December 06, 2025

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ  ยกทัพนวัตกรรมอาหารระดับโลก ร่วมงาน THAIFEX – Anuga Asia 2025 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “KITCHEN OF THE WORLD : QUALITY THROUGH SUSTAINOVATION” ที่ผสานคุณภาพ   ความยั่งยืน  และความคิดสร้างสรรค์ไว้อย่างลงตัว ชวนคู่ค้าและผู้บริโภคสัมผัสกับความอร่อยที่โดนใจคนทั่วโลก  ในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2025 ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 27 – 31 พฤษภาคม 2568  

โดยปี 2568 นี้ ซีพีเอฟนำเสนอสุดยอดอาหารส่งออกที่ครองใจผู้บริโภคทั่วโลก และผลิตภัณฑ์นำเข้าระดับพรีเมียม มาให้ชิมและช้อปก่อนใครภายในงานเดียว    

สัมผัสรสชาติระดับโลกจาก 3 แบรนด์ดัง

Authentic Asia เปิดตัวเมนูเอเชียพร้อมรับประทานสุดฮิต 3 ซีรีส์

  • Japanese Series: Japanese Tatsutaage ที่โด่งดังในญี่ปุ่นและยุโรป
  • Korean Series: ไก่ทอดซอสฮันนี่เลมอน กลมกล่อมลงตัว
  • Thai Series: เมนูใหม่ล่าสุดอย่างไก่ทอดต้มยำ และไก่ทอดหาดใหญ่สไตล์ไทยแท้

 

Kitchen Joy แบรนด์ขวัญใจชาวยุโรป นำเสนอ 3 สไตล์

  • Thai Cube: เมนูรสจัดจ้านสไตล์ไทยแท้
  • Indian Cube: หอมเครื่องเทศเข้มข้น
  • Green Cube: โปรตีนทางเลือกเพื่อคนรักสุขภาพ

 

MEAT ZERO นำเสนอทางเลือกใหม่ของโปรตีนจากพืช เช่น พะแนงโปรตีนทางเลือก, Mushroom Gyoza กลิ่นซอสญี่ปุ่นหอมกรุ่น และ เกี๊ยวซ่าแกงเขียวหวานฟิวชันไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งคว้ารางวัล Best of Taste ปี 2024

ตอกย้ำมาตรฐานระดับอวกาศ

พบกับเรื่องราวความสำเร็จของไก่ซีพีในภารกิจ "ไก่ไทยจะไปอวกาศ” มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดแบบเดียวกันกับนักบินอวกาศทาน พร้อมกิจกรรมสนุกๆ ลุ้นรับของรางวัล

 

ไฮไลต์ห้ามพลาด

  • “Bucher ไส้กรอกน้ำซุป” การันตีรางวัลชนะเลิศจาก Thaifex Taste Innovation Show 2025 กับเทคนิคการสอดไส้น้ำซุปกระดูกหมูเข้มข้นภายในไส้กรอก มอบประสบการณ์ใหม่ของความอร่อย
  • เมนูส่งออกระดับพรีเมียม เช่น กะเพราไก่ทอด, เป็ดย่างห่อแป้ง, วุ้นเส้นอบกุ้ง, ข้าวอบสมุนไพรจีน, และเมนูของหวาน Mango Sticky Rice Spring Roll
  • ข้าวหลากหลายชนิด ทั้ง Jasmine, Basmati, Rice Berry และ Garlic Rice

พรีเมียมสุดจากต่างแดน

คัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศจากทั่วโลกมาให้ชาวไทยได้ลิ้มลองก่อนใคร อาทิ ซีพี อูโอริกิ อาหารทะเลพรีเมียมจากญี่ปุ่น สัมผัสความนุ่มละลายในปากของเนื้อวากิว A5 จากนางาซากิ, เนื้อวัว HARVEY BEEF จากออสเตรเลีย, พาสต้า Barilla จากอิตาลี, ชีส Meiji จากฮอกไกโด ที่คัดสรรมาตอบโจทย์ทุกมื้ออาหาร

พบกับนวัตกรรมอาหารระดับโลกจากซีพีเอฟ ได้ที่บูธ CPF เลขที่ 2-U01 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

  • 27 – 30 พ.ค. 2568 (10.00 – 18.00 น.) สำหรับผู้ประกอบการ
  • 31 พ.ค. 2568 (10.00 – 20.00 น.) เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมและชิมฟรี

 

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 (M82) สายทางยกระดับบางขุนเทียน - บ้านแพ้ว ช่วงแยกต่างระดับบางขุนเทียน - เอกชัย พร้อมยืนยันว่าโครงการบนถนนพระราม 2  จะแล้วเสร็จภายในปี 2568 อย่างแน่นอน โดยขณะนี้ความก้าวหน้าของงานโยธาภาพรวมอยู่ที่ร้อยละ 82 พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการความปลอดภัย โดยเฉพาะการติดตั้งระบบตรวจจับการยืดตัวของโครงสร้างเหล็ก (SHM) เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำรอยในอนาคต

 

นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง เผยต่อถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ว่ามีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ตามที่ได้รับมอบหมายไว้ โดยโครงการก่อสร้างภายใต้การกำกับดูแลของ ทล. มีความคืบหน้าดังนี้ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 (M82) สายทางยกระดับบางขุนเทียน - บ้านแพ้ว ช่วงแยกต่างระดับบางขุนเทียน - เอกชัย จำนวน 3 สัญญา มีความคืบหน้าแล้ว 100% และช่วงเอกชัย - บ้านเเพ้ว จำนวน 10 สัญญา (ณ เดือนเมษายน 2568) มีความคืบหน้าแล้ว 78% ทั้งนึ้ ช่วงเอกชัย - บ้านเเพ้ว จำนวน 10 สัญญานั้น (ณ เดือนเมษายน 2568) แบ่งเป็น ตอนที่ 1 คืบหน้า 79.55% ตอนที่ 2 คืบหน้า 83.71% ตอนที่ 3 คืบหน้า 90.27% ตอนที่ 4 คืบหน้า 59.63% ตอนที่ 5 คืบหน้า 83.29%  ตอนที่ 6 คืบหน้า 68.50% ตอนที่ 7 คืบหน้า 54.22% ตอนที่ 8 คืบหน้า 83.66% ตอนที่ 9 คืบหน้า 91.65%   และตอนที่ 10 คืบหน้า 80.65%

 

ขณะที่ นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงโครงการทางพิเศษ สายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ว่าปัจจุบันความก้าวหน้างานโยธาภาพรวมอยู่ที่ร้อยละ 89.39 โดยทุกสัญญามีแนวโน้มจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2568 ซึ่งการทางพิเศษฯ จะเร่งพิจารณาแนวทางเปิดให้บริการแก่ประชาชนโดยเร็ว เพื่อยกระดับการเดินทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น

 

ทีเส็บเข้าร่วมงาน IMEX Frankfurt 2025 เปิดตัวแคมเปญ “Meet in Thailand: Your Success, Your Moment” นำเสนอองค์ประกอบ “3M” ที่พร้อมยกระดับคุณค่าและเพิ่มมูลค่าให้กับการจัดงานในประเทศไทย

โครงการ Family Business Thailand ต่อยอดความสำเร็จรุกจัดหลักสูตรอบรมรุ่นที่ 5 ระยะเวลา 1 วันในวันที่ 16 มิ.ย.2568 ณ โรงแรมเลอ แคสเซีย ขอนแก่น เปิดรับสมัครแล้วหมดเขตรับสมัครวันที่ 12 มิ.ย. 2568 พบกับเนื้อหาหลักสูตรเพื่อการบริหารจัดการธุรกิจครอบครัวอย่างสร้างสรรค์ แนวทางการพัฒนาธรรมนูญครอบครัว และพิเศษกับแขกรับเชิญที่จะมาร่วมถอดรหัสความท้าทายในโลกธุรกิจปัจจุบันของธุรกิจกงสี “ขอนแก่นแหอวน”

โครงการ  Family Business Thailand ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง 4 หน่วยงานหลักทางด้านธุรกิจของประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เพื่อติดอาวุธทางปัญญาให้กับธุรกิจครอบครัวให้สามารถส่งต่อรุ่นสู่รุ่นได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาโครงการฯ ได้จัดอบรมให้กับผู้ประกอบการ SMEs มาแล้ว 4 รุ่นที่กรุงเทพฯ, ชลบุรี เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากธุรกิจครอบครัวที่สนใจ

สำหรับการจัดอบรมโครงการ  Family Business Thailand รุ่นที่ 5 นี้ รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล รองอธิการบดีอาวุโส สายงานธุรกิจองค์กร มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า “ที่ผ่านมา โครงการ  Family Business Thailand ได้จัดการอบรมกระจายไปยังภาคต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่ต่างๆ สามารถเดินทางมาอบรมและเข้าถึงองค์ความรู้ได้อย่างสะดวกโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการอบรม โดยจะ จัดอบรมหลักสูตร 1 วัน ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ เวลา 9.00 – 16.00 น. ที่ โรงแรมเลอ แคสเซีย ขอนแก่น และเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 12 มิ.ย. 2568 รับสมัครจำนวนจำกัดเพียง 100 ที่นั่งเท่านั้น”

ทั้งนี้ เนื้อหาหลักสูตรครั้งนี้ ประกอบด้วย

  • การบริหารจัดการธุรกิจครอบครัวอย่างสร้างสรรค์ โดย รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล รองอธิการบดีอาวุโส สายงานธุรกิจองค์กร มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
  • แนวทางการพัฒนาธรรมนูญครอบครัว เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดย ดร.สิริรัฐ บุญรักษา คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
  • ถอดรหัส “ขอนแก่นแหอวน” ธุรกิจกงสีกับความท้าทายในโลกธุรกิจปัจจุบัน โดย คุณบดินทร์ เสรีโยธิน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ขอนแก่นแหอวน จำกัด

คุณสมบัติผู้เข้าร่วมอบรม จะต้องเป็นธุรกิจครอบครัวที่จดทะเบียนแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือมีการส่งงบการเงิน 1 รอบบัญชี และเป็นธุรกิจที่มีสินค้าหรือบริการ

สนใจสอบถามรายละเอียด ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า คุณกมลพร 02-547-5985 สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คุณบัณฑิตา 02-018-6888 ต่อ 2660

ปรบมือ คุณพ่อ+ลูกชาย  คุณกฤษณ์ และคุณณภัทร ณรงค์เดช  ชวนเพื่อนๆมาร่วมทำความดีอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และในปีนี้ 2025 ได้แบ่งปันสิ่งดีดีต่อสังคมด้วยการบริจาคเสื้อผ้าใหม่ อุปกรณ์การเรียนรู้ ของใช้จำเป็นให้แก่เด็กๆและเลี้ยงอาหารกลางวันแก่เด็กเล็กกว่า 80 ชีวิต ทั้งสองท่านมอบรอยยิ้ม ความรัก ความอบอุ่นสุดฮีลใจ โดยทุกปีทั้งคุณพ่อ+ลูกชาย มีความตั้งใจ เล็งเห็นความสำคัญในการตอบแทนสังคม ทั้งคู่เชื่อว่าความรัก ความเมตตาจะเป็นตัวขับเคลื่อนสังคมให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น นับเป็นตัวอย่างครอบครัวที่ดีอย่างมาก 

 

ณ มูลนิธิเด็ก่อนในสลัม ในพระอุปภัมภ์ สาขาเสือใหญ่ รัชดาภิเษก ที่ผ่านมา

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) มอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตร Krungsri Boarding Card เข้าใช้บริการห้องรับรองพิเศษ Miracle Lounge สนามบินสุวรรณภูมิ หรือสนามบินดอนเมือง (เฉพาะเส้นทางบินระหว่างประเทศ) ฟรี! เมื่อมียอดใช้จ่ายสะสมผ่านบัตร Krungsri Boarding Card ภายในเดือนที่ร่วมรายการผ่านช่องทางออนไลน์ หรือที่ร้านค้าผ่านเครื่อง EDC ทั่วโลก ครบ 50,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 – 30 กันยายน 2568

ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่

https://www.krungsri.com/th/promotions/cards/hot-promotion/boarding-card-miracle-lounge

*ศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้จากสื่อต่าง ๆ ของธนาคาร

พฤกษา เสิร์ฟความสุขให้ลูกบ้านแบบจัดเต็ม จับมือโรงพยาบาลชั้นนำ ส่งมอบประสบการณ์พิเศษกับ 2 กิจกรรมสุดปัง "Health to Home" และ "Love me Love my Pet" ที่จะเพิ่มความสุขและสุขภาพที่ดีให้ทั้งคนและสัตว์เลี้ยง พร้อมมอบสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับครอบครัวพฤกษาโดยเฉพาะ

พฤกษาไม่เพียงเป็นผู้สร้างที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังต้องการสร้างพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความสุขและความอบอุ่นสำหรับทุกคนในครอบครัวด้วยแนวคิด “อยู่ดี มีสุข Live well Stay well” จึงได้จัดกิจกรรมดี ๆ ให้กับลูกบ้านอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคือกิจกรรม Health to Home และ Love me Love my Pet ที่วางเป้าหมายช่วยดูแลสุขภาพของทั้งลูกบ้านและสัตว์เลี้ยงที่เปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัวตลอดทั้งปี

"Health to Home" : ส่งมอบสุขภาพดีถึงบ้าน โดยร่วมมือกับโรงพยาบาลวิมุต ส่งผู้เชี่ยวชาญออกตรวจสุขภาพให้กับลูกบ้านฟรีถึงบ้าน ดูแลครบวงจรตั้งแต่การคัดกรองโรค NCD ตรวจน้ำตาลปลายนิ้ว วัดความดัน ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และเช็กมวลร่างกายด้วยเครื่อง Inbody พร้อมคำแนะนำด้านโภชนาการจากนักกำหนดอาหารโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังมีแพ็กเกจตรวจสุขภาพราคาพิเศษ และสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก PRUKSA MEMBER รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ในราคาเพียง 370 บาท

"Love me Love my Pet" : ดูแลสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรงไปด้วยกัน โดยแท็กทีมโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ส่งสัตวแพทย์ไปตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยงของลูกบ้านถึงที่บ้านฟรี รวม 10 รายการ ทั้งตรวจตา ผิวหนัง หัวใจ ปอด ช่องปากและฟัน รวมถึงเช็กกล้ามเนื้อ กระดูก บีบต่อมก้น ตัดเล็บ และเช็ดหู พร้อมบริการฉีดวัคซีน ป้องกันเห็บหมัด และถ่ายพยาธิ ในราคาสุดคุ้ม

ภายในงานสามารถร่วมเป็นครอบครัว PRUKSA MEMBER ด้วยการสมัครสมาชิกฟรี พร้อมรับของที่ระลึกพิเศษ และรับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดค่าบริการที่โรงพยาบาลวิมุตสูงสุด 50% และปรึกษาแพทย์ออนไลน์ฟรีปีละ 4 ครั้ง รวมถึงส่วนลดค่าบริการที่โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านหลังที่ 2 กับพฤกษา และรับค่าแนะนำเมื่อชวนเพื่อนมาซื้อบ้านและยูนิตที่ร่วมโครงการ และสนุกไปกับกิจกรรมสะสมแต้มเพื่อแลกรับสิทธิพิเศษทั้งช้อป กิน เที่ยว จากห้างสรรพสินค้าและร้านค้าชั้นนำที่หมุนเวียนมาให้เลือกตลอดทั้งปี

พฤกษาเชื่อว่าบ้านที่มีความสุขต้องเริ่มมาจากสุขภาพที่ดีของคนและสัตว์เลี้ยงในบ้าน เราต้องการให้ทุกครอบครัวสบายใจและไม่ต้องห่วงเรื่องการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ จึงได้นำมามอบให้ลูกบ้านถึงที่บ้านโดยต้องไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่ต้องเดินทาง

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนผู้ถือบัตรเครดิต ทีทีบี บัตรเครดิต ทีทีบี โกลบอลเฮ้าส์ และบัตรเครดิต ทีทีบี ดิสนีย์ ทั้งบัตรหลักและบัตรเสริม ร่วมประสบการณ์แห่งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมด้านอาหาร พร้อมดูแลสุขภาพ ผ่านแคมเปญ “กินครบ จบทุกความอร่อย สุขภาพดี วิถีภาคกลาง” มอบสิทธิพิเศษส่วนลด 50% เมื่อซื้อ E-voucher สำหรับรับประทานอาหาร ผ่านช่องทาง Line Official @flavorofthaifood และชำระผ่านบัตรเครดิต ทีทีบี โดย E-voucher มูลค่า 50 บาท สามารถใช้แทนเงินสดมูลค่า 100 บาท เพื่อรับประทานอาหารใน 30 ร้านอาหารชั้นนำจาก 17 จังหวัดภาคกลางที่ร่วมรายการ ไม่จำกัดจำนวนสิทธิ์การใช้ E-voucher ต่อครั้ง สามารถซื้อได้สูงสุด 20 สิทธิ์ / หมายเลขสมาชิกโครงการ / วัน ตั้งแต่วันนี้ - 31 กรกฎาคม 2568 หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด

รายละเอียดโครงการเพิ่มเติม หรือร้านอาหารที่เข้าร่วมแคมเปญ สามารถดูได้ที่ Facebook: Flavor of Thai Food.Health.Wellness และ LINE Official: @flavorofthaifood หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรเครดิต ทีทีบี ได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/flavorofthaifood-apr25 

**ทีทีบีส่งเสริมให้ลูกค้าบัตรเครดิตใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งในวันนี้ และอนาคต

เปิดตัว ‘VOC’ Sub-Unit ใหม่จาก PROXIE ชูกลยุทธ์คอนเทนต์ 360 องศา

ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ (True IDC) ผู้นำด้านดาต้าเซ็นเตอร์และบริการคลาวด์ ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) เปิดตัว AI Hyperscale Data Center” แห่งแรกของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศให้พร้อมรองรับเศรษฐกิจยุคใหม่ และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลแห่งอาเซียน

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า การเปิดตัว AI Hyperscale Data Center ครั้งนี้ เป็นก้าวย่างสำคัญของประเทศไทยในการเข้าสู่ยุค Giga Data Center อย่างแท้จริง โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลไม่เพียงรองรับการเติบโตของเทคโนโลยี แต่ยังเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ
ทั้งภาคธุรกิจและภาคประชาชน ซึ่งจะทำให้ไทยสามารถแข่งขันได้ในระดับโลก พร้อมสำหรับอนาคตของ AI ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค นอกจากนี้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน Data Center ยังก่อให้เกิดประโยชน์ด้านองค์ความรู้ต่อคนไทย

การที่เราจะทำให้ทุกคน ทุกบริษัท ทุกอุตสาหกรรม เข้าถึง AI และ Cloud Technology ก็ต้องอาศัยโครงการพื้นฐานคือ Data Center นับเป็นเรื่องที่ดีกับประเทศไทย เพราะนอกจากจะนำมาซึ่งประโยชน์แก่คนไทย และอุตสาหกรรมไทยแล้ว ยังเกิดประโยชน์สู่ภูมิภาค ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาคได้ และทำให้คนไทยได้รับองค์ความรู้จากการค้นคว้าวิจัยด้านดิจิทัลอีกด้วยคุณศุภชัยกล่าว

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กล่าวว่า “ผมขอแสดงความยินดีกับ True IDC ในโอกาสการเปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งวันประวัติศาสตร์ที่บริษัทไทยสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลในระดับ Hyperscale ได้สำเร็จ ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้จะมีบทบาทสำคัญในการยกระดับประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค เป็นประเทศที่มี ecosystem ด้านดิจิทัลที่แข็งแรงและพร้อมต่อการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีต่อไปในอนาคต”

นายฐนสรณ์ ใจดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร True IDC เปิดเผยว่า AI Hyperscale Data Center แห่งใหม่นี้ คือโครงสร้างพื้นฐานที่มาช่วยยกระดับมาตรฐานดาต้าเซ็นเตอร์ของไทย ทั้งด้านเทคโนโลยี วิศวกรรม ความยั่งยืน มีความสามารถรองรับเวิร์กโหลดและลูกค้าระดับ Hyperscale ผ่านการออกแบบทุกมิติให้พร้อมรองรับอุตสาหกรรมยุคดิจิทัล โดยเฉพาะกลุ่มที่ขับเคลื่อนด้วย Data Cloud และ AI เสริมศักยภาพประเทศไทยในการสร้างเทคโนโลยีด้วยตนเองอย่างมั่นคงและปลอดภัย”

ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้ถือเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ระดับเอไอไฮเปอร์สเกล (AI Hyperscale) ที่ออกแบบมาสำหรับการประมวลผล AI และเวิร์กโหลดขนาดใหญ่ ให้บริการด้วยกำลังไฟฟ้ากว่า 20 เมกะวัตต์ สนับสนุนการประมวลผลที่ต้องการเสถียรภาพและความเร็วสูง ตลอดจนการประมวลผลของ GPU (Graphic Processing Unit) ตัวอาคารติดตั้งระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูงด้วย Smart Fan Wall Unit และออกแบบให้รองรับการใช้เทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยของเหลว (Liquid Cooling) พร้อมระบบสำรองสนับสนุนการทำงานของดาต้าเซ็นเตอร์แบบ High Redundancy เพื่อรับรองการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ที่กำลังประมวลผลภายในดาต้าเซ็นเตอร์แบบไม่หยุดชะงัก ตลอดจนความต่อเนื่องของธุรกิจที่นำระบบคอมพิวเตอร์มาวางภายในดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้ พร้อมออกแบบให้มีการควบคุมประสิทธิภาพด้านพลังงานด้วยการกำหนดค่า PUE (Power Usage Effectiveness) ที่ดีที่สุดในประเทศไทย และมีการจัดตั้งศูนย์วิจัยการนวัตกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center Innovation Lab) ภายในอาคารเพื่อใช้เป็นพื้นที่ทดสอบและพัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ สำหรับในทุกอุตสาหกรรม

AI Hyperscale Data Center แห่งนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจที่ต้องการขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล  (Digital Transformation) โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต (New S-Curve Industries) ของประเทศ อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV), การแพทย์และสุขภาพดิจิทัล เกษตรอัจฉริยะ การเงินดิจิทัล (Fintech), คอนเทนต์ดิจิทัล และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy)  ซึ่งล้วนต้องพึ่งพาข้อมูลจำนวนมหาศาลและระบบประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูง การมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ทันสมัยในประเทศจะช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถแข่งขันได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยไม่ต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานในต่างประเทศเท่าที่เคย

X

Right Click

No right click