December 20, 2025

AION เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ "Y So Amazing Trip" ให้กับลูกค้า AION Y Plus ได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรมแบบปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ สัมผัสอากาศดี ๆ ในเส้นทาง นครราชสีมา - ปราจีนบุรี - นครนายก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และสร้างชุมชน ในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus โดยกิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 และมีแผนที่จะจัดกิจกรรมต่อไปอย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อเสริมสร้างความประทับใจและความภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว AION Y Plus

ทริปนี้เริ่มต้นขึ้นในเช้าของวันที่ 18 ตุลาคม 2567 โดยขบวนคาราวาน AION Y Plus ได้ออกเดินทางจากโชว์รูม AION โกลด์ อินทิเกรท มีนบุรี ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นของผู้ร่วมเดินทางที่มารวมตัวกันตั้งแต่เช้า หลังจากลงทะเบียนและรับของที่ระลึก ผู้เข้าร่วมทริปได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมทั้งได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับเส้นทางและรายละเอียดของกิจกรรมก่อนจะเริ่มออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางแรก คือ จังหวัดนครราชสีมา

จุดหมายแรกของทริปอยู่ที่ ร้านอาหารบ้านไร่ปลายเนิน เพื่อรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติและภูเขา ผู้เข้าร่วมทริปต่างเพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศ พร้อมชมทิวทัศน์สวยงามของพื้นที่โดยรอบ

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว ขบวนคาราวานได้เดินทางไปยังโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จังหวัดนครราชสีมา โรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำแบบสูบกลับ (Underground Powerhouse) ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจในฐานะโรงไฟฟ้าใต้ดินแห่งแรกของประเทศไทย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้า รวมถึงได้สัมผัสกับธรรมชาติรอบข้างที่งดงาม สะท้อนถึงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีของ AION ในการสนับสนุนพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน

 

หลังจากจบทริปที่โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา ขบวนคาราวานได้เดินทางต่อไปยังโรงแรมเดอะเภรี เขาใหญ่ เพื่อเข้าพักผ่อนตามอัธยาศัย พร้อมกิจกรรมทำผ้าบาติก ในช่วงเย็นได้จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำในบรรยากาศที่อบอุ่น โดยสมาชิกผู้เข้าร่วมทริปต่างนั่งพูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้รถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง

วันที่สองของการเดินทาง ขบวนคาราวาน AION Y Plus มุ่งหน้าสู่ GranMonte หนึ่งในไร่องุ่นชื่อดังของเขาใหญ่ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากผู้ที่ชื่นชอบไวน์ ผู้เข้าร่วมทริปได้สัมผัสและเรียนรู้กระบวนการทำไวน์ตั้งแต่การปลูกองุ่นไปจนถึงการผลิตไวน์ รวมถึงสัมผัสกับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายท่ามกลางธรรมชาติของไร่องุ่นอีกด้วย

หลังจากเยี่ยมชมไร่องุ่นกันอย่างจุใจแล้ว ก็ได้เดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่เป็นแหล่งรวมสัตว์ป่าและพืชพรรณหลากหลายสายพันธุ์ ผู้เข้าร่วมทริปได้มีโอกาสเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ พร้อมทั้งฟังคำบรรยายจากเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับพืชพันธุ์และสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แบบเต็มที่ สร้างความประทับใจให้กับทุกคน ที่ได้สัมผัสความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

ขบวนคาราวานได้มุ่งหน้าต่อไปยังบ้านเล่าเรื่อง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการใช้สมุนไพรและอาหารเป็นยา ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้วิถีชีวิตดั้งเดิมและภูมิปัญญาพื้นบ้าน นอกจากนี้ ยังได้แวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุและแสดงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของภูมิภาคตะวันออกของประเทศไทย

ในวันสุดท้ายของทริป ขบวนคาราวาน AION Y Plus ได้เดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ เขาอีโต้ จังหวัดนครนายก เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมปล่อยปลาลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ เป็นกิจกรรมที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูและสร้างสมดุลให้กับระบบนิเวศ พร้อมทั้งสร้างความตระหนักรู้เรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หลังจากทำกิจกรรมร่วมกัน ผู้เข้าร่วมทริปได้เพลิดเพลินกับการชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของจุดชมวิวผาหินซ้อน และจุดชมวิวเขาอีโต้ ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่กว้างไกลของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก่อนจะปิดท้ายการเดินทางด้วยการรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารวินเทจ การ์เด้น ผู้เข้าร่วมทริปร่วมกันถ่ายภาพเพื่อเป็นที่ระลึกและเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ

 

ทริป "Y So Amazing Trip" ครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus ผ่านประสบการณ์การท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าประทับใจ ไม่เพียงแต่สร้างความพึงพอใจให้กับผู้ร่วมทริป แต่ยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของ AION ในฐานะแบรนด์ที่ใส่ใจลูกค้าและสร้างสรรค์กิจกรรมที่มีคุณค่า นอกจากนี้ ทริปดังกล่าวยังเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานรถยนต์ AION Y Plus และสร้างเครือข่ายในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า สะท้อนถึงแนวทางของบริษัทที่เน้นความเป็นมิตรและใส่ใจลูกค้า การจัดทริป "Y So Amazing Trip" ในครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นการมอบประสบการณ์ที่เหนือชั้นและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า

บริษัท โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมประกันสุขภาพ เปิดตัวบริการล่าสุด เพิ่มช่องทาง "พบแพทย์ออนไลน์" ผ่านแอปพลิเคชัน "MorDee” (หมอดี) เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพของลูกค้าให้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ไร้กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย โดยให้บริการครอบคลุม ดังนี้

- พบแพทย์ออนไลน์ ปรึกษาสุขภาพกายได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านสมาร์ทโฟน

- ลูกค้าประกันกลุ่มที่มีความคุ้มครอง OPD เคลมประกันได้ทันที ไม่ต้องสำรองจ่าย ทั้งค่าแพทย์ ค่ายา ตามวงเงินผลประโยชน์

- บริการส่งยาถึงบ้านหรือสถานที่ที่ลูกค้าต้องการทั่วประเทศ (พิเศษ! ฟรีค่าจัดส่งยา ตามเงื่อนไขและระยะเวลาตามที่แอปฯ "MorDee” (หมอดี) กำหนด)

 

นายทาคาชิ ไซโตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ภารกิจของเราคือการคุ้มครอง ดูแลลูกค้าในทุกช่วงเวลาของชีวิต ความร่วมมือกับ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ในการเพิ่มช่องทางดูแลสุขภาพผ่านแอปพลิเคชัน 'MorDee' (หมอดี) ครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนให้ลูกค้าของเราใช้ชีวิตได้อย่างยืดหยุ่นและมั่นใจมากขึ้นในยุคดิจิทัล"

ด้วยบริการใหม่นี้ ลูกค้าประกันกลุ่มของโตเกียวมารีนประกันชีวิตสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในประเทศไทย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันที่ต้องการความคล่องตัวและการดูแลสุขภาพที่ทันสมัย

นายชาง ฟู หัวหน้าสายงานด้านดิจิทัล เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป พัฒนาแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะ “MorDee” (หมอดี) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยทั่วประเทศ ให้สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ (Telemedicine) และดูแลสุขภาพแบบองค์รวมได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง พร้อมขยายความร่วมมือกับบริษัทประกันชั้นนำ เพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ที่มีกรมธรรม์ประกันสุขภาพแบบผู้ป่วยนอก (OPD) ให้ปรึกษาปัญหาสุขภาพได้ทุกที่ ทุกเวลา บนทุกสมาร์ทดีไวซ์ รักษา รับยา เคลมประกันได้ในแอปฯเดียว ผ่านฟังก์ชัน “เทเลเมดิเคลม” (TeleMediClaim+) โดยภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ “MorDee” (หมอดี) นำทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากสถาบันการแพทย์ชั้นนำกว่า 500 คน ช่วยดูแลสุขภาพของลูกค้าประกันกลุ่มของโตเกียวมารีนประกันชีวิต ครอบคลุมกว่า 20 สาขา พบแพทย์ออนไลน์ ปรึกษาปัญหาสุขภาพกายได้แบบส่วนตัว ไม่ต้องกังวลค่าใช้จ่าย พร้อมบริการส่งยาถึงบ้าน ช่วยประหยัดเวลาและลดความแออัดในโรงพยาบาล ทั้งยังสามารถดูประวัติการรักษาผ่านแอปฯ และมั่นใจได้ในความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล”

 

ลูกค้าประกันกลุ่มของโตเกียวมารีนประกันชีวิต สามารถปรึกษาแพทย์ออนไลน์-รักษา-รับยา-เคลมประกัน ผ่านแอปฯ “MorDee” (หมอดี) ได้แล้ววันนี้ โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ในการดาวน์โหลดและเริ่มต้นใช้งานแอปฯ MorDee (หมอดี) ดังนี้

1. ดาวน์โหลดแอปฯ MorDee ทาง Apps Store/Play Store หรือคลิก https://mordee.app.link/7me4in9appb แล้วลงทะเบียน เพื่อเริ่มต้นใช้งาน

2. เชื่อมสิทธิ์ประกัน โดยเลือกเมนู เชื่อมสิทธิพิเศษ แล้วกด เพิ่มสิทธิพิเศษ จากนั้นเลือก โตเกียวมารีนประกันชีวิต แล้วกรอกข้อมูลให้เรียบร้อย

3. ยืนยันตัวตน โดยถ่ายภาพหน้าตรง และภาพบัตรประชาชน/พาสสปอร์ต

ขั้นตอนการใช้บริการพบแพทย์ออนไลน์ผ่านแอปฯ MorDee (หมอดี) ดังนี้

1. ค้นหาแผนก โดยเลือกเมนู หน้าแรก กดแถบค้นหา แล้วเลือกแผนกหรืออาการที่ต้องการปรึกษา

2. เลือกแพทย์ โดยเลือกจากรายชื่อแพทย์ที่มีโลโก้ โตเกียวมารีนประกันชีวิต

3. ทำนัดหมาย โดยเลือกวันและเวลา เลือกรูปแบบการปรึกษาเป็นวิดีโอคอล เพื่อให้สามารถใช้สิทธิ์ประกันได้

4. เคลมประกัน ในขั้นตอนชำระเงิน โดยให้กดเลือก การชำระเงิน/สิทธิพิเศษ แล้วเลือก โตเกียวมารีนประกันชีวิต เพื่อใช้บริการได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย

5. ปรึกษา รับยา โดยให้เข้าห้องสนทนาในแอปฯ เพื่อทำการปรึกษาแพทย์เมื่อถึงเวลานัดหมาย จากนั้นรอแพทย์ส่งสรุปผลการปรึกษา พร้อมใบสั่งยา (ถ้ามี) โดยสามารถสั่งซื้อยา โดยการเคลมประกัน แล้วรอรับยาที่บ้านได้

 

 เร่งดำเนินการรื้อถอนสายสื่อสารถนนพระราม 4 ทรู คอร์ปอเรชั่น โดย นายเลิศรัตน์ รตะนานุกูล หัวหน้าสายงานรัฐกิจสัมพันธ์ นำทีมวิศวกรพื้นที่ร่วมปฏิบัติการสนับสนุน การไฟฟ้านครหลวง (MEA) โดย นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการฯ พร้อมด้วย กรุงเทพมหานคร โดย นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการฯ , กสทช. โดย ผศ.ดร. สาวัสดิ์ บุณยะเวศ ที่ปรึกษา และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมดำเนินงานรื้อถอนสายสื่อสารที่ยกเลิกการใช้งานแล้วบนเสาไฟฟ้า หลังจากติดตั้งโครงข่ายเส้นใยแก้วนำแสง Fiber Optic Cable (FOC) ฝังในระดับใต้ดินเพื่อใช้ทดแทนสายสื่อสารเดิม ย่านถนนพระราม 4 ช่วงแยกคลองเตย ถึงถนนสุขุมวิท

ทั้งนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมสนับสนุนนโยบายจัดระเบียบสายสื่อสารและนำสายสื่อสารลงใต้ดิน ตามนโยบายภาครัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยยึดหลักการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานโทรคมนาคมที่ยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสังคม อีกทั้งยังให้ความร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วนในการปรับปรุงภูมิทัศน์ของเมืองให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อยและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

แกร็บฟู้ด ผู้นำแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรียอดนิยม เผยคนไทยขี้เบื่อ ชอบลองเมนูใหม่ ชงพาร์ทเนอร์ร้านอาหารเพิ่มเมนูใหม่เฉลี่ย 25% ต่อปี ผุดกลยุทธ์ Collaborative Marketing จับคู่ร้านฮิตติดกระแส ส่งเมนูพิเศษแบบโค-ครีเอชัน (Co-Creation Menu) เอาใจสายกินตลอดทั้งปี ซึ่งช่วยต่อยอดธุรกิจและเพิ่มทราฟิกเข้าร้านได้ถึง 2 เท่า พร้อมเปิดตัวแคมเปญล่าสุด #GrabThumbsUp อร่อยจริง จากคนกินจริง ตอกย้ำจุดแข็งในด้านคุณภาพและความหลากหลาย มาพร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 500 บาท พร้อมโปรฯ เด็ดส่งฟรีทั้งเมือง*

นายจิรกิตต์ กว้างสุขสถิตย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเดลิเวอรี แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า “คนไทยถือเป็นชาติที่ยืนหนึ่งในเรื่องอาหารและให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องการกิน โดยเฉพาะกลุ่มเจน Y และเจน Z ที่ชอบสรรหาร้านอาหาร รวมถึงเมนูใหม่ๆ มาลิ้มลองเพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลพฤติกรรมการใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรี โดยเราพบว่าหนึ่งในปัจจัยหลักที่ผู้ใช้บริการ GrabFood ให้ความสำคัญคือ การมีตัวเลือกของร้านอาหารที่หลากหลาย รวมถึงการนำเสนอเมนูอาหารที่แปลกใหม่และน่าสนใจ ดังนั้น เราจึงได้พยายามส่งเสริมให้ผู้ประกอบการร้านอาหารที่อยู่บนแพลตฟอร์มพยายามพัฒนาสินค้าและเมนูใหม่ ๆ อยู่เสมอ โดยในแต่ละปีพาร์ทเนอร์ร้านอาหารของแกร็บได้เพิ่มเมนูใหม่ๆ เฉลี่ยมากกว่า 25% เพื่อตอบโจทย์และเอาใจผู้ใช้บริการสายกิน”

 

นอกจากการคัดสรรร้านอร่อยชื่อดังจากทั่วประเทศมาแนะนำให้ผู้ใช้บริการผ่านแฟลกชิปแบรนด์อย่าง #GrabThumsUp แล้ว อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่แกร็บบุกหนักในปีนี้ คือ การทำ Collaborative Marketing โดยจับคู่ร้านเด็ดที่มีเมนูฮิตติดเทรนด์มาร่วมมือกันสร้างสรรค์อาหารหรือเครื่องดื่มใหม่ๆ เพื่อสร้างความแตกต่างและประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่หาได้เฉพาะที่แกร็บ โดยเราเริ่มทดลองคอนเซ็ปต์นี้มาตั้งแต่ปี 2565 ผ่านการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลบนแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มพฤติกรรมการสั่งอาหาร ยอดขายของร้านหรือเมนูที่ได้รับความนิยม ควบคู่ไปกับการจับเทรนด์ที่กำลังมาแรง โดยแกร็บทำหน้าที่เป็นตัวกลางคอยเชื่อมให้ร้านเด็ดแบรนด์ดังได้ผนึกความร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมหรือสินค้าใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการและถือเป็นการต่อยอดธุรกิจ ทั้งนี้ เราพบว่า การสร้างสรรค์เมนูพิเศษแบบโค-ครีเอชัน (Co-Creation Menu) ช่วยเพิ่มทราฟิกหรือการเข้าถึงร้านค้าบนแพลตฟอร์มได้ถึง 2 เท่า เมื่อเทียบช่วงก่อนและหลังการทำ Collaborative Marketing โดยตลอดทั้งปีนี้ GrabFood ได้นำเสนอเมนูพิเศษรวมกว่า 20 เมนูจากมากกว่า 30 ร้านดัง โดยได้รับเสียงตอบรับที่ดีและกระแสความนิยมจากผู้ใช้บริการอย่างล้นหลาม”

ภายใต้กลยุทธ์ Collaborative Marketing แกร็บได้ผนึกความร่วมมือกับแบรนด์ร้านอาหารต่างๆ ใน 3 รูปแบบ คือ

· Best Selling Alliances รวมเมนูดังขายดีแบบคูณสอง: การจับเมนูดังของสองร้านขายดีระดับแมสมาสร้างกิมมิคใหม่ โดยผสานจุดเด่นของเมนูดังจากทั้ง 2 แบรนด์เพื่อสร้างความแปลกใหม่อย่างลงตัว อาทิ การผนึกความร่วมมือกันของสองแบรนด์สุดปังอย่าง ซูรี (SOURI) แบรนด์ร้านขนมของ “วิน” เมธวินในสไตล์ Contemporary Patisserie ที่มีมาการองขึ้นชื่อ และ บัตเตอร์แบร์ (Butterbear) แบรนด์เบเกอร์รี่สุดไวรัลขวัญใจมัมหมี ที่ได้ร่วมงานกันอีกครั้งเพื่อสร้างสีสันให้วงการขนมกับการนำเสนอ ‘SOURI X Butterbear Boxset’ เพื่อเอาใจสายหวานด้วยเมนูยอดฮิตของทั้ง 2 ร้าน พร้อมเติมความน่ารักผ่านดีไซน์ Boxset แบบพิเศษที่ช่วยให้ขายดีแบบคูณสอง

· Specialty Synergy รวมร้านเอกลักษณ์สร้างเมนูคุณภาพ: การจับแบรนด์ที่มีจุดเด่นและความเชี่ยวชาญในอาหารที่ต่างกันมาร่วมมือกัน ซึ่งช่วยสร้างความแปลกใหม่ให้กับลูกค้าประจำและยังสามารถดึงดูดความสนใจจากลูกค้าใหม่ๆ อย่างเมนู “ชีสเค้กกับดิปชาไทย” จาก เลเยอร์ (Layers) ร้านขนมหวานที่มีเอกลักษณ์ของเค้กหลายเลเยอร์ไม่เหมือนใคร มาร่วมมือกับ ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน ตัวตึงในเรื่องชาเย็น

เจ้าของเมนูชาเย็นสเลอปี้ที่มาแรงที่สุดในปีนี้ โดยผสานจุดแข็งและความเป็นเอกลักษณ์ของทั้งสองแบรนด์มาสร้างเมนูที่ใหม่ให้กับลูกค้าได้ลิ้มรสความอร่อยที่ผสานกันอย่างลงตัว

· Hybrid Fusion รวมพลังข้ามกลุ่มเป้าหมายขยายฐานลูกค้า: การร่วมมือของร้านมีฐานลูกค้าที่แตกต่างกัน หรือมาจากคนละวงการ อย่างเมนู “เบบี้เอแคลร์เมลอน” เมนูสุดไวรัลจากร้านอาฟเตอร์ยู (After You) คาเฟ่ร้านขนมสุดฮอตที่ไม่มีใครไม่รู้จักที่ร่วมมือกับ เอแคลร์จือปาก (Juepak) อินฟลูเอนเซอร์ตัวแม่ชื่อดังที่่มีผู้ติดตามหลักล้านคน ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ไม่เพียงจะสร้างความตื่นเต้นและแปลกใหม่ให้กับวงการอาหาร แต่ยังช่วยขยายฐานลูกค้าระหว่างกันด้วย

 

“สำหรับในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ แกร็บฟู้ดเตรียมเปิดตัวแคมเปญใหม่ล่าสุด #GrabThumbsUp อร่อยจริง จากคนกินจริง เพื่อตอกย้ำจุดแข็งของแฟลกชิปแบรนด์อย่าง #GrabThumbsUp ที่คอยคัดสรรร้านอร่อยจากทั่วประเทศที่มีคะแนนเรตติ้งสูงและได้รับการรีวิวจากคนกินจริงมาแนะนำให้ผู้ใช้บริการ ซึ่งรวมถึงเมนูโค-ครีเอชันจากหลายแบรนด์ชั้นนำที่เตรียมทยอยเปิดตัวเพื่อเอาใจสายกิน มาพร้อมความคุ้มค่าด้วยการมอบส่วนลดคืนสูงสุดถึง 500 บาทสำหรับการสั่งอาหารในครั้งต่อไป พร้อมโปรฯ เด็ดส่งฟรีทั้งเมือง* เพียงใส่โค้ด 0BAHT ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม - 24 พฤศจิกายนนี้” นายจิรกิตต์ ทิ้งท้าย

การทำธุรกรรมทางการเงินในปัจจุบันมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่เคยต้องเดินทางไปทำธุรกรรมที่สาขาธนาคาร กลับเปลี่ยนมาเป็นการทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ที่สะดวกและรวดเร็วกว่าเคย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย โดยหนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ การเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ แต่หลายคนอาจยังมีคำถามในใจว่า เปิดบัญชีออนไลน์ปลอดภัยจริงหรือไม่? วันนี้ fintips by ttb #เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ จะมาไขข้อสงสัยเหล่านี้ให้กระจ่าง ช่วยให้คุณทำธุรกรรมออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ ไร้กังวล ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจประเภทของบัญชีเงินฝากก่อนว่า มีกี่ประเภทและแต่ละประเภทต่างกันอย่างไร โดยสามารถแยก ประเภทของบัญชีเงินฝาก ได้ดังนี้

 

1. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ (Savings Account)

บัญชีที่ให้ความยืดหยุ่นในการฝากถอนเงินได้ตลอดเวลา โดยสามารถใช้ร่วมกับบัตรเดบิต ได้รับอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ เหมาะสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงินหลาย ๆ ครั้งเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น รับเงินเดือน จ่ายค่าสาธารณูปโภค หรือใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์

2. บัญชีเงินฝากประจำ (Fixed Deposit Account)

บัญชีที่มีกำหนดระยะเวลาในการฝากถอนเงิน ซึ่งให้ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ แต่ไม่สามารถถอนเงินได้ก่อนครบกำหนด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินในระยะยาวเพื่อรับผลตอบแทนจากดอกเบี้ย

3. บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน (Current Account)

บัญชีที่ออกแบบมาเพื่อสำหรับการบริหารจัดการทางการเงิน เพื่อใช้ในธุรกิจและการค้าขาย โดยบัญชีเงินฝากกระแสรายวันนี้จะไม่มีสมุดคู่ฝาก แต่สามารถตรวจสอบยอดการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์และการแจ้งยอดบัญชีรายเดือน

เมื่อรู้จักถึงประเภทบัญชีเงินฝากทั้ง 3 ประเภทแล้ว มาดูกันว่าการเปิดบัญชีออนไลน์ จะมีข้อดี และข้อความระวัง หรือเคล็ดลับการเปิดบัญชีออนไลน์ให้ปลอดภัย ห่างไกลมิจฉาชีพกันเถอะครับ

ข้อดีของการเปิดบัญชีออนไลน์

การเปิดบัญชีออนไลน์ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย โดยไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวที่ธนาคาร ไม่ต้องรอเวลาปิด-เปิดสาขาธนาคารที่จำกัด แค่ใช้แอปพลิเคชันของธนาคารก็สามารถเปิดบัญชีและจัดการธุรกรรมได้ นอกจากนี้ การทำธุรกรรมออนไลน์ยังเหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ห่างไกลธนาคารและไม่สะดวกในการเดินทาง โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่อาจไม่มีสาขาธนาคารใกล้ ๆ รวมทั้งการขอรายการเดินบัญชีหรือทำธุรกรรมอื่น ๆ ก็สามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชันทันที ไม่ต้องรอหรือเก็บเอกสารแบบเดิม ๆ อีกต่อไป

 

เคล็ดลับเปิดบัญชีออนไลน์อย่างปลอดภัย ห่างไกลมิจฉาชีพ

1. เลือกธนาคารที่น่าเชื่อถือ ควรเลือกธนาคารที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดและมีนโยบายในการป้องกันและเยียวยาผู้ใช้บริการหากเกิดความเสียหายจากการโจรกรรมทางไซเบอร์

2. ใช้ระบบยืนยันตัวตนที่มีความปลอดภัยสูง ควรตรวจสอบว่าธนาคารที่ใช้มีระบบยืนยันตัวตนหลายชั้น เช่น การสแกนใบหน้า การสแกนม่านตา และการตั้งรหัสผ่านที่คาดเดายาก เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกแฮก

3. ตั้งรหัสผ่านอย่างรอบคอบ การตั้งรหัสผ่านต้องไม่ซ้ำกับรหัสอื่น ๆ ที่เคยใช้ หรือตั้งรหัสง่ายเกินไปจนมิจฉาชีพคาดเดาได้ง่าย หรือ ไม่ควรใช้ข้อมูลส่วนตัวในการตั้งรหัส เช่น วันเดือนปีเกิด หรือหมายเลขโทรศัพท์

4. ใช้อุปกรณ์ส่วนตัวและเครือข่ายที่ปลอดภัย เลือกทำธุรกรรมผ่านอุปกรณ์และ Wi-Fi หรือสัญญาณเครือข่ายส่วนตัว หลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi สาธารณะที่อาจเสี่ยงต่อการถูกดักจับข้อมูล

5. เว็บไซต์และแอปพลิเคชันของธนาคารที่น่าเชื่อถือ มักจะให้กรอกข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ อีเมลและรับแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันของธนาคารเอง ขั้นตอนการเปิดบัญชีออนไลน์จำเป็นต้องตรวจสอบง่าย แจ้งเตือนทุกความเคลื่อนไหวของการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์แบบเรียลไทม์

สำหรับคนที่สนใจเปิดบัญชีออนไลน์กับ ทีทีบี สามารถทำได้ผ่านแอป ttb touch ทั้งสะดวกและปลอดภัย แจ้งเตือนทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นบัญชี ttb all free ที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น ส่วนลด

ร้านอาหาร ที่พัก และโค้ดส่วนลดแอปสั่งอาหารออนไลน์ พิเศษ! ฝากเงินตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป รับฟรีประกันอุบัติเหตุ คุ้มครองสูงสุด 3 ล้านบาท ไม่ต้องสำรองจ่าย

แม้การเปิดบัญชีออนไลน์อาจจะดูเป็นเรื่องใหม่สำหรับบางคน แต่ถ้าเรารู้จักใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้องและรู้เท่าทัน การทำธุรกรรมออนไลน์ก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย และปลอดภัย ไม่ว่าจะเปิดบัญชีออนไลน์หรือทำธุรกรรมอย่างอื่น ก็สามารถทำได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล และห่างไกลมิจฉาชีพ

สำนักงานพาณิชย์นิวซีแลนด์ (NZTE) สถานทูตนิวซีแลนด์ ประกาศความสำเร็จในการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ที่สำคัญสามฉบับระหว่างบริษัทชั้นนำ 8 บริษัท ของนิวซีแลนด์และไทย ได้แก่ Aeroqual, บริษัท ชตา อินสทรูเม้นท์ จำกัด, บริษัท สามารถคอมมิวนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด, Fertility Associates, Beyond IVF, บริษัท ไตรเทพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, Gentrack และ บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ วินสตัน ปีเตอร์ส รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนิวซีแลนด์ (นั่งตรงกลาง), ฯพณฯ โจนาธาน คิงส์ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย (นั่งขวาสุด) และ นางซูซี่ ฟิวเทรล ทูตพาณิชย์ประจำสำนักงานพาณิชย์นิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย (นั่งซ้ายสุด) ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามอันทรงเกียรตินี้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและส่งเสริมนวัตกรรมระหว่างประเทศนิวซีแลนด์และประเทศไทย สานต่อความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในภาคส่วนสำคัญ

เคทีซีปักธงเป็นพันธมิตรรายแรกกับโคเวย์ เพื่อนำเสนอสิทธิประโยชน์สุดคุ้มให้แก่สมาชิกบัตรเคทีซีที่ใส่ใจสุขภาพ ด้วยโปรโมชันผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน และรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 1,400 บาท

นายณัฐสิทธิ์ สุนทราณู ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ การร่วมมือกับโคเวย์ครั้งนี้ถือเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ” โดยผ่าน Brand “Coway” ทั้งแบรนด์เครื่องกรองน้ำ และเครื่องฟอกอากาศจากเกาหลีใต้ ที่พัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งตรงกับความต้องการของสมาชิกบัตรเคทีซีที่ให้ความสนใจกับไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของสมาชิก

ทั้งนี้จากข้อมูลการเจริญเติบโตของ Brand “Coway” ผ่านการใช้จ่ายผ่านบัตรเคทีซีอย่างต่อเนื่องสูงถึง 55% ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย. 2567) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีทีแล้ว ดังนั้น เพื่อการคัดสรรสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกบัตรเคทีซีเป็นสำคัญ จึงได้ร่วมมือกับโคเวย์เป็นพันธมิตรรายแรก โดยคาดว่าแคมเปญนี้จะช่วยเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมากกว่า 100% จนถึงสิ้นปี 2567 โดยสิทธิพิเศษร่วมกับโคเวย์ในครั้งนี้ สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อซื้อเครื่องกรองน้ำโคเวย์ที่ร่วมรายการ นอกจากนี้ยังรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 1,400 บาท หรือเลือกใช้คะแนน KTC FOREVER แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% สำหรับบริการตัดชำระรายเดือนตามเงื่อนไขที่กำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 – 31 มีนาคม 2568”

นายปาร์ค ชุนยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “โคเวย์ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ ‘Best Life Solution Company’ และมุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมเพื่อสุขภาพมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำดื่มและเครื่องฟอกอากาศ โคเวย์นำเสนอเทคโนโลยีขั้นสูงพร้อมกับการบริการดูแลสินค้าและเปลี่ยนไส้กรองตามรอบอย่างต่อเนื่องและไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมให้แก่ลูกค้าได้ใช้งานในราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทต่อเดือน การร่วมมือครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสดีทั้งในแง่การเติบโตทางธุรกิจและพันธกิจองค์กร โดยโคเวย์สามารถกระจายฐานลูกค้าสู่เครือข่ายสมาชิกเคทีซีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่สมาชิกเคทีซีก็จะได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมโคเวย์ในราคาที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น และยังช่วยสนับสนุนเป้าหมายการดำเนินงานของเคทีซี ในการร่วมสร้างสรรค์สังคมของคนสุขภาพดีไปพร้อมกันได้อย่างมั่นคง”

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC 02 123 5000 หรือติดตามโปรโมชันของเคทีซีได้ที่ https://www.ktc.co.th สำหรับผู้สนใจสมัครบัตรเครดิตเคทีซี ทุกประเภท คลิก https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรเครดิตควรใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี สำหรับผู้ถือบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” ควรกู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

เคทีซีปักธงเป็นพันธมิตรรายแรกกับโคเวย์ เพื่อนำเสนอสิทธิประโยชน์สุดคุ้มให้แก่สมาชิกบัตรเคทีซีที่ใส่ใจสุขภาพ ด้วยโปรโมชันผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน และรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 1,400 บาท

นายณัฐสิทธิ์ สุนทราณู ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ การร่วมมือกับโคเวย์ครั้งนี้ถือเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ” โดยผ่าน Brand “Coway” ทั้งแบรนด์เครื่องกรองน้ำ และเครื่องฟอกอากาศจากเกาหลีใต้ ที่พัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งตรงกับความต้องการของสมาชิกบัตรเคทีซีที่ให้ความสนใจกับไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของสมาชิก

ทั้งนี้จากข้อมูลการเจริญเติบโตของ Brand “Coway” ผ่านการใช้จ่ายผ่านบัตรเคทีซีอย่างต่อเนื่องสูงถึง 55% ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย. 2567) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีทีแล้ว ดังนั้น เพื่อการคัดสรรสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกบัตรเคทีซีเป็นสำคัญ จึงได้ร่วมมือกับโคเวย์เป็นพันธมิตรรายแรก โดยคาดว่าแคมเปญนี้จะช่วยเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมากกว่า 100% จนถึงสิ้นปี 2567 โดยสิทธิพิเศษร่วมกับโคเวย์ในครั้งนี้ สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อซื้อเครื่องกรองน้ำโคเวย์ที่ร่วมรายการ นอกจากนี้ยังรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 1,400 บาท หรือเลือกใช้คะแนน KTC FOREVER แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% สำหรับบริการตัดชำระรายเดือนตามเงื่อนไขที่กำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 – 31 มีนาคม 2568”

นายปาร์ค ชุนยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “โคเวย์ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ ‘Best Life Solution Company’ และมุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมเพื่อสุขภาพมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำดื่มและเครื่องฟอกอากาศ โคเวย์นำเสนอเทคโนโลยีขั้นสูงพร้อมกับการบริการดูแลสินค้าและเปลี่ยนไส้กรองตามรอบอย่างต่อเนื่องและไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมให้แก่ลูกค้าได้ใช้งานในราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทต่อเดือน การร่วมมือครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสดีทั้งในแง่การเติบโตทางธุรกิจและพันธกิจองค์กร โดยโคเวย์สามารถกระจายฐานลูกค้าสู่เครือข่ายสมาชิกเคทีซีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่สมาชิกเคทีซีก็จะได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมโคเวย์ในราคาที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น และยังช่วยสนับสนุนเป้าหมายการดำเนินงานของเคทีซี ในการร่วมสร้างสรรค์สังคมของคนสุขภาพดีไปพร้อมกันได้อย่างมั่นคง”

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC 02 123 5000 หรือติดตามโปรโมชันของเคทีซีได้ที่ https://www.ktc.co.th สำหรับผู้สนใจสมัครบัตรเครดิตเคทีซี ทุกประเภท คลิก https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรเครดิตควรใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี สำหรับผู้ถือบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” ควรกู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

เคทีซีปักธงเป็นพันธมิตรรายแรกกับโคเวย์ เพื่อนำเสนอสิทธิประโยชน์สุดคุ้มให้แก่สมาชิกบัตรเคทีซีที่ใส่ใจสุขภาพ ด้วยโปรโมชันผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน และรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 1,400 บาท

นายณัฐสิทธิ์ สุนทราณู ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ การร่วมมือกับโคเวย์ครั้งนี้ถือเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ” โดยผ่าน Brand “Coway” ทั้งแบรนด์เครื่องกรองน้ำ และเครื่องฟอกอากาศจากเกาหลีใต้ ที่พัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งตรงกับความต้องการของสมาชิกบัตรเคทีซีที่ให้ความสนใจกับไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของสมาชิก

ทั้งนี้จากข้อมูลการเจริญเติบโตของ Brand “Coway” ผ่านการใช้จ่ายผ่านบัตรเคทีซีอย่างต่อเนื่องสูงถึง 55% ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย. 2567) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีทีแล้ว ดังนั้น เพื่อการคัดสรรสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกบัตรเคทีซีเป็นสำคัญ จึงได้ร่วมมือกับโคเวย์เป็นพันธมิตรรายแรก โดยคาดว่าแคมเปญนี้จะช่วยเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมากกว่า 100% จนถึงสิ้นปี 2567 โดยสิทธิพิเศษร่วมกับโคเวย์ในครั้งนี้ สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อซื้อเครื่องกรองน้ำโคเวย์ที่ร่วมรายการ นอกจากนี้ยังรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 1,400 บาท หรือเลือกใช้คะแนน KTC FOREVER แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% สำหรับบริการตัดชำระรายเดือนตามเงื่อนไขที่กำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 – 31 มีนาคม 2568”

นายปาร์ค ชุนยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “โคเวย์ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ ‘Best Life Solution Company’ และมุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมเพื่อสุขภาพมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำดื่มและเครื่องฟอกอากาศ โคเวย์นำเสนอเทคโนโลยีขั้นสูงพร้อมกับการบริการดูแลสินค้าและเปลี่ยนไส้กรองตามรอบอย่างต่อเนื่องและไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมให้แก่ลูกค้าได้ใช้งานในราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทต่อเดือน การร่วมมือครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสดีทั้งในแง่การเติบโตทางธุรกิจและพันธกิจองค์กร โดยโคเวย์สามารถกระจายฐานลูกค้าสู่เครือข่ายสมาชิกเคทีซีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่สมาชิกเคทีซีก็จะได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมโคเวย์ในราคาที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น และยังช่วยสนับสนุนเป้าหมายการดำเนินงานของเคทีซี ในการร่วมสร้างสรรค์สังคมของคนสุขภาพดีไปพร้อมกันได้อย่างมั่นคง”

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC 02 123 5000 หรือติดตามโปรโมชันของเคทีซีได้ที่ https://www.ktc.co.th สำหรับผู้สนใจสมัครบัตรเครดิตเคทีซี ทุกประเภท คลิก https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรเครดิตควรใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี สำหรับผู้ถือบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” ควรกู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

ทรูมันนี่ ผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เดินหน้ายกระดับประสบการณ์การใช้จ่ายด้วยการเปิดตัว “Money Plus” บัญชีที่ช่วยให้การใช้จ่ายและการทำธุรกรรมทางการเงินกลายเป็นเรื่องง่ายและได้เพิ่มมากกว่าที่เคย ทั้งได้รับเงินคืน 1%** ทุกการใช้จ่าย และเก็บเงินไว้ได้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงสุดถึง 4% ต่อปี* แถมช่วยให้สามารถจ่าย เติม โอน เก็บ ได้สะดวกและคล่องตัว ครบ จบมากขึ้น บนแอปทรูมันนี่ เพียงสมัครหรือกดอัปเกรดในแอปทรูมันนี่วันนี้

นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบัน ลูกค้าทรูมันนี่ สามารถใช้จ่ายและบริหารการเงินแบบไร้เงินสดได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แถมปลอดภัย มั่นใจทุกการใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ยังมีลูกค้าส่วนหนึ่งมองว่าการเติมเงินทิ้งไว้ในบัญชีจำนวนมากอาจทำให้เสียสิทธิประโยชน์ ทรูมันนี่ จึงส่ง Money Plus ซึ่งเป็นเสมือนบัญชีทรูมันนี่อัปเกรด เพราะผสานความยืดหยุ่นและคล่องตัวของการใช้ฟีเจอร์การเงินต่าง ๆ ทั้ง จ่าย เติม โอน และเก็บเงิน พร้อมมอบผลตอบแทนที่คุ้มค่า คือจะใช้จ่ายก็ได้เงินคืน หรือจะเก็บเงินไว้ เงินก็งอกเงย ตอบโจทย์และรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานให้พลัสเงินในบัญชีได้ไม่มีสะดุด”

 

นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด

นายฟิลิป เชียง ชอง แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า “ในยุคดิจิทัลที่พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนต้องการบริการทางการเงินที่เข้าถึงง่าย สะดวก และให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ธนาคารเกียรตินาคินภัทรจึงได้ร่วมมือกับ ทรูมันนี่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการนี้ด้วย Money Plus บัญชีที่จะช่วยให้ลูกค้าบริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งด้านการใช้จ่ายและการออม ด้วยดอกเบี้ยสูงสุดถึง 4% ต่อปี* จากบริการฝากเงินอัตโนมัติ ผลิตภัณฑ์นี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับเงินออมโดยไม่เสียความคล่องตัวในการใช้จ่าย เป็นอีกหนึ่งก้าวในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ทางการเงินที่ดียิ่งขึ้นให้กับทุกคน”

Money Plus มี 4 จุดเด่น ช่วยพลัสเงินในบัญชี ดังนี้

· พลัสที่ 1 ยิ่งจ่ายยิ่งพลัส – ทุกการใช้จ่ายจะได้รับเงินคืน 1%** เมื่อเลือกเป็นช่องทางการชำระเงินบน ทรูมันนี่ หรือ 7App

· พลัสที่ 2 เงินงอกจัดเต็ม – เก็บไว้ได้ดอกเบี้ยสูงถึง 2% ต่อปี* ตั้งแต่บาทแรก สูงสุดถึง 4% ต่อปี*

· พลัสที่ 3 เติมเงินได้ตลอด ไม่มีขั้นต่ำ – เติมเงินเข้าทรูมันนี่ได้ทันทีที่ต้องการ สะดวก ไว ทำได้เลยในแอป ทรูมันนี่ ไม่ต้องกังวลยอดเติมเงินขั้นต่ำ

· พลัสที่ 4 สะดวกคล่องทุกธุรกรรม – เชื่อมต่อการจ่าย เก็บ ถอน โอนได้สะดวก คล่องตัวทุกการทำธุรกรรม

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถพลัสเงินให้เพิ่มขึ้นผ่าน Money Plus ได้ง่าย ๆ ทันที เพียงกดปุ่ม อัปเกรด หรือ ไอคอน Money Plus บนหน้าแอปทรูมันนี่ กรอกข้อมูลส่วนตัวตามขั้นตอน และยืนยันตัวตนที่เคาน์เตอร์ 7-Eleven ใกล้บ้าน หรือ ตู้ทรูมันนี่

ที่ทรูช้อป พร้อมยืนยันรายละเอียดเพื่อเปิดบัญชี Money Plus บนทรูมันนี่ เพียงเท่านี้ก็สามารถเริ่มพลัสเงินในบัญชีได้อย่างไม่มีสะดุด (กรุณาอัพเดตแอปทรูมันนี่ก่อนอัปเกรดบัญชี)

X

Right Click

No right click