

การ์เดียน กลาส หรือ Guardian Glass เผยฉลากข้อมูลสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ หรือ Environmental Product Declarations (EPDs) สำหรับผลิตภัณฑ์กระจกแผ่นเรียบ โดยครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์กระจกโฟลตใส กระจกโฟลตสีตัดแสง กระจกลามิเนต และกระจกเคลือบผิวแบบเปียก (กระจกเงา) ทั้งที่ผลิตในประเทศไทยและที่ผลิตในต่างประเทศ

โดยฉลาก EPDs ใหม่นี้ ผ่านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานภายนอกระดับโลกอย่าง (UL) ในการประเมินผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต เพื่อให้มั่นใจว่ารายงานด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ระบุใน EPDs เป็นไปตามมาตรฐานด้านความยั่งยืนระดับสากล ซึ่งครอบคลุมผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้

ฉลาก EPDs สำหรับกระจกโฟลตที่ใช้ในงานสถาปัตยกรรมและการออกแบบภายในเป็นไปตามแนวทางในการประเมินผลิตภัณฑ์ “Cradle-to-Gate (A1-A3)” ที่การประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ A1 – Raw Material Supply (การจัดหาวัตถุดิบ) A2 – Transport (การขนส่งวัตถุดิบ) จนถึง A3 – Manufacturing (กระบวนการผลิตเสร็จสิ้นและออกจากโรงงาน) ซึ่งดำเนินการตามมาตรฐาน ISO 21930 และกฎรายการวัสดุสำหรับผลิตภัณฑ์ในแถบอเมริกาเหนือ (North American PCRs) โดยมีค่าคาร์บอนที่มาจากวัสดุก่อสร้าง(Embodied Carbon)อยู่ที่ 9.97 กิโลกรัม CO₂e/ตร.ม. สำหรับกระจกหนา 4 มม.*

สำหรับฉลากข้อมูลสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ของกระจกรถยนต์เป็นไปตามแนวทางในการประเมินผลิตภัณฑ์ “Cradle-to-Gate with Options (A1-A4, C1-C4)” ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการออกจากโรงงาน (A1-A3) การขนส่งไปยังลูกค้า (A4) จากประเทศไทยไปยังออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ รวมถึงกระบวนการรื้อถอนและกำจัดผลิตภัณฑ์หลังสิ้นสุดอายุการใช้งาน (C1-C4) โดยพัฒนาให้สอดคล้องกับมาตรฐานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่งสากล (Automotive & Transport UN PCRs) ที่กำหนดค่าคาร์บอนที่มาจากวัสดุก่อสร้างรวมของกระจกยานยนต์หนา 4 มม. อยู่ที่ 12.3 กิโลกรัม CO₂e/ตร.ม. ซึ่งแบ่งเป็นค่าคาร์บอนที่มาจากวัสดุก่อสร้างจากกระบวนการ A1-A3 ที่ 10.02 กิโลกรัม CO₂e/ตร.ม. และผลกระทบจากการขนส่ง (A4) ไปยังออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เท่ากับ 2.16 กิโลกรัม CO₂e/ตร.ม.

นอกจากนี้ Guardian Glass ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในเครื่องมือ Performance Calculator ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถคำนวณค่าคาร์บอนที่มาจากวัสดุก่อสร้าง(Embodied Carbon) สำหรับการเลือกใช้กระจกในรูปแบบต่าง ๆ โดยเครื่องมือนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Glass Analytics ที่จะช่วยจำลองคุณสมบัติทางความร้อน การส่องแสงของพื้นผิวกระจก รวมถึงชั้นเคลือบผิวกระจก สำหรับฟีเจอร์ใหม่ของ Performance Calculator สามารถประมาณการค่าคาร์บอนที่มาจากวัสดุก่อสร้างของกระจกในรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ กระจกโฟลต (Float Glass) กระจกเคลือบ Sputter-Coated Glass และกระจกลามิเนต (Laminated Glass) ที่ผลิตโดย Guardian Glass ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอินเดีย

Sascha Klengel หัวหน้าฝ่ายขายของ Guardian Glass ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีที่ได้ยกระดับฉลากข้อมูลสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ฉบับใหม่ ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นต่อเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม ภายใต้กรอบแนวทางความยั่งยืนของบริษัทฯ ผ่านการให้ข้อมูลอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับค่าคาร์บอนที่มาจากวัสดุก่อสร้างของผลิตภัณฑ์กระจกของเรา ที่จะช่วยเพิ่มความเข้าใจและช่วยให้พาร์ทเนอร์ของเราเข้าถึงข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม เพิ่มการตัดสินใจเลือกใช้กระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลกระทบเชิงบวก (Positive Impact) ต่อสมรรถนะของรถยนต์ การออกแบบเปลือกอาคาร (Facade) และการออกแบบภายใน โดย EPDs ฉบับใหม่ของเราจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการก่อสร้างและยานยนต์อย่างยิ่ง”
สำหรับผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ EPDs สามารถค้นหาได้ที่ guardianglass.com/product-declarations และผู้สนใจเครื่องมือจำลองคุณสมบัติของกระจก Glass Analytics และทดลองใช้ฟีเจอร์ Performance Calculator คำนวณค่าคาร์บอนที่มาจากวัสดุก่อสร้างผ่านฟีเจอร์ผ่าน Resource Hub บนเว็บไซต์ของ Guardian Glass ได้ที่ guardianglass.com/resource-hub
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. มอบหมายให้นางสาวอายุศรี คำบรรลือ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายพัฒนามาตรฐานการกำกับ เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุมชี้แจงแนวทางการยกระดับการกำกับดูแลและการตรวจสอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง Enterprise Risk Management and Own Risk Solvency Assessment (ERM-ORSA) จัดโดยชมรมบริหารและจัดการความเสี่ยงของบริษัทประกันภัย สมาคมประกันวินาศภัยไทย โดยมีผู้แทนจากสำนักงาน คปภ. ผู้แทนจากชมรมบริหารและจัดการความเสี่ยงของบริษัทประกันภัย และผู้แทนบริษัทประกันวินาศภัยเข้าร่วมกว่า 90 คน ณ ห้องสัมมนา 501 ชั้น 5 สมาคมประกันวินาศภัยไทย
ผู้ช่วยเลขาธิการ สายพัฒนามาตรฐานการกำกับ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมครั้งนี้สืบเนื่องจากที่สำนักงาน คปภ. ได้จัดประชุมชี้แจงแนวทาง ERM-ORSA ต่อภาคธุรกิจประกันภัย เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจด้านการบริหารความเสี่ยงในระดับองค์กร และการประเมินความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัยตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศ ERM-ORSA รวมถึงการยกระดับการดำเนินการของบริษัทเพื่อการมุ่งสู่การเป็นบริษัทกลุ่ม 1 ตามระบบสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าฉบับใหม่ (Early Warning System : EWS) นอกจากนี้ ยังเป็นการระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในแบบฟอร์มรายงาน (Template for ERM-ORSA Report) ปี 2568 เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามประกาศ ERM-ORSA โดยจะมีการผลักดันให้ภาคธุรกิจประกันภัยของไทย สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล สำหรับการยกระดับระบบการกำกับดูแลและการบริหารความเสี่ยงของบริษัทประกันภัย นับเป็นภารกิจสำคัญที่มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแนวทาง ERM-ORSA ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้บริษัทประกันภัยสามารถประเมินความเสี่ยงที่แท้จริงของตนเอง และวางแผนเพื่อรองรับความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นที่ส่งผลต่อความมั่นคงให้กับระบบประกันภัยโดยรวม การประชุมหารือในครั้งนี้ จึงนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลกับภาคธุรกิจประกันภัย เพื่อส่งเสริมและยกระดับระบบการบริหารจัดการความเสี่ยงให้มีความรัดกุม โปร่งใส และมีความพร้อมในการรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อทั้งบริษัทประกันภัย ผู้บริโภค และระบบเศรษฐกิจโดยรวม
“สำนักงาน คปภ. มีความตั้งใจที่จะรับฟังและรวบรวมข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติตามประกาศ ERM-ORSA จากภาคธุรกิจประกันภัย โดยเฉพาะในประเด็นด้านการจัดทำรายงานตามข้อกำหนด ซึ่งต้องอาศัยความเข้าใจเชิงเทคนิค ตลอดจนการตีความที่ถูกต้องและชัดเจน เพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกันและสามารถนำไปปฏิบัติในแนวทางเดียวกันได้ การประชุมครั้งนี้จึงเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ได้ซักถาม แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และสะท้อนประเด็นปัญหาที่พบในทางปฏิบัติ รวมทั้งเป็นโอกาสอันดีที่ภาคธุรกิจประกันภัยจะได้รับการชี้แจงในข้อกังวล เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันและสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับอุตสาหกรรมต่อไป” ผู้ช่วยเลขาธิการ สายพัฒนามาตรฐานการกำกับ กล่าวในตอนท้าย
บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM โดย นายบรรยง วิเศษมงคลชัย รองประธานกรรมการและรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงาน เข้าร่วมกิจกรรม “สงกรานต์สืบสานประเพณีไทย ร้อยดวงใจพี่น้องชาว BAM ” ที่จัดขึ้นเพื่อร่วมส่งเสริมและรักษาประเพณีไทย ณ อาคาร BAM สำนักงานใหญ่

ภายในงานจัดกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูปเสริมสิริมงคล รวมทั้งกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมไทย การกล่าวต้อนรับเทศกาลในรูปแบบภาษาไทยพื้นเมือง 4 ภาค พร้อมสนุกกับการแสดงรำกลองยาว และตีกลองสะบัดชัยอย่างยิ่งใหญ่ สร้างสีสันและรอยยิ้มให้แก่พนักงาน พร้อมกันนี้ยังเชิญชวนลูกค้าเข้าร่วมกิจกรรม และมอบของที่ระลึกให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการช่วงเทศกาล ในวันที่ 9-11 เมษายน 2568
บมจ. กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดยคุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคล และภาพลักษณ์องค์กรและการสื่อสารองค์กร (คนที่ 2 จากซ้าย) โดย คุณสุกัญญา อิสรานุวัฒน์ชัย รองประธานอาวุโส ฝ่ายสื่อสารการตลาด และภาพลักษณ์องค์กร (คนซ้าย) พร้อมด้วยฝ่ายการตลาดดิจิทัล คว้ารางวัล BEST IN CLASS AWARDS on Best Display Ads in Insurance business สุดยอดแบรนด์ผู้นำแห่งการสร้างสรรค์ผลงานโฆษณาผ่าน LINE ได้ยอดเยี่ยม ด้วยการออกแบบผลงานโฆษณาที่รังสรรค์ออกมาได้อย่างน่าสนใจ เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค และสร้างผลลัพธ์เชิงธุรกิจได้อย่างทรงพลัง ในอุตสาหกรรมประกันชีวิตและประกันภัย จากงานประกาศรางวัล LINE THAILAND AWARDS 2024 ที่จัดขึ้นโดย LINE THAILAND ณ ห้องนภาลัย แกรนด์ บอลรูม โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ LINE THAILAND AWARDS 2024 ไม่เพียงเป็นเวทีเพื่อเชิดชูและยกย่ององค์กรธุรกิจและภาครัฐที่ใช้ LINE อย่างชาญฉลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างและแรงบันดาลใจให้กับองค์กรไทยในการใช้งานโซลูชันบน LINE ที่สามารถตอบโจทย์เป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า สร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยแบ่งตามหมวดหมู่ของกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มเทคโนโลยี การสื่อสารและบันเทิง กลุ่มยานยนต์และพลังงาน กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มค้าปลีก กลุ่มการเงินและประกันภัย เป็นต้น
สำหรับท่านที่สนใจร่วมงานกับ บมจ. กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต สามารถติดต่อได้ที่ 02-056-3513 -15 หรือ www.krungthai-axa.co.th/career
“Chang Canvas” (ช้าง แคนวาส) สุดยอด Iconic Social Brewhouse แหล่งแฮงค์เอาท์ใหม่ Vibe ดี กลางใจเมือง พื้นที่แห่งการสังสรรค์ที่ผสานบรรยากาศการตกแต่งแนวอินดัสเทรียลลอฟต์เข้ากับความหรูหราได้อย่างลงตัว เปิดประสบการณ์ใหม่ผ่านร้านอาหารในโรงผลิตเครื่องดื่ม (เบียร์) โดยเฉพาะเครื่องดื่มพรีเมียมคราฟต์สด ๆ จาก Iconic Microbrewery ถังคอปเปอร์ขนาดใหญ่นำเข้าจากเยอรมนีที่ตั้งอยู่กลางใจร้าน และอาหารหลากหลายสไตล์ ทั้งไทย ตะวันตก ตะวันออก

โดย “Chang Canvas” ตั้งอยู่ในโครงการ วัน แบงค็อก แลนด์มาร์คแห่งใหม่กลางใจเมือง ซึ่งในปีนี้ วัน แบงค็อก จัดงานสงกรานต์สุดยิ่งใหญ่ “One Bangkok, One Lagoon - Splashing Songkran Rhythms” โดยเนรมิตพื้นที่ใจกลางกรุงให้เป็นโอเอซิสแห่งความสนุก ร่วมสมัย อัดแน่นกิจกรรมสุดประทับใจผ่านคอนเสิร์ตและโปรโมชันมากมาย เมื่อ วัน แบงค็อก เล่นใหญ่ “Chang Canvas” ก็ไม่มาเล่น ๆ ชวนสายชิลรุ่นใหม่ไลฟ์สไตล์พรีเมียมคราฟต์ มาฉลองสงกรานต์ ปล่อยไหล ชิลใจ ไปกับฟองแห่งความสุขด้วยกันที่ Chang Canvas ในบรรยากาศสุด unique เริ่มตั้งแต่การตกแต่งแนว Art Installation ด้วยฟองบับเบิ้ลบนเพดาน และจุดเช็คอินถ่ายรูปกับคลื่นน้ำ รวมทั้ง DJ - Live Band ทุกวงพร้อมเสิร์ฟ

ไปกันต่ออ....อีกความพิเศษเฉพาะช่วงสงกรานต์นี้ ที่ Chang Canvas จัดให้! กับโปรโมชัน “SONGKRAN CELEBRATION” รับส่วนลด 15% สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม ตลอด 6 วัน ตั้งแต่ 10 – 15เมษายน 2568 นี้ ที่ Chang Canvas อาคาร Forum ชั้น G (ติดกับบริเวณ วัน แบงค็อก ปาร์ค) โครงการ วัน แบงค็อก พร้อมติดตามโปรโมชันดีต่อใจอีกมายมายได้ที่ Facebook : Chang Canvas
สายชิล สายตี้! สงกรานต์นี้ ปักหมุด “Chang Canvas” Vibe ดี ๆ ที่คนคูล ๆ ต้องมา!! สะดวกสุด ๆ พร้อมแชร์คอนเทนต์และกู๊ดโมเมนต์ได้ทุกมุม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ Line OA: @changcanvas / https://lin.ee/5UYrTU7 หรือ โทร. 063-2125198 / 063-212-5245
นายสมใจนึก เองตระกูล ประธานกรรมการ ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงผลการดำเนินงาน ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ณ ห้องประชุมชั้น 25 อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยได้รายงานวาระการประชุมสำคัญให้ผู้ถือหุ้นได้รับทราบและพิจารณา ซึ่งได้รับการอนุมัติตามที่คณะกรรมการเสนอทุกวาระ และที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปีเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 1.60 บาท ซึ่งบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท และจ่ายเงินปันผลส่วนที่เหลืออีกในอัตราหุ้นละ 1.10 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันปิดสมุดทะเบียน และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 18 เมษายน 2568
บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน คว้ารางวัล “สุดยอดนวัตกรรมสินค้าและบริการแห่งปี 2568” (BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2025) จากนิตยสาร Business+ เครือบริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ในหมวดผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องซักอบผ้าเรือธงรุ่น TWD-T25BZU115MWT(MG) ที่ได้รับการยกย่องจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิว่าเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างครบวงจร เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการเครื่องซักผ้าไทย ด้วยการผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะและการออกแบบที่ล้ำสมัย สามารถทั้งซักและอบแห้งในเครื่องเดียว ประหยัดพื้นที่และเวลาตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง
นายอรุณพงศ์ ทองสุทธิ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้า บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า “เครื่องซักอบผ้ารุ่น TWD-T25BZU115MWT(MG) ไม่เพียงออกแบบมาเพื่อการซักผ้าที่มีประสิทธิภาพสะอาดล้ำลึกเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงเรื่องความยั่งยืนอีกด้วย เพราะสามารถเชื่อมต่อการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน TSmartLife ที่สามารถควบคุมสั่งงานผ่านโทรศัพท์มือถือ และช่วยให้ลูกค้าทราบถึงการใช้พลังงานในแต่ละรอบการซักหรืออบผ้าได้อีกด้วย รางวัลนี้เป็นความภาคภูมิใจของโตชิบา และเป็นเครื่องยืนยันความมุ่งมั่นของโตชิบาในการพัฒนานวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น โดยผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ที่ได้พัฒนาขึ้นจากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยอย่างละเอียด เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกสบาย ประสิทธิภาพ และการประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง”
นับเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของโตชิบาที่สามารถคว้ารางวัล “BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2025” โดยมี ฯพณฯ นุรักษ์ มาประณีต ให้เกียรติเป็นประธานมอบรางวัล ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ
ปัจจุบัน เครื่องซักอบผ้าโตชิบารุ่น TWD-T25BZU115MWT(MG) วางจำหน่ายแล้วที่ห้างสรรพสินค้าและตัวแทนจำหน่ายโตชิบาทั่วประเทศ พร้อมรับประกันตัวเครื่อง 2 ปี และรับประกันมอเตอร์ 10 ปี รับชมข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ www.toshiba-lifestyle.com/th หรือ Facebook.com/ToshibaLifestyleThailand