December 05, 2025

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย คุณณัฐพิสิษฐ์ ครุฑครองชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (คนที่ 6 จากขวา แถวกลาง) คุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด (คนที่ 5 จากขวา แถวกลาง)  และคณะผู้บริหารระดับสูง รวมทั้งพนักงานจิตอาสากว่า 100 ท่าน รวมพลังหัวใจทำงาน ร่วมบรรจุถุงยังชีพ จำนวน 1,500 ชุด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคเหนือ และเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยถุงยังชีพประกอบด้วยสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีพ อาทิ อาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน ยากันยุง ยาสามัญประจำบ้าน และผ้าอนามัย เป็นต้น

บริษัทฯ ขอร่วมเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยผ่านพ้นวิกฤตินี้ได้โดยเร็ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายหลักขอบริษัทฯ ที่พร้อมอยู่เคียงข้างความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป  ทั้งนี้ท่านสามารถติดตามกิจกรรมเพื่อสังคมของบริษัทฯ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/Hearts.in.action.volunteers หรือ โทร 1159

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และมูลนิธิโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ร่วมกับ กรุงเทพประกันภัย จัดโครงการ หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ “อาสาบำรุงราษฎร์” และ BKI อาสาพัฒนาบ้านพักคนชรา โดยได้รับเกียรติจาก คุณสุทธิรัตน์ โทชนบท ผู้อำนวยการ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย รศ.นพ. ทวีสิน ตันประยูร ประธานปฏิบัติการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ให้เกียรติกล่าวเปิดงานและมอบสิ่งของบริจาค ร่วมกับ คุณชวาล โสภณพนิช ประธานคณะผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ณ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค

 

สำหรับโครงการฯ ในครั้งนี้ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มีทีมแพทย์อาสาจากศูนย์อายุรกรรม ศูนย์กระดูกและข้อ และศูนย์จักษุวมถึง พยาบาล เภสัชกร นักกายภาพบำบัด และบุคลากรของโรงพยาบาลฯ กว่า 60 คน ซึ่งมีทั้งประสบการณ์และความรู้ความเชี่ยวชาญในแต่ละสาขาที่พร้อมให้บริการตรวจรักษา ดูแล และคัดกรองผู้ป่วยตามอาการอย่างตรงจุด รวมถึงสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ ตลอดจนเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นจากเหล่าพันธมิตร ได้แก่ กองทุนทอมสัน และเครื่องดื่มวีซอย โดยมีผู้เข้ารับการรักษา ผู้ป่วยติดเตียง เป็นจำนวน 243 คน

 

โดย กรุงเทพประกันภัย ได้สนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารและสถานที่ มูลค่ากว่า 360,000 บาท พร้อมมอบยาและเวชภัณฑ์ รวมถึงเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ตลอดจนจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน และมอบความสุขให้แก่ผู้สูงอายุด้วยการจัดกิจกรรมนันทนาการ นอกจากนี้ คุณชัย โสภณพนิช ประธานมูลนิธิชัย-นุชนารถ โสภณพนิช ยังร่วมสนับสนุนเงินบริจาคจำนวน 100,000 บาท เพื่อใช้ในภารกิจต่าง ๆ ของศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค

 

รศ.นพ. ทวีสิน ตันประยูร กล่าวว่า “ในนามของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และมูลนิธิโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เรารู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่างกรุงเทพประกันภัย ที่เปรียบเสมือนพี่น้องที่ต่างขับเคลื่อนองค์กรอย่างสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมสังคมที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน ตามปณิธานของ “คุณชัย โสภณพนิช” ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งมูลนิธิโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และประธานกรรมการ บมจ.กรุงเทพประกันภัย ที่เคยกล่าวไว้ว่า “ในการดำเนินธุรกิจ เราจะไม่มุ่งสร้างแต่ผลกำไรเท่านั้น แต่เราต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมด้วย” เราจึงยึดมั่นในพันธกิจการเป็นองค์กรที่มีความรับผิดชอบมาโดยตลอด เพื่อมอบกำไรคืนสู่สังคมผ่านกิจกรรมต่าง ๆ มากมายที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ โดยเฉพาะการสานต่อโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ “อาสาบำรุงราษฎร์” ผ่านการส่งมอบการบริบาลทางการแพทย์ตามมาตรฐานของบำรุงราษฎร์ ด้วยจุดมุ่งหมายในการช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล และกระจายความช่วยเหลือด้านสาธารณสุขสู่ชุมชนอย่างทั่วถึง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมแห่งสุขภาวะที่ดี”

 

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และมูลนิธิโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ยังคงเดินหน้าส่งต่อความห่วงใยและส่งมอบสุขภาพที่ดีแก่ผู้คนในชุมชนทั่วประเทศไทยผ่านหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการ “รักษ์ใจไทย” ซึ่งเป็นโครงการผ่าตัดเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดผู้ด้อยโอกาส, โครงการ “ตำรวจ (ปอด) ปลอดภัย” เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านสุขภาพแก่ตำรวจจราจรที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน และ โครงการ “เด็ก-เด็ก ปลอดยุง” โดยส่งมอบนวัตกรรมเครื่องดักจับยุง เพื่อลดปัญหาความเสี่ยงต่อโรคไข้เลือดออกให้กับเด็ก ๆ ในชุมชน และส่งมอบสุขภาพที่ดีแก่ผู้คนในชุมชนต่าง ๆ รอบโรงพยาบาลฯ เป็นต้น ด้วยความมุ่งหวังที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้นอย่างยั่งยืน

นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “พรูเด็นเชียล ประเทศไทย” ร่วมแสดงความยินดีกับ นางสาวเปสลารี ธีระสาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานเทคโนโลยีและปฏิบัติการ และสายงานสุขภาพ และ นายนิติพงษ์ ปรัชญานิมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานลูกค้าและการตลาด  ในโอกาสที่ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย คว้า 2 รางวัลอันทรงเกียรติจากเวที Insurance Asia Awards 2025 ประเทศสิงคโปร์ ได้แก่ รางวัล Digital Transformation Initiative of the Year และ รางวัล Wealth Initiative of the Year สะท้อนถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล และการดำเนินธุรกิจที่มีลูกค้าเป็นเข็มทิศนำทาง

รางวัล Digital Transformation Initiative of the Year สะท้อนถึงความสำเร็จในการพัฒนาแพลตฟอร์ม PRUServices ซึ่งเป็นระบบดิจิทัลแบบรวมศูนย์ที่เชื่อมโยงช่องทางการให้บริการลูกค้าให้เป็นหนึ่งเดียว โดยได้รับการพัฒนาให้สามารถส่งมอบบริการและสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นสำหรับลูกค้า อาทิ การเชื่อมต่อกับ LINE แอปพลิเคชันยอดนิยมในประเทศไทย การให้บริการแบบอัตโนมัติ รวมถึงการใช้เทคโนโลยี AI และ OCR เพื่อเพิ่มความแม่นยำของข้อมูล

ด้านรางวัล Wealth Initiative of the Year ได้รับจากโครงการ “PRULegacy: Your Mark Lives On” ซึ่งเป็นการวางแผนส่งต่อความมั่งคั่งอย่างมีคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่น สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth: HNW) ที่ไม่เพียงส่งต่อทรัพย์สิน แต่รวมถึงคุณค่าชีวิต และความตั้งใจของเจ้าของทรัพย์สินที่ต้องการฝากไว้ให้คนรุ่นหลัง พร้อมเปิดมุมมองใหม่ให้สังคมไทยตระหนักถึงความสำคัญของการวางแผนส่งต่อความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน

ทั้งสองรางวัลอันทรงเกียรตินี้ นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นบทพิสูจน์ถึงความทุ่มเท ความคิดสร้างสรรค์ และความร่วมมือของทุกฝ่ายใน พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ที่ร่วมกันยกระดับคุณภาพการให้บริการและการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ภายใต้เจตนารมณ์ “For Every Life, For Every Future … ชีวิตมีกัน...ทุกวันดีกว่า

หนุนศักยภาพแข่งขันด้วย AI เทคโนโลยี–ความยั่งยืน เตรียมจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.25 บาท/หุ้น

บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ยึดมั่นในภารกิจแห่งความใส่ใจต่อสังคม มอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัย พร้อมส่งต่อกำลังใจ ความห่วงใย และความหวังให้ก้าวผ่านช่วงเวลายากลำบากไปด้วยกัน  ณ อำเภอปง จังหวัดพะเยา ที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์อุทกภัย ที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุวิภา ทำให้พื้นที่ตอนบนเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง และทำให้เกิดน้ำป่าหลากเข้าท่วมหลายจุด

ทั้งนี้ กรุงเทพประกันชีวิต ตระหนักถึงความสำคัญของการเฝ้าระวังและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง จึงได้เตรียมความพร้อมร่วมกับหน่วยงานและตัวแทนประกันชีวิตในพื้นที่ ในการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีและครอบคลุม โดยการดำเนินงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นสู่การเป็น “บริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งในด้านความใส่ใจ” ที่ยึดมั่นในบทบาทการอยู่เคียงข้างและส่งต่อพลังแห่งความใส่ใจให้กับสังคมในทุกช่วงเวลา

ด้วยวิสัยทัศน์มุ่งสู่ "ครัวของโลก" ที่มีพันธกิจสร้างความมั่นคงทางอาหารเพื่อประชากรทั่วโลก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ นำแนวคิด Sustainovation หรือนวัตกรรมที่ยั่งยืน ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ธุรกิจแข่งขันได้ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ด้วยธีม “Forward SDGs Faster Together through 7 Transformations” ร่วมงาน GCNT EXPO 2025  มหกรรมด้านความยั่งยืนระดับชาติ จัดโดยสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (Global Compact Network Thailand - GCNT)  ระหว่างวันที่ 29–31 กรกฎาคม 2568 ณ True Digital Park  

เวที GCNT EXPO 2025 ถือเป็นเวทีรวมพลังองค์กรผู้นำในภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อน Thailand SDGs Action ขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) ซีพีเอฟ  ในฐานะสมาชิก GCNT  นำเสนอนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของห่วงโซ่อาหาร ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยแบ่งออกเป็น 3 มิติหลัก ได้แก่

 

TECH: ขับเคลื่อนระบบอาหารที่ยั่งยืนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ตั้งแต่ Smart Sourcing ที่เน้นการจัดหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ควบคู่ไปกับแหล่งที่มาที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ไม่บุกรุกป่า ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ, Smart Production ที่มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และ Smart Consumption ที่ส่งเสริมการบริโภคอย่างสมดุลและยั่งยืน

TOGETHER: ถ่ายทอดแนวคิดความร่วมมือผ่านโครงการ “Partner to Grow...เติบโต เคียงข้าง อย่างยั่งยืน” ที่สนับสนุนและสร้างเสริมขีดความสามารถของคู่ค้าธุรกิจในห่วงโซ่อุปทานของซีพีเอฟทั้งองค์กรขนาดใหญ่และผู้ประกอบการ SMEs  เติบโตอย่างมั่นคง พร้อมองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการต้นทุน การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ปรับตัวรับความท้าทายและรับมือการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลก

TOMORROW:  นำเสนอศักยภาพของอาหารไทยสู่ระดับสากล ผ่าน "อกไก่กะเพรา” เมนูรสชาติไทยที่ได้เสิร์ฟนักบินอวกาศบนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ในภารกิจ Axiom Mission 4 เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการยกระดับอาหารไทยด้วยมาตรฐานอวกาศ

พิธีเปิดงาน GCNT EXPO 2025 จัดขึ้นในวันที่ 30 กรกฎาคม ณ ห้อง Auditorium (ฝั่ง West Wing) โดยมี นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และนายกสมาคม GCNT รวมทั้ง นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ และผู้บริหารระดับสูงร่วมในพิธี 

ซีพีเอฟยังร่วมแบ่งปันประสบการณ์และองค์ความรู้การขับเคลื่อนพันธกิจสร้างความมั่นคงทางอาหาร ใน Panel discussion หัวข้อ “Smart Farming Technology for Climate-Resilient Agriculture” โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ผลผลิตพืช กลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ (BKP) ในกลุ่มของซีพีเอฟ  เวลา 09.15 – 10.10 น. และ Keynote Speech: หัวข้อ “Pioneers of Purpose: Redefining Global Competitiveness Through Sustainable Food Leadership”  โดยนางกอบบุญ ศรีชัย ผู้บริหารสูงสุด สายงานกิจการองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ ซีพีเอฟ เวลา 10.10 – 10.25 น. ณ ห้อง Auditorium ชั้น 6 (ฝั่ง East)    

 

นอกจากนี้ ภายในงานมีกิจกรรมส่งเสริมความรู้และแรงบันดาลใจ อาทิ  CPF Biodiversity Workshop สัมมนาเชิงปฏิบัติการเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพ งานเสวนา  Empowering SMEs Competitiveness ...อยู่รอด เติบโต ยั่งยืน เวทีถ่ายทอดความรู้แนวคิดและกระบวนการทำงานที่ยั่งยืนแก่ SME ไทย พร้อมจัด Lean Six Sigma Workshop เวิร์คช็อปช่วยให้ผู้ประกอบการ SME เข้าใจหลักการและเครื่องมือของ Lean Six Sigma เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ และ HR Corner บูธแนะแนวอาชีพในอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต เหมาะสำหรับเยาวชนและผู้ที่มองหาอาชีพในยุคใหม่

 

มาร่วมกันสร้างโลกที่ยั่งยืนไปด้วยกัน ได้ที่บูธ “Sustainovation” ของซีพีเอฟ บูธ A1 โซน Green Innovation & Circularity, Grand Hall ชั้น 3 (ฝั่ง West) เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงระบบอาหารไทยอย่างยั่งยืน พร้อมรับแรงบันดาลใจจากนวัตกรรมล้ำหน้า เรียนรู้แนวทางสู่อนาคตที่ดีขึ้นและสนุกกับเกมส์ประลองความรู้ด้าน SDGs พร้อมรับของรางวัล เข้าร่วมงานฟรี โดยลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่: https://expo.globalcompact-th.com 

IWA (อิวะ) คือแบรนด์สาเกระดับพรีเมียมที่ก่อตั้งโดย Richard Geoffroy อดีตมาสเตอร์เบลนเดอร์ของเมซงแชมเปญระดับตำนาน Dom Pérignon ผู้เปลี่ยนแปลงโลกของแชมเปญมาแล้วทั้งวงการที่ได้นำปรัชญาแห่ง ความสมดุล ความกล้าทดลอง และความประณีตบรรจงอันละเมียดละไมของการเบลนด์ มาร้อยเรียงใหม่ในรูปแบบของสาเกร่วมสมัยในชื่อ IWA ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2019

Richard Geoffroy มองว่าการจะผลิตสาเกชั้นเลิศไม่อาจจำกัดแค่การบ่มสาเกชนิดเดียว จึงนำเทคนิคการเบลนด์ที่เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์มาใช้ ดังนั้นหัวใจของ IWA คือแนวคิด Assemblage หรือศาสตร์การเบลนด์ชั้นเลิศด้วยการผสมผสานข้าวพันธุ์ต่างๆ สายพันธุ์ยีสต์ และสาเกบ่มบางส่วนเข้าด้วยกัน IWA จึงไม่ได้ถูกจำกัดด้วยการหมักบ่มครั้งเดียวเหมือนสาเกทั่วไป แต่กลับกลายเป็นงานฝีมือที่ซับซ้อน ทรงพลัง และเปี่ยมด้วยมิติของรสชาติ

ฐานการผลิตของ IWA คือโรงกลั่น Shiraiwa ที่ตั้งอยู่ในจังหวัด Toyama Prefecture ท่ามกลางธรรมชาติของเทือกเขา Tateyama ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น รายล้อมด้วยแหล่งน้ำบริสุทธิ์จากธารหิมะที่ละลายสู่แม่น้ำสายหลักของภูมิภาค น้ำที่ไหลผ่านหินแกรนิตของเทือกเขานั้นมีแร่ธาตุในระดับที่สมดุล ช่วยส่งเสริมรสสัมผัสอ่อนละมุน และโครงสร้างรสชาติที่ซับซ้อน นอกจากนี้ดินฟ้าอากาศที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลอย่างชัดเจน รวมถึงระดับความชื้นและอุณหภูมิที่สมดุล ล้วนสร้างเงื่อนไขที่เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการปลูกข้าวสาเกพันธุ์ดี และการหมักบ่มที่พิถีพิถัน มากไปกว่านั้นทุกองค์ประกอบของ IWA ยังสะท้อนความประณีตและความร่วมสมัย ตั้งแต่โรงกลั่นสถาปัตยกรรม kura หรือบ้านแบบดั้งเดิมในสไตล์ร่วมสมัยที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง Kengo Kuma ไปจนถึงขวดสีดำพื้นผิวแม็ตต์มินิมัลและเรียบหรูที่ออกแบบโดย Marc Newson

เอ็กซ์เพรสชันไฮไลท์ที่โดดเด่นคือสาเก IWA 5 Assemblage 5 ในขวดสีดำเรียบหรูและน่าค้นหา ผลงานรุ่นที่ห้าในเส้นทางแห่งการทดลองและสร้างสรรค์ที่ไม่หยุดนิ่ง กับรสชาติที่แสดงออกถึงความกลมกล่อมที่น่าหลงใหล ที่มาพร้อมกับความนุ่มนวล ลุ่มลึก และพลังภายใน แฝงกลิ่นผลไม้เนื้อนุ่มหอมหวานที่มีเมล็ดแข็ง กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้โดยเฉพาะกุหลาบและมะลิ ความเผ็ดร้อนบางเบาของพริกไทยขาว และกลิ่นรสแบบสมุนไพรของไพน์และเจอราเนียมที่มอบความรู้สึกที่ทั้งนุ่มนวลและอบอุ่นเมื่อได้จิบ สามารถดื่มได้ในหลายอุณหภูมิตั้งแต่เย็นจัดจนถึงอุ่นจัด ซึ่งแต่ละระดับอุณหภูมิจะดึงคาแรกเตอร์และประสบการณ์การลิ้มรสที่แตกต่างกันออกมา

รสชาติที่ซับซ้อนและโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ยังทำให้ IWA ได้รับความนิยมในวงการอาหารระดับโลก เพราะความสามารถในการขับเน้นและส่งเสริมอาหารที่หลากหลายทั้งอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย สเต๊ก อาหารยุโรป อาหารญี่ปุ่น หรือแม้แต่อาหารไทยแนวสร้างสรรค์ ปัจจุบัน IWA ได้รับการยอมรับจากเชฟแถวหน้าทั่วโลก และเสิร์ฟในร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งระดับมิชลินทั่วญี่ปุ่น ยุโรป สหรัฐอเมริกา และอีกหลายเมืองชั้นนำด้านซีนอาหาร ไม่ว่าจะเป็นโตเกียว ปารีส โคเปนเฮเกน นิวยอร์ก และกรุงเทพฯ นับเป็นหนึ่งในแบรนด์สาเกระดับพรีเมียมชั้นนำของโลกที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมอาหารทั่วโลก สร้างบทสนทนาใหม่ๆ ให้กับวงการสาเก และเชิญชวนให้ผู้ที่หลงใหลในรสชาติได้ค้นพบความงดงามในความกลมกลืนระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมเปิดกิจกรรมจับสลากเลือกหลักสูตร/ประเทศ และสอบสัมภาษณ์โครงการ ODOS Summer Camp ยืนยันรัฐบาลพร้อมส่งมอบโอกาสให้กับเยาวชนไทยทุกคน ในทุกพื้นที่ เพื่อสร้างพลังแห่งอนาคตที่ยิ่งใหญ่ให้กับประเทศ

 

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ร่วมเปิดกิจกรรม ODOS Summer Camp Selection Day กิจกรรมจับสลากเลือกหลักสูตร/ประเทศ และสอบสัมภาษณ์ในโครงการ ODOS Summer Camp ค่ายแห่งโอกาสภาคฤดูร้อน โดยมี ดร.วาริน รัชนานุสรณ์ รักษาการรองผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า ในฐานะผู้อำนวยการโครงการกล่าวรายงานที่มาและความสำคัญของโครงการ ณ บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์

 

นายประเสริฐ กล่าวว่า โครงการทุนการศึกษาเพื่อขยายโอกาสและพัฒนาประเทศ (Outstanding Development Opportunity Scholarship: ODOS) เป็นการต่อยอดมาจากโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุนการศึกษาในอดีต แต่มีการขยายโอกาสให้กับเด็กและเยาวชนที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศเพื่อเปิดโลกทัศน์และเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ซึ่ง ODOS Summer Camp ทุนการศึกษาแบบให้เปล่าจำนวน 928 ทุน คือหนึ่งในความตั้งใจของรัฐบาลที่จะส่งมอบ ‘โอกาส’ ให้กับเยาวชนไทย ในนามของรัฐบาลขอแสดงความยินดีกับน้อง ๆ ทั้ง 928 คน ตัวแทนจาก 878 อำเภอทั่วประเทศ และ 50 เขตในกรุงเทพฯ ที่สามารถผ่านกระบวนการคัดเลือกที่เข้มข้น และเข้ามาถึงการคัดเลือกรอบสุดท้าย ซึ่งเป็นการจับสลากเพื่อเลือกหลักสูตร/ประเทศ และสอบสัมภาษณ์กับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในวันนี้

 

รัฐบาลให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสแก่เยาวชนไทยในทุกจังหวัดอย่างทั่วถึง โดยเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่โครงการ ODOS Summer Camp จะได้รับโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาจากสถาบันการศึกษาชั้นนำ และบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น AWS, Google, Microsoft, Huawei, Alibaba, Nokia, Canva, LinkedIn, Sony, Nintendo ฯลฯ ซึ่งรัฐบาลเชื่อว่า โอกาสในการเรียนรู้ไม่ควรถูกจำกัดอยู่แค่ในห้องเรียน นอกจากนี้ เยาวชนจะได้รับโอกาสในการค้นหาแรงบันดาลใจที่จะช่วยปรับมุมมอง และทำให้เห็นภาพฝันของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น รวมถึงโอกาสในการสร้างคนรุ่นใหม่ของประเทศที่ไม่เพียงรู้เท่าทันโลก แต่ยังเป็นคนกล้าที่จะฝันและลงมือทำ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โอกาสที่น้อง ๆ ได้รับจะเป็นต้นทุนที่มีค่าสำหรับการดำเนินชีวิต และขอให้ทุกคนเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ทั้งหมดก่อนกลับมาส่งต่อและแบ่งปันให้กับเพื่อนพี่น้อง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและสร้างสรรค์พลังแห่งอนาคตที่ยิ่งใหญ่ให้กับประเทศไทยนายประเสริฐ กล่าว

 

ด้าน ดร.วาริน กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ กระทรวงดีอี โดย ดีป้า เป็นหน่วยงาน หลักในการดำเนินโครงการ ODOS Summer Camp หลักสูตรระยะสั้น 5 - 6 สัปดาห์ที่เปิดโอกาสให้นักเรียน/นักศึกษา อายุไม่เกิน 19 ปีที่มีภูมิลำเนาใน 878 อำเภอทั่วประเทศ 50 เขตในกรุงเทพฯ รวม 928 คน ซึ่งเป็นตัวแทนเขต/อำเภอได้มีประสบการณ์การใช้ชีวิตและการศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำใน 9 ประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฟินแลนด์ เอสโตเนีย ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ รวม 16 หลักสูตร พร้อมยกระดับทักษะดิจิทัลจากเจ้าของเทคโนโลยีที่เป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก และค้นหาแรงบันดาลใจในการต่อยอดไปสู่การเลือกสายการเรียนในระดับที่สูงขึ้น รวมถึงสายอาชีพในอนาคต

 

หลังจากนี้ โครงการจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกรอบสุดท้ายในวันศุกร์ที่ 1 สิงหาคมนี้ทาง https://odos.thaigov.go.th/Announcement และเพจเฟซบุ๊ก ODOS Summer Camp ส่วนผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของโครงการ ODOS Summer Camp ได้ทาง https://odos.thaigov.go.th/ และเพจเฟซบุ๊ก ODOS Summer Camp

สถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้จังหวัดปราจีนบุรี โดยเฉพาะอำเภอกบินทร์บุรี เตรียมพร้อมรับมือทุกด้าน จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว 8 แห่ง รองรับผู้อพยพได้ถึง 16,000 คน ขณะที่ มทร.ธัญบุรี วิทยาเขตปราจีนบุรี เปิดพื้นที่เป็นศูนย์รับผู้อพยพรองรับได้ 2,000 คน พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคช่วยเหลือทั้งผู้ลี้ภัยและผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ

จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายแดนของจังหวัดสระแก้วและอาจมีการอพยพของประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงเข้ามายังจังหวัดใกล้เคียง จังหวัดปราจีนบุรี โดยเฉพาะอำเภอกบินทร์บุรี ได้ประกาศเตรียมความพร้อมเพื่อรับมืออย่างเร่งด่วน โดยได้มีการจัดเตรียมสถานที่พักพิงชั่วคราวจำนวนทั้งสิ้น 8 แห่ง ภายในเขตจังหวัดปราจีนบุรี รองรับผู้อพยพได้สูงสุดถึง 16,000 คน เพื่อให้การดูแลช่วยเหลือประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

หนึ่งในหน่วยงานที่เข้าร่วมสนับสนุนอย่างเต็มที่คือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) วิทยาเขตปราจีนบุรี ซึ่งได้เปิดพื้นที่ภายในมหาวิทยาลัยจัดตั้งเป็น ศูนย์รับผู้อพยพ (สำรอง 1) สามารถรองรับประชาชนที่ต้องอพยพจากพื้นที่ชายแดนได้สูงสุดถึง 2,000 คน

 

ขณะเดียวกัน มทร.ธัญบุรี ยังได้ขอเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคสิ่งของจำเป็น อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม และชุดเครื่องนอน (การบริจาคจะรับเฉพาะสิ่งของจำเป็นเท่านั้น ไม่รับบริจาคในรูปแบบเงินสดหรือเงินโอนทุกกรณี) เพื่อช่วยเหลือทั้งผู้ลี้ภัยจากสถานการณ์ชายแดนและผู้ประสบภัยจากน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือที่ยังคงเผชิญกับสภาวะวิกฤต ประชาชนที่ประสงค์จะร่วมบริจาคสิ่งของสามารถนำมามอบได้ที่ ศูนย์รักษาความปลอดภัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (บริเวณข้างสนามกีฬากลาง) โทรศัพท์ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม: 02-549-3195

นอกจากนี้ มทร.ธัญบุรี ยังให้ความสำคัญในการสำรองโลหิตเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ชายแดน โดยได้เชิญชวนนักศึกษา บุคลากร และประชาชนทั่วไป ร่วมบริจาคโลหิตเพื่อสนับสนุนการรักษาทั้งทหารและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ทางจังหวัดปราจีนบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ในทุกมิติ ทั้งด้านที่พักพิง ความปลอดภัย และสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต

X

Right Click

No right click