

ในยุคที่ประเทศไทยกำลังก้าวสู่จุดเปลี่ยนสำคัญของการถ่ายโอนความมั่งคั่ง พรูเด็นเชียล ประเทศไทย เปิดเกมรุกธุรกิจปีนี้เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth: HNW) นำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์การส่งต่อความมั่งคั่งอย่างมีคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่น ผ่านแนวคิด “PRULegacy: Your Mark Lives On” ให้ทุกก้าวสำเร็จในแบบคุณ พร้อมส่งต่อสิ่งที่ดีที่สุดให้คนที่คุณรัก พร้อมเปิดมุมมองสังคมไทยให้มีความตระหนักรู้ถึงการวางแผนส่งต่อความมั่งคั่งที่ยั่งยืน (A Thoughtful Legacy Planning) ที่ไม่ได้เพียงเน้นเรื่องการส่งต่อทรัพย์สิน แต่รวมถึงคุณค่า ชีวิต และความตั้งใจที่เจ้าของทรัพย์สินต้องการฝากไว้ให้แก่คนรุ่นหลัง
นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย เปิดเผยว่า “ตลาด High Net Worth (HNW) หรือกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากรายงาน UBS Global Wealth Report 2024 คาดการณ์ว่า การเติบโตของกลุ่ม HNW จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 120,000 คน ในปี 2028 เมื่อเทียบกับปี 2023 ซึ่งอยู่ที่ 100,000 คน หรือเติบโตราว 24% พรูเด็นเชียลฯ เล็งเห็นแนวโน้มการเติบโตของคนกลุ่มนี้ จึงได้นำเสนอโซลูชันครบวงจรผ่านเอกสิทธิ์เหนือระดับสำหรับสมาชิก “PRULegacy” และ “PRULegacy+” ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า HNW โดยเฉพาะ”

สิ่งนี้สอดคล้องกับข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยที่ชี้ว่า ภายใน 10 ปีข้างหน้าประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุคการส่งต่อความมั่งคั่งระหว่างรุ่นสู่รุ่นมูลค่าหลายล้านล้านบาท อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคนไทยจำนวนมากยังเข้าใจผิดว่าการจัดทำพินัยกรรมเป็นเรื่องไกลตัว นี่จึงเป็นจังหวะสำคัญที่ทุกครอบครัวควรตระหนักถึงการวางแผนมรดกอย่างรอบคอบ เพราะมรดกไม่ได้หมายถึงแค่ทรัพย์สิน แต่รวมถึงความตั้งใจและเป้าหมายชีวิตที่เจ้าของทรัพย์สินต้องการส่งต่อให้กับคนรุ่นหลังอย่างมีคุณค่า
“ผมมองว่า การวางแผนในการส่งต่อทรัพย์สินหรือมรดกไม่ใช่เรื่องของคนสูงวัยเท่านั้น แต่เราสามารถเตรียมความพร้อมได้ทันทีเมื่อมีครอบครัวหรือเป้าหมายระยะยาว พรูเด็นเชียลฯ มุ่งมั่นจะเป็นที่ปรึกษาที่ลูกค้าเชื่อถือได้ในทุกช่วงของชีวิต ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการโซลูชันแบบองค์รวม ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์การเงิน แต่รวมถึงความมั่นคงของครอบครัว การบริหารภาษี และการส่งต่อคุณค่าระยะยาว เพื่อยกระดับการบริหารจัดการความมั่งคั่งและสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้กับคนรุ่นต่อไป” นายบัณฑิตกล่าวเสริม
หัวใจของการออกแบบเอกสิทธิ์สำหรับลูกค้า “PRULegacy” มุ่งเน้นไปที่การส่งต่อคุณค่าและสิ่งที่ดีที่สุดให้คนที่รักด้วยผลิตภัณฑ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ โดยบริษัทฯ ได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง อย่าง ทีทีบี และ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “ประกันชีวิตเพื่อการส่งต่อมรดก ทีทีบี อัลติเมท เลกาซี 99/3” และ “ยูโอบี บียอนด์ เลกาซี 3/99” ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่คัดสรรมาเพื่อปกป้องและเพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน ส่งต่อมรดก สร้างอนาคตมั่นคงเพื่อลูกหลานที่รักอย่างมั่นใจ โดยจ่ายเบี้ยประกันภัยเพียง 3 ปี รับความคุ้มครองจนถึงอายุครบ 99 ปี

พรูเด็นเชียลฯ ยังมุ่งยกระดับประสบการณ์ลูกค้า “PRULegacy” ด้วยบริการหลังการขายสุดเอ็กซ์คลูซีฟครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น บริการจัดทำร่างพินัยกรรม หรือ บริการให้คำปรึกษาด้านการวางแผนภาษีที่สำนักงานกฎหมาย Chandler Mori Hamada Limited (CMH), ส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยสำหรับผู้มีสุขภาพดี, บริการ Legacy Advisor ที่ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด, บริการ Fast Lane Underwriting เพื่อให้ลูกค้าได้รับผลการอนุมัติกรมธรรม์ที่รวดเร็วขึ้น, บริการ VIP Call Center และอีกมากมาย
ในปีนี้ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ยังเดินเกมรุกอย่างต่อเนื่องเพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยี โดยเฉพาะโครงสร้างดิจิทัล การจัดการข้อมูล และ เอไอ (AI) เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก หนึ่งในความสำเร็จที่โดดเด่น คือ การย้ายระบบการดำเนินงาน และการจัดการข้อมูลทั้งหมดไปยังระบบคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่แอปพลิเคชันสำหรับการนำเสนอขาย ระบบบริการลูกค้า ช่องทางโทรศัพท์ รวมถึงระบบสนับสนุนการทำงานของพนักงาน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวทางธุรกิจและประสิทธิภาพในการดำเนินงานในการส่งมอบประสบการณ์และการดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด
นอกจากนี้ พรูเด็นเชียลฯ ยังได้ยกระดับการให้บริการลูกค้าด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัลรูปแบบใหม่ “PRUServices” ผ่าน LINE @Prudential Thailand ที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกรมธรรม์ การชำระเบี้ยประกันภัย การยื่นเคลม หรือบริการสอบถามข้อมูลแบบ All In One ซึ่งลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการได้ทุกที่ทุกเวลา
นอกจากนี้ บริษัทฯยังนำเทคโนโลยี AI มายกระดับการให้บริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ทำให้สะดวกรวดเร็ว เช่น การลดขั้นตอนในการยื่นเคลม ผ่านช่องทางดิจิทัล ถือเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ AI First Organization อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับการขยายตัวของธุรกิจ ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานภายใน แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อความรวดเร็ว ความแม่นยำ และคุณภาพของบริการที่ลูกค้าจะได้รับ
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร (ที่ 2 จากขวา) ประธานมูลนิธิกสิกรไทย และ รศ.ดร. อุไรพรรณ เจนวาณิชยานนท์ (ที่ 2 จากซ้าย) อธิการบดีมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการและวิจัย เพื่อการพัฒนายาจากพืชและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความงาม และการพัฒนาชุดทดสอบเพื่อใช้ในกระบวนการผลิตและตรวจสอบพืชยาและสารสกัดจากพืชยา ตามแนวทางพืชยาคืนป่า ภายใต้โครงการน่านแซนด์บอกซ์ เพื่อการบูรณาการศาสตร์แห่งการแพทย์ ทั้งแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนจีน เภสัชศาสตร์ และวิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพ นับเป็นความร่วมมือที่จะช่วยยกระดับคุณค่าและมูลค่า สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ควบคู่ไปกับการฟื้นคืนป่าต้นน้ำน่าน ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำอันดับหนึ่งของประเทศ โดยมี ภญ.ภควรรณ เทพสิทธิทรากรณ์ (ขวา) รองประธาน สถาบัน เค อะโกร-อินโนเวท และ ดร. โจนาธาน รันเต คาร์รียอน (ซ้าย) รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อเร็วๆ นี้
ออร์บิกซ์ เปิดตัว “OBX Point” โปรแกรมสะสมคะแนน (Loyalty Program) ให้ผู้ใช้งานกดรับคะแนนได้ทุกวันรับของรางวัลสุดพิเศษตลอดทั้งปี พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ที่คุ้มค่าและแตกต่างให้กับนักลงทุนทุกกลุ่ม พิเศษสำหรับลูกค้าทรูและดีแทค ที่เปิดบัญชีออร์บิกซ์และเทรดครั้งแรกบนแพลตฟอร์ม ออร์บิกซ์โดยไม่มีขั้นต่ำ รับคะแนนสะสมเพิ่มได้ถึง 2 ต่อ รวมสูงสุด 25,000 คะแนน สามารถร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่ 16 มิถุนายน 2568 – 15 สิงหาคม 2568
นายสรัล ศิริพันธ์โนน รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด (orbix) เปิดเผยว่า ออร์บิกซ์ เทรด (orbix) ผู้นำแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ภายใต้ ออร์บิกซ์ กรุ๊ป บริษัทลูกในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสารสนเทศถึง 3 มาตรฐาน ISO ระดับโลก ที่เดินหน้าพัฒนาประสบการณ์การใช้งานให้ตอบโจทย์นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการใช้งานง่าย (Easy) เชื่อถือได้ (Trustworthy) ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ตลอดจนการทำแคมเปญสื่อสารการตลาด และการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship Management) เพื่อสร้าง Brand Loyalty อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด ออร์บิกซ์ ได้เปิดตัว OBX Point โปรแกรมสะสมคะแนนแลกของรางวัล เพียงเปิดบัญชีออร์บิกซ์ ซึ่งลูกค้าสามารถ Login เข้าสู่แพลตฟอร์มของ ออร์บิกซ์ เพื่อกดรับ OBX Point ได้ที่ไอคอน รีวอร์ด ทุกวัน เพื่อสะสมคะแนนและรับของรางวัลต่าง ๆ ตลอดปี อาทิ Starbucks e-Coupon มูลค่า 100 บาท พิเศษสำหรับลูกค้าปัจจุบันของ ออร์บิกซ์ ที่เป็นลูกค้าทรูและดีแทค สามารถรับสิทธิประโยชน์ได้ 2 ต่อ

ระยะเวลาร่วมกิจกรรมตั้งแต่ 16 มิถุนายน – 15 สิงหาคม 2568 จำกัดจำนวนที่ 2,000 สิทธิ์ ลูกค้าสามารถติดตามข่าวสาร กิจกรรมดี ๆ และรายละเอียดการนำ OBX Point แลกของรางวัลได้ที่ www.orbixtrade.com/blog
**เงื่อนไขกิจกรรมเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
คำเตือน: * *คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษา และลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
นายชนะพล มหาวงษ์ ผู้จัดการกองทุนประกันวินาศภัย ได้มอบหมายให้นางสาวพัชราภรณ์ พุทธวงศ์ รักษาการผู้อำนวยการส่วนบริหารทั่วไป พร้อมด้วยบุคลากรกองทุนประกันวินาศภัย เข้าร่วมจัดกิจกรรมในโครงการ “ยุวชนนักสื่อสารประกันภัยรุ่นใหม่ ปี 2568” เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านประกันภัยแก่เยาวชนในพื้นที่ ณ โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์ กรุงเทพมหานคร โดยมี นางจตุรัตน์ มณีวรรณ์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานบริหารงานประกันภัยภูมิภาค สำนักงาน คปภ. เป็นประธานกล่าวเปิดงาน

โครงการดังกล่าวจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อเสริมสร้างความรู้พื้นฐานด้านประกันภัยให้แก่เยาวชน จึงจัดกิจกรรมเรียนรู้ผ่านการมีส่วนร่วมของครู อาจารย์ ที่รับผิดชอบโครงการ และนักเรียน นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ โดยเน้นให้นักเรียนสามารถนำความรู้ด้านการประกันภัยไปเผยแพร่สู่ชุมชนและสังคม ตลอดจนการสร้างความตระหนักรู้ และความสำคัญของการประกันภัย ผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ได้แก่

การเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจของกองทุนประกันวินาศภัยในการส่งเสริมความรู้ด้านการประกันวินาศภัยแก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนระบบประกันภัยของประเทศในอนาคตให้มีความมั่นคง ยั่งยืน และมีความเข้าใจที่ถูกต้องต่อบทบาทของระบบการประกันภัยในสังคม
วัตสัน ไม่เพียงเป็นผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของไทย แต่ยังมุ่งมั่นสร้างสังคมที่ดีกว่าผ่านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และความยั่งยืน เพราะวัตสันเชื่อว่า "สีสันของความหลากหลายคือพลังที่แข็งแกร่ง" การสนับสนุนความหลากหลาย (Diversity), ความเท่าเทียม (Equity) และการมีส่วนร่วม (Inclusion) หรือ DEI จึงไม่ใช่เพียงเทรนด์ชั่วคราว แต่เป็น DNA สำคัญที่เราปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับพันธกิจหลักด้าน 'People' ที่เชื่อมั่นและโอบรับทุกคนด้วยความใส่ใจ ผ่านวัฒนธรรมองค์กรเชิงบวกอันเป็นรากฐานของการเติบโตร่วมกัน
จิระวัฒน์ แต่งเจนกิจ People Director วัตสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “วัตสันไม่ใช่แค่พูดถึงความเท่าเทียม แต่ลงมือทำจริง เริ่มจากการให้คุณค่ากับ ทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงคนรุ่นใหม่ โดยที่ผ่านมามีกิจกรรมที่พัฒนาทักษะและความรู้ให้พนักงานทุกคน อาทิ โปรแกรมสนับสนุนการเรียนรู้ และการทำงานแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในต่างประเทศ ให้กับ Beauty Artist ซึ่งพิจารณาจากความสามารถ และผลงานเป็นหลักโดยไม่สนใจเพศสภาพ เพราะเชื่อมั่นว่าทุกคนควรได้โอกาสเติบโตในแบบของตัวเอง, กิจกรรม Reverse Mentoring และ Coffee Talk with MD งานฟอรั่มที่จัดขึ้นเพื่อให้พนักงานรุ่นใหม่ในทุกตำแหน่งทุกระดับ ได้พบปะพูดคุยกับผู้บริหารสูงสุดในรูปแบบอย่างเป็นกันเองเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้พร้อมทลายกำแพงระหว่างวัยและสร้างความเข้าใจระหว่างกัน, เปิดรับเภสัชกรหลังเกษียณ เพราะเชื่อมั่นว่าประสบการณ์และภูมิปัญญาไม่มีวันหมดอายุ นอกจากนั้นวัตสันยังสนับสนุนพนักงานทุกคน สามารถใช้สิทธิลาสมรส ได้อย่างเท่าเทียม เพราะเราเชื่อว่าความรักทุกรูปแบบควรได้รับการยอมรับ และทุกคนควรมีส่วนร่วมในครอบครัวที่อบอุ่นแห่งนี้”

นวลพรรณ ชัยนาม กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “วัตสัน ยังคงมุ่งมั่นจะสร้างสรรค์แนวทางปฏิบัติเพื่อสนับสนุนพนักงานในองค์กรให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนให้ทุกคนกล้าเป็นตัวเอง กล้าแสดงความคิดเห็น มีความสุข มีความเป็นอยู่ที่ดี เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มาจากไหน คุณคือส่วนสำคัญของของเรา”

เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นนี้ วัตสันได้จัดทำวิดีโอพิเศษที่รวบรวมเรื่องราวจริงจากประสบการณ์ของพนักงานวัตสัน ที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและการมีส่วนร่วมของพนักงานในองค์กร สามารถรับชมได้ทาง https://www.facebook.com/watch/?v=1391147851930609&rdid=laWf6D7GjqHpbIr1
สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” นำโดยนางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการรักษาการแทนผู้อำนวยการ DGA ร่วมเปิดตัวบริการการสมัครสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีบนแอปฯ ทางรัฐ ในพิธีเปิด โครงการ “พลังสตรีเพื่อการพัฒนา เสริมสร้างโอกาส สร้างอนาคต” โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาววธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง

ภายในงาน DGA ได้แนะนำการสมัครสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีผ่านแอปฯ ทางรัฐ ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันเดียวที่รวมบริการจากภาครัฐไว้กว่า 198 บริการ เพื่อส่งเสริมให้ผู้หญิงยุคใหม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนง่ายขึ้น โดยเปิดให้ใช้งานได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สืบเนื่องจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพของสตรีและผลักดันให้สตรีเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ที่ซึ่งพลังของผู้หญิงจากทั่วประเทศได้มารวมตัวกันเพื่อแสดงให้เห็นว่า “ผู้หญิงไม่ได้อยู่เพียงเบื้องหลังของความสำเร็จ” แต่คือ “พลังของการเปลี่ยนแปลง” ที่พร้อมจะยืนอยู่แถวหน้าในการพัฒนา ทั้งเศรษฐกิจ ชุมชน และสังคมของประเทศ
ด้านนางสาววธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ปัจจุบันกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ได้ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรม โดยสามารถสมัครสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ผ่านแอปฯ ทางรัฐได้แล้ววันนี้ และในอนาคตอันใกล้นี้ สมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจะสามารถยื่นกู้ ตรวจสอบสถานะ รวมถึงติดตามผลการดำเนินการ ภายใต้แอปฯ ทางรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นการลดภาระให้กับสมาชิกทุกคน ที่ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง ไม่ต้องยื่นเอกสารซ้ำซ้อน เป็นนิมิตใหม่ที่ทุกคนจะได้เรียนรู้ และก้าวไปพร้อม ๆ กัน

การพัฒนาข้างต้นไม่ได้เป็นเพียงแค่การทำให้ระบบมีความทันสมัยเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางโครงสร้างกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีใหม่ทั้งระบบ เพื่อให้การเข้าถึงเป็นไปด้วยความโปร่งใส ปลอดภัย และตรวจสอบได้ ที่สำคัญคือสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกคน
“โลกหมุนเร็วขึ้นทุกวัน กองทุนฯ ของเราก็ต้องหมุนไปพร้อม ๆ กัน และนี่ก็คือการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ที่เราทำให้เกิดขึ้นจริงในวันนี้แล้ว ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างกองทุนฯ และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ดิฉันต้องขอขอบคุณ DGA ในความสำเร็จครั้งนี้” นางสาววธีรรัตน์ กล่าว

นางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการรักษาการแทนผู้อำนวยการ DGA กล่าวว่า “นี่เป็นอีกก้าวสำคัญของการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ที่มุ่งเน้นการเข้าถึงบริการของภาครัฐอย่างเท่าเทียม สะดวก และโปร่งใส โดยเฉพาะกับพี่น้องสตรีในทุกพื้นที่ของประเทศไทย การสมัครเข้าร่วมกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีผ่านแอปฯ ทางรัฐ ไม่เพียงช่วยลดความยุ่งยากในการดำเนินเรื่องการสมัครสมาชิก แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงทั่วประเทศสามารถเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อการพัฒนาอาชีพ การเสริมสร้างศักยภาพ และการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนได้อย่างแท้จริง จึงขอเชิญชวนผู้หญิงยุคใหม่ สมัครสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีผ่านแอปฯ ทางรัฐ ประตูบานใหม่ที่จะเพิ่มโอกาสให้กับผู้หญิงยุคใหม่ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้นและมีความทันสมัยมากขึ้น นอกจากนี้แอปฯ ทางรัฐยังมีบริการจากภาครัฐอีกกว่า 198 บริการที่พร้อมให้บริการประชาชนชาวไทย และในขณะนี้แอปฯ ทางรัฐมีผู้ยืนยันตัวตนในการเข้าใช้งานซึ่งมีความปลอดภัยในระดับเดียวกับธนาคารมากกว่า 32 ล้านคน รวมถึงมีปริมาณการใช้งานเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 1.4 ล้านครั้ง ทาง DGA จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการให้บริการสมัครสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีผ่านแอปฯ ทางรัฐ จะช่วยให้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีสามารถขับเคลื่อนโครงการและพัฒนาศักยภาพของสตรีไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

การมีบริการสมัครสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีบนแอปฯ ทางรัฐจึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะส่งเสริมให้สตรียุคใหม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนในการพัฒนาศักยภาพได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ยังมีบริกาการแก้ไขข้อมูลของสมาชิกได้อีกด้วย เพียงดาวน์โหลดแอปฯ ทางรัฐ และสามารถยืนยันตัวตนเพื่อเข้าใช้งานแอปฯ ทางรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ที่ เคาน์เตอร์ไปรษณีย์ไทย Big C โลตัส และเคาน์เตอร์เซอร์วิส ร้าน 7-11
กองทุนประกันวินาศภัย (กปว.) ได้จัดโครงการเชิงรุกภายใต้ชื่อ “โครงการสร้างความเข้าใจในกระบวนการชำระบัญชี พร้อมสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการทำประกันวินาศภัย แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในธุรกิจประกันภัย จังหวัดอุบลราชธานี” ณ ห้องประชุมสามพันโบก ชั้น 1 โรงแรมเซ็นทาราอุบล จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในธุรกิจประกันภัยเกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ และภารกิจของ กปว. พร้อมสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย รวมถึงการส่งเสริมความสำคัญของการทำประกันวินาศภัยในภาคประชาชน ให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง และใช้สิทธิของตนได้อย่างครบถ้วน

ในงานได้รับเกียรติจาก นายชนะพล มหาวงษ์ ผู้จัดการกองทุนประกันวินาศภัย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ พร้อมเป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ “บทบาท หน้าที่ และภารกิจกองทุนประกันวินาศภัย” ซึ่งได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการชำระบัญชีและการคุ้มครองสิทธิของผู้เอาประกันภัย รวมถึงมาตรการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ได้รับสิทธิที่เหมาะสมและเป็นธรรม นอกจากนี้ได้รับเกียรติจาก นางลฎาภา นีระมนต์ ผู้อำนวยการ สำนักงาน คปภ. จังหวัดอุบลราชธานี บรรยายในหัวข้อ “ภารกิจของสำนักงาน คปภ. และการคุ้มครองสิทธิผู้เอาประกัน” ซึ่งเน้นการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยในพื้นที่ และการคุ้มครองสิทธิของผู้เอาประกันภัย รวมถึงแนวทางแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการดำเนินงานด้านประกันภัย

กิจกรรมภายในงานประกอบด้วยการเสวนาและช่วงถาม-ตอบ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถสอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับกระบวนการชำระบัญชีและสิทธิประโยชน์ต่างๆ โดยการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้ช่วยให้ตัวแทน นายหน้าประกันภัยและเจ้าหนี้ของบริษัทประกันวินาศภัยที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตนอย่างถูกต้องและครบถ้วน กปว. ยังได้นำข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมโครงการไปพัฒนาแนวทางการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การจัดโครงการในครั้งนี้ถือเป็นมาตรการเชิงรุกของกองทุนประกันวินาศภัยในการเผยแพร่ความรู้ และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับระบบประกันภัย ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนทุกระดับสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและตระหนักถึงความสำคัญของการมีหลักประกันความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งยังเป็นการปกป้องคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างถูกต้อง
กรุงเทพประกันชีวิต ร่วมกับ “มนุษย์ต่างวัย” ชวนทุกคนมาวางแผนอนาคตในการใช้ชีวิตตามเป้าหมายที่ต้องการ ทั้งเรื่องการเงิน การออม ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ ไปจนถึงอาชีพหลังเกษียณที่ใช่ ตามสไตล์ของตัวเอง ด้วยแนวคิด “Financial Wellness” ยกทัพผู้เชี่ยวชาญและแบบประกันชีวิตดีๆ ที่ถูกออกแบบมาด้วยความใส่ใจ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ที่บูธ P4 กรุงเทพประกันชีวิต ในงานมนุษย์ต่างวัย Fest 2025: ชีวิตดี…ชีวิต ซีซัน 2 It’s Okay To Be You ระหว่างวันที่ 21-22 มิถุนายน 2568 ณ IMPACT Exhibition Center Hall 8
นอกจากนี้ ยังพบกับกิจกรรมเวิร์กช็อป “My Financial Blueprint” พิมพ์เขียวทางการเงินในแบบของตัวเอง โดย อาจารย์รัก ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์ อาจารย์จากสถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ที่จะมาถอดรหัสสถานะทางการเงินของคุณ เพื่อสร้างอนาคตทางการเงินที่มั่นคง กิจกรรม “Wellness Check-up” ทำแบบทดสอบสุขภาพการเงิน เพื่อค้นหาเป้าหมายที่ใช่ และพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญการวางแผนตามเป้าหมายชีวิต และไฮไลท์เด็ด “Ask the Expert” เปิดให้คำปรึกษา วิเคราะห์และบริหารการเงินแบบตรงจุด กับนักวางแผนการเงินมืออาชีพ Certified Financial Planner - CFP® ลงทะเบียนจองเวลารับคำปรึกษาล่วงหน้าได้ที่ https://bla.bangkoklife.com/AsktheExpert
พิเศษภายในงาน เพียงซื้อประกันชีวิตแบบใดก็ได้ (ยกเว้นแบบประกันยูนิต ลิงค์) พร้อมชำระเบี้ยประกันภัยปีแรกแบบรายปี และดาวน์โหลด ลงทะเบียน และเข้าใช้งานแอป BLA Happy Life ภายในวันที่ 31 ก.ค. 68 รับของสมนาคุณทันที 3 ต่อ กระเป๋าช้อปปิ้ง และบัตรกำนัล พร้อมสิทธิ์ลุ้นรางวัล รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท