December 06, 2025

ดร.สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ (ที่ 2 จากซ้าย) พร้อมกับคุณสุริยา ธรรมธีระ (ซ้ายสุด) รองกรรมการผู้จัดการ และทีมงานบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เข้าหารือธุรกิจพร้อมมอบของขวัญเนื่องในโอกาสตรุษจีน บริษัท อีสาน พิมาน กรุ๊ป จำกัด โดยมีคุณบุรินทร์ บูริสตระกูล (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานบริษัท ให้การต้อนรับเมื่อเร็วๆนี้

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) แถลงนโยบายและบทบาทของ EXIM BANK ในโอกาสเปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการครบรอบ 31 ปี ในหัวข้อ EXIM Greenovation : เปิดเกมรุกนำผู้ประกอบการไทยฝ่ามรสุม Trump 2.0 ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 โดยคาดการณ์ว่า ภายหลังการเข้ารับตำแหน่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือยุคทรัมป์ 2.0 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะยังไปต่อได้ ปัจจัยส่งเสริมให้การส่งออกไทยปี 2568 ยังขยายตัวต่อได้ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจโลกและนโยบายทรัมป์ 2.0 ประกอบด้วย การเร่งนำเข้าของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โอกาสส่งออกของไทยทดแทนสินค้าจีน การย้ายฐานการผลิตจากต่างชาติเข้ามาในไทย การขยายตัวของตลาดใหม่ และการบังคับใช้ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association : EFTA) ท่ามกลางปัญหาสิ่งแวดล้อมโลกที่ทวีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อมนุษย์ ทำให้มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มจำนวนขึ้นถึงกว่า 18,000 ฉบับในปัจจุบัน

ในปี 2568 EXIM BANK มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจไทยผ่านความเชี่ยวชาญและพันธมิตรสู่การเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Bank) โดยจะเร่งขยายฐานลูกค้าผ่านบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทั้งด้านการสนับสนุนการส่งออกและการลงทุน เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานส่งออกสีเขียว (Green Export Supply Chain) โดยให้สิทธิประโยชน์และดอกเบี้ยพิเศษแก่ผู้ประกอบการไทยที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึง ESG ทั้งนี้ บริการใหม่ของ EXIM BANK อาทิ บริการค้ำประกันหุ้นกู้ และบริการที่ปรึกษาทางการเงินให้แก่ลูกค้าที่มีความต้องการระดมทุน ไม่ว่าจะเป็นตราสารหนี้หรือตราสารทุน เป็นต้น

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เยือนจีนเนื่องในวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน พร้อมเข้าพบปะคณะผู้บริหาร “เรนวูด กรุ๊ป” กลุ่มธุรกิจคนไทยเชื้อสายจีนที่สร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจที่ประเทศจีนมาอย่างมั่นคงมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ นำโดยนางสาวหลู่จ้าน เลขาธิการมูลนิธิเรนวูด เพื่อเยี่ยมชม ‘พิพิธภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลังของจีน’ (China Functional Drink Museum) อันแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางธุรกิจ เทคโนโลยีนวัตกรรม และแนวโน้มตลาดของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มชูกำลังของจีน และร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดตัวร้านอาหารไทยระดับไฮเอนด์ ‘Baan’ โดย “เรนวูด กรุ๊ป” ที่มุ่งมั่นนำเสนออาหารไทยคุณภาพสูง ส่งเสริมเผยแพร่วัฒนธรรมอาหารไทยสู่เวทีโลก ซึ่งก่อนหน้านี้ “เรนวูด กรุ๊ป”   ได้เปิดตัว "เรนวูด ปาร์ค" (Reignwood Park) โครงการมิกซ์ยูสเมกะโปรเจกต์ระดับ World-class แห่งแรกในไทย ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างสังคมคุณภาพสำหรับการใช้ชีวิตทุกช่วงวัย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ พัฒนาภายใต้แนวคิด "The World Community for Multi-Generational Living" ศูนย์กลางสุขภาพแห่งอาเซียน ที่รวมทั้งการโครงการบ้านพักอาศัย การศึกษา การดูแลสุขภาพ กีฬา โรงแรม และเทคโนโลยีเข้าไว้ในที่เดียว พื้นที่นี้ยังเป็นที่ตั้งของอาคารสถาปัตยกรรมจีนซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก "พระตำหนักเหรินโซ่ว" (Renshou Hall) พระราชวังฤดูร้อนของจีน ซึ่งใช้จัดนิทรรศการและกิจกรรมทางวัฒนธรรม เพื่อเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนความเข้าใจระหว่างประชาชนด้วยพลังแห่งวัฒนธรรม

 

ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา “เรนวูด กรุ๊ป” ได้ให้การสนับสนุนเศรษฐกิจและการค้า รวมถึงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างไทย-จีนมาอย่างต่อเนื่อง การเยือนของนายกรัฐมนตรีแพทองธารในครั้งนี้ เป็นการกระชับความสัมพันธ์ไทย-จีน และเป็นแรงสนับสนุนอันดีต่อการดำเนินธุรกิจของ “เรนวูด กรุ๊ป” อันเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเติบโตให้แก่เศรษฐกิจไทย-จีน อีกด้วย

เร่งสร้างความตระหนักรู้ “ลำไส้ดี-ชีวิตดี” หลังคนไทยเสียชีวิตจากมะเร็งลำไส้สูงขึ้น 2.4 เท่า

นิโอ ทาร์เก็ต เผยผลสำรวจ พบคนไทยทุก Gen กว่าร้อยละ 80 ต่างเห็นว่า “ผู้นำองค์กร” สำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจ (Trust) ให้แก่องค์กร ขณะที่ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ มาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ คุณภาพของสินค้า บริการ และชื่อเสียงของแบรนด์

นางวรรณี ลีลาเวชบุตร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด ที่ปรึกษาการสื่อสารภาพลักษณ์องค์กร กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดมีการแข่งขันสูง การสร้างชื่อเสียงองค์กรให้มีความน่าเชื่อถือ (Trust) และ สร้างตราสินค้า (แบรนด์) ให้เป็นที่ชื่นชอบ ชื่นชมในกลุ่มเป้าหมายจนสามารถครองตำแหน่งผู้นำทางการตลาดได้นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง หลายองค์กรจึงจำเป็นต้องสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ  โดดเด่นกว่าคู่แข่งรายอื่น เพื่อให้เป็นตัวเลือกในของการตัดสินใจซื้อ ควบคู่ไปกับการสร้างผู้นำองค์กรให้เป็นที่รู้จัก ถึงบทบาทและวิสัยทัศน์ในการบริหารองค์กร การทำกิจกรรมเพื่อสังคม ตลอดจนไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่องค์กรและแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

นิโอ ทาร์เก็ต ได้ทำการสำรวจความเห็นผู้บริโภคมาหลายปีติดต่อกัน ในปีนี้ เราได้ทำการสำรวจความเห็นผู้บริโภคอีกครั้ง โดยการสำรวจดังกล่าวครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น คือ ตั้งแต่กลุ่ม Gen Z ไปจนถึง กลุ่ม Baby Boomer ที่มีช่วงอายุตั้งแต่ 14-78 ปี ทั่วประเทศ จำนวน 2,000 คน เป้าหมายหลัก คือหาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการสร้างชื่อเสียงขององค์กร และ ปัจจัยที่มีผลต่อความรู้สึกที่ดีต่อแบรนด์ รวมทั้งการตัดสินใจซื้อ  คืออะไร ผลการสำรวจพบว่า คนไทยทุก Gen กว่าร้อยละ 80 (80.87%) ต่างให้ความเห็นในแนวทางเดียวกันว่า ผู้บริหาร หรือ ผู้นำองค์กร เป็นคนที่สำคัญมากที่สุดต่อการสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ (Trust) กับองค์กร โดยผลสำรวจพบว่า บริษัทที่ได้รับความเชื่อมั่นหรือไว้วางใจมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด และ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด โดยเหตุผลสำคัญมาจากความเชื่อมั่นในความสามารถขององค์กร มากถึงร้อยละ 22.29 รองลงมา คือความน่าเชื่อถือขององค์กร ร้อยละ 17.92 และ ร้อยละ 17.77 มีความเชื่อมั่นในผู้บริหารองค์กร ส่วนปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการมากที่สุด ร้อยละ 87.80 อยู่ที่คุณภาพของสินค้า ร้อยละ 73.80 ชื่อเสียงของแบรนด์สินค้า และร้อยละ 73.19 คือเรื่องราคา

 

อย่างไรก็ตาม  กลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มต่างให้ความเห็นว่า ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยมากที่สุด คือ เรื่องราคาของสินค้า ที่มีราคาแพง ขณะที่รายได้ที่มีอยู่ไม่เพียงพอกับรายจ่าย นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า ปัญหาสังคมที่มีผลกระทบต่อประเทศชาติ มาจาก ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ทุจริตคอร์รัปชัน  โอกาสและการพัฒนาการศึกษา และยาเสพติด ซึ่งเป็น 4 อันดับแรก ที่คนทุกกลุ่มให้ความเห็นในสัดส่วนใกล้เคียงกัน โดยกลุ่ม Gen Z ร้อยละ 51.24 และ Gen Y ร้อยละ 58.14 มองว่าปัญหาโอกาสและพัฒนาการศึกษาส่งผลกระทบต่อประเทศชาติมากที่สุด โดยทั้ง 2 กลุ่มนี้ ให้ความสำคัญกับปัญหาทางไซเบอร์มากด้วยเช่นกัน  ส่วนกลุ่ม Gen X และ Gen Baby Boomer มองว่าปัญหาคอร์รัปชันมีผลกระทบต่อประเทศชาติมากที่สุด

นางวรรณี กล่าวเสริมว่า เพื่อเป็นกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวกับการให้ความสำคัญในการสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์องค์กร ควบคู่ไปกับการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือ บริษัท นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด จึงได้ร่วมกับ อินฟลูเอ็นเชี่ยลแบรนด์ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ในเอเชีย จัดงานมอบรางวัลสุดยอดแบรนด์ชั้นนำในเอเชีย 2024 Asia CEO Summit & Award Ceremony ซึ่งได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 ในประเทศสิงคโปร์ และปีที่ 7 ในประเทศไทย มอบรางวัลอินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์อะวอร์ด ประจำปี 2024 (Influential Brand Award 2024) ให้กับแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลต่อผู้บริโภคมากที่สุด ต้นเดือนมีนาคมนี้  โดยรางวัลแบ่งออกเป็น 4 หมวด ได้แก่ รางวัลแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลต่อผู้บริโภคมากที่สุด (Top Influential Brand) มาจากผลวิจัยจากผู้บริโภค รางวัลแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจสูงสุดต่อเนื่อง (Outstanding Brand) รางวัลผู้บริหารองค์กรชั้นนำ (Top CEO) และรางวัลผู้นำดีเด่น (Outstanding Leader)

“รางวัลดังกล่าวที่จัดขึ้น เป็นบทพิสูจน์ว่า ทุกองค์กร และแบรนด์ต่าง ๆ ได้ก้าวสู่ความเป็นเลิศจนสามารถมีอิทธิพลต่อกลุ่มเป้าหมายได้นั้น ต้องมาจากพื้นฐานของความเป็นจริง ด้วยชื่อเสียงขององค์กร ความสามารถของผู้บริหาร และ คุณภาพของสินค้าที่เป็นจริง  ไม่ใช่เป็นเพียงการใช้กลยุทธ์การสร้างภาพ ด้วยกลยุทธ์วิธีทางการสื่อสารเท่านั้น” นางวรรณี กล่าวในที่สุด

เอไอเอ ประเทศไทย จับมือกับพันธมิตรชั้นนำอย่าง บัตรเครดิต เอไอเอ วีซ่า แพลทินัม และ วีซ่า จัดคอนเสิร์ตสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับสมาชิก AIA Prestige Club และผู้ถือบัตรเครดิต เอไอเอ วีซ่า แพลทินัมในชื่อคอนเสิร์ต “AIA VISA Exclusive Concert –Dual Marvels: A Day of Excitement” โดยเป็นการรวมตัวนักร้องเสียงทรงพลังระดับดีว่า ทั้งดีว่าในตำนาน “เบน ชลาทิศ” มาปะทะเสียงร้องกับ ดีว่าเสียงคุณภาพ “มาเรียม B5” ร่วมด้วยนักร้องขวัญใจยุค 90 ตลอดกาล “เจ เจตริน” โดยงานนี้ได้รับเกียรติจากผู้บริหารเอไอเอ ประเทศไทย นำโดย คุณชลิดา นครชัย (ที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด และคุณญดา วงศ์ทองคำ (ขวาสุด) รองผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารสิทธิพิเศษและกิจกรรมลูกค้า พร้อมด้วย คุณชัยพล กฤตยาวาณิชย์ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด คุณอดุลย์ ชูชัยเจริญ (ซ้ายสุด) ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขายและการหาลูกค้าใหม่ บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด และคุณนพร อิงคตานุวัฒน์ (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดวีซ่า ประจำประเทศไทย ซึ่งได้มาร่วมพบปะและทำกิจกรรมสุดพิเศษกับลูกค้าคนสำคัญ ณ True Digital Park, Hall 1-3 เมื่อเร็ว ๆ นี้

 

ทั้งนี้สำหรับคอนเสิร์ตสุดเอ็กซ์คลูซีฟในครั้งนี้ นับเป็นสิทธิประโยชน์ที่สมาชิก AIA Prestige Club และผู้ถือบัตรเครดิต เอไอเอ วีซ่า แพลทินัมได้รับในหมวดไลฟ์สไตล์ ที่มุ่งสร้างประสบการณ์ความบันเทิงเพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของลูกค้าคนสำคัญ นอกจากนี้ สมาชิก AIA Prestige Club และผู้ถือบัตรเครดิต เอไอเอ วีซ่า แพลทินัมยังจะได้รับสิทธิพิเศษเหนือระดับอีกมากมาย อาทิ  รับเครดิตเงินคืนสูง มากกว่าเดิม รวมสูงสุด 14,000 บาท เมื่อชำระเบี้ยประกันของเอไอเอผ่านบัตรเครดิต เอไอเอ วีซ่า แพลตินัม เพียงลงทะเบียนรับสิทธิ์ก่อนทำรายการผ่านแอป UCHOOSE พิมพ์ค้นหา AIAOT (1 ม.ค. 68 – 30 มิ.ย. 68) พร้อมสิทธิพิเศษ เฉพาะสมาชิกบัตรเครดิต เอไอเอ วีซ่า ช้อปจุใจที่ Boots หรือ Watsons รับเครดิตเงินคืน 12%  (1 ม.ค. 68 – 31 ธ.ค. 68) เที่ยวสบายใจ รับเครดิตเงินคืน 1% เมื่อเติมน้ำมันที่ปั๊มบางจาก (1 ม.ค. 68 – 31 พ.ค. 69) รวมถึงสิทธิพิเศษที่ร้านอาหารและศูนย์การค้าอื่น ๆ อีกมากมาย ตรวจสอบโปรโมชันโดนใจ ง่าย ๆ ผ่านแอป UCHOOSE  (เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด) สามารถติดตามข่าวสารและสิทธิประโยชน์ได้ทาง https://www.krungsricard.com/th/Product/creditcard/AIA-Visa-Platinum ทั้งนี้ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย คว้ารางวัลอันทรงเกียรติด้านทรัพยากรบุคคลในปี 2567 ถึง 31 รางวัลจากสื่อและสำนักพิมพ์ทางการเงินชั้นนำระดับโลก ซึ่งรางวัลเหล่านี้สะท้อนถึงความพยายามในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงาน การเสริมสร้างความผูกพันให้กับคนในองค์กร และตอกย้ำความมุ่งมั่นของธนาคารในการเป็นนายจ้างดีเด่น

นางสาวศศิวิมล อารยวัฒนาพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรัพยากรบุคคล ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า “รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการยอมรับด้านการดูแลพนักงานจากองค์กรชั้นนำผ่านทั้ง 31 รางวัลในปี 2567 รางวัลเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของธนาคารที่ให้ความสำคัญกับพนักงานเป็นอันดับต้นๆ และเป็นแรงบันดาลใจให้เราตั้งใจที่จะเป็นองค์กรที่พนักงานภาคภูมิใจที่ได้ทำงานด้วย และพร้อมที่จะสร้างสรรค์สถานที่ทำงานที่พนักงานสามารถเติบโตได้อย่างเต็มที่”

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย มุ่งเน้นที่การบริหารจัดการบุคลากรอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน ผ่านวัฒธรรมในการทำงานแบบ UOB Way กรอบการทำงานที่รวมเอาคุณค่า ความมุ่งหวัง และปรัชญาในการดูแลบุคลากรของธนาคารเอาไว้ เพื่อช่วยให้พนักงานแต่ละคนได้รับการฝึกอบรม คำแนะนำ โอกาส และความยืดหยุ่นในการทำงานในระยะยาวอย่างยั่งยืน ในขณะที่ช่วยให้พวกเขารักษาสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานที่ดีโดยมีเวลาเพียงพอสำหรับครอบครัวและความสนใจของตน

31 รางวัลด้านทรัพยากรบุคคลที่ธนาคารได้รับ ได้แก่:

7 รางวัลด้านนายจ้างยอดเยี่ยม

- WorkVenture - 50 อันดับบริษัทที่ดีที่สุดในประเทศไทย 2024 - อันดับที่ 43
- ABF-รางวัลนายจ้างแห่งปี
- HR Fest - นายจ้างที่พนักงานเลือก
- HR Excellence - นายจ้างแห่งปี (เหรียญเงิน)
- HR Asia - บริษัทที่ดีที่สุดในเอเชีย 2024
- Employer Branding Institute - รางวัลแบรนด์นายจ้างที่ดีที่สุดในประเทศไทย 2024
- World HRD Congress - รางวัลแบรนด์นายจ้างที่ดีที่สุดระดับโลก 2024

6 รางวัลด้านความยั่งยืน

- Employer Branding Institute - การพัฒนายุทธศาสตร์ที่ยั่งยืน
- Employer Branding Institute - รางวัลผลกระทบด้านความหลากหลาย
- HR Asia - รางวัลความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม
- HR Asia - รางวัลด้านความยั่งยืน
- ESG Business Awards - รางวัลความเท่าเทียมทางเพศและส่งเสริมสตรีในการทำงาน
- Organization in Supporting the Employment of Persons with Disabilities Awards 2024 - องค์กรดีเด่นในการสนับสนุนการจ้างงานคนพิการ

5 รางวัลด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

- Employee Experience - รางวัลรูปแบบการทำงานแบบผสมผสานที่ดีที่สุด (เหรียญทองแดง)
- ABF - รางวัลด้านสุขภาพและความเป็นอยู่
- ESG Business Awards - โปรแกรมสุขภาพในที่ทำงาน
- HR Asia - รางวัลบริษัทที่ดูแลพนักงานดีที่สุด
- Thailand Association of the Blind - รางวัลองค์กรที่ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนตาบอด

4 รางวัลด้านการฝึกอบรมและพัฒนา

- The Digital Banker - รางวัลโปรแกรมฝึกอบรมพนักงานยอดเยี่ยม
- RBI - รางวัลความเป็นเลิศในการพัฒนาผู้นำ
- Employee Experience - รางวัลยุทธศาสตร์การพัฒนาทักษะยอดเยี่ยม (เหรียญทองแดง)
- ACCOM Group - รางวัลความเป็นเลิศในด้านการโค้ชและการให้คำปรึกษา

3 รางวัลผู้นำหน่วยงานทรัพยากรบุคคล

- Employer Branding Institute - CHRO แห่งปี
- HR Fest - ผู้นำหน่วยงานทรัพยากรบุคคลที่ดีที่สุด
- HR Excellence - ผู้นำหน่วยงานทรัพยากรบุคคลแห่งปี (เหรียญทองแดง)

2 รางวัลด้านการสรรหาบุคลากร

- Employee Experience - ทีมสรรหาภายในที่ดีที่สุด (เหรียญทองแดง)
- HR Excellence - ความเป็นเลิศในการสรรหาบุคลากร (เหรียญเงิน)

2 รางวัลด้านการบริหารพนักงานที่มีศักยภาพและการสืบทอดตำแหน่ง

- Employee Experience - ยุทธศาสตร์การวางแผนสืบทอดตำแหน่งที่ดีที่สุด (เหรียญเงิน)
- Employer Branding Institute - รางวัลการบริหารพนักงานที่มีศักยภาพ

2 รางวัลด้านการชื่นชมพนักงาน

- RBI - ความเป็นเลิศในการชื่นชมพนักงาน
- Employee Experience - โปรแกรมรางวัลและการชื่นชมที่ดีที่สุด (เหรียญทอง)

 

เจาะศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ ย้ำจุดหมายใหม่ศูนย์รวมวัตถุดิบอาหารราคาขายส่ง

ดร.พลรัตน์ เอกโยคยะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่  ด้านการขายและการตลาด 2 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กับ นายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ และ พลเรือตรีดุลยพจน์ สิชฌนุกฤษฎ์  กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท โพรไวด์ จำกัด  ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)  เพื่อพัฒนาระบบประกันภัยที่สอดคล้องกับหลักศาสนาอิสลาม ตอบโจทย์ความต้องการของชาวไทยมุสลิม โดยยึดหลักการบริจาคและการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  โดยได้รับเกียรติจาก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานและร่วมเป็นสักขีพยาน ณ มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา

ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมให้ชาวไทยมุสลิมสามารถเข้าถึงประกันภัยที่สอดคล้องกับหลักศาสนา พร้อมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมให้แก่ชุมชนมุสลิมในประเทศไทย

พร้อมยกระดับประสบการณ์การพักผ่อนด้วยดีไซน์ล้ำสมัย และการเชื่อมต่อกับชุมชนท้องถิ่น ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่

X

Right Click

No right click