January 20, 2025

คุณจุติพงศ์ บุญสูง ประธานกรรมการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาท โดยมอบให้แก่ กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อการจัดหาเสื้อชูชีพสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและประชาชนผู้ประสบภัยในภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดต่าง ๆ อีกทั้งอีซูซุยังส่งมอบน้ำดื่ม อีซูซุมากกว่า 54,000 ขวด ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหลาย ๆ พื้นที่ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน

พร้อมบริการรถอีซูซุโมบายเซอร์วิส ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนสำหรับลูกค้าอีซูซุในจังหวัดต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบัน และยังสามารถเข้ารับบริการตรวจเช็กสภาพรถฟรี พร้อมรับส่วนลดค่าแรง 30% และค่าอะไหล่ 30% ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 30 ธันวาคม 2567 ที่ศูนย์บริการมาตรฐานอีซูซุทั่วประเทศ

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย คุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และภาพลักษณ์องค์กรและการสื่อสารองค์กร (คนซ้าย ) และคุณเต๋า เศรษฐพงศ์ เพียงพอ CR Influencer (คนขวา) ร่วมส่งมอบเงินสมทบทุน จำนวน 30,000 บาท ให้แก่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อช่วยเหลือสัตว์ที่เจ็บป่วย ภายใต้กิจกรรม Air Life จากแคมเปญ Commit To Climate  ปีที่ 3 โดยได้รับเกียรติจาก อ.น.สพ. เกียรติศักดิ์ ตันเจริญ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน (คนกลาง) เป็นผู้รับมอบ

ทั้งนี้กิจกรรม Air Life เป็นการเชิญชวนประชาชนทั่วไปได้ตระหนักถึงความสำคัญของอากาศบริสุทธิ์ และร่วมลด ละ เลิกทำสิ่งที่ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ ผ่านการเล่นเกมส์จับผิดภาพ หาสาเหตุที่ทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ โดยทุกๆ การเข้าร่วมกิจกรรม จะแปลงเป็นเงิน 5 บาท เพื่อสมทบทุนให้แก่โรงพยาบาลสัตว์ ในการช่วยเหลือสัตว์ที่เจ็บป่วยจากมลพิษทางอากาศ กิจกรรมดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 14,500 คน และมียอด Reach สูงกว่า 500,000 reach ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และเป็นไปตามจุดมุ่งหมายของบริษัทฯ ที่เคียงข้าง คุ้มครอง พร้อมใส่ใจสิ่งแวดล้อม

นอกจากนั้นทางบริษัทฯ จะเปิดตัวกิจกรรม Wild Life ภายใต้แคมเปญ Commit To Climate ในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 โดยท่านที่สนใจสามารถติดตามกิจกรรมดังกล่าว หรือกิจกรรมเพื่อสังคมดีๆ จาก กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/Hearts.in.action.volunteers หรือ โทร 1159 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความห่วงใยและความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการมอบเต็นท์ ทิพย-ตำรวจ และเสื้อกันฝนในโครงการ "ทิพยประกันภัยห่วงใยทุกชีวิตในสังคม" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 21 แก่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

นางวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้ส่งมอบเต็นท์ ทิพย-ตำรวจ และเสื้อกันฝน โดยมี พ.ต.อ. สุธี เสน่ห์ลักษณา รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นผู้รับมอบ เพื่อส่งมอบต่อให้หน่วยงานในสังกัดสถานีตำรวจนครบาลจำนวน 10 สถานี  ได้แก่ สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน สถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง สถานีตำรวจนครบาลสายไหม   สถานีตำรวจนครบาลโคกคราม และสถานีตำรวจนครบาลคันนายาว เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยการจราจรให้กับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ณ อาคารทิพยประกันภัย สำนักงานใหญ่ พระราม 3

ความร่วมมือนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของทิพยประกันภัยในการสร้างความปลอดภัยและส่งเสริมความมั่นคงในชุมชน ซึ่งได้รับการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องยาวนาน

กรุงเทพฯ 20 กันยายน 2567 – ทรูมันนี่ ผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นตัวกลางส่งต่อกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยภาคเหนือที่ถึงแม้น้ำจะลดแล้วในหลายพื้นที่ ก็ยังต้องการได้รับความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดช่องทางให้ผู้บริจาคผ่านแอปพลิเคชัน ทรูมันนี่ เพื่อสมทบทุนการร่วมบริจาคเข้า 5 มูลนิธิและหน่วยงานที่กำลังดำเนินการบรรเทาสาธารณภัย ได้แก่ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก, สภากาชาดไทย, มูลนิธิปอเต๊กตึ้ง, มูลนิธิกระจกเงา และ มูลนิธิ Soi Dog เพื่อบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือวิกฤติภัยในครั้งนี้ได้ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้ว ใน 5 ขั้นตอน 1. กดเลือกไอคอน ‘บริจาคให้มูลนิธิ’ บนแอปทรูมันนี่ 2. เลือกมูลนิธิฯ ที่ท่านต้องการบริจาค 3. กรอกยอดเงินบริจาค 4. เลือกช่องทางการชำระเงิน และ 5. กดยืนยันการชำระเงิน

สำหรับผู้สนใจบริจาคฯ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ https://www.truemoney.com/donatioin/

 

เมื่อเร็วๆนี้นักศึกษาทุนโครงการ “คมส่งฝัน” โครงการทุนการศึกษาให้เปล่าสำหรับเยาวชนไทยที่ขาดโอกาสทางการศึกษา โดยนายคมสันต์ ลี เจ้าของธุรกิจ แฟลช เอ็กซ์เพรส ที่ก่อตั้งขึ้น เมื่อปี 2565 พร้อมด้วยคณะทำงานโครงการ นำโดย นางสาวปรินทร์ทิพย์ อิสริยเมธา ผู้ช่วยรองกรรมการผู้อำนวยการสื่อสารองค์กร และรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ได้นำหนังสือเสียงระบบเดซี่ และหนังสือเบรลล์ ที่จัดทำขึ้นจากการนำเอาเนื้อหาของพ๊อคเก็ตบุ๊ค “คมเขี้ยว Startup” เรื่องราวชีวิต และเส้นทางการดำเนินธุรกิจของคุณคมสันต์ ลี มาถ่ายทอดในรูปแบบหนังสือสำหรับผู้บกพร่องทางสายตา

นางสาวปรินทร์ทิพย์ เปิดเผยว่า ผู้ก่อตั้งโครงการฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญด้านการศึกษามาโดยตลอด เพราะมีความเชื่อว่าโอกาสทางการศึกษาจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคน นายคมสันต์ ลี จึงได้มีโอกาสช่วยเหลือสังคมในด้านการศึกษามาตลอดระยะเวลา 6 ปี ที่ทำธุรกิจจนกระทั่งปี 2565 จึงได้ก่อตั้งโครงการคมส่งฝันขึ้น และเปิดโอกาสให้เยาวชนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์จำนวน 11 คน ได้เข้ามาเป็นนักศึกษาทุนของโครงการฯ

“คุณคมสันต์ มีความตั้งใจมาโดยตลอดว่าอยากเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และมีการศึกษาที่เท่าเทียม ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมาจากไหน หรือมีต้นทุนทางชีวิตมากน้อยแค่ไหน แต่หากมีความใฝ่ดีในการเรียนก็ไม่ยากที่จะสร้างชีวิตให้ประสบความสำเร็จได้ ซึ่งนอกจากการศึกษาจะเป็นเรื่องที่สำคัญอันดับแรก การที่เยาวชนกลุ่มนี้ได้รับโอกาสจากโครงการฯ ก็ควรมีส่วนร่วมส่งต่อโอกาสเหล่านี้ให้แก่ผู้ด้อยโอกาสกลุ่มอื่นของสังคมเช่นกัน หลังจากวันนั้นน้องๆ ในโครงการจึงได้มีการร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมมาโดยตลอด รวมถึงโครงการล่าสุด โครงการจัดทำหนังสือ2 รูปแบบ คือ หนังสือเสียงระบบเดซี่ผ่านแอปพลิเคชัน Read for the Blind สำหรับผู้บกพร่องทางสายตาที่ไม่สามารถอ่านอักษรเบรลล์ได้ และหนังสือเบรลล์ สำหรับผู้บกพร่องทางสายตาที่สามารถอ่านอักษรเบรลล์ได้ทซึ่งทีมงานได้ร่วมบันทึกเสียง และจัดทำเพื่อส่งมอบแก่ มูลนิธิคนตาบอด เพื่อกระจายไปยังโรงเรียนสอนคนตาบอด 15 แห่ง ทั่วประเทศ โดยความตั้งใจส่วนหนึ่งของการจัดทำ คืออยากสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แม้จะต้องเจออุปสรรคหรือปัญหามากแค่ไหน ซึ่งอีกมุมของหนังสือคมเขี้ยวสตาร์ทอัพที่ถูกจัดทำ จะสะท้อนให้ผู้อ่านมองเห็นคุณค่าของชีวิตมากขึ้นด้วย” นางสาวปรินทร์ทิพย์ กล่าว

ด้าน นายกิติพงศ์ สุทธิ ผู้อำนวยการห้องสมุดคนตาบอดและผู้พิการทางสื่อสิ่งพิมพ์แห่งชาติ กล่าวว่า ทางมูลนิธิขอขอบคุณ โครงการคมส่งฝัน และคุณคมสันต์ ลี ที่เล็งเห็นความสำคัญของกลุ่มผู้พิการทางสายตา และให้นักศึกษาทุนฯ มาร่วมทำโปรเจกต์นี้กับมูลนิธิคนตาบอด

ปัจจุบันมีจำนวนผู้พิการทางสายตาที่อยู่ในสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยประมาณ 15,000 คนทั่วประเทศ แต่มีกลุ่มผู้พิการทางสายตาที่ลงทะเบียนกับรัฐมากถึง 200,000 คน ในขณะที่จำนวนหนังสือเสียง และหนังสือเบรลล์ที่มีอยู่ในระบบสำหรับคนกลุ่มนี้มีสัดส่วนไม่ถึง 5% และกว่า 95% ของหนังสือเสียงผลิตขึ้นได้ด้วยอาสาสมัครที่เข้ามาช่วยสนับสนุน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิมีจำนวนไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนงานในส่วนนี้อีกทั้งข้อจำกัดในส่วนห้องอ่านหนังสือเสียงทั้งส่วนของพื้นที่ และอุปกรณ์ ทางมูลนิธิจึงต้องอาศัยอาสาสมัครเข้ามาช่วยอ่านหนังสือเสียงผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน ซึ่งทางมูลนิธิคนตาบอดจะส่งมอบหนังสือที่ทางโครงการคมส่งฝันได้จัดทำ กระจายต่อไปยังโรงเรียนสอนคนตาบอดทั่วประเทศทั้ง 15 แห่งต่อไป

ผลิตผลของโครงการ “ชดเชยคาร์บอน” จากการมีส่วนร่วมของผู้ใช้บริการแกร็บ

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย คุณแซลลี่ โอฮาร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอกซ่า ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ และประเทศเกาหลีใต้ คุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และภาพลักษณ์องค์กรและการสื่อสารองค์กร (คนกลาง) นำทีมคณะผู้บริหาร พนักงานจิตอาสา  ร่วมบรรจุถุงยังชีพเพื่อส่งมอบให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศทั้งภาคเหนือ และภาคอีสาน จำนวน 1,000 ชุด โดยถุงยังชีพดังกล่าวประกอบด้วย สิ่งของจำเป็นในการยังชีพ อาทิ อาหารแห้ง ยารักษาโรค น้ำดื่ม รวมถึงผ้าอนามัย ชุดชั้นใน นมผงสำหรับเด็กแรกเกิด นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้รับเงินบริจาคจากพนักงาน และบริษัทฯ ร่วมสมทบ 100% เพื่อนำไปสนับสนุนช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยใหญ่ในครั้งนี้

ทั้งนี้ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ส่งมอบน้ำดื่ม จำนวน 2,000 ขวด ไปยังฝ่ายขายในจังหวัดเชียงราย น่าน รวมถึงธนาคารกรุงไทย สาขาแม่จัน จังหวัดเชียงราย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยได้อย่างรวดเร็วและทันถ่วงที เพื่อนำความห่วงใยดังกล่าวส่งต่อให้กับชาวบ้านที่ประสบภัยต่อไป

บริษัทฯ ขอร่วมเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยผ่านพ้นวิกฤตินี้ได้โดยเร็ว โดยบริษัทฯ พร้อมอยู่เคียงข้างความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป  สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามกิจกรรมเพื่อสังคมดีๆ จาก กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/Hearts.in.action.volunteers หรือ โทร 1159 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มุ่งมั่นเดินหน้าเปลี่ยน...ชุมชนเพื่อความยั่งยืน เชิญชวนผู้ที่สนใจเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรม fai-fah for Communities ที่ดำเนินการโดย มูลนิธิทีทีบี ภายใต้แคมเปญ “ขอ 1 วัน ใน 1 ปี มาทำอะไรดี ๆ ด้วยกัน” ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม เพื่อจุดประกายและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ชุมชนดีขึ้นอย่างยั่งยืน

นางประภาศิริ โฆษิตธนากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการรวมตัวกันของอาสาสมัครทีทีบี (ttb volunteer) เพราะเชื่อว่า นอกเหนือจากการมาทำงานที่ธนาคารแห่งนี้ พวกเราชาวทีทีบีไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ยังทำกิจกรรมอาสาสมัครเพื่อสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้ชุมชนด้วยเช่นกัน จึงเกิดโครงการที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้ใช้ความรู้ความสามารถในการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ชุมชนดีขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งนอกจากจะช่วยจุดประกายโอกาสให้กับสังคมแล้ว ยังเป็นโอกาสดี ๆ ที่อาสาสมัครจะได้ทำความรู้จัก พบปะเพื่อนใหม่ต่างแผนก พัฒนาโครงการเพื่อสังคมที่ตนเองสนใจ วางแผนงานร่วมกับชุมชน และสุดท้าย ส่งต่อให้ชุมชนสามารถดำเนินงานต่อได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญา Make REAL Change ที่พนักงานทุกคนยึดถือมาโดยตลอด

โดยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา อาสาสมัครทีทีบีกว่า 20,000 คน ได้นำความรู้ความสามารถ เข้าช่วยเหลือชุมชนแล้วกว่า 260 ชุมชน เป็นจำนวน 262 โครงการทั่วประเทศ ซึ่งส่งเสริมให้ชุมชนมีรายได้ มีช่องทางในการประกอบอาชีพที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเพิ่มทักษะการบริหารจัดการทางการเงิน การทำบัญชี เพื่อให้วิสาหกิจชุมชน หรือองค์กรเหล่านั้นเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ในปี 2567 นี้ เหล่าอาสาสมัครทีทีบี ยังคงมุ่งมั่นค้นหาชุมชนที่ต้องการความช่วยเหลือและพัฒนาสังคมต่อไป และเพื่อต่อยอดพร้อมทั้งส่งต่อความรู้สึกแห่งการให้แก่ผู้มีจิตอาสาภายนอกองค์กร เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงโลกให้น่าอยู่มากขึ้น จึงขอเชิญชวนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปัน ในกิจกรรม fai-fah for Communities ภายใต้แคมเปญ “ขอ 1 วัน ใน 1 ปี มาทำอะไรดี ๆ ด้วยกัน” กับ “ฝาขวด...รักษ์โลก” โดยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยน...ขยะพลาสติกเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อลดขยะพลาสติก ลดมลพิษ และสร้างคุณค่าให้แก่ฝาขวดพลาสติกสามารถนำไปเป็นทรัพยากรหมุนเวียนใช้ประโยชน์ต่อได้ โดยฝาขวดน้ำพลาสติกที่ได้รับจะนำไปรีไซเคิลเปลี่ยนเป็นโต๊ะ เก้าอี้เพื่ออุปกรณ์การเรียน เครื่องดนตรี บล็อกปูพื้นถนน ฯลฯ โดยผู้เชี่ยวชาญอย่างมหาวิทยาลัยศิลปากร คณะวิทยาศาสตร์ และโครงการกรีนโรด จังหวัดลำพูน ก่อนนำไปมอบให้น้องนักเรียนที่ขาดแคลนต่อไป” นางประภาศิริ กล่าว

ผู้ที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับอาสาสมัครทีทีบี สามารถส่งฝาขวดมาได้ที่ โครงการอาสาช่วยกันทำ ที่อยู่ 1/31 ซ.เพิ่มสิน 39 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. 10220

อลิอันซ์ อยุธยา ในฐานะบริษัทประกันชีวิตและประกันภัยชั้นนำในประเทศไทย พร้อมอยู่เคียงข้างช่วยเหลือลูกค้าเสมอในทุกเงื่อนไขชีวิต ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงาและมูลนิธิ SOS เดินหน้าส่งต่อความช่วยเหลือสู่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคเหนือ พร้อมเชิญชวนคนไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือครั้งนี้ผ่าน 2 ช่องทางหลัก ได้แก่

  • บริจาคเงิน “ช่วยล้างบ้าน” กับมูลนิธิกระจกเงา เพื่อจ้างอาสาชุมชนและจัดหาอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านเรือนที่ประสบภัยน้ำท่วมพร้อมดินโคลน เพื่อให้กลับมาอยู่ในสภาพอยู่อาศัยได้หลังน้ำลด โดย อลิอันซ์ อยุธยา จะร่วมสบทบการบริจาคของท่าน ผู้สนใจสามารถบริจาคเงินได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขบัญชี: 202-258298-3 ชื่อบัญชี: กองทุนภัยพิบัติ โดยมูลนิธิกระจกเงา และสามารถ อัปโหลดสลิปบริจาคที่ co/FloodDonate เพื่อให้บริษัททำการสมทบยอด
  • บริจาคอาหารพร้อมกิน “ช่วยเติมอิ่ม” กับมูลนิธิกู้ภัยอาหาร SOS เพื่อสนับสนุนหน่วยกู้ภัยและผู้ประสบภัย อาทิ ขนมปังบิสกิต ปลากระป๋อง นมกล่อง ขนมถุง เกลือแร่ โดยสามารถมอบให้ที่จุดรับบริจาค สำนักงานใหญ่ อลิอันซ์ อยุธยา ชั้น 1 อาคารเพลินจิต ทาวเวอร์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 20 กันยายน 2567 เวลา: 00 – 17.00 น.

อลิอันซ์ อยุธยา จะอยู่เคียงข้างคนไทย และพร้อมจะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ประสบภัยในภาวะวิกฤตในครั้งนี้ สำหรับลูกค้าอลิอันซ์ อยุยา สามารถติดต่อศูนย์ดูแลลูกค้า ตลอด 24 ชั่วโมง ลูกค้าประกันชีวิต โทร 1373 ลูกค้าประกันภัย โทร 1292

นายทะกุมิ คะซะริโมะโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท วันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร จำกัด (ขวามือ) มอบผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตรา ยำยำ จำนวน 300 ลัง มูลค่ารวม 201,600 บาท แก่มูลนิธิกระจกเงา โดยนายอุเทน นึกถึง เจ้าหน้าที่โครงการแบ่งปันเพื่อการเปลี่ยนแปลง มูลนิธิกระจกเงา (ซ้ายมือ) เป็นตัวแทนในการรับมอบ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคเหนือ พร้อมเตรียมบริจาคเพิ่มเติมให้กับหลายหน่วยงาน องค์กร และมูลนิธิ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นขณะนี้

X

Right Click

No right click