December 06, 2025

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ครั้งที่ 2/2568 ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงจากสถาบันการเงินของรัฐ ผู้แทนจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ซึ่งมีธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม

โดยที่ประชุมได้รับทราบการดำเนินงานของสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ในประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ การมอบนโยบายสถาบันการเงินของรัฐ หนุนธุรกิจรับมือมาตรการภาษีทางการค้า-กระตุ้นเศรษฐกิจ ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการทั้ง 7 ด้าน ประจำไตรมาส 1/2568 ความคืบหน้าการดำเนินโครงการบูรณาการข้อมูลเพื่อการกำกับดูแล (Regulatory Data Transformation : RDT) สำหรับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงกระบวนการจัดทำ Customer Profiling และการเข้าร่วมแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Thai CAC) ณ ห้องอัญชัน-สุพรรณิการ์ อาคารเอ็กซิม ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย คุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด ตอกย้ำจุดยืนผู้นำบริษัทประกันชีวิตและสุขภาพ สานต่อแคมเปญโฆษณาระดับโลก “เป็นผู้หญิงไม่ควรต้องเสี่ยง” ปีที่ 2 ซึ่งเป็นแคมเปญระยะยาวที่นำเสนอประเด็นความเสี่ยงในมิติต่างๆ เนื่องจากปัจจุบันโลกของเรากำลังเผชิญกับความเสี่ยงมากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อเราทุกคน โดยปี 2568 นี้ บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นความเสี่ยงด้านสุขภาพผู้หญิงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เนื่องจากผู้หญิงมักเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงมากกว่า และในปัจจุบันผู้หญิงต้องรับบทบาทและดูแลสิ่งต่างๆ มากมายจนละเลยการดูแลตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ จากผลสำรวจจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติพบว่า 41% ของผู้หญิงไม่ได้ตรวจสุขภาพในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และ 42 % ของโรคร้ายที่หญิงไทยต้องเผชิญ คือโรคมะเร็งเต้านม นอกจากนั้นจากผลสำรวจยังพบว่า ผู้หญิงไทยจำนวนมาก ไม่เคยตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม

โดยทางกรุงไทย - แอกซ่า ประกันชีวิต ตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลสุขภาพของทุกคน และอยากให้ทุกคนได้เข้าถึงบริการตรวจสุขภาพเบื้องต้นและตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ บริษัทฯ จึงได้จัดโครงการคาราวานตรวจสุขภาพทั่วประเทศ ฟรี! โดยรายละเอียดสถานที่ และวันที่จัดกิจกรรม ดังนี้

  • เซ็นทรัล พิษณุโลก วันที่ 7-8 มิ.ย. 2568 เวลา 00 – 18.00 น.
  • เซ็นทรัล โคราช วันที่ 14-15 มิ.ย. 2568 เวลา 00 – 18.00 น.
  • บิ๊กซี นครพนม วันที่ 28-29 มิ.ย. 2568 เวลา 00 – 18.00 น.
  • โรบินสัน ตรัง วันที่ 12-13 ก.ค. 2568 เวลา 00 – 18.00 น.
  • เซ็นทรัล อยุธยา วันที่ 2-3 ส.ค. 2568 เวลา 00 – 18.00 น.
  • เซ็นทรัล นครสวรรค์ วันที่ 16-17 ส.ค. 2568 เวลา 00 – 18.00 น.
  • เซ็นทรัล ชลบุรี วันที่ 23-24 ส.ค. 2568 เวลา 00 – 18.00 น.

 

วิดีโอแคมเปญโฆษณา

ทั้งนี้ผู้ที่สนใจแคมเปญ “เป็นผู้หญิงไม่ควรต้องเสี่ยง” สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.krungthai-axa.co.th/en/women-campaign และกิจกรรมดังกล่าว สอดคล้องกับเป้าหมายสูงสุดของบริษัทฯ ที่พร้อมอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป และสำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/   หรือโทร 1159 หรือสอบถามผ่านทางอีเมล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

พฤกษา เดินหน้ายกระดับแนวคิด Wellness Residence ประกาศรีแบรนด์โครงการรักษ์โลกจาก วนพลัส รีไซเคิล สู่โฉมใหม่ PRUKSA GOOD TRASH, GREAT LIFE: เปลี่ยนขยะเป็นโอกาส สร้างชีวิตอย่างยั่งยืน ผนึกกำลังพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อม เวสท์บาย เดลิเวอรี่ และ รีไซเคิลเดย์ ขยายพลังชุมชนสีเขียวสู่ 44 โครงการทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมชวนลูกบ้านแยกขยะอย่างถูกวิธี สะสมแต้ม แลกรับสิทธิพิเศษ และลุ้นรางวัลสำหรับนิติบุคคลที่สร้างชุมชนรีไซเคิลต้นแบบ

นางสาวอังคณา ลิขิตจรรยากุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาดองค์กรกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า PRUKSA GOOD TRASH, GREAT LIFE ไม่ได้เป็นเพียงโครงการแยกขยะ แต่คือก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนที่ทำให้บ้านอยู่ดีมีสุขและอยู่แล้วดีต่อโลกสู่การปฏิบัติจริง ผ่านการมีส่วนร่วมของลูกบ้านและนิติบุคคลใน 44 โครงการของพฤกษาทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยปีนี้ได้จับมือกับพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเวสท์บาย เดลิเวอรี่ และรีไซเคิลเดย์ เพื่อมาร่วมกันพัฒนาโมเดลการจัดการขยะรีไซเคิลให้เกิดผลลัพธ์ที่วัดผลได้ ทั้งในแง่สิ่งแวดล้อม และความสุขของคนในชุมชน

“PRUKSA GOOD TRASH, GREAT LIFE เป็นโครงการที่ตอกย้ำแนวคิดของพฤกษา ในการสร้างบ้านที่ใส่ใจ ที่ไม่เพียงให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัย แต่ยังใส่ใจในการสร้างสังคมที่ดี ที่สุขกาย สบายใจ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ทุกชีวิตมีความอยู่ดีมีสุข” นางสาวอังคณา กล่าว

สำหรับไฮไลต์ของโครงการปีนี้ คือ ระบบสะสมแต้มจากการแยกขยะอย่างถูกวิธี เพื่อให้ลูกบ้านและนิติบุคคลนำแต้มมาแลกรับของรางวัล เงิน หรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่พิเศษกว่านั้น คือ นิติบุคคลที่รวบรวมขยะรีไซเคิลได้มากที่สุด 3 อันดับแรก จะได้รับประกาศเกียรติคุณและของขวัญพิเศษจากพฤกษา

พร้อมกันนี้ พฤกษายังได้ออกแบบถังคัดแยกขยะรีไซเคิลรูปแบบใหม่ 3 ประเภท สำหรับขวดแก้ว ขวดพลาสติก ฟิลม์และพลาสติกยืดได้ โดยคำนึงถึงการใช้งานที่สะดวก ทนทาน สวยงาม เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่

นายธีระ ทองวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า PRUKSA GOOD TRASH, GREAT LIFE เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายด้าน ESG ของพฤกษา และร่วมสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการจัดการขยะรีไซเคิลตั้งแต่ในบ้าน ด้วยวิธีที่สนุก มีรางวัลจูงใจ และมีผลลัพธ์ที่จับต้องได้

“เรามุ่งหวังให้ลูกบ้านเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อขยะ และต่อยอดให้เป็นโอกาสในการสร้างสุขภาวะและคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว ปีที่ผ่านมา โครงการนี้สามารถรวบรวมขยะรีไซเคิลได้กว่า 2,300 กิโลกรัม และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 8,200 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ ความสำเร็จเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือของทุกฝ่าย โดยเฉพาะลูกบ้านของพฤกษาที่เห็นคุณค่าของสิ่งเล็ก ๆ อย่างการคัดแยกขยะในบ้านตัวเอง ปีนี้เราขอเชิญชวนลูกบ้านทั้ง 44 โครงการ มาร่วมกันสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ด้วยพลังเล็ก ๆ ของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการแยกขยะในบ้านของตัวเอง หรือการส่งต่อแนวคิดนี้ให้กับเพื่อนบ้าน เพราะเราเชื่อว่าเมื่อชุมชนลงมือพร้อมกัน ความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้จริง” นายธีระ กล่าว

ธนาคารกสิกรไทย มุ่งหน้าสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในทุกมิติ โดยเป็นธนาคารแห่งแรกที่ริเริ่มโครงสร้างงานกิจกรรมทางการตลาด โดยใช้บูธตัวต่อรักษ์โลก ที่ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมของคนไทย ด้วยการนำ พลาสบริก (PlasBrick) บล็อกประสานผลิตจากวัสดุพลาสติกรีไซเคิล ที่ใช้ซ้ำหมุนเวียนได้ สามารถปรับเปลี่ยน เคลื่อนย้ายได้อย่างไร้ขีดจำกัด มาประยุตก์ใช้ และจะมีการนำวัสดุนี้มาหมุนเวียนใช้ในงานกิจกรรมทางการตลาดของธนาคารตลอดต่อเนื่องทั้งปี เพื่อลดการทิ้งวัสดุเหลือใช้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจุดมุ่งหมายของธนาคารในเรื่อง Zero Waste ตอกย้ำความมุ่งมั่นของธนาคารในการพัฒนาบริการที่ใส่ใจ สร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า ควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม ส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืน

นางสาวจิตราวิณี วรรณกร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาบริการเพื่อส่งมอบประสบการณ์และบริการที่ลูกค้าไว้วางใจ มีความยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้อย่างคล่องตัว และคำนึงถึงการจัดการที่ยั่งยืน จึงมีการออกแบบกิจกรรมทางการตลาดที่ใส่ใจควบคู่กับการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วน Go Green Together เปลี่ยนผ่านสู่ไลฟ์สไตล์และธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน นำไปสู่การริเริ่มโครงสร้างงานกิจกรรมทางการตลาด โดยใช้บูธตัวต่อรักษ์โลกเป็นธนาคารแรก ด้วยการนำ พลาสบริก (PlasBrick) ซึ่งผลิตจากพลาสติกรีไซเคิลที่มีลักษณะเป็นบล็อกประสานประกบเข้าล็อกเหมือนตัวต่อ มาประยุกต์ใช้เป็นวัสดุหลักของโครงสร้างบูธที่ธนาคารใช้ในการจัดนิทรรศการเพื่อกิจกรรมการตลาดตลอดปี 2568 ซึ่งนอกจากจะเป็นบูธที่มีวัสดุหลักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และใช้ซ้ำหมุนเวียนได้ในระยะยาวแล้ว ยังสามารถตอบโจทย์ธนาคารในการจัดกิจกรรมให้แก่ลูกค้า ที่มีความยืดหยุ่นหลากหลายได้ โครงสร้างบูธตัวต่อรักษ์โลกจึงมีจุดเด่น 3 ด้าน ดังนี้

ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จากการใช้วัสดุหลักที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล 100% จึงช่วยลดขยะ มีผลิตจากการหลอมขยะพลาสติกและใช้การฉีดสีแทนการพ่นหรือทาสี ทำให้ไม่เกิดละอองฝุ่น หากมีชิ้นส่วนเสียหายหรือต้องการเปลี่ยนสีก็สามารถนำเฉพาะที่จำเป็นไปหลอมขึ้นรูปใหม่ โดยไม่ต้องผลิตใหม่ทั้งโครงสร้าง จึงไม่ก่อให้เกิดขยะและลดการผลิตใหม่ได้ นอกจากนี้ด้วยรูปทรงเป็นก้อนเหลี่ยม น้ำหนักเบา ขนส่งได้ง่ายและเยอะขึ้นในแต่ละรอบ จึงลดการใช้เชื้อเพลิง และจากการเป็นวัสดุที่ใช้ซ้ำได้ต่อเนื่อง ธนาคารสามารถใช้งานโครงสร้างบูธตัวต่อรักษ์โลกหมุนเวียนได้หลายโอกาสตลอดทั้งปี ช่วยลดการทิ้งวัสดุเหลือใช้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจุดมุ่งหมายของธนาคารในเรื่อง Zero Waste นำไปสู่การลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ความประหยัดทั้งด้านเวลาและงบประมาณ ด้วยการเชื่อมแบบต่อบล็อกที่ทำได้ง่าย ทำให้โครงสร้างนี้ใช้จำนวนแรงงานและเวลาในการติดตั้งและรื้อถอนน้อยกว่าวัสดุดั้งเดิมได้มาก นอกจากนี้ ผลิตครั้งเดียว สามารถใช้งานออกบูธของธนาคารได้หลากหลายโอกาส ทั้งงานในร่มและงานกลางแจ้ง ช่วยประหยัดงบประมาณในระยะยาว

การตอบโจทย์ด้านดีไซน์ จากการที่พลาสบริกมีรูปทรงเป็นบล็อกใช้งานโดยการประกบเข้าล็อกเหมือนตัวต่อ จึงตอบโจทย์เรื่องการวางผังบูธที่หลากหลาย สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกับพื้นที่ให้บริการลูกค้าที่ต้องการในแต่ละกิจกรรมที่แตกต่างกัน

นางสาวจิตราวิณี กล่าวตอนท้ายว่า ธนาคารกสิกรไทยมีการคัดเลือกและพัฒนาวัสดุโครงสร้างบูธอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้วัสดุและกระบวนการที่คุ้มค่า ตอบโจทย์การใช้งาน และเป็นธนาคารแรกที่ได้นำนวัตกรรมพลาสบริกซึ่งเป็นวัสดุที่จดอนุสิทธิบัตรโดยผู้ออกแบบมาประยุกต์ใช้งานจริง ในรูปแบบโครงสร้างบูธสำหรับออกงานนิทรรศการ ซึ่งนับเป็นแนวทางที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมของคนไทย ธนาคารเริ่มใช้งานโครงสร้างบูธตัวต่อรักษ์โลกครั้งแรกในงานมหกรรมการเงินกรุงเทพ ประจำปี 2568 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยบูธที่ธนาคารใช้ได้รับการรับรองความเป็นกลางทางคาร์บอนจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ซึ่งธนาคารจะใช้โครงสร้างนี้ในกิจกรรมการตลาดต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อร่วมขับเคลื่อนธนาคารและประเทศไทยมุ่งหน้าสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ไปด้วยกัน

บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี จับมือ พันธมิตร  คู่ค้าผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มชั้นนำ 20 แบรนด์ เดินหน้าสานต่อแคมเปญต้อนรับ “วันดื่มนมโลก” หรือ “World Milk Day” จัดงาน “World Milk Day วันดื่มนมโลก @ Big C ปีที่ 10” ยกทัพนมพร้อมดื่ม สนับสนุนให้คนไทยทุกเพศทุกวัยได้ดื่มนมที่ดีมีคุณภาพ ในปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน เพื่อเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรง พร้อมทั้งร่วมกันส่งต่อนมให้แก่ชุมชนเด็กไทยเพื่อเสริมสร้าง การเติบโตและมีพัฒนาการที่ครบถ้วนสมวัย พร้อมจัดโปรโมชั่นส่วนลดสูงสุด 10% โดยวางเป้ากระตุ้นยอดขาย 235 ล้านบาท เติบโต 30% โดยจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บิ๊กซีสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพดี” ณ ชั้น 2 บิ๊กซี เพลส สาขารัชดา เมื่อเร็วๆนี้

 

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เปิดเผยว่า “จากความสำเร็จในการจัดงาน “World Milk Day วันดื่มนมโลก @ Big C” มาอย่างต่อเนื่อง ปีนี้เราจัดขึ้นเป็นปีที่ 10 เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความตระหนักและกระตุ้นให้คนไทย หันมาดื่มนมมากขึ้น  บิ๊กซี ในฐานะห้างคนไทย หัวใจคือลูกค้า จึงได้ผนึกกำลังกับกลุ่มพันธมิตรผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มแบรนด์ชั้นนำ 20 แบรนด์ ได้แก่ โฟร์โมสต์, หนองโพ, อีสฟิลด์, ไฮคิว,เอนฟาโกร, เอส-26 ,แลคตาซอย, ไวตามิ้ลค์, ดัชมิลล์, ไอวี่, แมกโนเลีย, แอนลีน, โอวัลติน, ไมโล, ลัฟ ,กู๊ดเมท, อัลมอนด์โคกะ, โอ๊ตไซด์, เมจิ, เอ็มมิลค์, ฮูเร่ มาให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อในราคาพิเศษลดสูงสุดถึง 10% เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อนมคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า นอกจากจะช่วยให้ลูกค้าหันมาดื่มนมเสริมสร้างสุขภาพของร่างกายแล้ว ยังได้ช่วยสร้างความยั่งยืนในอาชีพการเลี้ยงโคนมของเกษตรกรไทยอีกด้วย บิ๊กซีหวังว่ากิจกรรมนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในเพิ่มการบริโภคนมของคนไทยทุกวัยอย่างน้อยวันละ 2 แก้ว/วัน เป็นประจำสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง โดยกิจกรรมครั้งนี้ยังได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับเด็กๆ ในชุมชนด้วยการส่งต่อนมคุณภาพให้เข้าถึงคนทุกกลุ่มอีกด้วย”

 

นายแพทย์ศักดา  อัลภาชน์  รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตามที่กรมอนามัยมียุทธศาตร์ในการส่งเสริมสุขภาพ เพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชิวิตที่ดี บริโภคอาหารที่เหมาะสมตามวัย และส่งเสริมให้ดื่มนมจืดวันละ 2 แก้ว ซึ่ง “นม” นับเป็นแหล่งสารอาหารที่อุดมไปด้วยประโยชน์ทั้งโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามิน ซึ่งมีความสำคัญต่อร่างกาย และ นมมีแคลเซียมสูง ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกให้เพิ่มมากขึ้น ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง ร่วมกับทานอาหารที่เหมาะสมตามวัยเพื่อให้คนไทย มีรูปร่างที่ดี และสมส่วน แข็งแรง แต่เนื่องจากปัจจุบันคนไทยดื่มนมน้อยกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้คือ 25 ลิตร ต่อคนต่อปี ดังนั้นหากคนไทยหันมาให้ความสนใจในการดื่มนมในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย จะทำให้มีโภชนาการที่ดี ดังนั้น กรมอนามัยจึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสร้างความตระหนักให้คนในครอบครัวและเด็กให้เห็นความสำคัญของการดื่มนม ภายใต้แนวคิด “Dairy in Daily Life ดื่มนมจืด 2 แก้ว ทุกวัน ทุกวัย” เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันขับเคลื่อนงานให้คนไทยดื่มนมอย่างต่อเนื่องและเข้าถึงนมมากขึ้น นอกจากนี้ยังถือเป็นการช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทย ให้มีความมั่นคงด้านอาชีพการเลี้ยงโคนม ส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วยเช่นกัน

ขอเชิญชวนลูกค้ามารวมพลังดื่มนมเพื่อสุขภาพที่ดี กับโปรโมชันสุดพิเศษจากบิ๊กซีและพันธมิตรแบรนด์นมพร้อมดื่มชั้นนำ พร้อมพบกับจัดกิจกรรมสุดพิเศษต้อนรับวันดื่มนมโลก แจก ชิม ผลิตภัณฑ์นม เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกชิม พร้อมมั่นใจในความสดใหม่ของนมที่ตอบโจทย์ตามสไตล์และหลากหลายครบทุกความต้องการ ที่บิ๊กซี ได้ที่

Big C Hypermarket, Big C Market และ Big C Food place ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 25 มิถุนายน 2568

  • ซื้อผลิตภัณฑ์นมยูเอชทีชนิดใดขนาดใดก็ได้ ครบ 499 บาทขึ้นไป รับฟรี ยูโร่คัสตาร์ดเค้ก จำนวน 1 กล่อง (มูลค่า 55 บาท) 

Big C Mini ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 25 มิถุนายน 2568

  • ซื้อผลิตภัณฑ์นมยูเอชทีชนิดใดขนาดใดก็ได้ ครบ 99 บาท ขึ้นไป รับฟรี เนสท์เล่ โกโก้ครั้นช์ ซีเรียล จำนวน 1 ซอง (มูลค่า 28 บาท)

ติดตามกิจกรรมดีๆ จากบิ๊กซี หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bigc.co.th หรือ Facebook Page : Big C  บิ๊กซีคลิก https://www.facebook.com/BigCBigService/  หรือโทร. 1756

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยความพร้อม การจัดการประชุมวิชาการนานาชาติ “The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24–27 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร ภายใต้การนำของ 3 กระทรวงใหญ่ของไทย อย่าง กระทรวง ดีอี, กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.), กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ที่ผนึกกำลังร่วมกันจัดขึ้น เพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้นำและผู้แทนจากประเทศต่างๆ ผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนนักวิชาการจาก 194 ประเทศสมาชิก UNESCO กว่า 800 คน มาร่วมแลกเปลี่ยนนโยบาย วิสัยทัศน์ ตลอดจนข้อมูลสำคัญ เพื่อร่วมกันออกแบบนโยบาย ตลอดจนแนวทางการพัฒนา AI ที่นำไปสู่การวางรากฐานอนาคตจริยธรรม AI ที่โปร่งใสเป็นธรรม เคารพสิทธิมนุษยชนสอดคล้องตามมาตรฐานสากล ‘UNESCO Recommendation on the Ethics of AI’ สู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

โดยการประชุมนานาชาติครั้งมีไฮไลท์โปรแกรมสำคัญที่น่าสนใจ ดังนี้

  • วันที่ 24 มิถุนายน- วันแรกเริ่มต้นด้วยการประชุมเชิงกลยุทธ์และการประชุมแบบคู่ขนาน โดยมีทั้ง Working Meetings (3 ห้องคู่ขนาน), Strategic Briefing Session, Ministerial Session ระดับรัฐมนตรีและผู้บริหารนโยบายระดับสูง เพื่อปูทางไปสู่แนวทางความร่วมมือด้านการกำกับดูแล AI ระหว่างประเทศและการออกแบบโมเดลธรรมาภิบาลที่ใช้ได้จริงในระดับภูมิภาค
  • วันที่ 25 มิถุนายน- เป็นเวทีที่ทุกคนที่ได้รับเชิญจะร่วมเปิดมุมมองโลก สู่การกำหนดทิศทางครั้งใหญ่ของอนาคตจริยธรรม AI โดยช่วงเช้า พบกับ Opening session พิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ ตามด้วยการแสดงวิสัยทัศน์จากผู้นำหลากประเทศรวมถึงประเทศไทย ที่จะมาร่วมโชว์วิสัยทัศน์การขับเคลื่อนนโยบายจริยธรรม AI ต่อนานาประเทศ รวมถึงการเสวนาที่เชื่อมโยงเทคโนโลยี นโยบาย และนวัตกรรม เพื่อจุดประกายความร่วมมือระดับโลก ผ่านประเด็นสำคัญ อาทิ Technology, Policy and Innovation for good, Fostering Global Dialogue on AI for a Collective Future และ Harnessing the Full Potential of AI through Demand-driven Investment เป็นต้น
  • วันที่ 26 มิถุนายน- เป็นวันแห่งการเจาะลึกครบทุกมิติ การขับเคลื่อนการใช้ AI อย่างยั่งยืนและ มีธรรมาภิบาล ผ่านเสวนารวมในห้องใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเช้า และการเสวนาย่อย 4 ห้องประชุมคู่ขนานที่มีการกำหนดธีมในการหารือ โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ AI and Education: Future of Learning and Human Capital in the Age of AI,  AI and Neurotechnology, AI and Quantum, AI-Ready Public Administration: Challenges and Opportunities, AI and Online Fraud, AI and Disaster Risk Reduction, AI and Disability: from inclusion to empowerment และ AI for Youth, AI by Youth โดยผู้เชี่ยวชาญ AI ในแต่ละด้าน  

นอกจากกิจกรรมข้างต้น ยังมี Side Event คู่ขนานไปกับการจัดประชุม “The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025”  ที่น่าสนใจ ซึ่งหลายกิจกรรมเปิดกว้างให้ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมได้ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมนอกเหนือจากประชุมวิชาการระดับนโยบาย อาทิ กิจกรรม AI Pitching จากสถาบันการศึกษา อย่าง การแข่งขัน Beyond Green AI for a Thriving Future Pitch Competition โดยสถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ (The AI Engineering Institute) แห่ง CMKL University ร่วมกับ UNESCO และ ETDA, กิจกรรม Call for Papers – UNESCO Global Forum on Ethics of AI 2025 จากมหาวิทยาลัยบูรพา ที่เปิดพื้นที่ให้นักวิชาการ ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญ ได้ส่งบทความด้านจริยธรรม ธรรมาภิบาล และความยั่งยืนที่เชื่อมโยงกับ AI มาล่วงหน้า และจะไปนำเสนอและอภิปรายผ่านเวทีที่จัดขึ้น, การประชุมเตรียมความพร้อมด้านทักษะและกำลังคนสำหรับยุค AI ที่เน้นความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Enabling an AI-ready Workforce: Exchanging Policy Perspectives and Solutions) จาก ESCAP, กิจกรรมเสวนา AI and Children: Using AI for realizing the rights of children จาก UNICEF ร่วมกับ Thailand Safe Internet Coalition (TSIC) และกิจกรรม AI Sandbox Workshop for private sector จากจาก Technical University of Munich เพื่อให้หน่วยงานภาคเอกชนและหน่วยงานกำกับดูแล ได้มีพื้นที่ในการทดลอง ทดสอบ และออกแบบการใช้ AI อย่างปลอดภัยและมีธรรมาภิบาล เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมคู่ขนานที่รัฐบาลไทยสนับสนุนให้จัดขึ้น เตรียมพบกับ “Bangkok AI Week 2025กับคอนเซปต์ AI powered nation: Unleashing the digital economy for all เพื่อแสดงศักยภาพการขับเคลื่อน AI ของไทย สู่การปลดปล่อยศักยภาพการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสำหรับคนไทยทุกคน ที่จะมีกิจกรรมกระจายไปยังจุดต่างๆ ในกรุงเทพ จัดเต็มทั้งกิจกรรม Workshop ทั้งในกลุ่มผู้ประกอบการ กลุ่มนักพัฒนานวัตกรรม กลุ่มนักลงทุน รวมถึง Exhibition โชว์เคส AI Solution สำหรับผู้ที่สนใจในทุกเจเนอเรชัน –ติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการประชุมนานาชาติ The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025 เพิ่มเติมได้ที่  https://www.globalforumethicsai.com/ หรือเพจเฟซบุ๊ก ETDA Thailand

นายเสกสรร ทวีกสิกรรม และนางรักษยา ศิริบริรักษ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน พร้อมด้วยนายศักดิ์สิทธิ์ สุนทรกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานพัฒนาธุรกิจผู้ประกอบการรายย่อย และ SMEs Start up และ ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ร่วมมอบโล่เกียรติคุณและประกาศนียบัตร ในโครงการ GSB Step In Innovator Network สร้างผู้ประกอบการด้วยฐานนวัตกรรม ปี 3 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Sustainable Edge ต่อยอดธุรกิจ พิชิตความยั่งยืน ด้วย BCG Model & ESG Strategy เปลี่ยนธุรกิจให้เติบโตด้วยนวัตกรรมและความยั่งยืน ซึ่งเป็นโครงการที่ธนาคารได้ร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3

 

เพื่อพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ให้มีฐานคิดนวัตกรรม และทำธุรกิจที่สมดุล ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เน้นการขับเคลื่อนตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG ผ่านนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ รวมถึงเข้าถึงเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญและพันธมิตรทางธุรกิจ และเข้าถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุนโครงการนวัตกรรมสีเขียว โดยได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการ SMEs เข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการ Innovation Bootcamp และผ่านการคัดเลือกจากแผนธุรกิจ จำนวน 55 กิจการ โดยมีผู้บริหารธนาคารออมสิน วิทยากรผู้เชี่ยวชาญ และผู้ประกอบการ SMEs ร่วมงาน ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆ นี้

 

นายบุญเติบ จีรภัทร์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย (ซ้าย) และนายคณาธิป ธีรทีป หัวหน้าแผนกงานการตลาดด้านผลิตภัณฑ์และลูกค้าโพสต์เพด AIS (ขวา) ร่วมเปิดตัวความร่วมมือสนับสนุนร้านค้าออนไลน์ เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการร้าน ผลักดันยอดขายโต โดยมอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า AIS ที่สมัครแพ็กเกจค้าขายออนไลน์ที่ร่วมรายการ ได้แก่ แพ็กเกจ AIS 5G Social Commerce, AIS 5G Seller และ AIS 5G TikTok Shop รับสิทธิ์ใช้งานแพ็กเกจ K SHOP Pro ในแอปพลิเคชัน K SHOP แอปพลิเคชันจัดการร้านค้า ฟรี 30 วัน มูลค่า 299 บาท และรับเพิ่มบัตรของขวัญ Lotus’s Gift Card มูลค่า 100 บาท เมื่อเชื่อมต่อ K SHOP Pro กับ Facebook Page หรือ Line OA ของร้าน หรือเมื่อสมัครใช้งานเครื่องรับบัตรพกพา (mPOS) ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2568

ตั้งแต่ต้นปี 2025 เป็นต้นมา ภายใต้ภูมิหลังที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน การพัฒนาที่มีคุณภาพสูงและการเปิดกว้างในระดับสูงของจีนเพิ่มความแน่นอนและพลังทางบวกให้กับเศรษฐกิจโลก งานแสดงสินค้าอุปโภคบริโภคนานาชาติจีน หรือไหหลำเอกซ์โป (China International Consumer Products Expo) ครั้งที่ 5 พิสูจน์อีกครังว่า จีนเป็นตลาดโลกและโอกาสของประเทศต่าง ๆ ระหว่างวันที่ 13-18 เมษายน 2025 งานแสดงสินค้าอุปโภคบริโภคนานาชาติจีนครั้งที่ 5 จัดขึ้นที่มณฑลไหหลำ โดยมีวิสาหกิจ 1,767 ราย จาก 71 ประเทศ 4,209 แบรนด์สินค้า เข้าร่วมจัดแสดงในงานนักจัดซื้อมืออาชีพมีกว่า 6 หมื่นคน มูลค่าของสัญญาที่ตกลงกันประมาณ 92,000 ล้านหยวน

การประชุมสองสภาแห่งชาติจีนปีนี้ตั้งเป้าหมายทางเศรษฐกิจให้ยอดจีดีพีเติบโตประมาณ 5% ซึ่งเมื่อหวนทบทวนปี 2024 ยอดมูลค่าจีดีพีของจีนคือ 134.9 ล้านล้านหยวน อัตราการเติบโตอยู่ที่ 5% จัดอยู่อันดับต้น ๆ ในบรรดากลุ่มเศรษฐกิจหลักของโลก มีส่วนต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอยู่ที่ประมาณ 30%

ฤดูใบไม้ผลิปีนี้ ทุกส่วนของแผ่นดินจีนสะท้อนถึงความเป็นไปได้และโอกาสการพัฒนาที่คึกคัก เทศกาลตรุษจีนปี 2025 ซึ่งเป็นตรุษจีนปีแรกหลังได้รับการรับรองเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ สะท้อนความชีวิตชีวาในการบริโภคจับจ่ายของจีน เทคโนโลยีกระตุ้นการเพาะปลูก ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนาจา 2 และการเปิดตัวของ DeepSeek ล้วนทำให้โลกตื่นตาตื่นใจ

ท่องเที่ยวจีน อยากไปก็ไปได้ทันที

ช่วงตรุษจีนปีนี้ เน็ตไอดอลชาวต่างชาติ 4 คน รวมตัวกันออกเดินทางมาเที่ยวเมืองจิ่งเต๋อเจิ้น เมืองอู้หยวน และเมืองหนานชางของจีน การเดินทางที่เป็นเวลา 3 วันนี้ เอซลา เน็ตไอดอลชาวอเมริกัน โดยสารรถไฟความเร็วสูงสายหนานชาง-จิ่งเต๋อเจิ้น-ภูเขาหวงซาน เริ่มเดินทางจากสถานีจิ่งเต๋อเจิ้นเหนือ และเที่ยวทั้งสามเมืองเพื่อสัมผัสวัฒนธรรมตรุษจีน

“ชอบรถไฟความเร็วสูงของจีนมาก เหมือนเครือข่ายที่น่ามหัศจรรย์อยากไปเที่ยวทุกที่เลย ปี 2024 เอซลาได้ไปเที่ยว 10 เมืองของจีน เช่น กวางเจา เซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง แต่การสัมผัสการเดินทางในช่วงตรุษจีนหรือชุนยุ่น ในฐานะชาวต่างชาตินั้น นับเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่จริง ๆ ที่สถานีจิ่งเต๋อเจิ้นเหนือ เอซลาอดอุทานไม่ได้ว่า “คนเยอะแบบนี้ แต่ทุกอย่างเรียบร้อยดี มหัศจรรย์จริง ๆ”

แมทธิว จากลอสแองเจลิส สหรัฐฯ และลัคลัน หนุ่มออสเตรเลียก็อยู่ในคณะนักท่องเที่ยวนี้ด้วย ลัคลันเดินทางมาจีนเป็นครั้งแรก เพราะจีนประกาศนโยบายยกเว้นวีซ่า 240 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง พ่อแม่เคยกังวลเรื่องความปลอดภัย ลัคลันหัวเราะว่า ในความเป็นจริงคือไม่มีที่ไหนปลอดภัยกว่าที่นี่แล้ว และการชำระเงินด้วยมือถือก็สะดวกมาก บนสื่อโซเชียล ในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่วัน มิตรชาวต่างชาติเกือบล้านคนหลั่งไหลสมัครบัญชีเสี่ยวหงซู (Rednote)ในส่วนออฟไลน์ คนที่เข้ามาในจีนเพิ่มขึ้น 150%

ในขณะที่บางประเทศสร้างกำแพงสูง จีนกลับอ้าแขนต้อนรับประชาชนประเทศต่าง ๆ จากทั่วโลก จีนผลักดันการเพิ่มจำนวนประเทศยกเว้นวีซ่ามากขึ้น เพื่อผสมผสานความชีวิตชีวาของฤดูใบไม้ผลิเข้ากับการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวอย่างลึกซึ้ง ในจีน ไม่ว่าคุณจะสนใจวัฒนธรรม อยากจะค้นหาร่องรอยมรดกอารยธรรมโบราณ จะเป็นนักผจญภัยที่ชอบทิวทัศน์ธรรมชาติ หรือเป็นนักวิจัยด้านภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่สนใจงานหัตถกรรมพื้นบ้าน ล้วนสามารถหาความสุขตามที่ปรารถนาได้จากการท่องเที่ยวในจีน

Darren Watkins Jr.ยูทูบเบอร์ดังระดับโลก เดินทางมาสตรีมสดในหลายพื้นที่ของจีน โดยไม่มีการตัดต่อ ไม่มีการปรับแต่งใด ๆ ให้ผู้ชมทั่วโลกได้เห็นถึงความรุ่งเรืองทันสมัยของจีน และความเป็นมิตรของประชาชนชาวจีนโดยแท้จริง ตั้งแต่ทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สดใสของเดอะบันด์ในเซี่ยงไฮ้ ไปจนถึงกําแพงสีแดงและกระเบื้องสีเหลืองของพระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่ง ไปจนถึงการเรียนศิลปะการต่อสู้ของวัดเส้าหลินและชมการแสดงโชว์เปลี่ยนใบหน้าของละครเสฉวนในเฉิงตู การสตรีมสดทุกครั้งของเขาดึงดูดผู้ชมจากทั่วโลก ชาวเน็ตจํานวนนับไม่ถ้วนติดตามกล้องของเขาเพื่อสัมผัสกับชีวิตสมัยใหม่ เทคโนโลยีที่ทันสมัยและวัฒนธรรมอันยาวนานของจีน ได้เห็นประเทศจีนที่สดใหม่และเป็นจริง ผ่านการถ่ายทอดสดที่ไม่มีตัวกรอง เพื่อปรับปรุงระดับการอํานวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศจีน จีนได้ปรับปรุงและลดขั้นตอนพิธีการศุลกากรอย่างต่อเนื่อง โดยลดเวลาการรอที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง หานเหม่ย ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน เดินทางเข้าจีนผ่านด่านเมืองเซินเจิ้น เมื่อวันที่ 4 ก.พ. เพื่อมาพบปะเยี่ยมญาติพี่น้องที่ประเทศจีน เธอกล่าวว่าขั้นตอนการเข้าประเทศจีนเรียบง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก "เมื่อเครื่องบินลงจอดที่เซินเจิ้นและเดินผ่านด่านศุลกากร เพียงแค่กรอกข้อมูลบัตรเข้าประเทศของชาวต่างชาติให้ครบถ้วน ขั้นตอนทั้งหมดก็ราบรื่นมาก" จีนยังเพิ่มจํานวนร้านค้าคืนภาษีขาออกให้มากขึ้นด้วย เจมส์ นักท่องเที่ยวจากนิวซีแลนด์กล่าวว่า "ไม่จำเป็นต้องไปที่สนามบินเพื่อกรอกเอกสารให้ครบถ้วนแล้ว เคาน์เตอร์ขอคืนภาษีอยู่ที่ชั้น 1 ของห้างเลย เดินซื้อของเสร็จไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว และกระบวนการขอคืนภาษีก็รวดเร็วมาก ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น"

ในห้างสรรพสินค้าที่มีบริการคืนภาษีขาออกในกวางเจา มักจะเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ "กวาดสินค้า" ซื้อของติดมือกลับไปกันมากมาย ในห้างสรรพสินค้า SKP ปักกิ่ง มือของนักท่องเที่ยวต่างชาติเต็มไปด้วยถุงช้อปปิ้งยี่ห้อต่าง ๆ ส่วนที่มณฑลเจ้อเจียงได้ขยายร้านค้าให้บริการคืนภาษี  ขาออกเพิ่มอีก 5 แห่ง รวมเป็น 219 แห่ง ดังที่ผู้อ่านแสดงความคิดเห็นในบัญชีแพลตฟอร์มโซเชียลของ The Times of India ว่า เมื่อตะวันตกสร้างกําแพงการค้าสูง จีนได้ปูพรมแดงให้กับนักช้อปทั่วโลก

กำลังการผลิตคุณภาพใหม่ ไฮไลท์มีต่อเนื่อง

ช่วงเช้าวันใหม่ของคนจีนทั่วไปมักจะเริ่มขึ้นแบบนี้ คือ ลืมตาตื่นเหลือบดูสายรัดข้อมืออัจฉริยะที่แสดงระยะเวลานอนหลับในระดับลึกของเมื่อคืน จากนั้นก็ลุกขึ้น พบว่าหน้าจอโทรศัพท์มือถือปรากฏการแจ้งเตือนรายการใหม่แบบไดนามิกว่า สินค้าที่สั่งซื้อออนไลน์เมื่อวานนี้ได้เริ่มจัดส่งแล้ว คาดว่าจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ ต่อจากนั้นก็ออกเสียงสั่งงานหุ่นยนต์กวาดพื้น แล้วเจ้าตัวเล็กก็เริ่มหน้าที่ของมัน พอเตรียมตัวเสร็จก็เดินลงไปที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินของอาคาร แท่นชาร์จแบตได้เติมไฟให้กับรถยนต์พลังงานใหม่เต็มแล้ว เริ่มออกเดินทางไปทํางานได้อย่างง่ายดาย

เมื่อสิบปีก่อน นี่อาจเป็นฉากในภาพยนตร์เกี่ยวกับ "โลกอนาคต" แต่ตอนนี้ นี่เป็นเพียงวันธรรมดาในปี 2025

อุตสาหกรรมการผลิตของจีนอัพเกรดความเป็นอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง โดยมีการติดตั้งประยุกต์ใช้งานหุ่นยนต์คิดเป็นครึ่งหนึ่งของโลก การถือครองสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์ของจีนคิดเป็น 2 ใน 3 ของโลก รถไฟความเร็วสูงที่เร็วที่สุดในโลก CR450 EMU ก็ได้เปิดตัวแล้ว และให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ด้วยความเร็วสูงถึง 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ของจีนเป็นกว่า 10 ล้านคันต่อปี เปลี่ยนจากล้านคันเป็นสิบล้านคันใช้เวลาเพียง 6 ปีเท่านั้น

ตั้งแต่ต้นปีนี้ กำลังการผลิตคุณภาพใหม่ของเศรษฐกิจจีนมีไฮไลท์หลายอย่าง วิสาหกิจเริ่มต้นใหม่ เช่น "หกมังกรน้อยในเมืองหางโจว" ซึ่งมี DeepSeek เป็นตัวแทนนั้น ได้บรรลุความก้าวหน้าใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ปลุกกระแส "เทรนด์เทคโนโลยีของจีน" สะท้อนภาพรวมด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีแบบ "อนาคตมาถึงแล้ว" ส่วนภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง "Nezha 2" ก็ก้าวขึ้นสู่อันดับต้น ๆ ของบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกและขับเคลื่อนการบริโภคที่เกี่ยวข้อง กลายเป็นประเด็นร้อนใหม่ของการบริโภคทางวัฒนธรรม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพื้นที่การพัฒนานวัตกรรมขนาดใหญ่ของภาพยนตร์จีนและอุตสาหกรรมวัฒนธรรมจีน

เศรษฐกิจจีนมีโอกาสในการปรับเปลี่ยนรูปแบบที่กว้างใหญ่ ตั้งแต่ต้นปีนี้ การดําเนินงานทางเศรษฐกิจของจีนยังคงรักษาแนวโน้มการฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ของปี 2024 และเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจใหม่ก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ในช่วงสองเดือนแรกที่ผ่านมา มูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมการผลิตที่มีเทคโนโลยีสูงขนาดใหญ่มีการเติบโต 9.1% และเร็วขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับปี 2024 ที่ผ่านมา

นวัตกรรมด้าน "ปัญญาประดิษฐ์ " ได้ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างรวดเร็วของการผลิตระดับไฮเอนด์ การเกษตรแบบดั้งเดิมก็มีการปรับโฉมใหม่ เนื่องจากมีการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การเพาะปลูกในเรือนกระจก มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยทุกอย่าง อุณหภูมิ ความชื้นและแสงสามารถปรับได้อย่างแม่นยํา ในท้องไร่ที่นา  เครื่องจักรกลการเกษตรมีระบบนำทางโดยดาวเทียมเป่ยโต่ว ช่วยให้งานหว่านเมล็ดพันธุ์และใส่ปุ๋ยมีความแม่นยำ ปรับ ขนาดพื้นที่ฟาร์มอัจฉริยะไร้มนุษย์ในทั่วประเทศจีนมีมากกว่า 200 ตารางกิโลเมตร แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสินค้าเกษตรและข้อมูลการขนส่งห่วงโซ่ความเย็น ได้ช่วยส่งเสริมการเชื่อมโยงภาคการผลิตกับการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โครงการ "อินเทอร์เน็ต และ สินค้าเกษตรออกจากหมู่บ้านสู่เมือง" มีความครอบคลุมทั่วประเทศ ภายใต้แสงแดดที่อบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิ ทุ่งนาอันกว้างใหญ่ในจีนเป็นภาพบรรยากาศที่คึกคักยิ่ง

แบ่งปันโอกาสการตลาดกับโลก

ตั้งแต่ต้นปีนี้ จีนได้จัดประชุมฟอรั่มระดับสูงหลายครั้ง ตั้งแต่การประชุมประจําปี 2025 ของฟอรั่มการพัฒนาระดับสูงของจีน ไปจนถึงการประชุมประจําปี 2025 ของฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าว และการประชุมประจําปีของฟอรั่มจงกวนชุน 2025 ผู้แทนอุตสาหกรรมและพาณิชย์จากทั่วโลกได้ชุมนุมกันที่ประเทศจีน เพื่อสัมผัสพลวัตใหม่และแรงผลักดันของเศรษฐกิจจีนอย่างใกล้ชิด มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและรับมือกับความท้าทายของยุคสมัย

การดึงดูดและการใช้เงินทุนจากต่างประเทศเป็นส่วนสําคัญของนโยบายระดับชาติขั้นพื้นฐานของจีน ในการเปิดกว้างสู่โลกภายนอกมาโดยตลอด ในฐานะที่เป็นสักขีพยาน ผู้มีส่วนร่วม และผู้ได้รับผลประโยชน์จากการปฏิรูปเปิดประเทศของจีน วิสาหกิจทุนต่างชาติได้หลอมรวมเข้ากับการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนอย่างกลมกลืนมานานแล้ว วิสาหกิจทุนต่างชาติในจีนมีส่วนร่วมในการจ้างงานเกือบ 7%, การจัดเก็บภาษี 1/7, 1/3 ของยอดมูลค่าการนําเข้าส่งออก และ 1/2 ของการส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องกลไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ไฮเทค

ในการประชุมประจําปี 2025 ของฟอรั่มการพัฒนาระดับสูงของจีน คําพูดของนายคัง หลินซง ประธานคณะกรรมการบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์กรุ๊ป จํากัด แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและความคาดหวังของบริษัทต่างชาติจํานวนมากที่มีต่อการเปิดกว้างอย่างต่อเนื่องของจีน "สําหรับพวกเรา แม้ว่าจีนจะไม่ใช่บ้านเกิด แต่ก็มีความผูกพันเหมือนบ้านเกิด นโยบายที่ส่งเสริมการเปิดกว้างและปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจทุกประการ จะทําให้จีนน่าสนใจยิ่งขึ้นและทําให้บริษัทต่าง ๆ ลงคะแนนความไว้วางใจอย่างแข็งขัน นายคัง หลินซงกล่าวว่า “มั่นใจจีนจะได้ชัยชนะในอนาคต”

"เดินไม่กี่ก้าวก็จะเจอหุ่นยนต์ตัวหนึ่ง" ในที่ประชุมประจําปี 2025 ของฟอรั่มจงกวานชุน หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์เกือบร้อยตัวได้แสดงทักษะต่าง ๆ ให้บริการในหลายส่วน เช่น ต้อนรับแขก สื่อสารให้ข้อมูล และเป็นพิธีกร ทําให้สถานที่จัดงานเต็มไปด้วยปัจจัยเทคโนโลยี นายอับดุลลาห์มาน อัล-ฟาจี ซีอีโอของบริษัทอุตสาหกรรมพื้นฐานของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า จีนได้ส่งเสริมการยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตและการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง นําโอกาสใหม่ ๆ มาสู่บริษัทข้ามชาติ "ตลาดจีนเป็นองค์ประกอบสําคัญของเค้าโครงกลยุทธ์ระดับโลกของเราอย่างไม่ต้องสงสัย"

"ปัญหาและความท้าทายที่โลกกําลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ไม่มีประเทศใดสามารถรับมือหรือแก้ไขได้ตามลําพัง" ในการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมประจําปีของฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าวในปีนี้ นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว แสดงความเห็นว่า ประเทศต่าง ๆ จําเป็นต้องร่วมมือกันอย่างกว้างขวางและหารือกันอย่างจริงใจ เพื่อส่งเสริมการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่ ที่มีความไว้วางใจซึ่งกันและกันและได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน "ข้อริเริ่มด้านการพัฒนาโลก ข้อริเริ่มด้านความมั่นคงโลก และข้อริเริ่มด้านอารยธรรมโลกที่จีนเสนอมีความจําเป็นและความเร่งด่วน มีความสําคัญในทางปฏิบัติอย่างมาก" นายเซี่ย อี้ รองประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์กล่าวว่า จีนสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มุ่งเน้นการตลาด หลักนิติธรรม และมีความสากลอย่างต่อเนื่อง นําโอกาสมาสู่การพัฒนาวิสาหกิจต่างชาติในจีนมากขึ้น

“จีนจะเป็นเป้าหมายประเทศการลงทุนที่มั่นคง และมีประสิทธิผลของนักธุรกิจต่างชาติ”เมื่อไม่นานมานี้ ขณะพบกับผู้แทนแวดวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เชิญชวนให้ธุรกิจต่างชาติมาร่วมแบ่งปันโอกาสจากการพัฒนาของจีน การร่วมเดินทางกับจีนก็คือร่วมแบ่งปันโอกาส เชื่อมั่นจีนก็คือเชื่อมั่นวันพรุ่งนี้ ลงทุนในจีนก็คือลงทุนในอนาคต

------------------------------------------------------------

เขียนโดย จางเฝ่ยเยี่ย และหวังอวี๋ซินหง

แปลโดย หานซี

ตรวจแก้โดย รพีพรรณ วงษ์กรวรเวช


50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต ความร่วมมือจีน-ไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างมีศักยภาพ

ปี 2024 ไทยได้ดึงดูดเงินลงทุนกว่า 1.13 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ต้นปีนี้ รัฐบาลไทยได้เพิ่มความพยายามในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะการเสริมสร้างความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจกับจีน และผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อพัฒนาไทยให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในภูมิภาค

ปี 2025 เป็นวาระครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกำลังได้รับการพัฒนาใหม่ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IEAT) ได้มีการหารือกับมณฑลอันฮุยของจีนอย่างลุ่มลึก โดยมีเป้าหมายที่จะอัปเกรดบันทึกความเข้าใจ "สองประเทศสองนิคม" ซึ่งมีอยู่แล้ว เพื่อสร้างโอกาสการค้าและการลงทุนมากขึ้นให้กับนักธุรกิจทั้งสองฝ่าย นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ รักษาการผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่าทั้งสองฝ่ายได้มีการกำหนดกรอบฉบับสุดท้ายของบันทึกความเข้าใจแล้ว และคาดว่าจะลงนามอย่างเป็นทางการภายในปีนี้ ความร่วมมือนี้จะมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมพลังงานใหม่ รถยนต์ไฟฟ้า และความปลอดภัยด้านอาหาร เพื่อผลักดันความร่วมมือที่ลึกซึ้งระหว่างสองประเทศภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative)

นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กล่าวว่า หากความร่วมมือกับมณฑลอันฮุยประสบความสำเร็จ จะช่วยดึงดูดนักลงทุนจากมณฑลอื่น ๆ ในประเทศจีนมายังประเทศไทยได้มากขึ้น นักลงทุนชาวจีนที่เข้ามายังนิคมอุตสาหกรรมไทยไม่เพียงแต่จะช่วยกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น แต่ยังสามารถช่วยให้บริษัทไทยขยายตลาดในประเทศจีนและกระชับความร่วมมือด้านการลงทุนซึ่งกันและกัน ต่อการนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมไทยกับ IEAT จะร่วมมือกันส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงพลังงานใหม่และความปลอดภัยด้านอาหาร และจะทำงานร่วมกับบริษัทจีนในการพัฒนาการฝึกอบรมบุคลากรและการสร้างระบบห่วงโซ่อุปทานในการผลักดันเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค รัฐบาลไทยได้ทำงานร่วมกับกลุ่มบริษัทที่มีชื่อเสียงจากจีนอย่าง Guangzhou Automobile (GAC Group), BYD และ Huawei อย่างใกล้ชิดในช่วงที่ผ่านมา นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมของไทย กล่าวว่า ไทยมีที่ตั้งตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ในการเชื่อมกับตลาดเอเชียและสามารถส่งออกไปทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่เขตระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก ซึ่งกลุ่มบริษัท GAC และ BYD ได้ตั้งฐานการผลิตขึ้น จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ โครงการความร่วมมือของบริษัทหัวเว่ยในด้านเทคโนโลยี 5G, ปัญญาประดิษฐ์, หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีพลังงานสีเขียว ได้ให้การสนับสนุนทางเทคโนโลยีที่สำคัญแก่ประเทศไทยในการพัฒนาสาธารณูปโภคดิจิทัล และการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน

ช่วง 50 ปีตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าของทั้งสองประเทศดำเนินไปอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง มูลค่าการลงทุนระหว่างสองประเทศสร้างสถิติสูงสุดใหม่อยู่บ่อยครั้ง ในขณะที่ข้อริเริ่ม "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มสำคัญของความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรแห่งประเทศจีนเมื่อเร็ว ๆ นี้ แสดงให้เห็นว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการค้าระหว่างไทยและจีนอยู่ที่ 148,880 ล้านหยวน เติบโตขึ้น 11.9% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งจีนส่งออก 100,310 ล้านหยวน เติบโตขึ้น 13.3% และนำเข้า 48,570 ล้านหยวน เติบโตขึ้น 9.1% จีนเป็นคู่ค้าทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยอย่างต่อเนื่องหลายปี และไทยเป็นคู่ค้าทางการค้าลำดับที่ 3 ของจีนในกลุ่มประเทศอาเซียน นักวิเคราะห์ในวงการเชื่อว่า ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไทยกับจีนมีจุดแข็งที่สามารถเสริมกันได้

มองไปข้างหน้า โอกาสความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ซึ่งกันและกันระหว่างสองประเทศกว้างใหญ่ไพศาล และอนาคตการพัฒนาที่ได้ชัยชนะร่วมกันนั้นสามารถคาดหวังได้

ความร่วมมือในโครงการ "สองประเทศสองนิคม" ระหว่างไทยกับจีนในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความปรารถนาอันดีงามและความไว้วางใจอย่างสูงที่ทั้งสองฝ่ายมีต่อกัน นางสาวแพทองธาร ชินวัต นายกรัฐมนตรีไทย ย้ำว่า "ความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างไทยกับจีนมีโอกาสที่กว้างใหญ่ โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และห่วงโซ่อุตสาหกรรม ในอนาคต ไทยจะพัฒนาความร่วมมือทางการค้ากับมณฑลต่าง ๆ ของจีนอย่างต่อเนื่อง และจะประสานเข้ากับกรอบความร่วมมือข้อริเริ่ม 'หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง' อย่างแข็งขัน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ"

 --------------------------------------------------------------

เขียนโดย หวังซือเฉิง

แปลโดย หานซี

ตรวจแก้โดย รพีพรรณ วงษ์กรวรเวช

 

Wellness Golf Academy คอร์สเรียนกอล์ฟเพื่อผู้บริหาร และบุคคลทั่วไป ที่ไม่ใช่แค่การสอนตีกอล์ฟแบบธรรมดา เพราะ Wellness Golf Academy ได้ออกแบบหลักสูตรกอล์ฟให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อให้การเล่นกีฬาตีกอล์ฟได้ทั้งความสนุก ได้ทั้งการดูแลสุขภาพ และได้สร้างคอมมูนิตี้ใหม่ ๆ แม้คนที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็สามารถเล่นกีฬากอล์ฟได้ เช่น 3 สาว อย่าง หญิงแย้ นนทพร ธีระวัฒนสุข อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง, เฟร้นช์ฟราย รินทร์ณฐา อัจฉริยวัฒนกุล พิธีกรชื่อดัง ดีกรีนางงามเวที Miss Thailand World 2015 และสายเอี๊ยม กีรติกา จารุรัตน์จามร เจ้าของตำแหน่ง Miss International Thailand 2018 ก็เลือกเริ่มต้นเรียนตีกอล์ฟกับ Wellness Golf Academy

หญิงแย้ นนทพร เล่าถึงประสบการณ์การเรียนกอล์ฟ ว่า เธอเริ่มต้นเรียนกับ Wellness Golf Academy ในรุ่นที่ 1 เพราะไม่เคยมีพื้นฐานด้านกอล์ฟมาก่อน จึงมองหาคอร์สที่เหมาะกับมือใหม่ และมีการออกแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งที่นี่ตอบโจทย์มาก เพราะการตีกอล์ฟต้องใช้ร่างกายทุกส่วน อีกทั้ง Wellness Golf Academy มีระบบที่ผสมผสานทั้งการวิเคราะห์สุขภาพของผู้เรียน การฝึกทักษะจากผู้เชี่ยวชาญด้านกอล์ฟ และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจาก Wellness Clinic เข้ามาดูแลตั้งแต่เริ่มต้น "นอกจากได้ฝึกตีกอล์ฟ เรายังได้สร้างเครือข่ายกับผู้คนที่หลากหลาย ซึ่งทำให้การเรียนสนุกมากขึ้นจริง ๆ"

เฟร้นช์ฟราย รินทร์ณฐา นักเรียน Wellness Golf Academy  รุ่นที่ 2 และ รุ่นที่ 3 กล่าวว่า ลงเรียนตีกอล์ฟกับ WGA เป็นรอบที่ 2 แล้วซึ่งก่อนลงทะเบียนได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคอร์สและพบว่าหลักสูตรนี้เหมาะมากสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ โดยเฉพาะในรุ่นที่ 3 ที่ออกแบบในแนวทาง Wellness Golf ซึ่งเน้นการเรียนรู้ที่ถูกวิธี ควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมมากกว่านั้นคือ "เราจะได้ปรับพฤติกรรมการเล่นให้เหมาะกับร่างกาย พร้อมทั้งมีแพ็กเกจตรวจสุขภาพเฉพาะบุคคล ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้เราตัดสินใจ เพราะมันทำให้เรารู้ว่าเราพร้อมจะเริ่มเรียนกอล์ฟจริง ๆ หรือไม่"

 

สายเอี๊ยม กีรติกา อีกหนึ่งผู้เรียนจาก Wellness Golf Academy  รุ่นที่ 3 เล่าว่า ตัวเองเริ่มสนใจกอล์ฟเมื่อไม่นานนี้ และมองหาคอร์สที่ไม่ใช่แค่การสอนตีกอล์ฟ แต่มีมากกว่านั้นจนได้รู้จัก Wellness Golf Academy ผ่านคนใกล้ตัวสิ่งที่ทำให้เราประทับใจคือการผสานเรื่อง Wellness เข้าไปในการเรียนอย่างจริงจัง เช่น คอร์ส Oxygen Therapy, Detox, Hyperbaric Oxygen Therapy รวมถึง SportLab Personal Fitness ที่ออกแบบมาสำหรับนักกอล์ฟโดยเฉพาะ และที่ตื่นเต้นที่สุดคือการได้เรียนกับผู้เชี่ยวชาญบนสนามกอล์ฟชั้นนำของประเทศไทย  ท้ายที่สุดคือเมื่อเราเรียนตีกอล์ฟกับ Wellness Golf Academy แล้วเรามีคอมมูนิตี้ที่กว้างขึ้นได้รู้จักผู้คนมากยิ่งขึ้น “ที่นี่ไม่ใช่แค่สอนกอล์ฟ แต่ยังเป็นพื้นที่ในการดูแลสุขภาพและสร้างชุมชนใหม่ให้กับผู้เรียนอีกด้วย”

X

Right Click

No right click