December 06, 2025

คุณละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ผู้พัฒนา Dusit Central Park โครงการมิกซ์ยูสระดับโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์ Here for Bangkok (ที่ 3 จากขวา) พร้อมด้วย คุณณัฐภาณุ์ ศรียุกต์สิริ รองประธาน ฝ่ายกลยุทธ์การออกแบบและงานครีเอทีฟ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) (ที่ 3 จากซ้าย) และคุณกรกช เจริญปลั่ง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายขาย, การตลาด และลูกค้าสัมพันธ์บริษัท วิมานสุริยา จำกัด (ที่ 2 จากขวา) ร่วมต้อนรับ คณาจารย์และนักศึกษาปริญญาโท สถาบันเทคโนโลยีแห่งอิลลินอยส์ (Illinois Institute of Technology (IIT) สหรัฐอเมริกา โดยได้แลกเปลี่ยนและนำเสนอมุมมองเกี่ยวกับการสร้างสรรค์โครงการ Dusit Central Park ที่มีความท้าทายในการพัฒนาโครงการ ตั้งแต่การเริ่มศึกษาการเก็บรักษาและส่งต่อคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันเต็มเปี่ยมจากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพเดิม ทั้งในเชิงสถาปัตยกรรมภายนอกและการออกแบบตกแต่งภายในจนก่อเกิดเป็นอัตลักษณ์ความเป็นไทยสอดแทรกอย่างประณีตในโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพแห่งใหม่ และนวัตกรรมเทคโนโลยีในการก่อสร้างส่วนที่พักอาศัย The Residences at Dusit Central Park สู่การเป็น The Only Thai Branded Residence ภายในมิกซ์ยูสระดับโลก สร้างความภาคภูมิใจในฐานะโครงการฝีมือคนไทยที่สามารถส่งต่อความรู้และประสบการณ์การพัฒนาโครงการในระดับสากล ณ The Residences at Dusit Central Park Sales Gallery เมื่อเร็ว ๆ นี้

นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานเปิดงาน สระบุรีแซนด์บ็อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย" และเยี่ยมชมบูธ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ที่นำเสนอแนวทางขับเคลื่อนการดำเนินงานสู่การลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero ) อาทิ การจัดหาวัตถุดิบอย่างรับผิดชอบ ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ทั้งพลังงานชีวมวล พลังงานชีวภาพ พลังงานแสงอาทิตย์ นำเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม มาพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารที่ดีต่อสุขภาพกายและใจ โดยให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่คุณค่า ภายใต้เป้าหมายสู่ Net- Zero ซีพีเอฟ ยังเป็นบริษัทผลิตอาหารแห่งแรกของโลกที่ได้รับการอนุมัติเป้าหมายระยะสั้น และระยะยาว ตามหลักวิทยาศาสตร์ จากองค์กร Science Based Targets Initiative (SBTi)

สำหรับความร่วมมือในโครงการสระบุรีแซนด์บ็อกซ์ ซีพี-เมจิ บริษัทร่วมทุนของซีพีเอฟ ดำเนินโครงการแยกขวด-ลดขยะ สร้างมูลค่าจากวัสดุเหลือใช้ โดยสนับสนุนให้นักเรียน ครู และชุมชน เรียนรู้และเข้าใจกระบวนการจัดการขยะ ตั้งแต่การคัดแยก และส่งเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกวิธี ลดการปนเปื้อนและการกำจัดโดยการเผา สามารถสร้างรายได้จากการจำหน่ายขยะ ปัจจุบันมีสมาชิกร่วมโครงการกว่า 5,000 ครัวเรือน มีเป้าหมายคัดแยกผลิตภัณฑ์เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลไม่ต่ำกว่า 1 ล้านชิ้น และตั้งเป้าขยายโครงการธนาคารขยะ 10 แห่ง ภายในปี 2568 เป็นการสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศเมืองนวัตกรรม Net Zero Emission และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสีเขียวด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยเชื่อมโยงภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตร และชุมชน ผลักดันสระบุรีเป็นเมืองต้นแบบแห่งแรกในไทยที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์.

โตชิบา ไทยแลนด์ โตทะลุเป้าต่อเนื่อง 5 ปี เร่งเครื่องพร้อมโตต่อเนื่อง ลุยปี 68 เปิดตัวสินค้าใหม่ จับตลาด Mid to High แนะนำแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคนใหม่ ทาคาชิ โซริมาจิ พระเอก นักแสดงชื่อดังชาวญี่ปุ่น

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงบ่อยครั้ง เช่น น้ำท่วม พายุ และไฟป่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในหลายพื้นที่เป็นอย่างมาก ด้วยความเข้าใจถึงความเดือดร้อนและความต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนของผู้ประสบภัย ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ ผู้นำตลาดสินเชื่อเพื่อคนมีรถ จึงได้สานต่อภารกิจสำคัญในบทบาท ‘ผู้ช่วยเบื้องหลัง’ ทั้งด้านการเงินและชีวิตความเป็นอยู่ ที่พร้อมสนับสนุนและเคียงข้างคนไทยให้สามารถก้าวผ่านอุปสรรคและเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง

จากภารกิจดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดโครงการ ‘ถุงเติมรอยยิ้ม (Car4Cash Smile Pack)’ ที่สะท้อนถึงความตั้งใจของกรุงศรี ออโต้ในการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ด้วยการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี และมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีเป้าหมายให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคผ่านการลงมือทำ โดย คาร์ ฟอร์ แคช เชื่อว่าการช่วยเหลือไม่ใช่แค่เพียงการมอบสิ่งของที่จำเป็น แต่ยังรวมถึงการส่งต่อความเข้าอกเข้าใจ (Empathy) เพื่อช่วยให้ผู้ประสบภัยมีกำลังใจในการก้าวข้ามผ่านความท้าทายต่างๆ ที่ต้องเผชิญและฟื้นตัวได้อย่างเข้มแข็งด้วยเช่นกัน

 

นายพรเทพ ถิรสุนทรากุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานการตลาด ธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ด้วยบทบาทของผู้นำตลาดสินเชื่อเพื่อคนมีรถ เราเชื่อว่าหน้าที่ของเราไม่ใช่แค่เพียงการสร้างผลกำไร แต่ยังรวมถึงการสร้างแรงบันดาลใจและการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคม ซึ่งโครงการ ‘คาร์ ฟอร์ แคช ถุงเติมรอยยิ้ม’ เป็นมากกว่าการให้ความช่วยเหลือในยามวิกฤติ แต่เป็นการสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับชุมชนโดยรอบ และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของแบรนด์และทีมงานในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม (Good Corporate Citizenship) ที่พร้อมช่วยเหลือและส่งต่อกำลังใจในทุกช่วงเวลา”

นับตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบัน คาร์ ฟอร์ แคช ได้ทำการส่งมอบ ‘ถุงเติมรอยยิ้ม’ ที่ประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เช่น อาหาร น้ำดื่ม และของใช้พื้นฐาน ให้กับเหล่าผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แพทย์ พยาบาลช่วงโควิด เหตุการณ์น้ำท่วมจากพายุโซนร้อน ‘เตี้ยนหมู่’ ในจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา ลพบุรี นครสวรรค์ สุโขทัย และเพชรบูรณ์ ไฟไหม้ตลาดร้อยปีบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร และสมุทรปราการน้ำท่วมในจังหวัดภาคเหนือ เช่น เชียงราย แพร่ น่าน และน้ำท่วมในจังหวัดนราธิวาสที่เพิ่งเกิดขึ้น โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คาร์ ฟอร์ แคช ได้ส่งมอบถุงเติมรอยยิ้มไปแล้วกว่า 6,000 ถุง ใน 21 จังหวัดทั่วประเทศรวมมูลค่ากว่า 3.6 ล้านบาท

 

เบื้องหลังโครงการนี้ คือทีมงานที่ยึดมั่นในปณิธานที่จะดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม (Good Corporate Citizenship) โดยเชื่อว่าการช่วยเหลือในยามวิกฤติ ไม่ได้หยุดอยู่แค่การส่งมอบสิ่งของที่จำเป็น แต่คือการเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของคนในชุมชนการดูแลผู้มีส่วนได้เสียภายนอกที่เชื่อมโยงกับองค์กรทั้งใกล้และไกลด้วย ซึ่งจากการที่ทีมงาน คาร์ ฟอร์ แคช ส่วนใหญ่ล้วนเป็นลูกหลานของคนในพื้นที่ ทำให้พวกเขามีความใกล้ชิดและเข้าใจความท้าทายของชุมชนได้อย่างลึกซึ้ง ส่งผลให้การลงพื้นที่ในแต่ละครั้งเต็มไปด้วยความทุ่มเทและจริงใจ เปรียบเสมือนการดูแล ‘คนในครอบครัว’

นางผกายมาศ อนันตพงศ์ ผู้ประสบภัยที่เคยได้รับ ‘ถุงเติมรอยยิ้ม’ จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในจังหวัดเชียงราย เมื่อเดือนกันยายน 2567 เล่าถึงความรู้สึกครั้งนั้นว่า “ช่วงวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 40 ปีนั้น บ้านเราได้รับผลกระทบหนักมาก ขาดแคลนทั้งไฟฟ้าและน้ำใช้ ของในบ้านก็เสียหายหมด ตอนนั้นยอมรับว่าหมดกำลังใจไปเลย แต่พอได้รับถุงเติมรอยยิ้มจาก คาร์ ฟอร์ แคช มันเหมือนแสงสว่างในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ประทับใจมากคือ ถึงแม้ว่าสำนักงานคาร์ ฟอร์ แคช ที่ตั้งอยู่ใกล้บ้านจะเจอน้ำท่วมเหมือนกัน แต่ทีมงานก็ยังลงพื้นที่มาให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่”

“ถุงเติมรอยยิ้ม ที่ได้รับมาครั้งนั้น เป็นชุดอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ช่วยให้บ้านของเรากลับมาสะอาดและน่าอยู่เหมือนเดิม โดยเรามองว่าถุงนี้ไม่ใช่แค่สิ่งของ แต่เป็นแรงใจที่ช่วยให้ครอบครัวลุกขึ้นมาสู้กับปัญหาและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง" นางผกายมาศ กล่าวเสริม

คาร์ ฟอร์ แคช ยังมุ่งมั่นที่จะส่งมอบรอยยิ้มให้กับคนไทยในทุกพื้นที่อย่างเต็มกำลัง

พบกับโมเดลแพนด้ายักษ์สูง 5 เมตร พร้อมกิจกรรมฟีเจอร์ Emotional Wellbeing Assistant จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ – 25 กุมภาพันธ์ 2568

ออเนอร์ (HONOR) ผู้ให้บริการอุปกรณ์อัจฉริยะชั้นนำระดับโลก จัดโปรโมชั่นสุด Exclusive พร้อมให้ Blind Booking สำหรับ HONOR Magic7 Pro 5G ก่อนใคร สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสและเป็นเจ้าของสมาร์ตโฟนที่มาพร้อม AI สุดล้ำก่อนใคร เพียงจองล่วงหน้าระหว่างวันที่ 30 มกราคม – 10 กุมภาพันธ์ 2568 รับฟรี! HONOR Watch 4 และรับสิทธิ์เครื่องเก่าแรกใหม่ พร้อมส่วนลดเพิ่ม 6,000 บาท* โอกาสสุดพิเศษนี้ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ตโฟนที่ดีที่สุดแห่งปี

HONOR Magic7 Pro 5G สมาร์ตโฟนแฟลกชิปรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือชั้น ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลัง ซอฟต์แวร์ขั้นสูง และ AI อัจฉริยะในทุกการใช้งาน โดดเด่นด้วยดีไซน์ระดับไฮเอนด์ที่สะท้อนความพรีเมียมในทุกมุมมอง พร้อมจุดขายกล้องเทเลโฟโต้ความคมชัด 200MP และเพิ่มระบบความปลอดภัยด้วย AI Deepfake Detection ป้องกันการปลอมแปลงใบหน้า และ AI Translation เครื่องมือสำคัญในการสื่อสารในชีวิตประจำวันที่ช่วยลดอุปสรรคด้านภาษา

สำหรับข้อเสนอ Blind Booking สามารถจองสมาร์ตโฟน HONOR Magic 7 Pro 5G ล่วงหน้าได้ในวันที่ 30 มกราคม 2568 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 23.59 น. รับฟรี HONOR Watch 4 มูลค่า 4,990 บาท และรับสิทธิ์เครื่องเก่าแรกใหม่ พร้อมส่วนลดเพิ่ม 6,000 บาท* สามารถลงทะเบียนจองฟรีได้ที่ https://linktr.ee/HONORTH โดยจะได้รับเครื่องในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป ณ HONOR Experience Store ทุกสาขา และร้านค้าที่ร่วมรายการ

ห้ามพลาด! เตรียมสัมผัสประสบการณ์จริงกับ HONOR Magic7 Pro 5G พร้อมโปรโมชันพิเศษ ได้ที่งาน Thailand Mobile Expo 2025 งานมหกรรมมือถือที่ใหญ่สุดของประเทศ ที่จัดขึ้นวันที่ 30 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.honor.com/th หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมที่น่าสนใจได้ที่เฟซบุ๊ก HONOR Thailand

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย รองประธานกรรมการ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM พร้อมผู้บริหารและพนักงาน ร่วมจัดกิจกรรมฉลองเทศกาลตรุษจีน ภายใต้ชื่อ Happy Chinese New Year 2025 มะเส็งมหาเฮง ทั้งนี้ BAM ยังได้มอบของขวัญ ส้มมงคล และอั่งเปา เพื่อขอบคุณลูกค้าที่มาใช้บริการ ตั้งแต่วันที่ 27-29 มกราคม 2568 ณ โชว์รูม BAM สำนักงานใหญ่

 

คอนโดใหม่ที่ให้ได้มากกว่า “ใกล้” ม.เกษตร เพียง 600 เมตร พร้อมโอนฯ แชปเตอร์ใหม่ปลายปีนี้

แกร็บ ประเทศไทย รุดหน้าโครงการ Grab EV เผยยอดคนขับใช้รถ EV ให้บริการบนแพลตฟอร์มเกินหมื่นคัน พร้อมผนึกกำลัง 5 พันธมิตรใหม่ ได้แก่ SUSCO, Whale EV, AGEWAY, SHARGE และ Spark EV ร่วมเดินหน้าผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มคนขับแกร็บ ชูโปรแกรม “ผ่อนขับรับรถ” ให้คนขับเช่าซื้อ BYD Seal ผ่อนจ่ายเริ่มต้นเพียง 1,010 บาทต่อวัน เปิดเช่าแท็กซี่ไฟฟ้าโดยเพิ่มรถรุ่น Aion ES เป็นตัวเลือก พร้อมอัดส่วนลด-สิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับการชาร์จไฟกว่า 600 สถานีทั่วประเทศ  

นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า “โครงการ Grab EV ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 แล้วหลังจากที่เราได้ประกาศเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนคนขับแกร็บที่ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้มากขึ้น เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากก๊าซเรือนกระจก โดยปัจจุบันเรามีคนขับที่ให้บริการเรียกรถผ่านแอปฯ และเดลิเวอรีโดยใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารวมกันเป็นจำนวนมากกว่าหมื่นคัน ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะ 10 จังหวัดหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ โคราช ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี สงขลา อุดรธานี และอุบลราชธานี” 

“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้จำนวนคนขับที่ใช้รถ EV เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ส่วนหนึ่งมาจากการที่เรามีเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งและมีความเชี่ยวชาญจากหลายภาคส่วนมาช่วยสนับสนุน โดยร่วมกันพัฒนาโปรแกรมเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงยานยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มคนขับแกร็บ ไม่ว่าจะเป็น ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้า ผู้ให้บริการเช่ายานยนต์ไฟฟ้า ผู้ให้บริการทางการเงิน รวมถึงสถานีชาร์จไฟฟ้า และเพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ Grab EV อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เราได้จับมือกับ 5 พันธมิตรใหม่ อันได้แก่ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) (SUSCO), บริษัท ไบโอ แลป ซัพพลาย จำกัด (Whale EV), บริษัท เอจีอี อีวี พลัส จำกัด (บริษัทในเครือของ AGE Group ภายใต้ชื่อ AGEWAY), บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) และ บริษัท สปาร์ค อีวี จำกัด (Spark EV) ที่จะเข้ามาช่วยปลดล็อคข้อจำกัดต่างๆ และเพิ่มทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนขับยิ่งขึ้น” นายวรฉัตร กล่าวเสริม

 

ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรเหล่านี้ แกร็บได้พัฒนาโปรแกรม รวมถึงสิทธิประโยชน์สำหรับคนขับแกร็บ ดังนี้ 

  • โปรแกรม “ผ่อนขับรับรถ”: แกร็บได้ร่วมมือกับ SUSCO  ผู้ให้บริการสินเชื่อยานยนต์ไฟฟ้า เปิดโอกาสให้คนขับแกร็บสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าได้ โดยพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจากประวัติในการให้บริการกับแกร็บ ทั้งนี้ คนขับสามารถเช่าซื้อรถยนต์ไฟฟ้า BYD Seal รุ่น Dynamic รุ่น Premium และ รุ่น AWD Performance ด้วยการผ่อนจ่ายรายวันเริ่มต้นที่ 1,010 บาทโดยหักรายได้จากการให้บริการในแต่ละวัน ในระยะสัญญา 5 ปี และไม่ต้องวางเงินดาวน์ พร้อมยังได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆ อาทิ การรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปีหรือ 160,000 กม. ฟรีค่าซ่อมบำรุงรักษาตามรอบ ฟรีประกันรถสาธารณะชั้น 1 รวมถึงการให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากผู้ให้บริการตลอดอายุสัญญา

  • โปรแกรม “เช่าครบจบบนแอป”: แกร็บจับมือกับ 2 พันธมิตรผู้ให้บริการเช่าแท็กซี่ไฟฟ้า ได้แก่ Whale EV และ AGEWAY เปิดให้บริการเช่ารถแท็กซี่ไฟฟ้าเพื่อให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน Grab โดยได้มีการนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Aion ES เข้ามาเป็นตัวเลือกเพิ่มเติม จากเดิมที่มีเพียงรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น MG EP ให้บริการ โดยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Aion ES ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนขับแท็กซี่ ซึ่งหลังจากที่ได้ทดลองปล่อยเช่าตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีคนขับใช้รถรุ่นนี้ให้บริการแล้วกว่า 400 คัน

 

  • สิทธิประโยชน์พิเศษจากสถานีชาร์จไฟฟ้า: แกร็บยังได้ขยายความร่วมมือกับ 2 พันธมิตรผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า ได้แก่ SHARGE และ Spark EV เพื่อเสริมความมั่นใจให้คนขับแกร็บในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จไฟฟ้าที่มีมากกว่า 600 แห่งทั่วประเทศ โดยมอบสิทธิประโยชน์พิเศษให้กับคนขับแกร็บเป็นพิเศษ อาทิ อัตราค่าไฟพิเศษเพียง 5.84 บาทต่อหน่วย (จากราคาปกติ 7.5–9.5 บาทต่อหน่วย) สำหรับการชาร์จไฟฟ้าที่สถานีชาร์จของ ReverSharger [1]และบัตรกำนัลมูลค่า 1,000 บาท จำนวน 1,000 รางวัลให้กับคนขับแกร็บสำหรับการชาร์จไฟฟ้าที่สถานีชาร์จของ Spark EV ภายในกุมภาพันธ์นี้

“การส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าถือเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญที่แกร็บมุ่งลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากวงจรธุรกิจ ภายใต้พันธกิจ GrabForGood หรือ แกร็บ…เพื่อชีวิตที่ดีกว่า ซึ่งที่ผ่านมา เราไม่เพียงร่วมมือกับพันธมิตรจากหลากหลายภาคส่วนเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับข้อดีและประโยชน์ของการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทั้งกับคนขับและผู้ใช้บริการไปควบคู่กัน โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งสะท้อนผ่านจำนวนของคนขับที่หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นนับหมื่นคัน รวมถึงจำนวนผู้ใช้บริการที่เปิดฟีเจอร์เลือกใช้รถอีวี (Grab EV Rides) เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า[2] ซึ่งตัวเลขเหล่านี้นับเป็นแรงผลักดันสำคัญที่่ทำให้เรามุ่งมั่นเดินหน้าสานต่อความตั้งใจในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับทุกคนในสังคมต่อไป” นายวรฉัตร กล่าวปิดท้าย


[1] จำกัด 1 สิทธิ์ ต่อ 1 ผู้ใช้บริการ

[2] เปรียบเทียบระหว่างปี 2566 และ 2567

X

Right Click

No right click