December 05, 2025

เนื่องในโอกาสวันคุ้มครองโลก (Earth Day) วัตสัน แบรนด์สุขภาพและความงามชั้นนำของ เอเอส วัตสัน ประกาศขยายความร่วมมือกับ ClimatePartner เพื่อยกระดับโครงการชดเชยคาร์บอน สำหรับการซื้อผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้า Watsons Sustainable Choice ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 4,000 ตัน

สร้างแรงบันดาลใจให้ลูกค้าเลือกอย่างชาญฉลาด เพื่อใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน

เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ยั่งยืน วัตสันเปิดตัวโครงการชดเชยคาร์บอนร่วมกับ ClimatePartner ตั้งแต่ปี 2566 โดยเริ่มต้นในผลิตภัณฑ์ 7 กลุ่ม และปัจจุบันมีความพยายามขยายให้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ 30 กลุ่ม ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของวัตสันต่อความยั่งยืน โดยโครงการนี้เปิดตัวที่ Watsons O+O (ออฟไลน์และออนไลน์) ทั่วไทย ฮ่องกง มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ตุรกี และตลาดกลุ่มประเทศ GCC (พันธมิตรทางการเมืองและเศรษฐกิจของตะวันออกกลาง)

วัตสันมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนมากขึ้น ในขณะที่รับประกันว่าทุกการซื้อจะสร้างความแตกต่างที่มีความหมายและสร้างผลกระทบ นอกเหนือจากความพยายามในการปลูกป่าอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ริมบารายา  ประเทศอินโดนีเซีย* วัตสันมุ่งเน้นไปที่การปลูกป่าที่สำคัญในติ่งซี สาธารณรัฐประชาชนจีน** ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการแปรสภาพเป็นทะเลทราย ภัยแล้ง และการพังทลายของดินอย่างรุนแรง โครงการนี้เกี่ยวข้องกับการปลูกพันธุ์ไม้พื้นเมืองที่คัดเลือกเพื่อความทนทานในสภาพกึ่งแห้งแล้ง โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนที่ดินทำการเกษตรที่เสื่อมโทรมให้กลายเป็นป่าที่เจริญเติบโต

นอกเหนือจากประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม โครงการนี้ยังสร้างโอกาสในการจ้างงานคนท้องถิ่นในการปลูกต้นไม้และดูแลรักษาป่า โดยส่วนหนึ่งมีผู้หญิงเข้ามามีส่วนร่วมและบทบาทสำคัญ ซึ่งช่วยส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและเสริมพลังให้กับชุมชนท้องถิ่น

ตั้งแต่เปิดตัวโครงการฯ ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าและได้รับความคิดเห็นเชิงบวก อาทิ เจสัน โฮห์ ลูกค้าจากมาเลเซียแบ่งปันว่า "ผมชอบซื้อสินค้า Sustainable Choices ที่วัตสัน เพราะทุกครั้งที่ซื้อจะช่วยสนับสนุนโลกให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น และยังสร้างแรงบันดาลใจให้ผมหันมาใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนในทุก ๆ วัน"

โคลอี้ หวอง ลูกค้าจากฮ่องกงกล่าวว่า "รหัส QR Code ที่แสดงบนชั้นวางสินค้า Sustainable Choices ช่วยให้ฉันสามารถค้นหาเกี่ยวกับกระบวนการลดคาร์บอน ซึ่งช่วยแสดงให้เห็นว่าวัตสันใส่ใจเรื่องการจัดการกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างไร"

วนิดา จากประเทศไทยกล่าวว่า “ครอบครัวของฉันตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ยั่งยืน หลังจากทราบว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไปก่อให้เกิดการปล่อยคาร์บอนในปริมาณมากตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต ซึ่งทางเลือกที่ดีกว่านี้ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ตั้งแต่ต้นทาง แม้จะเป็นสิ่งเล็ก ๆ แต่ก็สร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายได้จริง”

การสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกค้าเลือกผลิตภัณฑ์ Sustainable Choices เป็นขั้นตอนสำคัญในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และรักษาความหลากหลายทางชีวภาพที่ช่วยค้ำจุนพวกเราทุกคน ซึ่งเราสามารถร่วมสร้างผลกระทบเชิงบวกที่วงกว้าง เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสและอุดมสมบูรณ์กว่าสำหรับคนรุ่นต่อไป โดยวันคุ้มครองโลก นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเดินทางของวัตสัน เพื่อการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ ส่งเสริมพลังให้ลูกค้า Look Good. Do Good. Feel Great. คือดูดีจากภายนอก ทำดีจากภายใน และรู้สึกดีที่ได้มอบสิ่งดีๆ คืนสู่สังคมเพื่อสังคมที่ยั่งยืนต่อไป

กรุงเทพฯ – บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด ในประเทศไทย เมียนมา และกัมพูชา ผนึกกำลังเปิดโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมา โดยร่วมกันจัดตั้งช่องทางรับบริจาค พร้อมสมทบทุนเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูและบรรเทาทุกข์แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดย ทรูมันนี่ ประเทศไทย ได้เปิดช่องทางให้ผู้ใช้แอปทรูมันนี่สามารถร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากแผ่นดินไหวทั้งในประเทศไทยและเมียนมา โดยเงินบริจาคจะถูกส่งตรงเข้าสู่บัญชีของสภากาชาดไทยโดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อใช้ในการจัดหาอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค สิ่งของจำเป็น และฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้

ส่วน ทรูมันนี่ เมียนมา ได้จัดตั้งกองทุน ‘Pray for Myanmar Charity’ เพื่อเปิดรับบริจาคผ่านแอป TrueMoney และเครือข่ายตัวแทนทรูมันนี่ (TrueMoney Agents) ที่มีอยู่หลายหมื่นแห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ ทรูมันนี่ในประเทศไทย เมียนมา และกัมพูชา จะร่วมสมทบทุนตามยอดบริจาคของผู้ใช้ผ่านกองทุนดังกล่าว โดยไม่หักค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือผ่านสภากาชาดเมียนมา (MRCS)

โครงการในประเทศไทยจะเปิดรับบริจาคจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2568 ขณะที่กองทุนในเมียนมาจะปิดรับบริจาคในวันที่ 21 เมษายน 2568 ทรูมันนี่ขอเชิญชวนผู้ใช้บริการและประชาชนทั่วไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อกำลังใจและความช่วยเหลือไปยังผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ผู้ที่สนใจร่วมบริจาค สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.truemoney.com/donation/

บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)  นำโดย คุณ รพีชัย  จินตเศรณี รองผู้อำนวยการฝ่ายสินไหมรถยนต์  พร้อมทีม TIP Smart Assist   ร่วมพิธีปล่อยแถวเตรียมความพร้อมดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ให้บริการช่วยเหลือประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มอบน้ำดื่มทิพย จำนวน 1,200 ขวด  และบ๊วยเค็ม  ให้แก่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.)  เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมเป็นกำลังใจในการดูแลประชาชนทั่วประเทศ โดยมี พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ สว่างงาม ผู้บังคับการตำรวจจราจร เป็นผู้รับมอบ และได้รับเกียรติจาก พล.ต.ต.สันติ์นที ประยูรรัตน์ ที่ปรึกษาฝ่ายธุรกิจภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมพิธีในครั้งนี้  ณ กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.)

บำรุงราษฎร์ สานต่อโครงการ “ตำรวจ (ปอด) ปลอดภัย” ประจำปี 2568 ส่งต่อความห่วงใยสุขภาพให้แก่ตำรวจจราจร สน.ลุมพินี เพื่อบรรเทาผลกระทบทางสุขภาพจากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน

สายการบินเวียตเจ็ท (เวียดนาม) ให้บริการเที่ยวบินพิเศษ 2 เที่ยว ได้แก่ VJ2875 และ VJ2877 ด้วยเครื่องบินแอร์บัส A330 และ A321 ขนส่งทีมกู้ภัยเวียดนามสู่เมียนมา เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนการบรรเทาทุกข์จากเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาร์ เที่ยวบินทั้งสองออกจากท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย ฮานอย สู่ ย่างกุ้ง ในช่วงบ่ายของวันที่ 30 มีนาคม 2568 พร้อมเจ้าหน้าที่จากกระทรวงความมั่นคงสาธารณะและกระทรวงกลาโหมของเวียดนาม

เวียตเจ็ทเร่งดำเนินการขออนุญาตบินและเตรียมความพร้อมด้านเทคนิคอย่างรวดเร็ว โดยมอบหมายลูกเรือและพนักงานที่มีประสบการณ์สนับสนุนภารกิจนี้ เที่ยวบินดังกล่าวขนส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยจำนวน 106 นาย พร้อมสุนัขค้นหาและอุปกรณ์ช่วยเหลือกว่า 60 ตัน อาทิ อุปกรณ์ทางการแพทย์และอาหาร เพื่อช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัย

นาย Dinh Viet Phoung ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเวียตเจ็ท กล่าวว่า “เวียตเจ็ทมีความพร้อมสำหรับภารกิจพิเศษเสมอ เราจัดเตรียมทุกอย่างอย่างรวดเร็ว เพื่อส่งทีมกู้ภัยไปยังเมียนมาโดยเร่งด่วน เพื่อให้ความช่วยเหลือเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที”

เจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมงานเวียตเจ็ทเร่งขนถ่ายสิ่งของและนำส่งไปยังพื้นที่ประสบภัยทันทีที่เครื่องบินลงจอด ณ ย่างกุ้ง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตำรวจ และทหารเข้าร่วมปฏิบัติการค้นหา กู้ภัย และให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์

เวียตเจ็ทมุ่งมั่นในการปฏิบัติภารกิจด้านมนุษยธรรมควบคู่กับการบริการมาอย่างต่อเนื่อง โดยเคยให้บริการเที่ยวบินบรรเทาทุกข์ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่อินโดนีเซียในปี 2561 พายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่ฟิลิปปินส์ในปี 2556 และช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งได้ขนส่งบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ภาครัฐเพื่อบรรเทาทุกข์ เวียตเจ็ทยังคงให้ความสำคัญกับกิจกรรมการกุศลและการช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ เวียตเจ็ทไทยแลนด์ออกนโยบายสนับสนุนผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว โดยผู้โดยสารที่เดินทางไปยังกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) ระหว่างวันที่ 28 – 31 มีนาคม 2568 สามารถเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินในเส้นทางเดิมได้ 1 ครั้ง (โดยไม่มีค่าใช้จ่าย) กำหนดวันเดินทางใหม่ภายใน 30 วัน นับจากวันเดินทางเดิม หรือเลือกรับค่าบัตรโดยสารคืนในรูปแบบวงเงินเครดิตเชลล์ เพื่อใช้ภายใน 365 วัน นับจากวันเดินทางเดิม นโยบายนี้ครอบคลุมเที่ยวบินของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ รวมถึงเที่ยวบินเชื่อมต่อ (เที่ยวบินรหัส VZ) และมีผลบังคับใช้ทันที ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านช่องทางติดต่อทางการของสายการบินฯ หรือที่เว็บไซต์ www.vietjetair.com

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ตั้งคณะทำงาน “ช่วยเหลือ – ให้คำปรึกษา” ฟรี บ้านที่ได้ผลกระทบจาก “แผ่นดินไหว” เริ่ม 1 – 30 เมษายน 2568  

นายอนันต์กร อมรวาที นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association : HBA) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านในฐานะองค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนธุรกิจรับสร้างบ้าน และช่วยเหลือภาคสังคม และผู้บริโภค ได้ตระหนักดีถึงผลกระทบจากภัยพิบัติ ซึ่งเกิดขึ้นกับบ้านพักอาศัยของประชาชน เป็นความเดือดร้อนที่ไม่อาจมองข้ามได้ ด้วยความห่วงใยต่อผลกระทบ สมาคมฯ ได้จัดตั้งคณะทำงานที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สร้างบ้านกว่า 20 ปี เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนทั่วไปสำหรับบ้านในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้

โดยคณะทำงานในฐานะผู้เชี่ยวชาญสามารถให้คำแนะนำสำหรับประชาชนทั่วไปที่ต้องการปรึกษา หรือ ขอความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ สามารถส่งข้อความ Inbox ผ่านทาง Facebook Messenger แจ้งมาที่เพจ: สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 เมษายน 2568

สำหรับแนวทางเบื้องต้นให้ผู้บริโภค สำรวจรอยแตกร้าวในบ้านพักอาศัย โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว

1. เกิดรอยร้าวที่ผนังก่ออิฐเป็นลักษณะรอยแตกเส้นเล็กเหมือนแตกลายงา แต่ไม่กระทบกระเทือนไปถึงโครงสร้างหลักของบ้าน ให้เฝ้าติดตาม หากไม่มีการแตกร้าวเพิ่มเติม ถือว่ามีความเสี่ยงน้อย

2. เกิดรอยแตกร้าวที่ผนังก่ออิฐที่มีรอยแยก และมีความลึกเกิน 1 มิลลิเมตร หรือ ลึกไปจนเห็นวัสดุก่ออิฐภายใน แต่ยังไม่มีรอยร้าวกระทบไปถึงโครงสร้างหลักของบ้าน ถือว่ามีความเสี่ยงปานกลาง ควรแจ้งวิศวกรเข้ามาช่วยตรวจสอบ

3. เกิดรอยร้าวกระทบไปถึงโครงสร้างหลักของบ้าน เช่น เสา คาน พื้น หรือ รอยแยกตามหลังคาไม่ว่าจะเป็นรอยร้าวในรูปแบบใดก็ตาม ถือว่ามีความเสี่ยงสูง ควรแจ้งวิศวกรเข้ามาตรวจสอบทันที

สมาคมฯ พร้อมทุ่มเทและนำความเชี่ยวชาญในเรื่องการสร้างบ้านทั้งหมดช่วยเหลือประชาชน ผ่านการจัดตั้งคณะทำงานช่วยเหลือให้ข้อมูลเรื่องบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ เพื่อให้เราก้าวผ่านความยากลำบากในช่วงนี้ไปด้วยกัน

มูลนิธิเฮอริเทจ (ประเทศไทย) ภายใต้การดูแลของเครือเฮอริเทจ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ นำโดย วลัยทิพย์ ซื่อตรงมั่นคง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร เครือเฮอริเทจ พร้อมด้วยพนักงานในเครือฯ จัดกิจกรรมโครงการ “แบ่งปัน สานฝันการศึกษา” ครั้งที่ 8 เพื่อส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กๆ ในพื้นที่ห่างไกล โดยในครั้งนี้ ได้ดำเนินการสร้างห้องน้ำอนุบาล ซ่อมแซมปรับปรุงสนามเด็กเล่น สนามกีฬา เพื่อให้เด็กๆ มีพื้นที่สำหรับการเล่นและเรียนรู้ที่เหมาะสม พร้อมมอบผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในเครือเฮอริเทจ อุปกรณ์ทำความสะอาดสำหรับห้องน้ำอนุบาล สื่อการเรียนห้องเรียนมอนเตสซอรี อุปกรณ์กีฬา และเสื้อผ้าจากพนักงานในเครือฯ เมื่อวันที่ 27 -28 มีนาคม 2568 ณ โรงเรียนบ้านกองม่องทะ สาขาบ้านสาละวะ ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี ชัยศักดิ์ ภูมูล ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกองม่องทะ เป็นผู้รับมอบ

สืบเนื่องเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างในพื้นที่เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เกิดการถล่มซึ่งทุกฝ่ายกำลังระดมความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนนั้น บริษัท ซีพีแรม จำกัด (CPRAM) จึงเร่งนำผลิตภัณฑ์ขนมปังเลอแปงส่งมอบให้แก่กองทัพภาคที่ 1 และมูลนิธิองค์กรทำดี โดย ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนทีมกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ให้สามารถปฏิบัติภารกิจครั้งสำคัญนี้ได้อย่างเต็มกำลัง และผ่านพ้นเหตุการณ์สำคัญครั้งนี้ไปได้อย่างราบรื่น

 

ซีพีแรม ขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบกำลังใจ และสนับสนุนด้านอาหารพร้อมรับประทาน แก่ทีมกู้ภัย เจ้าหน้าที่ ทีมงาน ผู้ประสบภัย และญาติผู้ได้รับผลกระทบที่มาเฝ้ารอ ได้รับประทานอาหารคุณภาพ ปลอดภัย และสะดวกเหมาะกับสถานการณ์ #เคียงข้างคนไทยห่วงใยไม่ห่าง

 

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปันน้ำใจ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว และเจ้าหน้าที่ที่คอยช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยบริษัทฯ ได้มอบน้ำดื่ม จำนวน 1,000 ขวด ให้แก่เทศกิจ เขตจตุจักร เพื่อกระจายไปยังประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตแผ่นดินไหว ทั้งนี้บริษัทฯ ขอแสดงความห่วงใย และส่งกำลังใจให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในครั้งนี้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ พนักงานทุกภาคส่วน และขอให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว

โดยการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในครั้งนี้ สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯที่ พร้อมอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป

ทรู คอร์ปอเรชั่น ทุ่มกำลังสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวและอาคารกำลังก่อสร้างย่านจตุจักรถล่ม ด้วยการวางโซลูชันเสริมสัญญาณมือถือเพื่อให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานกู้ภัยสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมเสริมรถโมบายล์สถานีฐานเคลื่อนที่เร็ว เพิ่มประสิทธิภาพสัญญาณมือถือให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ปฏิบัติการใช้งานด้วยประสิทธิภาพสูง

นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "บริษัทฯ ห่วงใยและขอแสดงความเสียใจต่อผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว เราเร่งระดมกำลังเพื่อสนับสนุนการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ โดยร่วมมือกับภาครัฐในการใช้ข้อมูลภาพรวมของการใช้งานเครือข่ายที่ไม่สามารถระบุตัวตน (non-identifiable network insights) ของผู้ใช้งานในช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุ การวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวช่วยให้สามารถประเมินแนวโน้มได้ว่า ผู้ใช้บริการรายใดอาจยังติดอยู่ในซากอาคารหรือได้รับความปลอดภัยแล้ว โดยบริษัทฯ ได้จัดทีมศูนย์บริการลูกค้า (Call Center) ติดต่อสอบถามผู้ใช้บริการ หากพบว่าไม่สามารถติดต่อได้ จะนำข้อมูลส่งต่อให้หน่วยกู้ภัยเพื่อเร่งค้นหาผู้ที่คาดว่ายังติดอยู่ในพื้นที่ประสบเหตุ”

ทั้งนี้ บริษัทฯ ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐในกรณีจำเป็นตามอำนาจตามกฎหมาย โดยยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการเพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนการปฏิบัติงานและเร่งค้นหาผู้สูญหายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย

บริษัทฯ สนับสนุนภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยการใช้ข้อมูล ลักษณะการส่งสัญญาณในระบบเครือข่าย (network-level signaling patterns) เพื่อนำไปใช้ในการประเมินสภาพพื้นที่ การเข้าถึงของอุปกรณ์สื่อสาร และการวางแผนเชิงพื้นที่โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉินมีประสิทธิภาพสูงสุดจากการส่งสัญญาณมือถือที่เคยมีอยู่ในพื้นที่เสี่ยงก่อนเกิดเหตุ และเปรียบเทียบกับข้อมูลหลังเกิดเหตุ เพื่อใช้เป็นดาต้าสนับสนุนการคาดการณ์เป็นผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในอาคาร หรือออกนอกอาคารถล่ม และประเมินจำนวนผู้ประสบเหตุ เพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐสามารถวางแผนค้นหาและเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้อย่างแม่นยำ

ทรู คอร์ปอเรชั่นนำทีมจัดเพิ่มสัญญาณมือถือในพื้นที่ประสบภัยอาคารถล่ม

· เพิ่มรถโมบายล์สถานีฐานเคลื่อนที่เร็ว (COW) จำนวน 2 คัน

· พารามิเตอร์สัญญาณ (Event Parameter) ปรับแต่งค่าสัญญาณตามพฤติกรรมการใช้งาน

· จัดทีมวิศวกรเน็ตเวิร์กประจำพื้นที่อาคารถล่ม

· BNIC ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ พร้อม AI พร้อมดูแลและบริหารเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ทรูได้ยกระดับมาตรการรับมือสถานการณ์แผ่นดินด้วยการจัดตั้ง "วอร์รูม ที่ BNIC ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ พร้อม AI พร้อมดูแลและบริหารเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง ทีมงานได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับเหตุการณ์ After shock ที่อาจเกิดขึ้นในระยะต่อไป ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจว่าประชาชนและหน่วยงานกู้ภัยจะยังคงสามารถใช้บริการการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดแม้ในยามวิกฤติ

X

Right Click

No right click