December 16, 2025

อลิอันซ์ อยุธยา รายงานผลการดำเนินธุรกิจประกันชีวิตและประกันภัยไตรมาสสอง ปี 2567 เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยธุรกิจประกันชีวิตสร้างมูลค่าธุรกิจใหม่ (NBV) เติบโต 14% เบี้ยประกันรับรวมเติบโต 11%  ขณะที่ธุรกิจประกันภัย สร้างเบี้ยรับรวมเติบโต 6% พร้อมผนึกพลังเดินหน้าสร้างแบรนด์แกร่ง มุ่งสร้างรายได้สมดุลจากทุกช่องทาง ขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

มร.โทมัส วิลสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า “อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต สร้างผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยผลประกอบการไตรมาสสองเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 19,249 ล้านบาท เติบโต 11% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่เบี้ยประกันภัยรับปีแรกเติบโตมากถึง 28% อยู่ที่ 4,580 บาท โดยมาจากช่องทางตัวแทน 1,542 ล้านบาท ช่องทางขายผ่านธนาคาร 2,272 ล้านบาท ช่องทางขายตรง 641 ล้านบาท และ ช่องทางอื่นๆ 125 ล้านบาท

ด้าน มร.ลาร์ส ไฮบุทสกี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย กล่าวว่า ในไตรมาส 2 ปี 2567 นี้ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย สร้างผลผลงานได้ยอดเยี่ยมทั้งในธุรกิจประกันภัยรถยนต์และประกันสุขภาพ มีมูลค่าเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 6,073 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพเติบโต 6% อยู่ที่ 2,284 ล้านบาท ประกันรถยนต์เติบโต 10% เบี้ยประกันมูลค่า 1,705 ล้านบาท และประกันวินาศภัยและทรัพย์สินอื่นๆเติบโต 4% เบี้ยประกันมูลค่า 2,084 พันล้านบาท

จากตัวเลขการเติบโตในทุกธุรกิจ สะท้อนถึงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยทั้งด้านประกันชีวิตและประกันภัย ซึ่งจะผลักดันธุรกิจไปให้ถึงเป้าหมาย พิชิตยอดเบี้ยประกันรับรวมธุรกิจประกันชีวิตที่ 4.1 หมื่นล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับรวมธุรกิจประกันภัยที่ 1.2 หมื่นล้านบาท พร้อมผลักดันให้แบรนด์อลิอันซ์ อยุธยาครองตำแหน่งผู้นำในธุรกิจประกันสุขภาพเพื่อคนไทย

ขณะเดียวกัน กลุ่มอลิอันซ์ ผู้ถือหุ้นหลักของ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้เช่นกัน รายได้รวมเพิ่มขึ้น 6.4 % เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็น  9.1 หมื่นล้านยูโร (หรือประมาณ 3.6 ล้านล้านบาท) โดยมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 7.9 พันล้านยูโร (หรือประมาณ 3.14 แสนล้านบาท) โดยเพิ่มขึ้น 5.3 เปอร์เซ็นต์ ได้รับแรงหนุนจากทุกกลุ่มธุรกิจ กลุ่มประกันชีวิต/สุขภาพเติบโตในหลายภูมิภาค ในกลุ่มการจัดการสินทรัพย์ รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการเป็นปัจจัยหลักของการเติบโต ในขณะที่ธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ดได้รับอานิสงค์จากการเติบโตที่แข็งแกร่งและการดำเนินการของหลักทรัพย์อ้างอิง มีอัตราส่วนเงินทุนของ Solvency II อยู่ที่ 206 เปอร์เซ็นต์ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 เทียบกับ 203 เปอร์เซ็นต์ ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2567


อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2567 : 1 ยูโร = 39.75 บาท  

ทรู คอร์ปอเรชั่น ลุยแจ้งจับโจรลักทรัพย์เสามือถือเหตุกระทบบริการลูกค้า ตั้งสำนักงานกฎหมายตัวแทนเพื่อร่วมกับตำรวจเอาจริงทุกคดี ทั้งลักทรัพย์แบตเตอรี่ลิเธียม สายไฟ หรืออุปกรณ์ประจำสถานีฐานทั่วไทย ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับการให้บริการในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะภาคตะวันออก และภาคอีสาน พร้อมขยายผลร่วมมือกับตำรวจสืบหาแหล่งแก๊งโจรและเส้นทางการเงินเพื่อจับกุมมาดำเนินคดีทุกรายให้ถึงที่สุด และสืบค้นตลาดมืดรับซื้อของโจรต่อไป พร้อมเตือนด้วยความห่วงใยคนซื้อแบตเตอรี่ลิเธียมมือสองระวังถูกหลอกรับซื้อของโจร

ความเสียหายจากขบวนการลักทรัพย์เสามือถือในพื้นที่ต่างๆ ประกอบด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม สายไฟ เครื่องปรับอากาศ โซลาร์เซลล์ ซึ่งหลายแห่งมีการลักทรัพย์อุปกรณ์ที่เป็นเหล็ก บันได รั้ว รวมถึงถอดน็อตทำให้เกิดเหตุเสาล้มนำความเสียหายมาให้แก่ประชาชนในพื้นที่

ล่าสุด บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้มอบหมายให้สำนักงานกฎหมายบี แอนด์ แอล เป็นผู้แทนรับมอบอำนาจจากทรู คอร์ปอเรชั่น เข้าพบ เข้าพบ พ.ต.ท. ชาติคณิณพ์ อินทร์สอน สารวัตร(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรพานทอง จ. ชลบุรี  เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับโจรลักทรัพย์อุปกรณ์เสาสัญญาณมือถือทรูในพื้นที่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ. ชลบุรี จากเหตุโดนโจรตัดสายไฟเพื่อลักทรัพย์นำไปขายต่อ อันจะทำให้เกิดเหตุเสาสัญญาณหยุดบริการสะดุดชั่วคราว พร้อมมอบหลักฐานสำคัญเพื่อให้เจ้าหน้าที่ขยายผลการสืบสวนต่อไป

นายฤทธิรอน เพริดพร้อม ทนายความจากสำนักงานกฎหมายบี แอนด์ แอล ตัวแทนทรูคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “เหตุการณ์ลักทรัพย์นี้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งนับเป็นสาธารณูปโภคดิจิทัลพื้นฐาน เนื่องจากสถานีฐานต้องหยุดทำงานชั่วคราวเพราะขาดระบบจ่ายไฟ ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากไม่สามารถใช้บริการโทรศัพท์มือถือได้ตามปกติ ทั้งการติดต่อสื่อสารพื้นฐาน การใช้แอปพลิเคชันในชีวิตประจำวัน การทำธุรกิจ ธุรกรรมออนไลน์ และการศึกษา ซึ่งสร้างความเดือดร้อนแก่สาธารณชนอย่างกว้างขวาง

ทางสำนักงานกฎหมายจะดำเนินการฟ้องร้องทางอาญาในข้อหาลักทรัพย์โดยเน้นความผิดสถานหนัก ในทุกกรณีไม่ว่าจะกระทำความผิดคนเดียวหรือตั้งแต่สองคนขึ้นไป ใช้ยานพาหนะ หรือลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ซึ่งถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในเหตุฉกรรจ์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 โดยระวางโทษจำคุกได้ถึง 7 ปี และปรับสูงสุดถึงหนึ่งแสนบาท แล้วแต่กรณี โดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ การฟ้องร้องดำเนินคดีในความผิดฐานนี้ไม่สามารถยอมความได้ พร้อมทั้งจะฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายจากทรัพย์สินด้วยมูลค่าสูงสุด"

ทั้งนี้ สำนักงานกฎหมายบี แอนด์ แอล ตัวแทนบริษั ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จะร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ในทุกพื้นที่ในการสืบสวนและขยายผลเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการลักทรัพย์ทั้งหมด รวมถึงการทลายแหล่งที่ใช้ในการแปรรูปและจำหน่ายอุปกรณ์ที่ถูกขโมยมา ไม่ว่าจะเป็นการขายในตลาดมืดหรือผ่านช่องทางออนไลน์

“ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการซื้ออุปกรณ์มือสอง โดยเฉพาะแบตเตอรี่ลิเธียมที่มักนำไปใช้ร่วมกับระบบโซลาร์เซลล์ในบ้านเรือน ควรเลือกซื้อจากผู้ขายและร้านค้าที่น่าเชื่อถือ และสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาการนำเข้าของสินค้าได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นผู้เสียหายจากการรับซื้อของโจรโดยไม่รู้ตัว” นายฤทธิรอน กล่าวในที่สุด

นายอัศวิน - นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี จัดกิจกรรม “ปลูกต้นรวงผึ้ง” ณ บิ๊กซี สาขาลาดพร้าว 2 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗

นอกจากนี้ กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี ได้ปลูกต้นรวงผึ้ง ไปแล้วกว่า 82 ต้น ที่ บิ๊กซีสาขาหางดง, สาขาน่าน, สาขาวารินชำราบ, สาขาร้อยเอ็ด, สาขาคำตากล้า, สาขามหาชัย 1, สาขายะลา, สาขาชลบุรี 1,  สาขาเพชรเกษม 2 และ สาขารามอินทรา

โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็น ๑ ในโครงการด้านการพัฒนาและส่งเสริมความร่วมมือในสังคม จำนวน ๗๒ โครงการของกลุ่มบีเจซี บิ๊กซี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ CP "หมูฮ้อง สูตรภูเก็ต" และ "ขาหมูพะโล้" ใช้วัตถุดิบพรีเมียมหมูชีวา ที่มีโอเมก้า 3 ตอบโจทย์สไตล์คนรุ่นใหม่หรือผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานเมนูตุ๋น อร่อยติดมันเด้งดึ๋ง ที่ต้องใช้ระยะเวลาให้การปรุงนานให้สะดวกขึ้น พร้อมทั้งได้รสชาติอร่อยตามต้นตำรับอย่างแท้จริง ภายในงานได้รับเกียรติจาก 'เชฟอิน-ณรงค์ฤทธิ์ แซ่ขอ' จาก TikTok กำลังอิน และเจ้าของร้าน ครัวบ้านอิน รวมถึง ชาตรี จากเพจชาตรีกินแซ่บ มาร่วมสร้างสีสันและถ่ายทอดประสบการณ์ความอร่อยของ 2 เมนูนี้

สำหรับ "หมูฮ้อง สูตรภูเก็ต และ ขาหมูพะโล้" รังสรรค์ด้วยความพิถีพิถัน ด้วยการนำเนื้อหมูชีวาที่มีเนื้อนุ่มฉ่ำมาตุ๋นจนเปื่อย รสชาติเข้มข้นเข้าเนื้อ หอมกลิ่นเครื่องเทศสามเกลอ สำหรับเมนูหมูฮ้อง อาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อของเมืองภูเก็ต ซึ่งมีความพิเศษที่แตกต่างจากการตุ๋นเนื้อหมูสามชั้นทั่วไป ครั้งนี้แบรนด์ CP ได้นำเคล็ดลับความอร่อยจากต้นตำรับมาบรรจุลงในซอง เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสความออริจินัล เหมือนบินไปรับประทานถึงถิ่น

ทั้ง 2 เมนู ยังมีความพิเศษจากการเลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีอย่าง หมูชีวา ที่อุดมด้วยโอเมก้า 3 จากธรรมชาติ มาจากเลี้ยงด้วยสูตรอาหารซูเปอร์ฟู้ด อาทิ เมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed) น้ำมันปลาและสาหร่ายทะเล เป็นต้น ไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะ 100% ตลอดการเลี้ยงดู ได้การรับรองมาตรฐานความปลอดภัยการเลี้ยงจาก NSF จากประเทศสหรัฐอเมริกา การันตีด้วยรางวัลระดับนานาชาติ ทั้งนี้เป็นผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์รายแรกและรายเดียวที่ได้รับการรับรองตรา ‘อาหารรักษ์หัวใจ’ จากมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและหัวใจ จึงเหมาะกับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่คุณแม่ตั้งครรภ์ วัยเด็ก วัยทำงาน และผู้สูงวัย สามารถรับประทานได้ทุกวัน

เมนู "หมูฮ้อง สูตรภูเก็ต และ ขาหมูพะโล้" มีวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป เฉพาะที่ แม็คโครและโลตัส กับโปรโมชัน ซื้อผลิตภัณฑ์ในราคาพิเศษ เพียงชิ้นละ 139 บาท (จาก 149 บาท) ตั้งแต่วันนี้ถึง 18 กันยายน 2567

เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เชิงรุกในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ และภารกิจของกองทุนประกันวินาศภัย และสร้างความเชื่อมั่นในระบบประกันภัย ให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ

บลจ.กสิกรไทย แต่งตั้ง “วิน พรหมแพทย์” เป็นประธานกรรมการบริหารคนใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. เป็นต้นไป เดินหน้าสานต่อแนวคิด Top of Mind Investment House ครองใจผู้ลงทุนไทย พร้อมต่อยอดความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ระดับโลก J.P. Morgan Asset Management มุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถในการคัดเลือกและจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลก และพันธมิตรที่ปรึกษาด้านความยั่งยืน Lombard Odier มุ่งเน้นการกำหนดยุทธศาสตร์การลงทุนอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ มองผู้นำในทุกยุคล้วนวางรากฐานที่ดีในมิติที่แตกต่างกัน และเชื่อว่าตนจะนำพา บลจ.กสิกรไทย เติบโตได้อย่างสมดุลและยั่งยืน

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) แต่งตั้ง “วิน พรหมแพทย์” ขึ้นแท่นประธานกรรมการบริหารคนใหม่ โดยกำหนดให้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2567 เป็นต้นไป ทั้งนี้ นายวินตั้งเป้าให้ บลจ.กสิกรไทย ครองใจผู้ลงทุนไทย พร้อมต่อยอดความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพาร์ทเนอร์ระดับโลก J.P. Morgan Asset Management ที่มุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถในการคัดเลือกและจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลก และกับอีก 1 พันธมิตรที่ปรึกษาด้านความยั่งยืน Lombard Odier ที่มุ่งเน้นการกำหนดยุทธศาสตร์ในการวางโครงสร้างการลงทุนอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยเติมเต็มศักยภาพการบริหารจัดการกองทุน และยกระดับมาตรฐานการทำงานในทุกมิติ

นายวิน มีประสบการณ์การทำงานด้านการลงทุนทางการเงินมากว่า 22 ปี โดยบทบาทการบริหารเงินและการลงทุนได้เริ่มที่สำนักงานประกันสังคม นายวินเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของกองทุนประกันสังคมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดกองหนึ่งในประเทศไทยในเวลานั้น ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่สูงถึง 1.3 ล้านล้านบาท จากนั้นนายวินมีโอกาสเข้าสู่ธุรกิจจัดการกองทุน ได้สั่งสมประสบการณ์ทั้งการลงทุนสินทรัพย์ทางการเงินในประเทศ และการวางแผนกลยุทธ์การลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินต่างประเทศ นอกจากนี้ นายวินยังมีประสบการณ์ด้านการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและการบริหารความมั่งคั่งให้กับลูกค้ากลุ่มไฮเน็ตเวิร์ธ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนบทบาทจากผู้ผลิตมาเป็นผู้ให้คำแนะนำ ทั้งนี้ จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานทำให้นายวินมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารพอร์ตการลงทุน และเป็นผู้ที่มีทักษะรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารการลงทุน การบริหารการตลาดและการขาย และการบริหารลูกค้า รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุน

“ผมภูมิใจที่ได้เข้ามาร่วมงานกับ บลจ.กสิกรไทย ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นทีมจัดการกองทุนมืออาชีพ และเป็นผู้นำระดับ Top 3 ทั้งในธุรกิจกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ผมตั้งใจจะใช้ประสบการณ์กว่า 22 ปี เดินหน้าสานต่อแนวคิด Top of Mind Investment House เพื่อให้ผู้ลงทุนไทยได้มีเงินลงทุนส่วนใหญ่อยู่ใน Core Portfolio ที่มีการกระจายลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก และเป็นพอร์ตที่มีความผันผวนน้อย แต่ช่วยต่อยอดความมั่งคั่งได้ในระยะยาว รวมทั้งการคำนึงถึงการลงทุนอย่างยั่งยืนด้วย โดยผู้ลงทุนจะได้รับคำแนะนำการลงทุนและการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ทั้งจากทีมงานของ บลจ. กสิกรไทย และจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกอย่าง J.P. Morgan Asset Management และ Lombard Odier ซึ่งแน่นอนว่า ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจและตลาดทุนในปัจจุบันอาจจะทำให้เกิดความกังวล แต่ผมและทีมงาน บลจ.กสิกรไทย มุ่งมั่นที่จะอยู่เคียงข้างผู้ลงทุนเพื่อให้ท่านบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งใจไว้” นายวินกล่าว

นายวินกล่าวทิ้งท้ายว่า ผู้นำของ บลจ.กสิกรไทย ในแต่ละยุคล้วนวางรากฐานไว้ไห้เป็นอย่างดีในมิติที่แตกต่างกัน และเชื่อว่าการต่อยอดจากสิ่งที่เป็นจุดแข็งของ บลจ.กสิกรไทย บวกกับกลยุทธ์ใหม่ในยุคของ “วิน พรหมแพทย์” จะนำพาให้ บลจ.กสิกรไทย เติบโตได้อย่างสมดุลและยั่งยืน

บลจ.กสิกรไทย มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) อยู่ที่ 1.60 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจกองทุนรวม 1.12 ล้านล้านบาท ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 2.37 แสนล้านบาท และธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล 2.40 แสนล้านบาท โดยยังครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมกองทุนรวม (ที่มา: AIMC ณ ก.ค. 67) อีกทั้งยังสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศจากหลายสถาบันชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ อาทิ รางวัลแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ของไทย ในหมวดกองทุนรวม จาก Marketeer No.1 Brand Thailand 2024, รางวัล Most Prominent Fund House in Bond Market (7 ปีซ้อน) จาก ThaiBMA Best Bond Awards 2023, รางวัล Best Fund House (7 ปีซ้อน) จาก Best of the Best Awards 2024 และรางวัล Excellence in Innovation จาก Fund Selector Asia Awards 2024 เป็นต้น ทั้งหมดล้วนเป็นเครื่องการันตีได้ถึงความสามารถในการบริหารจัดการกองทุนของ บลจ.กสิกรไทย จนเป็นที่ยอมรับจากผู้ลงทุนไทยและสถาบันการลงทุนชั้นนำทั่วโลก

ชาบูชิ (Shabushi) มอบเซอร์ไพรส์ให้ต่อเนื่อง พร้อมเปิดโปรฯ OH MY กุ้ง ! ภายใต้โพรเจกต์ Shabushi ALL-STAR SERIES #เสิร์ฟตัวท็อปเต็มสายพาน ยกขบวนวัตถุดิบชั้นยอดที่ได้รับความนิยมมาให้บริการเป็นพิเศษเพิ่มเติม ล่าสุด พลาดไม่ได้กับหนึ่งในเมนูตัวท็อป ที่สายชาบู - ชาบู เรียกร้อง คือ “กุ้งแม่น้ำ” เสิร์ฟไม่อั้นบนสายพานแบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม กินกับน้ำซุปอะไรก็อร่อย...จุใจ ไม่ว่าจะเป็น ชาบู - ชาบูซุป น้ำซุปน้ำใส, คุโรซุป น้ำซุปน้ำดำ, หรือ น้ำซุปน้ำต้มยำ รสชาติจัดจ้าน พร้อมเมนูปกติอื่น ๆ อาทิ เนื้อเซอร์ลอยด์, เนื้อฮารามิ, หมูสไลซ์, เบคอน, กุ้ง, หมึก, และอีกมากมายล้นสายพาน ทั้งซูชิและอาหารรับประทานเล่นสไตล์ญี่ปุ่น รวมแล้วกว่า 80 รายการ ในราคาเริ่มต้นเพียงคนละ 399 บาท+ (รวมเครื่องดื่ม, ผลไม้, และ ไอศกรีม) ที่ ชาบูชิ ทุกสาขา ตลอดเดือนนี้ ตั้งแต่ 1 – 30 กันยายน 2567 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด

ติดตามข้อมูลข่าวสารและโปรโมชั่นอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย คลิกแฟนเพจ OISHI Restaurant Thailand : www.facebook.com/oishigroup หรือค้นหา ชาบูชิ สาขาใกล้ ๆ คุณ คลิกเว็บไซต์โออิชิฟู้ด : www.oishifood.com 


*หมายเหตุ : อัตราค่าบริการบุฟเฟต์ราคาเริ่มต้นอาจแตกต่างกันตามแต่ละพื้นที่/สาขา โดยสามารถตรวจสอบราคาเพิ่มเติมได้ที่ คลิก https://bit.ly/shabushi-buffet

โออิชิ ไฮ้!จริง แจกจริง แจกไปแล้ว กับแคมเปญพิเศษ “โออิชิ เบิร์ทเดย์ 25 ปี มีแต่ไฮ้” แจกรางวัลทองคำมูลค่า 10,000 บาท จำนวน 50 รางวัล และได้ส่งมอบให้ผู้โชคดีไปเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยยังมีรางวัลใหญ่ให้ลุ้น กับรางวัลทองคำหนัก 25 บาท มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท และรางวัลทองคำมูลค่า 10,000 บาท รวมทั้งหมด 26 รางวัล ซึ่งจะจับรางวัลผู้โชคดีครั้งสุดท้ายพร้อมประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันที่ 10 กันยายน 2567 นี้

ลุ้นรางวัลใหญ่ในช่วงโค้งสุดท้าย แฟน ๆ โออิชิสามารถสะสมพ้อยท์ลุ้นของรางวัลได้ 3 ช่องทาง ดังนี้

  • ช่องทางที่ 1 อิ่มอร่อยกับร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิ ได้แก่ โออิชิ แกรนด์, โฮว ยู, ซาคาเอะ, โออิชิ อีทเทอเรียม, โออิชิ บุฟเฟต์, ชาบูชิ, นิกุยะ, โออิชิ ราเมน, คาคาชิ, โออิชิ บิซโทโระ และโออิชิ คิทเช่น ทั้งรับประทานที่ร้านและซื้อกลับบ้าน รวมทั้งการสั่งซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ oishidelivery.com แล้วสะสมคะแนนผ่าน แอปพลิเคชัน BevFood
  • ช่องทางที่ 2 เมื่อซื้อเครื่องดื่มโออิชิ กรีนที, โออิชิ โกลด์, ชาคูลล์ซ่า, จับใจ (ยกเว้นแบบขวดแก้ว) และผลิตภัณฑ์แบบกล่อง UHT ทุกขนาดทุกรสชาติ แล้วส่งรหัสชิงโชคใต้ฝาหรือในกล่องผลิตภัณฑ์ผ่านแอปพลิเคชัน OISHI CLUB
  • ช่องทางที่ 3 เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ โออิชิ อีทโตะ ซอสและซุปตราโออิชิ ทุกขนาด ทุกรสชาติ แล้วลงทะเบียนพร้อมแนบใบเสร็จร้านค้าที่ร่วมรายการ ที่เว็บไซต์ oishigroup.com หรือ สแกน QR บนซองสินค้า โออิชิ

*เงื่อนไขกิจกรรมเป็นไปตามบริษัทฯกำหนด

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ FACEBOOK.COM/OISHIDRINKSTATION และไม่พลาดทุกข่าวสาร-กิจกรรมดี ๆ จากโออิชิ กดติดตามแฟนเพจ FACEBOOK.COM/OISHIFOODSTATION และ FACEBOOK.COM/OISHIDRINKSTATION

คนไทยซึมเศร้าพุ่ง! ห่วงผู้ป่วยไม่พบแพทย์ปัญหาลุกลาม ย้ำตรวจหาโรคเร็วหายได้

บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในทุกมิติของการสร้างสรรค์สังคมที่ยั่งยืน โดยชวนพนักงานที่มีจิตอาสาและนักศึกษาฝึกงาน SCN พร้อมใจเข้าร่วมกิจกรรมเย็บเต้านมเทียม ภายใต้โครงการ Sabina Sewing Cup Sewing Heart เย็บเต้ารวมใจ สู้ภัยมะเร็งเต้านม เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ป่วยมะเร็งที่ผ่าตัดเต้านมและสูญเสียความมั่นใจในเรื่องของบุคลิกภาพหลังจากรับการรักษาให้กลับมามีรอยยิ้มกับสรีระของตนเองอีกครั้ง โดยกิจกรรมได้จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

X

Right Click

No right click