บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในทุกมิติของการสร้างสรรค์สังคมที่ยั่งยืน โดยชวนพนักงานที่มีจิตอาสาและนักศึกษาฝึกงาน SCN พร้อมใจเข้าร่วมกิจกรรมเย็บเต้านมเทียม ภายใต้โครงการ Sabina Sewing Cup Sewing Heart เย็บเต้ารวมใจ สู้ภัยมะเร็งเต้านม เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ป่วยมะเร็งที่ผ่าตัดเต้านมและสูญเสียความมั่นใจในเรื่องของบุคลิกภาพหลังจากรับการรักษาให้กลับมามีรอยยิ้มกับสรีระของตนเองอีกครั้ง โดยกิจกรรมได้จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน พร้อมด้วยผู้บริหาร สานต่อการขยายผลสร้าง Social Impact ให้แก่ชาวบ้านในชุมชนตำบลเกาะศรีบอยา จังหวัดกระบี่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต พัฒนาการศึกษาและทักษะการเรียนรู้ สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน โดยได้มอบเรือกู้ชีพ “ออมสินชีพรักษ์ 2” และชุดอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการกู้ชีพฉุกเฉินให้แก่องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะศรีบอยา สำหรับใช้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินกรณีเจ็บป่วยรุนแรงหรือเกิดอุบัติเหตุ เพื่อส่งต่อถึงบริการทางการแพทย์บนฝั่งได้ทันท่วงที ลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น
พร้อมมอบกระเป๋าและชุดปฐมพยาบาลให้แก่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเกาะจำและบ้านเกาะศรีบอยา มอบเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ ในโครงการคอมพิวเตอร์เพื่อสังคม เพื่อส่งเสริมให้เด็กนักเรียนได้รับโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยี ข้อมูล ข่าวสารอย่างเท่าเทียม อีกทั้งมอบทุนการศึกษา อุปกรณ์กีฬาและอุปกรณ์เสริมสร้างพัฒนาการเด็ก ให้แก่โรงเรียนบ้านเกาะจำ โรงเรียนบ้านเกาะปู และโรงเรียนบ้านติงไหร ตลอดจนแว่นสายตาให้แก่ผู้สูงอายุ ณ องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะศรีบอยา จังหวัดกระบี่ เมื่อเร็ว ๆ นี้
บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดย นางสาวอรนาฎ นชะพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายสายกลยุทธ์การตลาดและบริหารจัดการลูกค้า มอบน้ำดื่มจำนวน 3,000 ขวด แก่สำนักงานเขตบางซื่อ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และประชาชนจิตอาสาในกิจกรรม “จิตอาสา รักษาสภาพคู คลอง” ภายในพื้นที่สำนักงานเขตบางซื่อ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำให้กับกรุงเทพมหานคร โดยเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐ และประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ ในการทำความสะอาด กำจัดวัชพืชและขยะสิ่งปฏิกูลกีดขวางทางน้ำในคลอง ตัดแต่งกิ่งไม้ ปรับแต่งภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาชุมชุนและพื้นที่ใกล้เคียง โดยมี นายเจษฎา ประภาสะวัต ผู้อำนวยการเขตบางซื่ิอ เป็นผู้แทนรับมอบ ณ ที่ทำการสำนักงานเขตบางซื่อ เมื่อเร็วๆนี้
ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับ กสทช. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมวิกฤตในอำเภอศรีสำโรงและอำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย เพื่อตรวจสอบคุณภาพสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ใช้บริการในพื้นที่ประสบอุทกภัย พร้อมทั้งนำถุงยังชีพ 500 ชุดมอบแก่ผู้ประสบภัยในชุมชนต่างๆ โดยมีนายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกับนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. และรักษาการเลขาธิการ กสทช. พร้อมด้วยทีมงาน นำทีมลงพื้นที่ ทั้งนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้วางแผนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดตั้งทีมเฝ้าระวังต่อเนื่องพื้นที่จังหวัดภาคกลางและกรุงเทพฯ ที่อาจได้รับผลกระทบจากน้ำเหนือไหลบ่าและฝนตกหนัก
นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ทรู คอร์ปอเรชั่นขอส่งกำลังใจถึงผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกท่าน โดยล่าสุดทีมงานของเรานอกจากจะดูแลความพร้อมระบบสื่อสารให้ใช้งานได้ต่อเนื่องแล้ว ยังได้เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือ พร้อมนำถุงยังชีพ อาหารแห้ง น้ำดื่ม และยา มอบแก่ผู้ประสบภัยในจังหวัดสุโขทัยซึ่งกำลังเผชิญกับสถานการณ์น้ำเหนือทะลักเข้าท่วมพื้นที่ ทั้งนี้ เราได้ดำเนินการช่วยเหลือจังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมาอย่างต่อเนื่อง เช่น ร่วมมือกับหอการค้าจังหวัดน่าน และโรงพยาบาลน่านในการมอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ นอกจากนี้ เรายังได้ร่วมมือกับ กสทช. ลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัยตรวจสอบสัญญาณมือถือ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าทรูและดีแทคว่าจะสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องแม้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและน้ำเหนือที่ไหลผ่าน ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่”
ทีมเน็ตเวิร์กของทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ประจำการตามสถานีฐานต่างๆ ในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทางภาคเหนือ และพื้นที่เสี่ยงภัยจังหวัดอื่นๆ โดยทีมงานได้เข้าปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนตามแผนฉุกเฉิน เพื่อให้ลูกค้าทรูและดีแทคสามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่องในทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ ทรูได้จัดตั้งทีมปฏิบัติการพิเศษประจำศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ (BNIC) พร้อมระบบ AI คอยเฝ้าระวังและดูแลเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งจัดเตรียมรถโมบายล์ชุมสายเคลื่อนที่เร็ว (COW) และยานพาหนะทั้งรถและเรือสำหรับเข้าพื้นที่น้ำท่วม ตลอดจนอุปกรณ์สำรองและอะไหล่สำหรับซ่อมแซมในกรณีฉุกเฉิน รวมถึงประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในการใช้บริการอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังได้มอบความช่วยเหลือแก่ลูกค้าในพื้นที่ประสบภัย ซึ่งรวมถึงการขยายระยะเวลาใช้งานสำหรับลูกค้าเติมเงิน การระงับการตัดสัญญาณ และการขยายเวลาชำระค่าบริการสำหรับลูกค้ารายเดือนของทรูมูฟ เอช ดีแทค ทรูออนไลน์ และทรูวิชั่นส์ เป็นเวลา 7 วัน สำหรับลูกค้าในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดต่างๆ (ลูกค้าจะได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ์)
กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี ตัวแทนโดย ผู้จัดการสาขา และพนักงาน บิ๊กซี สาขาน่าน บิ๊กซี สาขาเชียงราย 1 บิ๊กซี สาขาแพร่ และ บิ๊กซี สาขาสุโขทัย ร่วมใจอาสาเร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อเนื่อง ส่งมอบถุงยังชีพ สิ่งของจำเป็น และน้ำดื่ม ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อบรรเทาทุกข์ในสถานการณ์วิกฤต และขอส่งพลังและกำลังใจให้กับผู้ประสบอุทกภัยในภาคเหนือและทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ขอให้ทุกคนปลอดภัยและผ่านพันวิกฤตนี้ไปโดยเร็ว
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหลายจังหวัดทางภาคเหนือของไทยอย่างเต็มกำลัง โดยล่าสุดได้ส่งทีมเน็ตเวิร์กลงพื้นที่ประสบภัยเพื่อดูแลสถานีฐานและเน็ตบ้านให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ ทั้งในจังหวัดน่าน เชียงราย พะเยา และแพร่ เป็นต้น พร้อมทั้งทีมภูมิภาคของทรู คอร์ปอเรชั่นเร่งนำอาหาร น้ำดื่มช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้มอบความช่วยเหลือลูกค้าในพื้นที่ประสบภัย ซึ่งรวมถึงการขยายวันใช้งานสำหรับลูกค้าเติมเงิน การระงับการตัดสัญญาณ และการขยายเวลาชำระค่าบริการสำหรับลูกค้ารายเดือนของทรูมูฟ เอช ดีแทค ทรูออนไลน์ และทรูวิชั่นส์ เป็นเวลา 7 วัน แก่ลูกค้าในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดต่างๆ (รอรับ SMS ยืนยัน)
บริษัทฯ ยังคงดำเนินการตามแผนฉุกเฉินอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีทีมปฏิบัติการพิเศษประจำ BNIC (ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ) พร้อม AI คอยเฝ้าระวังและดูแลเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังได้เตรียมความพร้อมด้านอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น รถโมบายล์ชุมสายเคลื่อนที่เร็ว (COW) และยานพาหนะสำหรับเข้าพื้นที่น้ำท่วม เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพแม้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมเดินหน้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง
เคทีซีให้ความสำคัญกับการร่วมพัฒนาบุคลากรและดูแลคนไทยในสังคมให้มีความสุขทั้งกายและใจ และเมื่อประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ จึงได้จัดกิจกรรม "ภาพนี้ให้คุณยายหัวใจฟู" เพื่อส่งต่อกำลังใจและ ความห่วงใยเนื่องในเดือนแห่งวันแม่ โดยได้นำพนักงานเคทีซีจิตอาสาเดินทางไปเยี่ยมและทำกิจกรรมสร้างความผ่อนคลายให้กับผู้สูงอายุไร้ที่พึ่งกว่า 60 ชีวิต ณ สถานสงเคราะห์หญิงชราไร้ที่พึ่ง บ้านสุทธาวาส เฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดนครนายก
กิจกรรม “ภาพนี้ให้คุณยายหัวใจฟู” เริ่มต้นด้วยการที่พนักงานเคทีซีชวนคุณยายร่วมกันวาดภาพระบายสีเพื่อทำการ์ดอวยพร ซึ่งช่วยส่งเสริมสมาธิและผ่อนคลายจิตใจ โดยพนักงานจิตอาสาของเคทีซีได้เรียนรู้การวาดภาพจากครูอ๋อ พิศิษฐ์ เอกสินสมบูรณ์ พนักงานเคทีซีที่เกษียณอายุและผันตัวเองเป็นครูสอนศิลปะเต็มตัว เพื่อมาถ่ายทอดการวาดภาพระบายสีแบบง่ายๆ ให้กับคุณยาย และยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่อบอุ่นกับเหล่าผู้สูงวัยอีกด้วย ในขณะที่คุณยายเองได้ฝึกกล้ามเนื้อและคลายความเหงาไปกับกิจกรรมในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและเพลิดเพลินกับมินิคอนเสิร์ตโดยวงเคทีซี อะคูสติกจากพนักงานจิตอาสา พร้อมรับประทานอาหารว่างและมอบเครื่องใช้อุปโภคบริโภคที่จำเป็น ซึ่งผู้บริหารและพนักงานร่วมกันบริจาคและนำมามอบให้กับมูลนิธิฯ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระและเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับผู้สูงอายุภายใต้การดูแลของมูลนิธิฯ
นางสาวปิยะสุดา แคว้นนนทรีย์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานทรัพยากรบุคคล “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความสุขและผ่อนคลายความกังวลให้ผู้สูงอายุผ่านกิจกรรม “ภาพนี้ให้คุณยายใจฟู” เป็นหนึ่งพันธกิจที่เคทีซีให้ความสำคัญในการช่วยเหลือสังคมในมิติต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเปิดโอกาสให้พนักงานได้มีส่วนร่วมเป็น “ผู้ให้” ในกิจกรรมต่างๆ ตามความถนัดและความสนใจ นอกเหนือจากการส่งเสริมให้พนักงานพัฒนาเสริมทักษะตนเองในด้านต่างๆ และหวังว่าโครงการนี้จะมีส่วนช่วยเติมรอยยิ้มและเสริมสร้างกำลังใจที่แข็งแรงให้กับผู้สูงอายุไร้ที่พึ่งอีกทางหนึ่ง และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนเคทีซีในการทำความดีและทำประโยชน์เพื่อสังคมต่อไป"
นางสาวปิยฉัตร วงศาโรจน์ ผู้จัดการส่วนดูแล สถานสงเคราะห์หญิงชราไร้ที่พึ่ง บ้านสุทธาวาส เฉลิมพระเกียรติฯ เผยว่า “บ้านสุทธาวาส เฉลิมพระเกียรติฯ ดำเนินการช่วยเหลือดูแลที่พักพิงให้แก่หญิงชราที่ยากไร้ โดยได้รับความเห็นชอบให้เป็นหนึ่งในโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ ซึ่งได้เปิดรับคุณยายท่านแรกตั้งแต่ปี 2557 จวบจนปัจจุบันเป็นเวลากว่า 10 ปี โดยกิจกรรม “ภาพนี้ให้คุณยายหัวใจฟู” ที่ทางเคทีซีได้จัดขึ้นนี้ เป็นสิ่งที่ช่วยเติมเต็มความสุขและความอบอุ่นให้กับผู้สูงอายุในมูลนิธิฯ อย่างมาก การได้รับการสนับสนุนจากเคทีซีเป็นสิ่งที่มีค่าและสำคัญในการช่วยดูแลและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุในมูลนิธิฯ ได้เป็นอย่างดี"
โดยคุณยายบ้านสุทธาวาสฯ ได้เผยถึงการเข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ว่า “รู้สึกดีใจมากที่มีหน่วยงานหรือองค์กรให้ความสำคัญ มีคนมาหาและทำกิจกรรมด้วยกัน รู้สึกอบอุ่นหัวใจ มีกำลังใจ ขอบคุณทุกคนที่ทำให้วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่มีความสุขมาก”
นางสาววชิรา การสุทธิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานความยั่งยืน นางญดาภรณ์ ศรีพัฒน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานกิจการสาขา 6 พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและพนักงานธนาคารออมสิน ร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต (โครงการปลูกป้องโลก) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการของธนาคารออมสินที่สนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ควบคู่กับการพัฒนาชุมชนสู่ความยั่งยืน
โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในการจัดสรรพื้นที่ปลูกป่าทดแทน ประกอบด้วย พันธุ์ไม้ป่าชายเลนรวม 3 ชนิด ได้แก่ ต้นตีนเป็ด หยีทะเล และโปรงแดง รวมกว่า 20,000 ต้น ที่บริเวณแปลงปลูกป่าคลองกะลาเส และป่าคลองไม้ตาย ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง โดยมี นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดกิจกรรม และมีนายภาณุวรรณ รามศรี ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 20 หัวหน้าหน่วยงานราชการในพื้นที่ นักเรียน และตัวแทนชาวบ้านรวมกว่า 100 ชีวิต ร่วมกันปลูกป่าชายเลน เมื่อเร็ว ๆ นี้
นับเป็นครั้งแรกในทวีปเอเชีย แปซิฟิกที่มีการประกาศใช้ฟิล์มรัดสินค้าที่ผลิตจากพลาสติกใช้แล้ว อย่างเต็มรูปแบบ โดย บริษัท มาคิตะ แมนูแฟคเจอริ่ง (ไทยแลนด์) จำกัด เจ้าของแบรนด์เครื่องมือไฟฟ้าชั้นนำระดับโลก “MAKITA” ในประเทศไทย ได้ประกาศใช้ฟิล์มยืดรัดสินค้านวัตกรรมใหม่ที่มีส่วนผสมของพลาสติกใช้แล้ว (Post- Consumer- Recycled resin: PCR) ในการขนส่งสินค้าของบริษัท ด้วยเทคโนโลยีใหม่จากความร่วมมือของกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์ระดับโลก และ MMP ผู้ผลิตฟิล์มยืดอันดับ 1 ในประเทศไทย ซึ่งทำให้ได้ฟิล์มที่มีคุณภาพเทียบเท่าฟิล์มจากพลาสติกใหม่ แต่ช่วยลดขยะได้กว่า 5 ตันต่อปี พร้อมชูไทยเป็นต้นแบบ เพื่อวางแผนขยายการใช้งานไปยังประเทศอื่นๆ
ฟิล์มยืดรัดสินค้านวัตกรรมใหม่ดังกล่าว มีส่วนผสมของพลาสติกใช้แล้วถึง 30% แต่ยังคงความใสและประสิทธิภาพเทียบเท่าฟิล์มยืดชนิดเดิม ไม่ว่าจะเป็นด้านความแข็งแรง ความเหนียว ความยืดหยุ่น ซึ่งสามารถใช้พันลังสินค้าอุตสาหกรรมเพื่อความสะดวกในการขนส่งสินค้าได้ทั้งแบบพันด้วยมือและพันด้วยเครื่องจักร ช่วยลดขยะพลาสติกได้มากกว่า 5 ตันต่อปี อีกทั้งยังสามารถนำกลับมารีไซเคิลซ้ำได้อีก
นายฮิเดอากิ คูโรโนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาคิตะ แมนูแฟคเจอริ่ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า "ความกังวลเกี่ยวกับมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลกที่เกิดจากขยะพลาสติกรั่วไหลลงสู่มหาสมุทร ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวในสังคมในการพยายามที่จะลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว MAKITAมีการดำเนินการเพื่อลดปริมาณการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวในบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ของเรา ทั้งนี้เพื่อนำไปสู่การสร้างสังคมที่ยั่งยืนและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ นอกเหนือไปจากความพยายามที่ดำเนินการอยู่แล้ว MAKITAได้เริ่มใช้ฟิล์มยืดพันสินค้าที่ผสมพลาสติกใช้แล้วที่มีการนำเสนอมาจากDOW ซึ่งหากได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยไม่มีผลกระทบต่อกระบวนการโลจิสติกส์ เราก็มีแผนที่จะขยายการใช้ฟิล์มใหม่นี้ต่อไปอย่างมุ่งมั่น"
นายเอนก จงเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเอ็มพี คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “MMP ในฐานะผู้นำด้านการผลิตฟิล์มยืดที่ยั่งยืนในประเทศไทย เราคัดสรรแต่ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อตอบโจทย์ความต้องการให้แก่ลูกค้าของเรา เราจึงเลือกใช้เม็ดพลาสติกผสมพลาสติกใช้แล้วนวัตกรรมใหม่ของ Dow ซึ่งผลการทดสอบยืนยันว่าแม้จะมีส่วนผสมของพลาสติกใช้แล้วถึง 30% ฟิล์มยืด PCR ที่เราผลิตนี้ก็สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานที่กำหนด โดยฟิล์มนี้ยังได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลกในการรีไซเคิลจาก Global Recycled Standard (GRS) เพื่อยืนยันว่าเราผ่านเกณฑ์ที่เข้มงวดทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม จึงเรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนช่วยส่งเสริมให้อุตสาหกรรมในประเทศไทย ได้ใช้ฟิล์มที่มีความยั่งยืนในการขนส่ง ช่วยลดโลกร้อน ลดขยะได้อย่างเป็นรูปธรรม”
นายเอกสิทธิ์ ลัคนานิธิพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจและพัฒนาธุรกิจคาร์บอนต่ำ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “Dow ขอแสดงความยินดีกับมาคิตะ ประเทศไทยที่เป็นบริษัทแรกในเอเชีย ที่ประกาศใช้ฟิล์มนวัตกรรมใหม่นี้ โดยต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ MAKITA และ MMP ให้ความไว้วางใจใช้ นวัตกรรมเม็ดพลาสติกผสมพลาสติกใช้แล้ว REVOLOOP™ ของ Dow ในการพัฒนาฟิล์มยืดรัดสินค้าที่มีประสิทธิภาพไม่แพ้ฟิล์มจากพลาสติกใหม่ 100% โดยเม็ด PCR นี้ของ Dow ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลกจาก Global Recycled Standard (GRS) เช่นกัน ทั้งในด้านแหล่งวัตถุดิบต้นทางที่ตรวจสอบได้ และคุณภาพของพลาสติกใช้แล้วที่เป็นไปตามข้อกำหนด ซึ่ง Dow มุ่งมั่นในการสนับสนุนให้ลูกค้าของเราลดการปลดปล่อยคาร์บอน และลดขยะพลาสติกตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนได้อย่างเป็นรูปธรรม และเติบโตอย่างยั่งยืน”
มาคิตะ ประเทศไทย ได้เริ่มใช้ฟิล์มที่มีส่วนผสมของพลาสติกใช้แล้วนี้ในการพันลังสินค้าเพื่อขนส่งภายในประเทศ รวมทั้งใช้กับสินค้าที่มีการส่งออกจากประเทศไทยแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 และจะมีการประเมินเพื่อวางแผนการขยายผลไปยังประเทศอื่นๆ ต่อไป
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ถ่ายทอดนโยบายการขับเคลื่อนการเป็นธนาคารเพื่อสังคมเชิงลึกให้บุคลากรหน่วยงานพัฒนาสังคมและชุมชนทั่วประเทศ เน้นใช้กลไกการสร้างคุณค่าร่วม หรือ CSV : Creating Shared Value โดยทำธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกับการช่วยแก้ปัญหาสังคมไปด้วย และนำกำไรจากธุรกิจมาสนับสนุนภารกิจเชิงสังคม ซึ่งทำให้สังคมและธุรกิจเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
พร้อมกันนี้ยังได้เยี่ยมชมผลสัมฤทธิ์จากการอบรมหลักสูตรการพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชนของบุคลากรในสังกัดหน่วยพัฒนาสังคมและชุมชน สายงานกิจการสาขา 1- 6 และหน่วยงานพัฒนาจากส่วนกลาง ซึ่งถือเป็นการสร้างองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพบุคลากรขององค์กรที่ทำหน้าที่วิทยากรกระบวนการในการทำงานเพื่อสังคมและชุมชน เพื่อนำองค์ความรู้ถ่ายทอดต่อวิสาหกิจชุมชนที่รับผิดชอบ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานภายใต้แนวทางการพัฒนาชุมชนแบบองค์รวม เพื่อขับเคลื่อนบทบาทธนาคารเพื่อสังคมตามเป้าหมายต่อไป ณ โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น จตุจักร กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567
บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย คุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และภาพลักษณ์องค์กรและการสื่อสารองค์กร (คนกลาง) นำทีมคณะผู้บริหาร พนักงาน และฝ่ายขายจิตอาสา ร่วมเดินหน้าสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน ผ่านกิจกรรมปลูกข้าว พร้อมทั้งมอบคอมพิวเตอร์ ในโครงการ “แผ่นดินทองเพื่อน้องๆ บ้านนานา ปีที่ 17” ณ. มูลนิธิพันธกิจเด็กและชุมชน บ้านนานา อ. แม่สาย จ. เชียงราย ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัทฯ จัดทำอย่างต่อเนื่อง และช่วยสร้างรายได้ที่ยั่งยืน โดยสามารถช่วยสร้างผลผลิตข้าวให้แก่ชุมชน จาก 2,000 ก.ก. ต่อปี เพิ่มสูงขึ้นเป็นกว่า 7,000 ก.ก. ต่อปี
กิจกรรมแผ่นดินทองเพื่อน้องๆ บ้านนานา เป็นกิจกรรมที่ตอกย้ำปรัชญาการทำกิจกรรมเพื่อสังคมของ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ที่มุ่งเน้น “การให้โอกาส ไม่ใช่เพื่อการกุศล – Opportunity, not Charity” ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการสนับสนุนให้เด็กทุกคนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมีความสุข ทั้งยังสามารถแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง รวมทั้งสร้างอาชีพและรายได้ให้กับชุมชน พร้อมทั้งเป็นแรงบันดาลใจ และจุดประกายให้หลายๆ ชุมชนของไทย เชื่อว่าทุกคนทำได้ หรือ Know You Can โดยบริษัทฯ พร้อมอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป