December 05, 2025

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 14064-1:2018 สำหรับการจัดทำบัญชีและรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG Inventory) ปี 2567 จากบริษัท บูโร เวอริทัส เซอทิฟิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่มอบให้กับองค์กรที่ดำเนินการยกระดับการรายงานและจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เทียบเท่าระดับสากล โดย EXIM BANK เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐแห่งแรกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 14064-1:2018 เป็นผลจากความสำเร็จในการมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance : ESG) โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการจัดทำข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่โปร่งใสและเป็นไปตามมาตรฐานสากล

EXIM BANK ในฐานะธนาคารเพื่อการพัฒนายังคงเดินหน้าสู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral Organization) พัฒนาเครื่องมือการจัดเก็บ คำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงาน และกำหนดแนวทางลดการปล่อยคาร์บอนอย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวของไทยสู่ระดับโลกอย่างยั่งยืน ผ่านการดำเนินงานอย่างโปร่งใส มีธรรมาภิบาล และรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน

ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ร่วมบันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและแสดงออกถึงความจงรักภักดีอย่างหาที่สุดมิได้ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5

คึกคัก! ‘อว.แฟร์ 2025’ ขนทัพ ‘หมอลำสู่สากล-มหาหมอลำ Festival’ ดัน Soft Power ไทยสู่สายตาชาวโลก ร่วมลุ้นไปกับการแข่งขัน ‘Astro Challenge ปริศนาดาราศาสตร์’

พร้อมบูธ TED Fund ให้คำปรึกษาเรื่องทุน และ S4i Learning Mart ศูนย์รวมเครื่องมือสร้างนวัตกรยุคใหม่ วันนี้ – 17 ส.ค.68 ศูนย์ฯ สิริกิติ์

ในสภาวะที่การแข่งขันสูงและการหาลูกค้าใหม่เป็นเรื่องท้าทาย นักการตลาดหลายองค์กรกำลังมองหาเครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและวัดผลได้จริง BEARRUNRUN (แบร์รันรัน) ดิจิทัลเอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญด้าน AI และ Data ได้ออกมาเปิดเผยกลยุทธ์สำคัญในการนำ Agentic AI มาผนวกเข้ากับข้อมูลลูกค้า (CRM) เพื่อยกระดับการตลาดและสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่จับต้องได้ โดยเฉพาะการ "ปิดการขาย" ผ่านแคมเปญแบบ Personalization ที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น

คุณนิพนธ์ แสงธีระพานิชย์ Chief Executive Officer (CEO) ของ BEARRUNRUN กล่าวถึงปัญหาที่นักการตลาดในองค์กรใหญ่ต้องเผชิญว่า "ความกดดันและข้อจำกัดมีมาก โดยเฉพาะเมื่อข้อมูลลูกค้า (CRM) ไม่ได้เชื่อมต่อกับ Social Profile ทำให้การทำตลาดรูปแบบใหม่ๆ เป็นเรื่องท้าทาย" และได้เน้นย้ำว่า ด้วยแนวทางการทำงานของ BEARRUNRUN และการนำ AI มาใช้ "เราไม่ได้แค่มอบเครื่องมือ แต่จะร่วมกันหาโซลูชั่นที่จะช่วยให้การทำการตลาดของคุณ ‘เร็วขึ้น ลึกซึ้งขึ้น’ และมั่นใจได้ว่าทุกย่างก้าวของการตลาดจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แท้จริง"

 

การนำ AI มาใช้เพื่อเชื่อมโยงข้อมูล CRM กับ Social Data จึงเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างแคมเปญที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละบุคคลได้อย่างตรงจุด ซึ่งทาง BEARRUNRUN ได้นำเสนอ 5 แนวทางในการนำ Agentic AI มายกระดับ CRM เพื่อปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ:

  1. AI Response & Close Sales:ใช้ AI ที่มีเทคโนโลยี Natural Language Processing (NLP) ช่วยตอบแชทลูกค้าแบบ Real-time เข้าใจภาษามนุษย์ และดึงข้อมูลจาก CRM มาสร้างการสื่อสารแบบ Personalized เพื่อเก็บ Lead และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็ว
  2. AI Knowledge Management:ฝึกฝน AI ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์โดยเฉพาะ สามารถตอบทุกคำถามของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ และทำงานร่วมกับแอดมินได้อย่างราบรื่นตลอด 24 ชั่วโมง
  3. AI Data Collection:ใช้ AI ช่วยเก็บข้อมูลเชิงลึกจากบทสนทนาในแชทลูกค้าอัตโนมัติ เช่น ความสนใจเฉพาะด้าน ชื่อ เบอร์โทร หรืออีเมล เพื่อนำไปต่อยอดทำการตลาดได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องใช้พนักงาน
  4. AI Classification & Personalization:ให้ AI ช่วยจัดกลุ่มลูกค้าอัตโนมัติจาก Social Profile เช่น กลุ่มที่มีครอบครัว หรือกลุ่มที่เลี้ยงสัตว์ จากนั้นเชื่อมโยงกับ CRM เพื่อนำเสนอข้อเสนอและคอนเทนต์ที่ตรงใจลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างแม่นยำ
  5. AI Co-Creation & Optimized Budgeting:ใช้ AI ช่วยลดต้นทุนและเวลาในการสร้างสรรค์คอนเทนต์โฆษณา โดยเฉพาะวิดีโอ ไปจนถึงการบริหารงบประมาณโฆษณาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการส่งคอนเทนต์ที่ถูกคน ถูกที่ ถูกเวลา

 

คุณปาณิสรา ธนวงศ์จินดา Chief Operation Officer (COO) BEARRUNRUN เชื่อว่างาน Creative ที่มีประสิทธิภาพมักเกิดจากการ ‘ตั้งคำถาม’ ที่ลึกซึ้งว่าเราเข้าใจปัญหาลูกค้าจริงหรือไม่? เพราะไอเดียที่มี Impact ต้องมาจาก Insight ที่ตอบโจทย์ลูกค้าจริงๆ ไม่ใช่แค่การคาดการณ์ "ในขณะที่เรามีข้อมูลมากมาย AI จะมาเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราตั้งคำถามที่ลึกขึ้นและได้คำตอบที่ชัดเจนมากขึ้น

 

คุณจตุพร กลีบแก้ว Chief Technology Officer (CTO) BEARRUNRUN เล่าจากประสบการณ์ที่ได้ร่วมงานกับนักการตลาดหลากหลายองค์กรว่า ปัญหาสำคัญที่หลายคนเผชิญคือ ‘เวลา’ ที่เสียไปกับการรวบรวมข้อมูลที่กระจัดกระจายและยังต้องพึ่งพา manual process เป็นหลัก "การนำเทคโนโลยีและ AI เข้ามาเปลี่ยน ‘ข้อมูลกระจัดกระจาย’ ให้กลายเป็น ‘ความเข้าใจแบบเรียลไทม์’ คือจุดเปลี่ยนสำคัญ นักการตลาดสามารถออกแบบรายงานหรือแดชบอร์ดในมุมมองที่ต้องการ เห็น Insight ได้ทันที และตัดสินใจได้แม่นยำบนพื้นฐานของข้อมูลจริง"

 

คุณกฤษฎา หลินภัทรชัย Chief Marketing Officer บริษัท บุโคล่า จำกัด ผู้พัฒนา AI Chatbot Automation Platform "BOOKOLA" สำหรับธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์กับ BEARRUNRUN กล่าวเสริมว่า “BOOKOLA เกิดขึ้นจากความเชื่อว่าโรงแรมไม่ใช่แค่ 'ที่พัก' แต่คือ 'Experience' ที่เริ่มตั้งแต่วินาทีแรกที่ลูกค้าแชทเข้ามา” แพลตฟอร์มนี้พัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาที่โรงแรมมัก ‘พลาดโอกาส’ ในการสร้างความประทับใจบน Social Media เพราะทีมงานตอบลูกค้าไม่ทัน การนำ AI เข้ามาช่วยทำให้ลูกค้าสามารถจองและชำระเงินได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง เพียงแค่โรงแรมเปลี่ยน Social Media จากช่องทางการตลาดธรรมดา ให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของประสบการณ์ที่ดีกว่า ก็จะสามารถเพิ่มยอดขายได้ตลอดเวลา ปัจจุบันมีโรงแรมใช้บริการ BOOKOLA มากกว่า 50 แห่งในระยะเวลาเพียง 2 ปี ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงประสิทธิภาพที่แท้จริงของ AI ในการยกระดับบริการและการขาย

คุณนิพนธ์ กล่าวย้ำปิดท้ายว่า “การนำเทคโนโลยีและ AI มาใช้ในยุคนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของเครื่องมือ แต่เป็นเรื่องของการสร้างสมดุลระหว่าง "Faster Technologies" ที่ตอบโจทย์ประสิทธิภาพ และ "Deeper Creativities" ที่เข้าใจ Insight ของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง การประยุกต์ใช้ AI ในองค์กรจึงเปรียบเสมือนการปลดล็อกศักยภาพด้านการตลาด ทำให้แบรนด์สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า สร้างการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างยั่งยืน และรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ”

“ทิวลี่” (Tivoli) แบรนด์เวเฟอร์อันดับหนึ่งที่ครองใจคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้กลับมาสร้างความสนุกเอาใจสาวกอนิเมะญี่ปุ่น โดยการร่วมคอลแลบคาแรกเตอร์การ์ตูนระดับตำนานอย่าง "วันพีซ" (One Piece) ออกเรือสู่แกรนด์ไลน์แห่งความอร่อยใน "ทิวลี่ทวินจัมโบ้ร่วมกับวันพีซ" สร้างสรรค์ดีไซน์แพคเกจจิ้งไม่เหมือนใครจากวันพีซ พร้อมเปิดตัว ทิวลี่ทวินจัมโบ้รสชาติใหม่ ”กลิ่นองุ่น” และเอ็กคลูซีฟพวงกุญแจ 10 แบบสุดลิมิเต็ดให้เก็บสะสม นอกจากนี้ยังชวนแฟนๆ ร่วมออกผจญภัยกับแคมเปญพิเศษ "ทิวลี่ล่า ท้า โพสโชว์โกเจแปน" ลุ้นรางวัลใหญ่ตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพ-ญี่ปุ่น พร้อมบัตรเครื่องเล่นสวนสนุก Universal Studios Japan สร้างความคึกคักให้ตลาดเวเฟอร์ช่วงครึ่งปีหลัง ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าและสร้างความประทับใจให้แก่บริโภค

นายฐานันท์ สุวรรณรักษ์ รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ประเทศไทย ลาว และกัมพูชา บริษัท ยูอาร์ซี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดเวเฟอร์ของทิวลี่ เราต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ให้โดนใจผู้บริโภคอยู่เสมอ ไม่เพียงแต่สร้างกระแสความสนุกแจกรางวัลใหญ่ร้บต้นปีที่ผ่านมา ยังต่อเนื่องด้วยการร่วมคอลแลบคาแรคเตอร์กับอนิเมะที่โด่งดังอย่าง ‘วันพีซ’ ด้วยคาแรกเตอร์ที่มีความคล้ายคลึงกับภาพลักษณ์ของทิวลี่ ทั้งความสนุก กล้าหาญ เสียสละ ชอบผจญภัย และกลุ่มเพื่อนฝูงที่มีความหลากหลาย เหมือนกับสินค้าที่มีรูปแบบ รสชาติที่แตกต่างอย่างลงตัวภายใต้แบรนด์ทิวลี่

ในครั้งนี้นับเป็นการ Connect กับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ผ่าน Passion Point ต่างๆ ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับ Brand DNA ของเราที่ต้องการมอบประสบการณ์ใหม่แบบ Life is Fun ที่น่าจดจำตื่นตาตื่นใจ ถือเป็นการตอกย้ำความสนุกและความอร่อยภายใต้ตัวตนของความเป็นทิวลี่เพื่อสร้าง Brand Love ให้กับผู้บริโภค”

“กลยุทธ์การนำคาแรกเตอร์การ์ตูนมาใช้ในการสื่อสารร่วมกับแบรนด์ เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งทั้งด้านยอดขาย การจดจำภาพลักษณ์และการขยายฐานลูกค้า ครั้งนี้นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับทิวลี่เพราะ วันพีซ เป็นการ์ตูนที่ได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน และยังมีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศไทย เมื่อผสมผสานความสนุกของวันพีซและความอร่อยของแบรนด์ทิวลี่ ทำให้เกิดสิ่งแปลกใหม่ที่สามารถสร้างความประทับใจให้แก่แฟนๆ ได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งตอกย้ำให้ทิวลี่ยิ่งแข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักในวงกว้างและมีส่วนแบ่งการตลาดที่เติบโตขึ้นอย่างยั่งยืนแน่นอน” นายฐานันท์ กล่าว

สำหรับความพิเศษของการสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาด ภายใต้ "ทิวลี่ทวินจัมโบ้ร่วมกับวันพีซ" ประกอบไปด้วย การดีไซน์แพคเกจจิ้งใหม่ โดยนำคาแรคเตอร์วันพีซมาปรากฎบนบรรจุภัณฑ์ ที่มาพร้อมกับพวงกุญแจคาแรกเตอร์การ์ตูนวันพีซลิมิเตดทั้ง 10 แบบ ที่ออกแบบมาเพื่อให้แฟนๆ ได้เก็บสะสมตัวละครตัวโปรด นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ทิวลี่ทวิน จัมโบ้ วันพีซ กลิ่นองุ่น เวเฟอร์กรอบๆ เคลือบช็อกโกแลตสุดเข้มข้น สอดไส้กลิ่นองุ่น หวานหอมอร่อยแบบลงตัวที่พลาดไม่ได้ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้

ทิวลี่ยังเล่นใหญ่จัดเต็มให้กับแฟนคลับกับแคมเปญพิเศษ "ทิวลี่ล่า ท้า โพสโชว์โกเจแปน" ร่วมลุ้นโอกาสพิเศษในการเดินทางสุดสนุกไปที่ประเทศญี่ปุ่น พร้อมบัตรเข้า Universal Studios Japan เพียงแค่ตามล่าพวงกุญแจให้ครบทั้ง 10 แบบ ถ่ายรูป และโพสต์ลงโซเชียลใดก็ได้ เปิดสาธารณะ และใส่ #ทิวลี่วันพีซ เสร็จแล้วส่งภาพใบเสร็จที่ซื้อสินค้าครบ 350 บาท นำไปลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ Facebook: TivoliThailand เพียงเท่านี้ก็สามารถลุ้นรางวัลใหญ่ ตั๋วเครื่องบิน ไปกลับกรุงเทพ-ญี่ปุ่น พร้อมบัตร Universal Studios Japan 1 Day Studio Pass 2 ใบ จำนวน 1 รางวัล และรางวัลอื่นๆ อีกกว่า 90 รางวัล สามารถร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดีได้ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม  –  15 กันยายน 2568

สามารถอ่านรายละเอียดกติกาเงื่อนไขเพิ่มเติม และติดตามการประกาศรายชื่อผู้โชคดีของกิจกรรมนี้ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก "Tivoli ทิวลี่" www.facebook.com/TivoliThailand 

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

ในยุคที่การศึกษาและธุรกิจต้องเดินเคียงคู่กับเทคโนโลยีและเครือข่ายระดับสากล ดร. อรภัค สุวรรณภักดี คือตัวอย่างผู้นำที่สามารถขับเคลื่อนทั้งสองด้านไปพร้อมกันได้อย่างทรงพลัง และล่าสุด เธอได้รับรางวัล Asean International Leadership Award – รางวัลผู้นำระดับอาเซียนสู่สากล ครั้งที่ 7 ประจำปี 2025

รางวัลนี้จัดขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติบุคคลที่มีผลงานโดดเด่นในภูมิภาคอาเซียน โดย ดร. อรภัค ได้รับการยกย่องในฐานะ ผู้นำแห่งความสำเร็จ ด้านการบริหารการศึกษาเอกชน สถาบันด้านการอบรมวิชาชีพ การวางระบบ และพัฒนาระบบการเรียนการสอน ที่สามารถยกระดับสู่ความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาองค์กรและการศึกษาระดับอาเซียนสู่สากล

บทบาทและผลงานที่โดดเด่น

ในปัจจุบันเธอมีบทบาทที่หลากหลาย ในฐานะ ผู้อำนวยการโรงเรียนสอนภาษาจีนฝานหรง ที่มุ่งสร้างมาตรฐานการเรียนการสอนภาษาจีนระดับสากลให้กับประเทศไทย

ในอดีตเธอได้มีประสบการณ์ครอบคลุมหลากหลาย รวมถึงการทำงานในหลายวงการ ครอบคลุมการเป็นนักเขียนชื่อดัง อาจารย์มหาวิทยาลัย ที่ปรึกษาด้าน IT นักจัดรายการวิทยุ วิทยากรด้านเทคโนโลยี และยังเคยดำรงตำแหน่ง กรรมาธิการการเงิน การคลัง ธนาคาร และสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร

เธอเป็นผู้เขียนหนังสือขายดีอันดับหนึ่ง “ทำตลาดบน Facebook ฉบับประยุกต์แอพพลิเคชัน” และมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่โครงการ MIT OpenCourseWare (MIT OCW) ให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าถึงองค์ความรู้ระดับโลก

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา เธอได้เข้าเยี่ยม สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ เพื่อผลักดันให้ผู้สื่อข่าวไทยสามารถสื่อสารและทำข่าวภาษาจีนได้ พร้อมประกาศสนับสนุนทุนเรียนภาษาจีนฟรี ผ่านโรงเรียนฝานหรง

สายสัมพันธ์กับโลก MBA

เส้นทางการศึกษาของดร. อรภัค คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สร้างความโดดเด่นในฐานะผู้นำ

ปริญญาตรี: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ปริญญาโท (MBA): MIT Sloan School of Management อันดับหนึ่งของโลก

ปริญญาเอก: มหาวิทยาลัยรังสิต สาขาผู้นำการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

ปัจจุบัน: พึ่งได้รับการคัดเลือกให้เข้าศึกษาต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจที่ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวธง ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีนด้านโปรแกรม MBA โดยเธอเป็น คนไทยเพียงคนเดียวที่ได้รับเลือกจากทั่วโลก และยังเป็น คนต่างประเทศเพียงคนเดียวในรุ่นนี้

Fanrong: วิสัยทัศน์เพื่อยกระดับคนไทยสู่สากล

โรงเรียนฝานหรงเกิดขึ้นจากเป้าหมายชัดเจน—ยกระดับคนไทยสู่เวทีโลกผ่านทักษะภาษาจีน โดยใช้การเรียนการสอนออนไลน์ที่ทันสมัย ถ่ายทอดโดยครูเจ้าของภาษาจากประเทศจีน สร้างบรรยากาศเสมือนเรียนอยู่ในจีนจริงๆ แม้ผู้เรียนจะไม่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ

วิสัยทัศน์ของโรงเรียนฝานหรง

 “นำครูจีนสู่ไทย พัฒนาภาษาจีนให้ก้าวไกล อย่างมืออาชีพ”

แรงบันดาลใจจากรางวัล

รางวัล Asean International Leadership Award 2025 ไม่เพียงเป็นเครื่องหมายแห่งเกียรติยศ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ ดร. อรภัค และโรงเรียนฝานหรง เดินหน้าพัฒนาหลักสูตร การสอน และการสร้างโอกาสให้เยาวชนไทยก้าวสู่มาตรฐานสากลอย่างต่อเนื่อง

บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความเป็นตัวจริงเรื่องเที่ยวญี่ปุ่น พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “SUGOI JAPAN 2025 by AEON” ที่ปีนี้พร้อมพาลูกค้าคนพิเศษของอิออนไปสัมผัสมนต์เสน่ห์แดนใต้ของญี่ปุ่น ณ เกาะคิวชู จัดเต็มทั้งบัตรโดยสารการบินไทยและที่พัก พร้อมตะลุยกิน เที่ยว ชอป แบบสุโก้ย แพกเก็จมูลค่ารวมกว่าสองล้านบาท สิทธิพิเศษ ๆ แบบนี้ สำหรับ 10 ท่าน* ที่มีจำนวนยอดใช้จ่ายมากที่สุดผ่านบัตรเครดิตอิออนที่ร่วมรายการ ณ ร้านค้าทั่วโลก ตามเงื่อนไขที่กำหนด*  ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2568

อิออน พร้อมมอบสิทธิประโยชน์ที่มากกว่า ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอิออนที่ร่วมรายการ สัมผัสประสบการณ์ทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับแคมเปญ SUGOI JAPAN 2025 by AEON มอบแพ็กเกจท่องเที่ยวญี่ปุ่น 5 วัน 3 คืน พร้อมบัตรโดยสารการบินไทย ที่พัก และโปรแกรมเที่ยวแบบเจาะลึก นำเที่ยวโดย “ฮิโระซัง” จากรายการ สุโก้ยเจแปน ที่ครั้งนี้จะพาไปเยือน เกาะคิวชู สัมผัสเสน่ห์แดนใต้ยังเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสามของญี่ปุ่น ที่ยังคงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมดั้งเดิม ทัศนียภาพธรรมชาติอันงดงาม และเมืองแห่งของกินสุดอร่อย โดยทริปนี้อิออนเตรียมพาทัวร์แบบสุโก้ยกับสถานที่ชื่อดังมากมาย อาทิ วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) หนึ่งในศาสนสถานชื่อดังที่เมืองฟุกุโอกะ ประดิษฐานพระนอนทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงด้านขอพรเรื่องโชคลาภ, หมู่บ้านโอคะวะชิยะมะ (Okawachiyama Village) แหล่งผลิตเครื่องลายครามชั้นดีให้กับขุนนางชั้นสูงในยุคเอโดะ ที่มีประวัติมายาวนานกว่า 350 ปี แวดล้อมด้วยขุนเขาและป่าเขียวที่หากไปเยือนจะได้ฟีลแบบหมู่บ้านญี่ปุ่นในตำนาน ที่มีผลิตภัณฑ์เซรามิกแฮนด์เมดให้ได้เลือกซื้อแล้ว ยังมีเวิร์กชอปสำหรับผู้ที่อยากสร้างชิ้นงานสุดแรร์ของตัวเอง และมาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีห้ามพลาดกับเมนูดังของเกาะทาคาชิมา “ข้าวหน้าปลามากุโระ (Maguro Don)” และปลาหมึกซาชิมิแบบสดๆ ของขึ้นชื่อประจำเมืองโยบุโกะ พร้อมเดินเล่นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังย่านคิตะคิวชู ไม่ว่าจะเป็น Mojiko Retro เมืองท่าวินเทจสุดโรแมนติก และชอปชิล ชอปเพลินกับบัตรเครดิตอิออนที่ AEON MALL Yahatahigashi และห้างเอาท์เล็ตใหญ่ที่สุดบนเกาะคิวชูอย่าง The Outlets Kitakyushu

เที่ยวญี่ปุ่นแบบสุโก้ยกับบัตรเครดิตอิออน รับฟรีรางวัลแพ็คเกจท่องเที่ยวญี่ปุ่น 5 วัน 3 คืน บัตรโดยสารการบินไทย (ชั้นประหยัด) พร้อมที่พัก  รางวัลละ 2 ที่นั่ง จำนวน 5 รางวัล (รางวัลละ 200,000 บาท) รวมมูลค่า 1,000,000 บาท สำหรับบัตรเครดิตอิออนโกลด์ มาสเตอร์การ์ด/วีซ่า บัตรเครดิตอิออนคลาสสิค มาสเตอร์การ์ด/วีซ่า รางวัลละ 2 ที่นั่ง จำนวน 5 รางวัล (รางวัลละ 200,000 บาท) รวมมูลค่า 1,000,000 บาท สำหรับบัตรเครดิตอิออน โกลด์ เจซีบี,  บัตรเครดิตอิออนคลาสสิค เจซีบี และบัตรเครดิตอิออน เจ-พรีเมียร์ รวมทั้งหมด 10 รางวัล  มูลค่ารวมทั้งหมด 2,000,000 บาท  โดยผู้มีสิทธิ์รับรางวัลจะต้องมีรายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอิออนที่ร่วมรายการตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป/รายการ มากที่สุด 5 อันดับแรก และมีจำนวนรายการใช้จ่ายสะสมขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 50 รายการตลอดระยะเวลาโปรโมชัน ณ ร้านค้าทั่วโลก ตามเงื่อนไขที่กำหนด

ลงทะเบียนเข้าร่วมรายการส่งเสริมการขายที่แอปพลิเคชัน AEON THAI MOBILE หรือ www.aeon.co.th และได้รับข้อความยืนยันการลงทะเบียน ก่อนทำรายการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 

ติดตามรับข่าวสารและโปรโมชันจากอิออนได้ที่ aeon.co.th หรือแอปพลิเคชัน AEON THAI MOBILE หรือ AEON LINE Official Account  หรือ Facebook AEON Thana Sinsap และ TikTok AEON Thana Sinsap


*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิด Epson Solution Center ต้อนรับลูกค้า พันธมิตร และผู้สนใจจากหลาก หลายภาคส่วน เข้าร่วมชมและสัมผัสนวัตกรรมล่าสุดจากเอปสันอย่างใกล้ชิด ผ่านกิจกรรม 3 งานใหญ่ที่จัดขึ้นต่อเนื่องในช่วงเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้แก่ LFP Innovation Day 2025, Epson Robot Experience Day 2025 for Education และ Elevate+ Epson Projector Summit 2025 ซึ่งล้วนสะท้อนถึงแนวทางการสร้างสรรค์เทคโนโลยีเพื่ออนาคตอย่างยั่งยืน

ประเดิมด้วยงาน LFP Innovation Day 2025 เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และการต่อยอดธุรกิจการพิมพ์ในยุคดิจิทัล โดยเชิญพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วมสัมผัสโซลูชันแบบรอบด้าน ผ่าน 4 โซนไฮไลต์ ได้แก่ โซน Digital Lab ต่อยอดธุรกิจด้วยงานพิมพ์แบบ DIY ที่เป็นได้มากกว่าของที่ระลึก โซน Textile สร้างสรรค์งานพิมพ์บนผืนผ้าอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โซน Signage เปิดมิติใหม่ของการสื่อสารด้วยป้ายโฆษณา ทั้งภายในและนอกอาคารด้วยความคมชัดระดับมืออาชีพ และโซน Photo โซนที่ให้ “ภาพเล่าเรื่อง” ผ่านคุณภาพการพิมพ์ที่เหนือชั้น

 

ถัดมาเป็นงาน Epson Robot Experience Day 2025 for Education กิจกรรมการอบรมการใช้งานหุ่นยนต์อุตสาหกรรม SCARA สำหรับอาจารย์จากสถาบันอาชีวศึกษาทั่วประเทศ โดยร่วมมือกับพันธมิตร ได้แก่ บริษัท ท็อปเทค โซลูชั่น จำกัด, บริษัท มูซาชิ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด, บริษัท ไทยแอดวานซ์เซ็นเตอร์ จำกัด และสำนักพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษา (สพค.) เพื่อเสริมศักยภาพของอาจารย์ ให้สามารถนำความรู้ไปต่อยอดและพัฒนาผู้เรียนให้พร้อมเข้าสู่ภาคการผลิตสมัยใหม่ เพื่อพัฒนาศักยภาพของประเทศในการแข่งขันระดับอุตสาหกรรมโลก

 

ปิดท้ายด้วย Elevate+ Epson Projector Summit 2025 งานระดับภูมิภาคที่เอปสันเชิญพันธมิตรจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าร่วมชมโซลูชันโปรเจคเตอร์ที่ครอบคลุมทั้งภาคธุรกิจ การศึกษา ศิลปะ และการสร้างสื่อประสบการณ์ (experiential content) ผ่านการสาธิตการใช้งานจริงใน Epson Solution Center ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านการฉายภาพที่ทรงพลัง พร้อมต่อยอดได้หลากหลายรูปแบบธุรกิจในยุคดิจิทัล  ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมโซลูชันจากงาน Elevate+ Epson Projector Summit 2025 สามารถนัดหมายล่วงหน้าได้จนถึงกลางเดือนสิงหาคม กรุณาติดต่อทีมงานเอปสัน โทร. 0-2460-9699, facebook.com/epsonthailand และ LINE Official Account: Epson Thailand

“Epson Solution Center พื้นที่เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามาสัมผัสเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิด และได้แรงบันดาลใจจากการใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ ศิลปะ หรือการศึกษา เอปสันพร้อมเป็นพันธมิตรในการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน” นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด

สร้างสนามแห่งโอกาส ปั้นนักศึกษาเป็นผู้ขับเคลื่อนอนาคตโลกธุรกิจ

X

Right Click

No right click