October 22, 2024

นายทะกุมิ คะซะริโมะโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท วันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร จำกัด (ขวามือ) มอบผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตรา ยำยำ จำนวน 300 ลัง มูลค่ารวม 201,600 บาท แก่มูลนิธิกระจกเงา โดยนายอุเทน นึกถึง เจ้าหน้าที่โครงการแบ่งปันเพื่อการเปลี่ยนแปลง มูลนิธิกระจกเงา (ซ้ายมือ) เป็นตัวแทนในการรับมอบ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคเหนือ พร้อมเตรียมบริจาคเพิ่มเติมให้กับหลายหน่วยงาน องค์กร และมูลนิธิ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นขณะนี้

ทรู คอร์ปอเรชั่นเร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่แม่สาย จ. เชียงราย จัดทีมทรูร่วมลงพื้นที่ช่วยอพยพผู้ที่ติดค้างตามบ้าน มอบความช่วยเหลืออาหาร-น้ำดื่ม-เสื้อ พร้อมทั้งยกระดับมาตรการรับมือภัยพิบัติฉุกเฉินดูแลการสื่อสารในพื้นที่ให้บริการได้ต่อเนื่อง

ทีมงานจากทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ลงพื้นที่น้ำท่วมเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในจังหวัดเชียงราย ส่งรถโมบายล์ชุมสายเคลื่อนที่เร็ว (COW) ประจำจุดฉุกเฉิน และศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อรองรับการสื่อสารในภาวะภัยพิบัติ พร้อมทีมภาคเข้าพื้นที่น้ำท่วมบางแห่งเพื่อร่วมช่วยเหลือและลำเลียงผู้ประสบภัยออกจากบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม เพื่อนำไปยังพื้นที่ปลอดภัย

นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ทีมเน็ตเวิร์กของทรูได้นำเครื่องปั่นไฟและน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปในพื้นที่น้ำท่วม จังหวัดเชียงราย ตามจุดที่สถานการณ์เริ่มอำนวยจากมวลน้ำป่าไหลแรง เพื่อให้เสาสัญญาณในจุดที่การไฟฟ้าจำเป็นต้องตัดกระแสไฟเพื่อความปลอดภัย ให้ทำงานต่อได้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ยังสามารถติดต่อสื่อสารได้แม้ในภาวะวิกฤต พร้อมกันนี้ เราก็เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ด้วย”

ทางด้านการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้จัดตั้งทีมปฏิบัติการพิเศษประจำศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ หรือ BNIC ซึ่งทำงานร่วมกับระบบ AI เพื่อดูแลเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมด้านเครื่องมือ อุปกรณ์สำรอง และทีมเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลเสาสัญญาณ รวมถึงการเตรียมรถขับเคลื่อน 4 ล้อ และเรือท้องแบน สำหรับนำเครื่องปั่นไฟฉุกเฉินเข้าพื้นที่เสาสัญญาณที่ได้รับผลกระทบ

ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าในพื้นที่ประสบภัย โดยขยายวันใช้งานให้ลูกค้าเติมเงินเพิ่มอีก 7 วัน พร้อมระงับการตัดสัญญาณ และขยายเวลาชำระค่าบริการแก่ลูกค้ารายเดือนของทรูมูฟ เอช ดีแทค ทรูออนไลน์ และทรูวิชั่นส์ เพิ่มอีก 7 วันเช่นกัน

ทั้งนี้ ทีมปฏิบัติการพิเศษประจำ War Room ของทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ในทุกจังหวัดที่ประสบอุทกภัยและระวังเส้นทางมวลน้ำไหลผ่าน เพื่อเตรียมรับมือตามแผนปฏิบัติการฉุกเฉินเพื่อดูแลระบบสื่อสารในช่วงวิกฤต และช่วยเหลือชุมชนที่ประสบภัย

 โรงพยาบาลรามคำแหง จัดงานแถลงข่าวเตรียมความพร้อมจัดกิจกรรมวิ่งเพื่อการกุศล “Ram Hero Run 2024” วิ่งปลอดภัย เพื่อทุกหัวใจแข็งแรงโดยมีกำหนดจัดในวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2567 ณ หน้าลานอินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพ และมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม โดยรายได้ส่วนหนึ่งมอบให้ มูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ภายในงานได้รับเกียรติจาก ดร.ฤกขจี กาญจนพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง และบริษัทในเครือ, มร.ทีโบลท์ สพิธากิส Chief Marketing Officer และกรรมการบริหาร โรงพยาบาลรามคำแหง และนางสาวทัศน์วรรณ ศิริวงศ์ กรรมการบริหาร โรงพยาบาลรามคำแหง ในฐานะประธานการจัดงาน พร้อมด้วย ตัวแทนจากมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี, คณะแพทย์ผู้ชำนาญการ, ดารานักแสดง อาทิ ฮาย - ชุติมา สิงห์ใจชื่น, โอ๊ต - รัฐธีร์ วรโรจน์โยธิน, พาขวัญ - พาขวัญ น้อยใจบุญ, จ๊ะจ๋า - จินต์จุฑา ศิริเพ็ง และเหล่าอินฟูลเอนเซอร์นักวิ่ง เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ โรงพยาบาลรามคำแหง

ดร.ฤกขจี กาญจนพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง และบริษัทในเครือ เปิดเผยว่า “โรงพยาบาลรามคำแหงของเราไม่เพียงแต่รักษาผู้ป่วย แต่เรามุ่งมั่นที่จะร่วมสร้างสรรค์สังคม ผ่านบริการและกิจกรรมที่จะร่วมสร้างอนาคตที่ทำให้ทุกชีวิตมีสุขภาพที่แข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ดังความมุ่งมั่นของโรงพยาบาลที่จะ “ตอบทุกความต้องการ เชี่ยวชาญทุกการดูแล” จึงริเริ่มจัดกิจกรรมวิ่งการกุศล “Ram Hero Run 2024” วิ่งปลอดภัย เพื่อทุกหัวใจแข็งแรง ขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ย้ำภาพการเป็นโรงพยาบาลที่ร่วมสร้างสังคมสุขภาพดี”

มร.ทีโบลท์ สพิธากิส Chief Marketing Officer และกรรมการบริหาร กล่าวถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า “เรามีความมุ่งหวังในการส่งเสริมสุขภาพของผู้คนให้มีสุขภาพที่ดี เพื่อเป็นสิ่งตอบแทนความไว้วางใจที่มอบให้กับทางโรงพยาบาลตลอดมา เพราะกิจกรรมวิ่งการกุศล “Ram Hero Run 2024” วิ่งปลอดภัย เพื่อทุกหัวใจแข็งแรง ในครั้งนี้ไม่ใช่แค่เป็นเรื่องของการทำลายสถิติ หรือการแข่งขัน แต่เป็นเรื่องของการมีสุขภาพที่ดี การเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ตนเอง และเป็นการสร้างพลังให้กับชุมชนอีกด้วย โดยตั้งเป้าเชิญชวนผู้ชื่นชอบในการวิ่ง และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงาน 5000 คน โดยรายได้ส่วนหนึ่งมอบให้ มูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อใช้ในกิจกรรมของมูลนิธิต่อไป”

ด้าน นางสาวทัศน์วรรณ ศิริวงศ์ กรรมการบริหาร โรงพยาบาลรามคำแหง กล่าวเสริมว่า “การแข่งขันวิ่ง “Ram Hero Run 2024” วิ่งปลอดภัย เพื่อทุกหัวใจแข็งแรง แบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ แฟมิลี่ รัน ระยะทาง 3 กิโลเมตร, ฟันรัน ระยะทาง 5 กิโลเมตร, มินิ มาราธอน ระยะทาง 10 กิโลเมตร และฮาล์ฟ มาราธอน ระยะทาง 21 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางการวิ่งได้รับการวัดระยะและรับรองจากสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ยังใช้ระบบ Chip Time มาตรฐานระดับสากลในการตัดสิน เพื่อความเป็นธรรมแก่นักวิ่งทุกคน และสำหรับผู้เข้าร่วมงานจะได้รับเสื้อที่ระลึก, เหรียญรางวัล, BIB หมายเลขการแข่งขัน และบัตรสมาชิกโรงพยาบาลรามคำแหง ทั้งนี้ โรงพยาบาลรามคำแหง พร้อมดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้ร่วมงานตลอดเส้นทาง โดยมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และจุดบริการรถพยาบาลฉุกเฉิน (Ambulance) พร้อมทีมปฐมพยาบาล อีกทั้งยังมีทีมนักวิ่งฮีโร่ที่ผ่านการอบรม BASIC LIFE SUPPORT (CPR)​ และการใช้เครื่อง AED ซึ่งเป็นผู้ที่มีทักษะสามารถช่วยเหลือชีวิตเบื้องต้น วิ่งกระจายตัวอยู่ในทุกระยะ เพื่อให้นักวิ่งอุ่นใจตลอดการวิ่ง นอกจากนี้โรงพยาบาลยังมีบูธ RAM HEALTH & FIT FAIR จัดกิจกรรมให้ความรู้และตรวจสุขภาพเบื้องต้นไว้คอยให้บริการแก่นักวิ่ง พร้อมกิจกรรมเล่นเกมรับของที่ระลึกไว้ให้ร่วมสนุกกันอีกด้วย”


กิจกรรมวิ่งเพื่อการกุศล “Ram Hero Run 2024” วิ่งปลอดภัย เพื่อทุกหัวใจแข็งแรง จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2567 ณ หน้าลานอินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก บุคคลทั่วไปสามารถร่วมสนุกในบูธกิจกรรมได้ตั้งแต่เวลา 08.15 – 11.00 น. สำหรับในวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2567 เตรียมรับความสนุกสุดฟินในวันรับ BIB จากนักแสดงชื่อดังของเมืองไทยที่มาร่วมสร้างสีสัน และนำโชว์สุดพิเศษมาให้แฟน ๆ ได้ร่วมฟินตลอดทั้งงาน ณ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ และสามารถร่วมบริจาคเพื่อสมทบทุนกิจกรรมผ่านบัญชี โครงการ “อุ่นรักไอราม” ธนาคารทหารไทยธนชาติ เลขบัญชี 666-2-07194-0
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครร่วมงานได้ที่ www.runlah.com เปิดรับสมัครรอบ Early Bird ตั้งแต่ 10 – 30 กันยายน 2567 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/RamHeroRun

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยนายธีรยุทธ กิจวรพัฒน์ ผู้อำนวยการ ธุรกิจสาขาและการร่วมทุน นำพนักงานจิตอาสาของบริษัทฯ กว่า 30 คน ที่ร่วมโครงการ BKI อาสาพัฒนาโรงเรียน ทำกิจกรรมพัฒนาโรงเรียนวัดเขาพระ โดยการสร้างแปลงผักและปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบประกอบอาหารเช้าและอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียน พร้อมการติดตั้งสปริงเกอร์สำหรับรดน้ำและตาข่ายกรองแสงสำหรับคลุมแปลงผักเพื่อการเติบโตที่ดี อีกทั้งจัดเลี้ยงอาหารกลางวันน้องๆ นักเรียน โดยมีนางสาววิจิตรา อินทรมณี ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมด้วยคณะครูและนักเรียนให้การต้อนรับและร่วมทำกิจกรรม ณ โรงเรียนวัดเขาพระ อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2567

ทั้งนี้ โครงการ BKI อาสาพัฒนาโรงเรียน เป็นหนึ่งในโครงการที่บริษัทฯ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยนำพนักงานจิตอาสาร่วมทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ ทั้งด้านการศึกษาและความเป็นอยู่ของนักเรียนในโรงเรียนให้มีสุขอนามัยที่ดี และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารประกาศแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Emissions Roadmap ภายในปี 2050 เพื่อมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้า Net Zero ทั้ง 3 Scope รวมถึงกำหนดมาตรการสนับสนุนเพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ เช่น การปลูกป่าทดแทนพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม และการอนุรักษ์ป่า รวม 50,000 ไร่ ภายใน 10 ปี เพื่อเพิ่มอาณาเขตป่าที่เป็นแหล่งดูดซับคาร์บอน ภายใต้ชื่อโครงการ “ปลูกป้องโลก” ซึ่งธนาคารได้คิกออฟการปลูกป่าออมสิน แปลงที่ 1 ขนาด 1,600 ไร่ ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ อำเภอด่านซ้าย และอำเภอภูเรือ จังหวัดเลย โดยได้รับเกียรติจากนายอนุพงศ์ คำภูแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายสราวุฒิ บุญเกื้อ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและพนักงานธนาคารออมสิน นำโดย นางสาววชิรา การสุทธิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานความยั่งยืน นายสุชาติ เจริญธรรม ผู้อำนวยการธนาคารออมสินภาค 10 และทีมงานทั้งจากธนาคารออมสิน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการกว่า 100 ชีวิต ได้ร่วมกันปลูกต้นกล้าพันธุ์ไม้ รวม 11 ชนิด เช่น ไม้สัก ไม้แดง ยางนา มะค่าโมง ประดู่ป่า ตะเคียนทอง ตะแบก ฯลฯ

“โครงการปลูกป้องโลก” เป็นมาตรการสนับสนุนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผน Net Zero 2050 ตามมติคณะกรรมการธนาคารออมสิน ตั้งเป้าปลูกป่าทดแทนป่าเสื่อมโทรมขนาดพื้นที่ 30,000 ไร่ และการอนุรักษ์ป่าขนาดพื้นที่ 20,000 ไร่ รวมจำนวนพื้นที่ป่าโดยธนาคารออมสินตลอดระยะเวลา 10 ปี (ปี 2567 – 2576) รวม 50,000 ไร่ คิดเป็นปริมาณคาร์บอนที่ดูดซับสะสมกว่า 35,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ (tCO2) โดยโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากกรมป่าไม้ในการจัดสรรพื้นที่ปลูกป่าทดแทนให้ได้ตามเป้าหมาย (ไม่รวมพื้นที่ป่าอนุรักษ์) นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างรายได้จากการดำเนินการปลูกและบำรุงรักษาป่าให้กับชาวบ้านของชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ และเป็นการปลูกฝังสร้างจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม และกระตุ้นการใส่ใจปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแก่ชุมชนต้นน้ำอีกด้วย

ลอรีอัล กรุ๊ป ในประเทศไทย จับมือพันธมิตรเดินหน้าพัฒนาต่อยอดโครงการจัดจ้างผู้ขาดโอกาสทางสังคม (Inclusive Sourcing Program) เป็นปีที่ 11 มอบโอกาสที่เท่าเทียมทางอาชีพให้แก่ผู้ขาดโอกาสทางสังคม มุ่งเน้นการกระจายโอกาสในการทำงาน การสร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงให้กับกลุ่มผู้พิการและผู้สูงอายุเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชน พร้อมจัดงาน “Partnership Day” มอบรางวัลยกย่องพันธมิตรทั้งเก่าและใหม่ ที่ร่วมกันดำเนินโครงการอย่างเต็มกำลัง

และมุ่งขยายโครงการฯ ไปยังพันธมิตรทางธุรกิจให้มากขึ้น เพื่อช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ผู้ขาดโอกาสเพิ่มขึ้นในประเทศไทย นอกจากนั้น ภายในงานยังมีการอัปเดตการดำเนินงานด้านความยั่งยืนภายในประเทศ ตามวิสัยทัศน์ L’Oréal For The Future ที่มุ่งเร่งเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานให้คำนึงถึงขีดจำกัดความปลอดภัยของโลก และร่วมแก้ไขปัญหาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเร่งด่วนโดยทีมงานลอรีอัลด้วยเช่นกัน

นายแพทริค จีโร กรรมการผู้จัดการ ลอรีอัล ประเทศไทย เมียนมาร์ ลาว และกัมพูชากล่าวว่า “ในฐานะบริษัทผู้นำด้านความงามระดับโลกที่มีเป้าหมายในการสร้างความงามที่ขับเคลื่อนโลก ลอรีอัล ให้ความสำคัญในการทำงานที่ช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกทางสังคมและสิ่งแวดล้อมในทุกชุมชนที่เราดำเนินธุรกิจไปพร้อมๆ กับการเติบโตทางธุรกิจ นอกจากนั้น เรายังตระหนักดีถึงความหนักหนาของปัญหาที่โลกและสังคมกำลังเผชิญ และความจำเป็นที่ทุกๆ ฝ่ายต้องเข้ามามีส่วนร่วม เราจึงมุ่งส่งเสริมให้พันธมิตรทางธุรกิจของเรา ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโอกาสให้กลุ่มคนที่ขาดโอกาสทางสังคมผ่านโครงการจัดจ้างผู้ขาดโอกาสทางสังคม (Inclusive Sourcing Program) ซึ่งถือเป็นหนึ่งโครงการสำคัญ โดยลอรีอัล กรุ๊ป ได้ตั้งเป้าในการช่วยผู้ขาดโอกาสทั่วโลกเพิ่มขึ้นอีก 100,000 คนภายในปี 2030”

จากเป้าหมายของลอรีอัล กรุ๊ปในการช่วยผู้ขาดโอกาสทั่วโลกเพิ่มขึ้นอีก 100,000 คนภายในปี 2030 นั้น ในปี 2023 ได้ดำเนินโครงการไปแล้วทั้งสิ้น 429 โครงการครอบคลุมพื้นที่ 1,069 แห่งใน 67 ประเทศ และช่วยให้คนกว่า 93,165 คนให้สามารถเข้าถึงงานได้ โดยการทำงานครอบคลุมทั้งในด้าน การจ้างงานผู้ขาดโอกาส และการจัดซื้อวัตถุดิบจากชุมชน ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการ Inclusive Sourcing และการให้โอกาสทางอาชีพผ่านการอบรบทักษะอาชีพเสริมสวยภายใต้โครงการ Beauty for a Better Life

“ในส่วนของลอรีอัล กรุ๊ป ในประเทศไทยนั้น เริ่มดำเนินโครงการ Inclusive Sourcing จัดจ้างผู้ขาดโอกาสทางสังคมมาตั้งแต่ปี 2014 จากจุดเริ่มต้นที่มีผู้ขาดโอกาสทางสังคมที่ได้รับประโยชน์ผ่านโครงการนี้ 6 คนในปีแรก มาเป็น 234 คนในปี 2024 และยังมีการขยายโครงการในการสร้างรายได้ให้บริษัทรายเล็กกลุ่ม SMEs และบริษัทสตรีเป็นเจ้าของ เรายังคงมุ่งหน้าผลักดันความร่วมมือกับพันธมิตรของเรา พร้อมกับการมองหาพันธมิตรใหม่ที่จะเข้าเป็นส่วนหนึ่งในการเส้นทางการสร้างความงามที่ขับเคลื่อนโลก ตามพันธกิจเพื่อความยั่งยืนของเรา พันธมิตรทางธุรกิจคือกุญแจความสำเร็จในการดำเนินโครงการนี้ของเรา Partnership Day ถือเป็นวันสำคัญที่ลอรีอัล กรุ๊ป ในประเทศไทย จัดขึ้นตั้งแต่ปี 2016 เพื่อเชิดชูเกียรติพันธมิตรทางธุรกิจ ที่มีวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นร่วมกัน ในการขับเคลื่อนสังคมอย่างยั่งยืน” นางสาวอรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กรและสื่อสารสัมพันธ์ ลอรีอัล ประเทศไทย เมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา กล่าวเสริม

 

ในปีนี้ ลอรีอัล กรุ๊ป ได้มอบรางวัลยกย่องพันธมิตรทั้งเก่าและใหม่ ที่ร่วมกันดำเนินโครงการอย่างเต็มกำลัง พันธมิตรประเภท Silver ได้แก่ บริษัท ฟรองค์ อินเตอร์เทรด จำกัด, พันธมิตรประเภท Gold ได้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.ที.รีแพ็ค และพันธมิตรประเภท Platinum ได้แก่ บริษัท พีเอ็มจี อินทิเกรทเต็ด คอมมิวนิเคชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด และยังได้ต้อนรับบริษัท SMEs และบริษัทที่มีสตรีเป็นเจ้าของที่ได้รับโอกาสการจ้างงานจากบริษัทฯ และในเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้

นอกจากการมอบรางวัลยกย่องพันธมิตรแล้ว ลอรีอัล กรุ๊ปยังอัปเดตการดำเนินการตามวิสัยทัศน์เพื่อความยั่งยืน L’Oréal For The Future ซึ่งมีการดำเนินงานจริงจังในหลากหลายมิติ เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนของกรุ๊ป ครอบคลุมในเรื่องของการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ (Fighting Climate Change), การจัดการน้ำอย่างยั่งยืน (Manage Water Sustainably), เคารพความหลากหลายทางชีวภาพ (Respecting Biodiversity) และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (Preserving Natural Resources) โดยในส่วนของลอรีอัล ประเทศไทยนั้น มีการดำเนินงานเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การเริ่มนำรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า (EV Truck) มาใช้สำหรับการขนส่งสินค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และการใช้มาตรการเข้มงวดในการลดการขนส่งสินค้าทางอากาศ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ อันเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการทำงานในด้านการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ

ภายในงาน ลอรีอัล ยังได้เสริมความเข้าใจร่วมกันในเป้าหมายด้านความยั่งยืนภายใต้ L’Oréal For The Future โดยเน้นในการทำงานในส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับทางพันธมิตร เพื่อให้การทำงานร่วมกันเป็นไปตามเป้าหมายด้านความยั่งยืน อาทิ การออกแบบและสร้างจุดวางสินค้าและร้านค้าบนหลักการความยั่งยืนที่คำนึงถึงการเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลหรือสามารถนำไปรีไซเคิลได้เมื่อสิ้นอายุการใช้งาน การจัดงานอีเว้นท์ที่คำนึงถึงการใช้วัสดุและการลดขยะสิ้นเปลือง การทำการสื่อสารการตลาดบนกล่องบรรจุภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) นำผู้บริหารและพนักงาน EXIM BANK มอบทุนการศึกษาด้านคอมพิวเตอร์เพื่อการประกอบอาชีพแก่เพื่อนผู้พิการผ่านมูลนิธิส่งเสริมและพัฒนาคนพิการ จังหวัดนนทบุรี จำนวน 10 ทุน เป็นเงิน 300,000 บาท ภายใต้โครงการ “EXIM เพื่อโอกาสในการประกอบอาชีพ” โดยมีนายธีรวัฒน์ ธัญลักษณ์ภาคย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เป็นผู้รับมอบ เพื่อส่งเสริมให้ผู้พิการมีความรู้และทักษะด้านคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของ EXIM BANK เพื่อช่วยเหลือให้เพื่อนผู้พิการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและการประกอบอาชีพ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ณ มูลนิธิส่งเสริมและพัฒนาคนพิการ จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567

Rachel Gupta (ราเชล กุบตา) มิสแกรนด์อินเดีย 2024 เข้าเยี่ยมเด็กที่มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ชุมชนคลองเตย กรุงเทพฯ ระหว่างการเยือนประเทศไทย โดยได้ร่วมทำกิจกรรมการกุศลครั้งนี้ด้วยการบริจาคสิ่งของจำเป็นมูลค่ากว่า 10,000 บาท เพื่อสนับสนุนให้มูลนิธิได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป

มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเด็กปฐมวัยและมีส่วนร่วมในโครงการชุมชนสัมพันธ์ที่มุ่งพัฒนาสภาพความเป็นอยู่และสร้างอนาคตที่ดีสำหรับเด็กและครอบครัวในพื้นที่ชุมชนแออัด ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของ Rachel ในประเทศอินเดีย ซึ่ง Rachel ได้ทุ่มเทในการช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสให้เข้าถึงการศึกษา โดยได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนฝูง

ระหว่างการเยือนประเทศไทยครั้งนี้ Rachel ยังได้รับเกียรติเข้าร่วมงานประกวดมิสแกรนด์สระบุรี 2025 ในฐานะแขกรับเชิญคนสำคัญ โดยเข้าร่วมในรอบประกวดชุดว่ายน้ำและรอบตัดสินอีกด้วย

สำหรับการอัปเดตเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Rachel ติดตามได้ที่ อินสตาแกรม 

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ในฐานะผู้นำบริษัทฯ ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม หรือ Green Insurer ร่วมกับมูลนิธิ ลากูน่า ภูเก็ต และศูนย์วิจัยทรัพยากรทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน นำโดย คุณสุกัญญา อิสรานุวัฒน์ชัย รองประธานอาวุโส ฝ่ายสื่อสารการตลาดและภาพลักษณ์องค์กร (คนที่ 3 จากซ้าย) คุณอังคณา โตสิลานนท์ รองประธาน ฝ่ายทรัพยากรบุคคล  (คนที่ 3 จากขวา) พนักงานจิตอาสากรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต และเครือลากูน่า นักเรียนจากโรงเรียนมูลนธิลากูน่า ภูเก็ต พร้อมทั้งชาวบ้านคลองเคียง ร่วมกันปลูกป่าชายเลนปีที่ 2 ภายใต้โครงการ Save Our Sea จำนวน 1,200 ต้น ซึ่งสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ ได้มากถึง 32 ตันต่อปี ณ โรงเรียนคลองเคียนรัฐราษฏร์รังสรรค์ จ.พังงา

โดยกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต และพันธมิตรยังมีจุดมุ่งหมายร่วมกันผ่านความมุ่งมั่นใส่ใจสิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อมทะเลของประเทสไทย รวมถึงเป็นแรงขับเคลื่อน ส่งเสริม และกระตุ้นการปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ และรักษาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล (Climate Change & Biodiversity) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเจตนารมณ์ของบริษัทฯ ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม และส่งเสริมการพัฒนาพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะอยู่เคียงข้าง คุ้มครอง พร้อมใส่ใจสิ่งแวดล้อม

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามกิจกรรมเพื่อสังคมดีๆ จาก กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/Hearts.in.action.volunteers หรือ โทร 1159 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อเร็วๆ นี้ นายกิตติศักดิ์ ทองฟุก  รองผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการตลาด บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนเดินทางเข้ามอบเงินบริจาคพร้อมสิ่งของเครื่องใช้อุปโภค บริโภคที่จำเป็น ในโครงการ "ร่วมใจสานฝันน้อง"  กับกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ร่วมกับภาคธุรกิจประกันวินาศภัยและประกันชีวิต เพื่อร่วมบริจาคเครื่องอุปโภค บริโภค ให้แก่สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านราชาวดี ชายและหญิง จังหวัดนนทบุรี  โดยมี นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานในพิธีส่งมอบ พร้อมด้วย นายพิสิฐ พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ นายวินัย เก่งสุวรรณ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมสิทธิและสวัสดิการคนพิการ และตัวแทนจากบ้านราชาวดีชายและบ้านราชาวดีหญิง จังหวัดนนทบุรี เป็นผู้รับมอบ  ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นำไปสู่การพัฒนาสังคมและการแบ่งปัน รวมถึงสร้างความร่วมมือในภาคธุรกิจประกันวินาศภัยและประกันชีวิตอย่างยั่งยืน  

X

Right Click

No right click