วิกฤตน้ำ เป็นหนึ่งในปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เราเผชิญแทบทุกปี ส่งผลกระทบต่อวิถีการดำเนินชีวิต และระบบนิเวศ เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC พาถอดบทเรียนรวบรวมองค์ความรู้จากโครงการบริหารจัดการน้ำเพื่อชุมชน ซึ่งได้มุ่งมั่นดำเนินงานร่วมกับชุมชนมาตลอดระยะเวลานานกว่า 10 ปี สรุปเป็นแนวคิด ‘เก็บน้ำดี มีน้ำใช้’ ด้วยโมเดลจัดการน้ำ ‘2 สร้าง 2 เก็บ’ ส่งเสริมให้ชุมชนสามารถบริหารจัดการน้ำด้วยตนเองอย่างยั่งยืน โดยนำภูมิปัญญาท้องถิ่นควบคู่กับการจัดการข้อมูลและนวัตกรรม เพื่อฟื้นแล้งสู่แหล่งน้ำ ป้องกันวิกฤตน้ำท่วม พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิต และส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนเป็น “ชุมชนคนน้ำดี” อย่างยั่งยืน

 

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) จัดงาน EXIM Stakeholders Day เป็นปีที่ 2 ภายใต้แนวคิด “สานพลังพันธมิตร เดินเกมเปลี่ยนประเทศไทย”

 

บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) นำคณะครู อาจารย์ที่ได้รับการคัดเลือกจากทั่วประเทศ   ลงพื้นที่ทำกิจกรรม ณ โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณรอบวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการป่าสิริเจริญวรรษ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ชลบุรี ทำกิจกรรมการพัฒนาสังคมแบบองค์รวมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถอดรหัสพระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ ๙  ในการทรงงานพัฒนาชุมชน ด้วย “พลังบวร” บ้าน - วัด -  โรงเรียน  เน้นการพัฒนาแบบมีส่วนร่วม เพื่อช่วยกันต่อยอดนำความรู้ไปพัฒนาชุมชนให้มีความแข็งแรงอย่างยั่งยืน  ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม หลังวิกฤติโควิด -19

 

ครั้งแรก! กับการเปิดให้เยาวชนและบุคคลทั่วไปได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาพร้อมสัมผัสมนต์ขลังแห่ง พิพิธภัณฑ์ครุฑ (Garuda Museum) โดย ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต  ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งเดียวในประเทศไทยและในอาเซียน ที่รวบรวมครุฑที่มีเอกลักษณ์เฉพาะองค์จากทุกภาคของไทย โดยอัญเชิญครุฑที่ประดิษฐาน ณ ธนาคารสาขาต่าง ๆ มากกว่า 150 องค์ มาไว้ด้วยกัน โดดเด่นด้วยองค์ครุฑไม้ที่แกะสลักอย่างวิจิตรงดงาม สะท้อนถึงความประณีตของศิลปิน พร้อมเรียนรู้เรื่องราว “พญาครุฑ” สัตว์หิมพานต์ สัญลักษณ์แห่งความกตัญญู ความดีงาม และความซื่อสัตย์ 

ปกป้องรักษาป่าต้นน้ำ 10,000 ไร่  สร้างอาชีพ-รายได้-เสริมชุมชนเข้มแข็ง หนุนคนอยู่กับป่าอย่างยั่งยืน 

เคทีซีปล่อยคลิปวีดีโอซีรี่ส์เรื่องที่ 2 “รางวัลชีวิตนี้เพื่อลูก” เพื่อร่วมส่งต่อแรงบันดาลใจและเป็นกำลังใจให้คนไทยไม่ท้อ ผ่านเรื่องราวในชีวิตจริงของคุณกุหลาบ แป้นงาม ผู้โชคดีจากโครงการ “เคลียร์หนี้” คนสู้ชีวิตที่ไม่เคยปฏิเสธงาน และสอนทำผ้ามัดย้อมให้กับคนตาบอดและพิการซ้ำซ้อน บ้านรื่นสุข ด้วยเป้าหมายชีวิตสูงสุดคือ การหาเงินสักก้อนแล้วได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกอีกสองคน   

22 พฤษภาคม ของทุกปี องค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้เป็นวันสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ (International Day for Biological Diversity) โดยในปี 2565 ภายใต้แนวคิด Building a shared future for all life สร้างอนาคตร่วมกันเพื่อทุกชีวิต บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าร่วมมือกับคู่ค้าธุรกิจและเกษตรกรในห่วงโซ่การผลิตอาหาร ยุติการบุกรุกและการทำลายป่า เพื่อร่วมสนับสนุนการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ และบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งความมั่นคงด้านอาหารของโลก


นางสาวธิดารัตน์ เดชายนต์บัญชา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านจัดซื้อพัสดุครุภัณฑ์ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ในฐานะเป็นผู้ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร เดินหน้าจับมือกับคู่ค้าธุรกิจและเกษตรกร ยกระดับกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน ดำเนินการจัดหาวัตถุดิบและสินค้าคุณภาพ ปลอดภัยจากกระบวนการผลิตที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อยุติการตัดไม้ทำลายป่า ด้วยกระบวนการจัดซื้ออย่างรับผิดชอบและมีระบบตรวจสอบย้อนกลับที่โปร่งใสตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตอบรับเทรนด์ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการบริโภคที่ยั่งยืน ซีพีเอฟกำหนดเป้าหมายการจัดหาวัตถุดิบเกษตรหลักที่สำคัญได้แก่ ข้าวโพด ปลาป่น น้ำมันปาล์ม กากถั่วเหลือง และมันสำปะหลัง ร้อยละ 100 จากทั่วโลกต้องปราศจากการบุกรุกพื้นที่ป่า ภายในปี 2573 (ค.ศ. 2030) ควบคู่กับการอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ป่า เพื่อร่วมปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งเป็นต้นทางของวัตถุดิบในการผลิตอาหาร สร้างศักยภาพทางการแข่งขันคู่ค้าให้เติบโตไปด้วยกัน

“เพื่อให้มั่นใจว่าคู่ค้าธุรกิจและเกษตรกรมีส่วนร่วมในปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพได้ตั้งแต่ต้นทาง คู่ค้าธุรกิจซีพีเอฟดำเนินตามนโยบายการจัดหาที่ยั่งยืนและแนวปฏิบัติสำหรับคู่ค้าธุรกิจ เพื่อให้คู่ค้าธุรกิจส่งมอบวัตถุดิบและสินค้าคุณภาพสูง ปลอดภัย สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่ามาจากแหล่งผลิตที่รับผิดชอบ ต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)” นางสาวธิดารัตน์กล่าว

บริษัทฯ เดินหน้าพัฒนาศักยภาพของคู่ค้าธุรกิจรวมถึงคู่ค้า SMEs ให้มีความตระหนักและร่วมกันจัดหาวัตถุดิบที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแหล่งผลิต รวมทั้งพัฒนาการดำเนินงานสอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยเชื่อมโยงแนวทาง ESG เข้ามาในกระบวนการบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่อุปทาน สอดคล้องตามนโยบาย “CPF 2030 Sustainability in Action” เพื่อให้คู่ค้าธุรกิจสามารถรับมือการเปลี่ยนแปลง บริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต อีกทั้งยังถือเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้ธุรกิจ ร่วมสร้างการเติบโตไปด้วยกัน

ซีพีเอฟยังดำเนินการตรวจประเมินและทบทวนความเสี่ยงด้านความยั่งยืนของคู่ค้าธุรกิจครอบคลุมทุกกลุ่มวัตถุดิบทั้งในกิจการประเทศไทย เวียดนามและจีนแล้วครบร้อยละ 100 เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นว่าตลอดห่วงโซ่อุปทานที่ปราศจากการตัดไม้ทำลายป่า และปีนี้มีแผนขยายการประเมินความเสี่ยงไปยังคู่ค้าธุรกิจในกิจการต่างประเทศต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทฯ ร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (FIT) ในการจัดหาข้าวโพดตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแหล่งปลูกสำหรับกิจการผลิตในประเทศไทยทั้งหมด ผ่านระบบ Corn Traceability System ว่าเป็นข้าวโพดพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมทั้งดำเนิน โครงการ "เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน" เพื่อช่วยเกษตรกรมีศักยภาพในการเพิ่มผลผลิตและลดค่าใช้จ่าย รวมทั้งมีความเข้าใจการปลูกช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ควบคู่กันด้วย

ปัจจุบันทางบริษัทฯ ยังได้ขยายการตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดไปยังกิจการต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ จีน อินเดีย และเวียดนาม รวมทั้งกิจการของเครือซีพี เช่น เมียนมา เป็นต้น พร้อมทั้งต่อยอดนำเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain Technology) ช่วยยกระดับการตรวจสอบย้อนกลับของวัตถุดิบข้าวโพดทำได้อย่างรวดเร็วและเพิ่มความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น สำหรับวัตถุดิบหลักอื่นๆ อาทิ กากถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม ปลาป่น ต้องตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแหล่งเพาะปลูกและผลิต อาทิ มาตรฐานการผลิตน้ำมันปาล์มที่ยั่งยืน (Roundtable on Sustainable Palm Oil: RSPO) เป็นต้น

ทั้งนี้ ซีพีเอฟ ยังได้ดำเนินโครงการ “ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง” มาตั้งแต่ปี 2559 โดยผลสำเร็จจากการดำเนินการระยะที่ 1 (ปี 2559 -2563) ช่วยอนุรักษ์และฟื้นฟูป่า รวม 5,971 ไร่ ช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินโครงการระยะที่ 2 (ปี 2564 -2568) เพิ่มเติมอีก 1,000 ไร่ รวมเป็น 6,971 ไร่

“ผู้หญิง” อาจอ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ เพราะแท้ที่จริงแล้วแข็งแกร่งกว่าที่ใคร ๆ คิด ซึ่งวันนี้มีผู้หญิงมากมายได้พิสูจน์ตัวเอง ให้โลกตระหนักว่า หากมองให้ชัดเจน พลังมหัศจรรย์ของผู้หญิงคือ แรงผลักดันสำคัญสร้างการเปลี่ยนแปลงกอบกู้วิกฤติ ทั้งในครอบครัว เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะเมื่อถูกเรียกขานว่า “แม่” พลังสำรองที่เก็บไว้จะสามารถเปลี่ยนผู้หญิงธรรมดา ๆ ให้มีเรี่ยวแรงมหาศาลในการทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความรักอันยิ่งใหญ่   

“เอสซีจี โซลาร์รูฟ โซลูชั่น” จับมือ การไฟฟ้านครหลวง และกรุงเทพมหานคร  มอบระบบหลังคาโซลาร์ 23.5 kW.

ธนาคารกรุงไทย ร่วมกับ UNDP ประเทศไทย และ มูลนิธิรักษ์ไทย ต่อยอด โครงการ #UNDPกรุงไทยรักเกาะเต่า สนับสนุนอุปกรณ์ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อปรับภูมิทัศน์และเพิ่มความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว และร่วมทำซั้งปลากับกลุ่มประมงพื้นบ้าน เพื่อเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำและฟื้นฟูทรัพยากรและระบบนิเวศทางทะเล

X

Right Click

No right click