทย์ด้านความสะดวกสบายในการเข้าถึงเสื้อผ้าไลฟ์แวร์ (LifeWear) ที่ครบครัน ใกล้บ้านมากยิ่งขึ้น และเป็นศูนย์กลางของชุมชน โดยยูนิโคล่โรดไซด์ รามคำแหง เป็นร้านโรดไซด์สโตร์สาขาที่ 11 ต่อจาก ยูนิโคล่โรดไซด์พัฒนาการ, ยูนิโคล่โรดไซด์ลาซาล, ยูนิโคล่โรดไซด์อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ชัยพฤกษ์, ยูนิโคล่โรดไซด์นวมินทร์, ยูนิโคล่โรดไซด์มีนบุรี, ยูนิโคล่โรดไซด์บุญถาวร ปิ่นเกล้า, ยูนิโคล่โรดไซด์บุญถาวรบางนา, ยูนิโคล่โรดไซด์ลาดกระบัง, ยูนิโคล่โรดไซด์ขอนแก่น และ ยูนิโคล่โรดไซด์หาดใหญ่ ความพิเศษของร้านนี้คือเป็นร้านโรดไซด์สโตร์ดีไซน์ใหม่สาขาแรกนอกประเทศญี่ปุ่น ที่ถอดแบบมาจากร้านยูนิโคล่สาขา Maebashi และ Nishiiba ในประเทศญี่ปุ่น โดยนำคอนเซ็ปต์การออกแบบที่เน้นการใช้โลโก้ยูนิโคล่เป็นจุดเด่นขนาดใหญ่ที่หน้าร้าน เป็นจุดสังเกตสำหรับผู้ที่สัญจรผ่านไป-มา ในส่วนของการออกแบบร้าน ยูนิโคล่โรดไซด์ รามคำแหงถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงหลักการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าโดยมีการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์เป็นสาขาแรกของยูนิโคล่ ประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีการออกแบบกระจกใสบานใหญ่ เพื่อเพิ่มช่องรับแสงธรรมชาติ ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในระหว่างวันเพิ่มเติมขึ้นด้วย

มร. โยชิทาเกะ วาคากุวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ยูนิโคล่ ประเทศไทย เปิดตัวยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์มาแล้วกว่า 7 ปี นับตั้งแต่สาขาแรกที่ยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์ พัฒนาการ ในปี 2561 โดยเน้นโลเคชันที่อยู่กลางชุมชนที่อยู่อาศัย ทำเลติดถนน และมีที่จอดรถ ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ด้วยประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบาย ครบครัน ใกล้บ้าน ทำให้ลูกค้าหลายคนเลือกที่จะซื้อสินค้า ไลฟ์แวร์จากยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์ที่อยู่ใกล้บ้านของตน โดยในปีนี้เราได้จับมือกับ OR เปิดยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์สาขาแรกในคอมมูนิตี้มอลล์ของ OR ปักหมุดนำร่องที่ย่านรามคำแหงเป็นที่แรก โดยยูนิโคล่เล็งเห็นถึงศักยภาพของย่านรามคำแหง ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่จำนวนมาก รวมถึงมีผู้เดินทางผ่านเส้นทางนี้เพื่อเชื่อมกับถนนสายอื่นๆ อีกหลายสาย คอมมูนิตี้มอลล์แห่งนี้น่าจะเป็นแลนด์มาร์กสำคัญย่านรามคำแหงสำหรับลูกค้าที่มองหาความสะดวกสบายและรวดเร็ว ยูนิโคล่เชื่อมั่นว่าการร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง OR ในครั้งนี้จะเปิดโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ของยูนิโคล่อีกด้วย”

คุณพิมาน พูลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน OR เปิดเผยว่า " OR มุ่งสร้างทางเลือกเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบอย่างครบวงจร พร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้านไลฟ์สไตล์ และขยายพอร์ตโฟลิโอสู่ธุรกิจที่นอกเหนือจากน้ำมันให้ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค OR จึงมีกลยุทธ์ในการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือกับยูนิโคล่ในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการใช้ประโยชน์จากคอมมูนิตี้มอลล์ของ OR เพื่อสร้างภาพลักษณ์ การดำเนินธุรกิจ และสร้างประโยชน์ต่อชุมชน โดย OR ให้การสนับสนุนด้านพื้นที่และได้สนับสนุนแผงโซล่าร์เซลล์พร้อมการติดตั้งให้แก่ยูนิโคล่ ซึ่งมุ่งเน้นการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับแนวทางการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน OR SDG ทั้งในด้าน“D” หรือ “DIVERSIFIED” การสร้างโอกาสเพื่อทุกการเติบโตทุกรูปแบบ และ “G” หรือ “GREEN” โอกาสเพื่อสังคมสะอาดและสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายของ OR 2030 ตลอดจนสร้างโอกาส และยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคมชุมชน เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน ตามวิสัยทัศน์ของ OR “Empowering All Toward Inclusive Growth” เพื่อเติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน”

X

Right Click

No right click