

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (กรุงศรี) ประสบความสำเร็จในการลงนามข้อตกลงสนับสนุนสินเชื่อระยะยาวแก่บริษัท พีอี แอลเอ็นจี จำกัด (PE LNG) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด (PTTLNG) ซึ่งถือหุ้นโดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 100% กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ
PE LNG ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ให้บริการสถานีแอลเอ็นจี มาบตาพุดแห่งที่ 2 (LMPT-2) ซึ่งตั้งอยู่ ณ บ้านหนองแฟบ จังหวัดระยอง ด้วยกำลังการแปรสภาพก๊าซธรรมชาติเหลวกลับเป็นก๊าซธรรมชาติ 7.5 ล้านตันต่อปี (MTPA) LMPT-2 ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศไทย
นายประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรีมีความภาคภูมิใจที่ได้สนับสนุน PE LNG ผู้ให้บริการ LMPT-2 ซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่มีความสำคัญ ไม่เพียงแต่เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ (Energy Security) แต่ยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) ไปสู่ระบบพลังงานที่สะอาดและยั่งยืน เนื่องจากก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงยุทธศาสตร์ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากพลังงานฟอสซิลไปสู่พลังงานหมุนเวียน (Transition Fuel) ช่วยให้ประเทศไทยสามารถขับเคลื่อนเปลี่ยนผ่านพลังงานได้อย่างมั่นคง ยั่งยืน พร้อมรักษาความมั่นคงทางพลังงานและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจไปพร้อมกัน การสนับสนุนทางการเงินในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ตอกย้ำความมุ่งมั่นของกรุงศรีในการเป็นพันธมิตรระยะยาวกับกลุ่ม ปตท. และกลุ่ม กฟผ. แต่ยังตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นธนาคารชั้นนำของภูมิภาคเพื่อความยั่งยืนอีกด้วย”
นายสมชาย ระมาศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีอี แอลเอ็นจี จำกัด กล่าวว่า “ในนามของบริษัท PE LNG ผมขอแสดงความขอบคุณต่อธนาคารกรุงศรีที่ได้ให้การสนับสนุนสินเชื่อระยะยาวในครั้งนี้ ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างกลุ่ม ปตท. และกลุ่ม กฟผ. กับธนาคารกรุงศรี และมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนความมั่นคงทางพลังงานของประเทศและการเติบโตอย่างยั่งยืน”
ในโอกาสนี้ นางสาวภัทรลดา สง่าแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมแสดงความยินดีและกล่าวว่า “การได้รับสินเชื่อระยะยาวจากธนาคารกรุงศรีในครั้งนี้ สะท้อนความเชื่อมั่นและการสนับสนุนธุรกิจกลุ่ม ปตท. จากสถาบันการเงินชั้นนำเป็นอย่างดี โดยสินเชื่อนี้ PE LNG จะนำไปชำระคืนเงินกู้จาก ปตท. เพื่อนำไปใช้ดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นสร้างความมั่นคงทางพลังงานพร้อมเติบโตคู่กับสังคมไทยอย่างยั่งยืน”
นางสาวสมจิตต์ ด่านศรีประเสริฐ ผู้ช่วยผู้ว่าการการเงิน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “กฟผ. ยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานลงนามข้อตกลงสนับสนุนสินเชื่อในวันนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดี และความร่วมมือกันระหว่างองค์กร ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาธุรกิจและการเสริมสร้างศักยภาพด้านพลังงานของประเทศ”
บมจ. กรุงไทย–แอกซ่า ประกันชีวิต มุ่งมั่นเคียงข้างคนไทย พร้อมส่งมอบสุขภาพดี และความห่วงใยอย่างต่อเนื่อง ผ่านกิจกรรม “คาราวานตรวจสุขภาพทั่วไทย” ตรวจสุขภาพพื้นฐานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลในเครือข่าย โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้ให้บริการตรวจสุขภาพฟรีแก่ลูกค้าและประชาชนทั่วไป ใน 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี และ จังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ทั้งสองพื้นที่ดังกล่าวทางบริษัทฯ ได้มอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนเพื่อช่วยบรรเทาทุกข์จากการได้รับผลกระทบน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัด
ทางบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าสุขภาพที่ดี คือรากฐานของชีวิตที่มั่นคง จึงมุ่งมั่น ทุ่มเท มอบความห่วงใย และสุขภาพที่ดีให้คนไทย ผ่านโครงการดังกล่าว พร้อมทั้งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการเคียงข้างคนไทย ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และส่งเสริมการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพอย่างเท่าเทียม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายบริษัทฯ ที่พร้อมเคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป ทั้งนี้สำหรับท่านที่สนใจเข้ารับบริการ สามารถดูรายละเอียดวัน และสถานที่ให้บริการคาราวานตรวจสุขภาพทั่วไทยได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/caravan-health-check-2025 หรือ โทร. 1159
กลับมาอีกครั้งกับงานดีๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ ที่ กรุงเทพประกันชีวิต ร่วมขนทัพผลิตภัณฑ์ในการวางแผนอนาคตเพื่อลูกน้อย มาออกบูทในงาน “Amarin Baby & Kids Fair Carnival 2025” ภายใต้แนวคิด Learning by Playing ใส่ใจลูกน้อย เสริมสร้างประสบการณ์เรียนรู้ พร้อมวางแผนเพื่อเป้าหมายในอนาคต มอบความ “อุ่นใจ” กับแผนสุขภาพและเงินออม ที่ “ใส่ใจ” ทุกคนในครอบครัว พร้อมแบบประกันที่รองรับความต้องการ ตอบโจทย์ทุกเป้าหมายในอนาคตเพื่อลูก ที่มอบทั้งความคุ้มครองด้านสุขภาพ ค่ารักษาพยาบาล และการออมเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้ลูกรัก
พบกับโปรโมชันสุดคุ้มพิเศษเฉพาะภายในงาน Amarin Baby & Kids Fair Carnival 2025 เพียงซื้อแบบประกันใดก็ได้ (ยกเว้นแบบประกันยูนิต ลิงค์) เบี้ยเริ่มต้นตั้งแต่ 5,000 บาทเป็นต้นไป รับโปรโมชันพิเศษ 2 ต่อ! ทันทีภายในงาน พร้อมสิทธิ์ลุ้นรางวัลใหญ่ รถยนต์ไฟฟ้า และของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท เมื่อซื้อประกันกับกรุงเทพประกันชีวิตที่เข้าเงื่อนไข พร้อมดาวน์โหลด ลงทะเบียน และเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน BLA Happy Life
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกอีกมากมาย อาทิ สนุกไปกับตู้คีบตุ๊กตา กิจกรรมเสริมพัฒนาการเพื่อน้องๆ หนูๆ ในโซน Learning by Playing เปิดจินตนาการสนุกสนานกับลูกโป่งแฟนซี และกิจกรรมเสวนาห้องเรียนพ่อแม่ กับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญเรื่องลูกน้อย ที่โซน ABK Kids Playground พบกันที่บูทกรุงเทพประกันชีวิต B6-B7, B20-B21 ระหว่างวันที่ 2-5 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการ ไบเทคบางนา ฮอลล์ 100
บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัลที่ยั่งยืน นำโดย คุณสรัสวดี คุปตพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคล กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต (คนขวา) พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (คนซ้าย) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อพัฒนาหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล ภายใต้การจัดการศึกษาที่แตกต่างจากมาตรฐานการอุดมศึกษา ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา ณ ห้องสวนรวมใจ 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โดยความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายในการพัฒนาทักษะนิสิต ให้ตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล ตลอดจนการส่งเสริมความร่วมมือเชิงลึกในการมอบโอกาสให้นิสิต เห็นความเชื่อมโยงระหว่างความรู้และทักษะในการเรียนในห้องเรียนกับการทำงานในสถานประกอบการจริง เช่น โครงการรับนิสิตฝึกงาน หลักสูตร 'Climate & Biodiversity Program' ซึ่งพัฒนาโดย AXA Climate School รวมถึงการสนับสนุนด้านต่างๆในการพัฒนาหลักสูตร เพื่อสอดคล้องกับแผนการพัฒนาประเทศไทย 4.0 บนวิสัยทัศน์ที่ว่าเป็นการพัฒนาเพื่อความมั่นคงและยั่งยืน และสอดคล้องกับเป้าหมายสูงสุดของบริษัทฯ ที่จะเคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป
บรรยากาศอันทรงเกียรติในงาน BUSINESS+ PRODUCT OF THE YEAR AWARDS 2025 เต็มไปด้วยผู้นำกว่า 42 องค์กรชั้นนำของประเทศ อาทิ กลุ่มการเงินการลงทุน กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มบริการ กลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัย ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมรับรางวัลเกียรติยศแห่งปี

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM เข้ารับรางวัล BUSINESS+ PRODUCT OF THE YEAR AWARDS 2025 ในกลุ่มสินค้าและบริการประเภทการเงิน-การลงทุน AMC Mobile Application จาก ฯพณฯ นุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการบริหารหนี้และทรัพย์สินรอการขาย ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่สะท้อนความสำเร็จและความมุ่งมั่นขององค์กร ในการก้าวเดินสู่อนาคตที่ยิ่งใหญ่และทันสมัย

การที่ BAM Choice ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการยืนยันความสำเร็จของการสร้าง Application แต่ยังเป็นหลักฐานชัดเจนว่า “การบริหารสินทรัพย์และการจัดการหนี้” สามารถเดินไปพร้อมกับนวัตกรรม และการเข้าถึงผู้คนได้จริง ทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ที่สามารถตรวจสอบสถานะออนไลน์ พร้อมรับคำแนะนำหรือเงื่อนไขที่เหมาะสมกับตนเองรวมทั้งการซื้อทรัพย์ NPA ได้อย่างสะดวก ทุกที่ ทุกเวลา เพียงปลายนิ้วสัมผัส
กรมการค้าต่างประเทศ เปิดมหกรรมแสดงสินค้าเกษตรนวัตกรรม Agri Plus Expo 2025 รวมสุดยอดสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทย มุ่งส่งเสริมขยายตลาด ลุยเจรจาธุรกิจ ผลักดันสู่ตลาดทั้งไทยและต่างประเทศ พร้อมกิจกรรมเปิดเวทีสัมมนาเสริมความรู้ และคลินิกให้คำปรึกษาธุรกิจ ส่งเสริมธุรกิจเกษตรนวัตกรรมครบวงจร

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมแสดงสินค้าเกษตรนวัตกรรม Agri Plus Expo 2025 ที่เป็นการนำผลงานของผู้ประกอบการที่ผ่านการประกวดสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทยระดับประเทศ Agri Plus Award และสินค้าที่มีศักยภาพมาจัดแสดงและจำหน่ายเป็นครั้งแรก โดยจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Thai Agri Connect: Innovating for a Sustainable World นวัตกรรมสินค้าเกษตรไทย เชื่อมไทยเชื่อมโลก สู่อนาคตยั่งยืน” นับเป็นอีกหนึ่งย่างก้าวที่สำคัญในการสร้างความเข้มแข็งด้านการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทย โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 - 28 กันยายน 2568 ณ ฮอลล์ 8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งตลอดทั้ง 4 วัน จะได้พบกับสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทยที่มีศักยภาพในระดับอินเตอร์ทั้งสินค้าอาหารและสินค้าไลฟ์สไตล์กว่า 150 รายการ อาทิ ชีสวีแกนจากข้าวและน้ำมันมะพร้าว ข้าวไร้แป้ง วุ้นเส้นจากน้ำมะพร้าว เม็ดฟู่สมุนไพรไทย ชีสจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผงผำ 100% ผง Bio-silica จากแกลบข้าว สเปรย์ขะจาวดูแลผิวหนังสัตว์เลี้ยง เจลจากลูกประคบสมุนไพรไทย ผลิตภัณฑ์จากแผ่นยางเคลือบฟางข้าว ทรายแมวกราฟีน เป็นต้น และภายในงานจะได้พบกับ Celebrity chef สาธิตเมนูอาหารสุดชิคจากสินค้าเกษตรนวัตกรรม พร้อมต่อยอดความรู้ทางธุรกิจในเวทีสัมมนาวิชาการที่จะเสริมสร้างความรู้ให้กับผู้ประกอบการ ทั้งการยกระดับสินค้าเกษตรนวัตกรรมด้วยมาตรฐานระดับโลก Green Business การขับเคลื่อนธุรกิจเกษตรให้ยั่งยืนและการพัฒนาธุรกิจให้ก้าวกระโดดการเจาะลึกการวางแผนธุรกิจและการเข้าถึงแหล่งเงินทุน พร้อมรับคำปรึกษาจาก Agri Plus Clinic จากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา EXIM Bank และ SME D Bank ที่จะมาให้คำแนะนำในการทำธุรกิจ รวมทั้งกิจกรรม Business matching เจรจาจับคู่ธุรกิจเพื่อขยายตลาด ตลอดจนกิจกรรมอีกมากมายที่จะสร้างโอกาสให้สินค้าเกษตรนวัตกรรมไทยเติบโตได้ไกลยิ่งขึ้น

“กรมการค้าต่างประเทศเชื่อว่างาน Agri Plus Expo 2025 ในครั้งนี้ ได้คัดสรรรวบรวมสินค้าเกษตรนวัตกรรมมูลค่าสูงที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้าที่ได้รับรางวัลจากการประกวด Agri Plus Award ที่กรมการค้าต่างประเทศจัดมาแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งจะเป็นเครื่องการันตีคุณภาพของสินค้าเกษตรไทยได้รับการต่อยอดเพิ่มมูลค่าโดยการใช้นวัตกรรม และสามารถเข้าสู่ตลาดได้ในระดับสากล ซึ่งในงานจัดงานครั้งนี้ กล่าวได้ว่า กรมฯ ได้ทำหน้าที่เป็น “Gateway” เชื่อมโยงตั้งแต่การผลิต การพัฒนาโดยใช้นวัตกรรม ไปจนถึงการเปิดประตูการค้าเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการกับ Buyers ทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 50 คู่ โดยร่วมมือกับเอกชนรายใหญ่ อาทิ Makro Lotus’s Tops กลุ่ม BizClub และกลุ่ม buyers จากจีน ซึ่งในปี 2568 นี้ กรมฯ ตั้งเป้าหมายในการส่งเสริมมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทยในมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่าตัวเลข คือ การมุ่งเดินหน้าพัฒนา ขยายโอกาสทางการค้า และต่อยอดสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทยให้มีการพัฒนาเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางการค้าควบคู่ไปกับการยกระดับรายได้ของเกษตรกรและผู้ประกอบการอย่างยั่งยืน” อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวทิ้งท้าย
ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภาคเหนือ และพันธมิตรของ UOB BizSmart แพลตฟอร์มที่รวมดิจิทัลโซลูชันเพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ จัดสัมมนา ณ จังหวัดเชียงใหม่เพื่อเสริมศักยภาพผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มให้สามารถต่อยอดธุรกิจจากระดับท้องถิ่นสู่ระดับประเทศ
งานสัมมนา UOB SME Live in Chiangmai: ร้านเล็กคิดใหญ่ – ปั้นแบรนด์ ขยายธุรกิจอาหารและคาเฟ่สู่ระดับประเทศ ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการร้านอาหารและคาเฟ่กว่า 200 รายในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมุ่งเน้นการมอบองค์ความรู้และเครื่องมือดิจิทัลและโซลูชันทางการเงิน ที่จะช่วยยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในกลุ่มธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มในภาคเหนือ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวเปิดงานโดยชี้ให้เห็นถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Culinary Tourism) พร้อมระบุว่าแนวทางของ ททท. ในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพที่สร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าและน่าจดจำ มากกว่าการวัดผลเพียงตัวเลขรายได้ ทั้งนี้ ในปี 2567 ภาคเหนือรองรับนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 26 ล้านคน โดยมีเสน่ห์ไม่เพียงจากธรรมชาติและวัฒนธรรม แต่ยังรวมถึงคาเฟ่และอาหารพื้นถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์
นางสยุมรัตน์ มาระเนตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Business Banking ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “ธนาคารยูโอบีจึงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ในกลุ่มนี้ให้สามารถ ‘คิดใหญ่’ และขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ผ่านการให้ข้อมูลเชิงลึก โซลูชันทางการเงินที่เข้าใจธุรกิจเอสเอ็มอี และเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งของ UOB BizSmart”
ภายในงาน ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับฟังการนำเสนอจากพันธมิตรธุรกิจ ได้แก่ Adaptis ผู้ให้บริการโซลูชันการรับชำระเงินแบบครบวงจร และ Freedom World เครื่องมือการตลาดดิจิทัลสำหรับธุรกิจยุคใหม่ รวมถึงการแบ่งปันประสบการณ์จากเจ้าของร้านอาหารและเครื่องดื่มในพื้นที่ ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์และขยายธุรกิจ ได้แก่ Ginger Farm Kitchen ร้านอาหารรางวัลมิชลิน 4 ปีซ้อน ต้นตำหรับเชียงใหม่, The Good View Bar & Restaurant ร้านอาหารขวัญใจชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวต่างชาติ, ข้าวซอยลําดวนฟ้าฮ่าม ร้านข้าวซอยเก่าแก่ระดับตำนานของเมืองเชียงใหม่ที่ได้มิชลิน 3 ปีซ้อน, The Volcano ต้นตำหรับร้านขนมปังชีสยืดชื่อดัง, The Baristro ร้านกาแฟดังของเชียงใหม่, Saruda Finest Pastry ร้านเค้กชื่อดังของเชียงใหม่ รวมถึง Mix Beef Club & Restaurant ที่ได้ Thailand Tatler Best Restaurant 9 ปีซ้อน
นางสยุมรัตน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ความริเริ่มครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ควบคู่ไปกับการยกระดับชื่อเสียงของภาคเหนือในฐานะแหล่งท่องเที่ยวเชิงอาหาร ตอกย้ำบทบาทของธนาคารในฐานะพันธมิตรระยะยาวที่เติบโตเคียงข้างธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในภูมิภาคนี้
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้จัดงาน USO Connected for All : เชื่อมต่อชีวิต เชื่อมโยงอนาคต ณ ลานกิจกรรม Gallery 1 ชั้น M ศูนย์การค้า เอ็มสเฟียร์ กรุงเทพมหานคร และถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์ (Webex) ไปยังศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ (USO Net) และห้องบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ (USO Wrap) จำนวน 2,184 แห่งทั่วประเทศ โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมงานจำนวนกว่า 20,000 คน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ได้เข้าถึงการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลหรือชนบท ตามนโยบายของ กสทช. ที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างเท่าเทียม ผ่านโครงการต่าง ๆ ของสำนักงาน กสทช. เช่น USO Net (ศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ) USO Wrap (ห้องบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ) และบริการอื่น ๆ ทางด้านโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง

ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) เข้าร่วมเป็นประธานในการเปิดงาน และเสวนาในหัวข้อ “บทบาทของ กสทช. ในการเดินหน้า เพื่อสร้างอนาคตในการสื่อสารผ่านยุคดิจิทัล” กล่าวว่า Universal Service Obligation หรือ USO เป็นหัวใจและจิตวิญญาณของสำนักงาน กสทช. ที่จะนำพาประชาชนคนไทยก้าวข้าม ทุกข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจ เพื่อให้ทุกคนมีสิทธิในการเข้าถึงการสื่อสารอย่างเท่าเทียมกัน USO จึงไม่เป็นเพียงโครงสร้างพื้นฐาน แต่คือรากฐานของสังคมแห่งโอกาสที่เท่าเทียม ปลดล็อกศักยภาพของทุกคน ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างทัดเทียมกับคนในเมือง กสทช. มีหน้าที่ต้องร่วมกันในการเปลี่ยน ‘ความเหลื่อมล้ำ’ ให้กลายเป็น ‘ความเสมอภาค’ เปลี่ยน ‘พื้นที่ห่างไกล’ ให้เป็น ‘พื้นที่แห่งโอกาส’ และเปลี่ยน ‘การเชื่อมต่อ’ ให้กลายเป็น ‘โอกาส’

“โลกของเราทุกวันนี้หมุนเร็วจนน่าตกใจ การสื่อสารกลายเป็นเหมือนลมหายใจ และการเชื่อมต่อคือ พลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุด แต่ในระหว่างที่หลายคนกำลังพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง กลับมีประชาชนอีกหลายคนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ยังคงอยู่ห่างไกลจากโลกดิจิทัลที่เปี่ยมด้วยโอกาส สิ่งที่เรากำลังพูดถึงไม่ใช่แค่เรื่อง ของสัญญาณโทรศัพท์หรือความเร็วอินเทอร์เน็ต แต่เป็นเรื่องของโอกาสที่เท่าเทียม โอกาสที่เด็กคนหนึ่งในพื้นที่ห่างไกลจะเข้าถึงความรู้จากห้องเรียนที่ดีที่สุด โอกาสที่ผู้ป่วยในชนบทจะได้รับการวินิจฉัยและรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยไม่ต้องเดินทางไกล และโอกาสที่เกษตรกรจะสามารถยกระดับผลผลิตของตนเองด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย การลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลไม่ใช่ทางเลือก แต่คือภารกิจและพันธกิจของเราทุกคน สำนักงาน กสทช. มุ่งมั่นที่จะดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ให้ความเชื่อมั่นว่า ทุกการเชื่อมต่อที่สร้างขึ้นในวันนื้ จะเป็นดั่งเส้นใยที่ถักทออนาคตของประเทศไทยให้แข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมา เริ่มต้นยุคใหม่ ยุคที่ชีวิตของเราทุกคนเชื่อมต่อถึงกัน และอนาคตของเราทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ใด จะถูกเชื่อมโยงไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์” ประธาน กสทช. กล่าว

ทั้งนี้ เพื่อให้สร้างการรับรู้ การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้อย่างทั่วถึง ภายในงาน สำนักงาน กสทช. ได้จัดแสดงผลงานการดำเนินงานและบริการของ USO ที่มีอยู่ทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย รวมถึงการแสดงนวัตกรรมที่โครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของ USO สามารถให้บริการกับประชาชนทั้งในวันนี้และอนาคต รวมถึงกิจกรรมการเสวนาในหัวข้อต่าง ๆ ที่น่าสนใจทั้งเรื่อง Cyber Security และ หัวข้อ “เชื่อมโยงลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยโครงข่าย USO” ที่จะร่วมเสวนาโดย ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ทางการศึกษา ด้านการแพทย์ระยะไกล (Telehealth) และด้านการพัฒนาสื่อการเรียนออนไลน์ โดย Influencer ด้านการศึกษาชั้นนำของประเทศไทย และภายในงานยังมีบริการ ตรวจเบาหวานจอประสาทตา ซึ่งให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป
‘ECOVACS Deebot X11 Omnicyclone’ ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งสำคัญด้วยการคว้ารางวัล BUSINESS+ PRODUCT OF THE YEAR AWARDS 2025 ประเภทของใช้ในครัวเรือน–เครื่องใช้ไฟฟ้า ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมหุ่นยนต์ทำความสะอาดอัจฉริยะ โดยพิธีมอบรางวัลจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา ภายใต้การจัดของนิตยสาร BUSINESS+ ร่วมกับวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล และได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี เป็นประธานในพิธี

นายดาเนียล ดาว ผู้จัดการแบรนด์ ECOVACS ประจำประเทศไทย บริษัท อีโคแวคส์ โกลบอล จำกัด เปิดเผยว่า “Deebot X11 Omnicyclone ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด “Xtra in Every Way, Ahead in Every Play” ที่ต้องการให้ผลิตภัณฑ์ครบเครื่องในทุกด้าน ทีมวิจัยและพัฒนาได้ผสานเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเข้ากับการออกแบบเชิงวิศวกรรมที่ล้ำสมัย และเข้าใจความต้องการจริงของผู้บริโภค ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์นี้คว้ารางวัลการันตีคุณภาพจาก IFA 2025 Award ที่เยอรมนีก่อนจะได้รับการยอมรับจากเวทีระดับประเทศในครั้งนี้
สำหรับครอบครัวยุคใหม่ Deebot X11 Omnicyclone ถือเป็นผู้ช่วยที่ช่วยประหยัดเวลาในการทำความสะอาดบ้านได้อย่างมีนัยสำคัญด้วยพลังดูด 19,500Pa ที่จัดการฝุ่น ขนสัตว์ และคราบฝังลึกได้อย่างง่ายดาย ผสานระบบ 4WD Climbing และเทคโนโลยี TruEdge ที่เข้าถึงทุกมุมบ้าน อีกทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยี PowerBoost ที่ชาร์จเพียง 3 นาทีได้ไฟแบตฯ เพิ่มถึง 6% เพื่อพร้อมรองรับการทำความสะอาดพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร จึงตอบโจทย์ทั้งบ้านและคอนโดของคนเมืองได้เป็นอย่างดี

นอกจากประสิทธิภาพแล้วผลิตภัณฑ์ยังสะท้อนถึงความใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยระบบ PureCyclone 2.0 แบบไร้ถุงเก็บฝุ่น ช่วยลดการใช้พลาสติก และฟังก์ชันล้างตัวหุ่นยนต์ด้วยน้ำร้อนที่ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมลดทั้งค่าใช้จ่ายและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมถือเป็นการตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้นเรื่อย ๆ
เสียงสะท้อนจากผู้ใช้งานจริงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำยังตอกย้ำคุณภาพของ Deebot X11 Omnicyclone หลายคนต่างประทับใจในความเงียบ ประสิทธิภาพ และความสะดวกสบายที่ทำให้การดูแลบ้านกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นอย่างชัดเจน ปัจจัยเหล่านี้ทำให้คณะกรรมการพิจารณารางวัลเห็นตรงกันว่า นี่คือนวัตกรรมที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และใช้งานง่าย”

นายดาเนียล เปิดเผยว่า “ตลาดหุ่นยนต์ทำความสะอาดในประเทศไทยยังคงขยายตัวต่อเนื่องกว่า 30% ต่อปี โดยเฉพาะในกลุ่มครอบครัววัยทำงานและผู้สูงอายุที่ต้องการเพิ่มความสะดวกสบาย ECOVACS จึงตั้งเป้าก้าวขึ้นเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในตลาดไทยภายในปี 2026 ด้วยการส่งมอบนวัตกรรมที่แตกต่างและเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง

ปัจจุบัน ECOVACS Deebot X11 Omnicyclone พร้อมให้ผู้บริโภคจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ว ผ่านร้านค้าออนไลน์ชั้นนำอย่าง Lazada, Shopee, TikTok Shop และ NocNoc รวมถึงตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมบริการหลังการขายและการรับประกันที่ครอบคลุม เพื่อให้ทุกครอบครัวมั่นใจได้ในคุณภาพและบริการที่ได้มาตรฐานระดับสากล”
ติดตามข่าวสารและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ ECOVACS และ TINECO ได้ที่เว็บไซต์ ECOVACS: www.ecovacs.com/th เว็บไซต์ TINECO: us.tineco.com เพจเฟซบุ๊ก ECOVACS ROBOTICS (TH): facebook.com/ecovacs.th และเพจเฟซบุ๊ก TINECO THAILAND: facebook.com/tineco.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ LINE Official: @Ecovacs และ @Tineco.th
ในวันเภสัชกรโลก เอเอส วัตสันภาคภูมิใจที่ได้ร่วมเฉลิมฉลองความทุ่มเทและความเชี่ยวชาญของเครือข่ายเภสัชกรและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทั่วโลก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ลูกค้าใช้ชีวิตที่มีสุขภาพได้ดีขึ้น
"ในวันอันมีความหมายนี้ เราขอแสดงความขอบคุณอย่างลึกซึ้งต่อเภสัชกรกว่า 3,000 คน และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเกือบ 10,000 คนของเอเอส วัตสันทั่วโลก นอกเหนือจากการให้บริการในร้านแล้ว พวกเขายังให้บริการคำปรึกษาทางออนไลน์ในหลายๆ ตลาดของเรา แสดงถึงความทุ่มเทและใส่ใจ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับคำแนะนำด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือทุกเวลา ทุกที่ ความเชี่ยวชาญของพวกเขานั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการช่วยให้ลูกค้าของเราก้าวผ่านเส้นทางสุขภาพด้วยความมั่นใจ" ปีเตอร์ แมคแน็บ International Commercial Director of AS Watson กล่าว
ตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีที่เพิ่มขึ้น
ธุรกิจด้านสุขภาพของเอเอส วัตสันยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขับเคลื่อนด้วยพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป การให้ความสำคัญกับการดูแลเชิงป้องกันที่เพิ่มมากขึ้น และการเติบโตที่แข็งแกร่งของหมวดสินค้า ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายโดยรวมของสินค้าสุขภาพและความงาม เพิ่มขึ้นกว่า 10% โดยหมวดวิตามินและอาหารเสริมก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% เช่นกัน และหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ควบคุมน้ำหนักและฟิตเนส เพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจกว่า 20%
การควบคุมน้ำหนัก กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุด โดยยอดขายผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องพุ่งขึ้น 130% เมื่ออัตราโรคอ้วนทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น ลูกค้าจำนวนมากขึ้นหันมาพึ่งพาเภสัชกรที่น่าเชื่อถือเพื่อขอคำแนะนำที่ปลอดภัยและเชี่ยวชาญ เภสัชกรของเอเอส วัตสันให้การเข้าถึงยาและอาหารเสริมสำหรับการควบคุมน้ำหนัก พร้อมคำแนะนำเฉพาะบุคคลเกี่ยวกับโภชนาการ วิถีชีวิต และแนวทางสุขภาพที่ยั่งยืน เพื่อเสริมพลังให้ลูกค้าดูแลสุขภาพแบบองค์รวมได้
เสริมการเติบโตของหมวดสินค้านี้คือการนำกลยุทธ์ค้าปลีก O+O (ออฟไลน์ และออนไลน์) ของเอเอส วัตสันมาใช้อย่างรวดเร็ว
ยอดขายออนไลน์ของผลิตภัณฑ์สุขภาพ เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันไปสู่การเข้าถึงผลิตภัณฑ์สุขภาพจำเป็นที่น่าเชื่อถือผ่านช่องทาง O+O ที่สะดวก การเพิ่มขึ้นนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงการชื่นชอบประสบการณ์ช้อปปิ้ง O+O เท่านั้น แต่ยังแสดงถึงแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าในการจัดการสุขภาพของตนเองในเชิงรุก
เพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มเหล่านี้ เอเอส วัตสันได้ขยายผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างมีนัยสำคัญ โดยนำเสนอสินค้าครบครันตั้งแต่วิตามินและอาหารเสริม ไปจนถึงโซลูชันเฉพาะโรค เอเอส วัตสันมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเดินทางด้านสุขภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของลูกค้าทุกคน ด้วยทั้งความกว้างและความลึกของตัวเลือก
เสริมพลังลูกค้าสุขภาพทุกช่วงอายุ
เอเอส วัตสันกำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีพลังในด้านประชากรศาสตร์ของลูกค้า โดยทั้งคนรุ่นใหม่และผู้สูงอายุต่างให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของตนเองมากขึ้น
มีการเติบโตอย่างน่าทึ่ง 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนในกลุ่มลูกค้าที่มีอายุน้อยที่แสวงหาผลิตภัณฑ์สุขภาพ การเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้บริโภควัยรุ่นเกี่ยวกับการดูแลเชิงป้องกันและความเป็นอยู่ที่ดีพวกเขากำลังแสวงหาคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่สะดวกซึ่งสนับสนุนวิถีชีวิตและเป้าหมายสุขภาพระยะยาวของพวกเขา
ในขณะเดียวกัน กลุ่มลูกค้าที่มีอายุสูงขึ้น (Silver Generation) ซึ่งคิดเป็นกว่า 30% ของลูกค้าด้านสุขภาพของเอเอส วัตสันและยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ลูกค้ากลุ่มนี้มีการใช้จ่าย 1.4 เท่าของผู้ซื้อสินค้าสุขภาพทั่วไป สะท้อนการมีส่วนร่วมและกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น เน้นย้ำถึงความสำคัญของสุขภาพเฉพาะบุคคลที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการของพวกเขา
ปีเตอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "เราภาคภูมิใจที่ได้ให้บริการลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มที่มีอายุน้อยและผู้สูงอายุ ซึ่งถือเป็นพลังขับเคลื่อนในหมวดสุขภาพ และเรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนพวกเขาด้วยผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และประสบการณ์ชอปปิงสุขภาพแบบ O+O "

ขณะที่เอเอส วัตสันยังคงพัฒนาไปพร้อมกับตลาดสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงความมุ่งมั่นของเราต่อนวัตกรรม การเข้าถึงได้ และการดูแลที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางยังคงแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการเสริมพลังให้เภสัชกรและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพด้วยเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่เหมาะสม เรากำลังสร้างอนาคตของการค้าปลีกสุขภาพ ที่เป็นแบบเฉพาะบุคคล ครอบคลุม และเชื่อมต่อทางดิจิทัลมากขึ้น