December 06, 2025

การได้รับประทานอาหารที่ดี มีสารอาหารครบถ้วน เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะน้องๆ ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล อาจเข้าถึงอาหารที่มีโภชนาการที่ดีได้ยาก ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ส่งผลต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการเติบโต และพัฒนาการทางสมองของเด็กๆ ด้วย

ตลอด 37 ปีที่ผ่านมา เครือซีพี ร่วมกับ CPF และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท น้อมนำแนวพระราชดำริสร้างความมั่นคงทางอาหาร ของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีตาม “โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน” มาดำเนินการ ริเริ่ม “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ตั้งแต่ปี 2532 ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในโรงเรียนถิ่นทุรกันดารและพื้นที่ห่างไกล ได้บริโภคไข่ไก่อย่างต่อเนื่อง เพื่อโภชนาการที่ดี เติบโตสมวัยทั้งด้านร่างกายและสติปัญญา

ขณะเดียวกัน นักเรียนและชุมชนได้เรียนรู้ทักษะการเลี้ยงไก่ไข่ การบริหารจัดการด้านการเกษตรครบวงจรในฟาร์มขนาดเล็ก และประยุกต์กิจกรรมสู่การเรียนการสอน สามารถบริหารจัดการผลผลิตไข่ไก่จำหน่ายแก่ชุมชน ทำให้ได้บริโภคไข่ไก่สดในราคาที่เหมาะสม สร้างรายได้หมุนเวียน ต่อยอดขยายผล เกิดเป็นกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

นอกจากจะได้อิ่มท้อง จากผลผลิตไข่ไก่ที่พวกเขาช่วยกันดูแลด้วยตนเองแล้ว โรงเรือนเลี้ยงไก่จึงกลายเป็นห้องเรียนอาชีพ ที่ทำให้พวกเขาได้ลงมือทำจริงทุกขั้นตอน ได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งประสบการณ์ และยังกลายเป็นทักษะติดตัวนำไปใช้ต่อในอนาคต

ไข่ไก่ที่ผลิตได้ ไม่ใช่เพียงวัตถุดิบสำคัญในโครงการอาหารกลางวันเท่านั้น แต่ไข่ส่วนที่เหลือยังนำไปจำหน่ายให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองและคนในชุมชน กลายเป็นคลังอาหารของชุมชนแบบยั่งยืน ถือเป็นการสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้ทั้งโรงเรียนและชุมชน ปัจจุบัน มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการนี้แล้วถึง 988 แห่ง ทั่วประเทศ เด็กๆ กว่า 223,000 คน และคุณครูอีก กว่า 16,500 คน ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ

โรงเรือนเลี้ยงไก่ พันธุ์ไก่ อาหารไก่ อุปกรณ์ต่างๆ  รวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญที่มาช่วยสอนเทคนิคการเลี้ยงไก่ให้ถูกวิธีแบบมืออาชีพ มีซีพีเอฟที่ใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร  เป็นพี่เลี้ยงคอยช่วยเหลือโรงเรียน   รวมไปถึงการให้ความรู้ เรื่องการจัดการฟาร์ม การตลาด การแปรรูปอาหาร และการจัดการของเสียจากฟาร์มด้วย เรียกได้ว่า เด็กๆ ไม่ได้แค่เลี้ยงไก่ แต่ได้เรียนรู้แบบครบวงจร

 

 ที่สำคัญยังยกระดับโรงเรียนให้เป็น Action Learning Base ศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านทักษะอาชีพของชุมชน ต่อยอดสร้างคลังอาหารที่มั่นคงในระดับท้องถิ่น และขยายองค์ความรู้สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

ทุกวันนี้ โครงการฯ ผลิตไข่ไก่ได้มากกว่า 27.6 ล้านฟองต่อปี เลยทีเดียว และมีเป้าหมายขยายไปให้ครบ 1,000 โรงเรียนทั่วประเทศภายในปี 2573 เพื่อให้น้องๆ กว่า 300,000 คน ได้บริโภคไข่ไก่อย่างทั่วถึง

โครงการฯนี้ นอกจากจะทำให้น้องๆนักเรียนและชุมชนได้รับประโยชน์แล้ว CPF ยังได้จัดจ้างคนพิการในชุมชนเพื่อช่วยทำงานในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ตามศักยภาพของพวกเขา อาทิ ช่วยดูแลความสะอาดบริเวณโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ ทำความสะอาดภายในโรงเรียน รดน้ำต้นไม้ และปลูกผักสวนครัว จนถึงปัจจุบันมีการทำสัญญาจ้างงานคนพิการรวม 503 คน

CPF และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ฯ มุ่งมั่นเดินหน้าโครงการนี้ เพื่อช่วยเติมเต็มโภชนาการดีๆ ให้เด็กๆ สร้างแหล่งอาหารที่ยั่งยืนในโรงเรียน ด้วยตระหนักดีว่าการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ คือ การสร้างทุนมนุษย์ ที่จะไปสู่อนาคตที่ดีอย่างยั่งยืน

ไปดูความน่ารัก + ความภูมิใจของเด็กๆ กันเลย

 

เคทีซีตอกย้ำแนวคิดสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย และผู้อยากทำธุรกิจเสริม ส่ง “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” ทางเลือกของคนไม่ท้อ ร่วมมือกับ “แตงไทยโพสต์” แฟรนไชส์ไปรษณีย์ชุมชน ธุรกิจแฟรนไชส์ที่กำลังเติบโต การันตีด้วยรางวัล SMEs Award สาขาอาชีพทำเงินแห่งปี ประจำปี 2567 เปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจไปรษณีย์เอกชน สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ชูจุดเด่นอนุมัติไวภายใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที ด้วยวงเงินใหญ่สูงสุด 1 ล้านบาท และไม่ต้องมีคนค้ำประกัน

 

นางสาวเรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี ผู้บริหารสูงสุด สายงานสินเชื่อรถยนต์ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า “เคทีซีให้ความสำคัญกับการสนับสนุนผู้ที่มีฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง หรือหาช่องทางมีรายได้เสริม เราเชื่อว่าการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่รวดเร็ว เหมาะสมและถูกกฎหมาย เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของคนที่มองหาธุรกิจและเงินทุนเพื่อไปต่อยอดความฝัน ความร่วมมือกับ “แตงไทยโพสต์” ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ไปรษณีย์ชุมชนในครั้งนี้ เรามองเห็นศักยภาพของธุรกิจตัวแทนรับส่งพัสดุที่มีการเติบโตต่อเนื่อง และมีความหลากหลายในการบริการมากขึ้น ซึ่งระบบการให้บริการที่ทางแตงไทยโพสต์เป็นผู้คิดค้นและได้ดำเนินการจนประสบความสำเร็จและได้รับรางวัลเป็นเครื่องยืนยัน จะช่วยให้ผู้ใช้ระบบแฟรนไชส์ของแตงไทยโพสต์มีความมั่นใจว่าจะสร้างรายได้จากการทำธุรกิจอย่างได้ผล และการสนับสนุนเงินทุนจากสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” จะช่วยให้ผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจสามารถทำได้ง่ายขึ้น ด้วยจุดเด่นที่อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง พร้อมให้วงเงินใหญ่สูงสุด 1 ล้านบาท ผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน สามารถนำรถไปใช้ได้ตามปกติ  และยังสามารถเลือกรับบัตรกดเงินสดเคทีซี พี่เบิ้ม ไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินได้อีกด้วย”

 

นายอัฒพล รอดขำ ผู้ก่อตั้ง “แตงไทยโพสต์ แฟรนไชส์ไปรษณีย์ชุมชน” กล่าวว่า “ธุรกิจแฟรนไชส์ของเราออกแบบมาเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองได้ง่ายที่สุด ด้วยเงินลงทุนที่ไม่สูง และระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพ โดยมีการฝึกอบรมและสนับสนุนด้านการบริหารจัดการธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถดำเนินกิจการได้อย่างมั่นใจ เราต้องการให้แฟรนไชส์ไปรษณีย์ชุมชนเป็นทางเลือกที่มั่นคงสำหรับคนที่อยากมีธุรกิจของตัวเอง ซึ่งตอนนี้ แตงไทยโพสต์มีการขยายแฟรนไชส์ไปทั่วประเทศมากกว่า 1,000 สาขา  โดยมีจุดเด่นของธุรกิจ คือ เราเป็นผู้พัฒนาระบบเองตัวจริง และสำหรับธุรกิจนี้ การเป็นบริษัทเล็กแบบเรา ทำให้สามารถดูแลได้สะดวก มีทีมงานที่พร้อมให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้สมาชิกแฟรนไซส์ซีเผชิญปัญหาหน้างานคนเดียว และด้วยความร่วมมือกับ สินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” ในครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้สนใจธุรกิจแฟรนไชส์ไปรษณีย์ที่กำลังมองหาเงินลงทุน สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่น่าเชื่อถือได้ง่ายและสะดวกขึ้น ลดอุปสรรคสำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจ และสร้างโอกาสสำหรับผู้ต้องการขยายธุรกิจ ผู้ที่สนใจสมัครแฟรนไชส์ติดต่อผ่านเวบไซต์ http://www.tangthaiposts.com หรือเพจเฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/TANGTHAIPOST

ผู้ประสงค์จะสมัครสมาชิก “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ รถจักรยานยนต์และบิ๊กไบค์ สามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ www.ktc.co.th/loan/ktc-p-berm หรือติดต่อโทร. 02 123 5300  ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือผู้แนะนำผลิตภัณฑ์เคทีซีทั่วประเทศ นอกจากนี้ ผู้ขอสินเชื่อยังสามารถเลือกได้ว่าจะมาขอคำปรึกษากับเคทีซี พี่เบิ้ม ที่จุดบริการ “เคทีซี ทัช” ทุกสาขา หรือใช้บริการพี่เบิ้ม เดลิเวอรี่ (P BERM Delivery) เพื่อให้ทีมงานเดินทางไปรับสมัครถึงที่บ้าน

หมายเหตุ กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21% - 24% ต่อปี

 

คุณสุขวสา ภูชัชวนิชกุล (ที่ 4 จากซ้าย) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามความร่วมมือกับ ดร. อรรถเวทย์ พฤกษ์สถาพร (ที่ 5 จากซ้าย) อธิการบดี วิทยาลัยดุสิตธานี เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้พัฒนาศักยภาพด้านการทำงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงการบริการอาหาร และเครื่องดื่ม ผ่านการฝึกปฏิบัติงานจริง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนก้าวเข้าสู่การทำงานอย่างมืออาชีพ อีกทั้งยังเป็นการวางรากฐานให้นักศึกษาได้มีโอกาสร่วมงานกับพีทีจี และบริษัทในเครือทั้ง กาแฟพันธุ์ไทย, คอฟฟี่ เวิลด์, ซับเวย์ รวมถึงแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ พร้อมทั้งสนับสนุนและต้อนรับบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพเข้าสู่ทีมอย่างต่อเนื่อง จัดขึ้น ณ Co–Working Space วิทยาลัยดุสิตธานี

นอกจากนี้ พีทีจียังได้เข้าร่วมงาน Hospitality Talent Fair 2025 ซึ่งเป็นมหกรรมการจัดหางานสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ เพื่อเปิดโอกาสให้สถานประกอบการได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และร่วมมือกันในการสรรหา และคัดกรองบุคลากรที่มีคุณภาพ รวมถึงช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป

ในยุคที่การหลอกลวงทางออนไลน์ระบาดหนัก ผู้คนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อของกลโกงสารพัดรูปแบบ ทั้งชักชวนลงทุนในหุ้นปลอม สกุลเงินดิจิทัล ไปจนถึงโครงการที่ไม่มีอยู่จริง เมื่อผู้เสียหายสูญเสียเงินจำนวนมาก ก็มักมองหาทนายเพื่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย แต่แทนที่จะได้ทนายความจริง กลับมี “มิจฉาชีพ” อีกรูปแบบหนึ่งที่แฝงตัวมาในคราบ “ทนายอาสา” เสนอตัวช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยอ้างว่าจะดำเนินคดีให้ชนะ หรือเรียกเงินคืนให้ได้ 100% ซึ่งล้วนเป็นคำพูดที่ฟังดูดีเกินจริง และนำไปสู่การเรียกเก็บค่าใช้จ่ายล่วงหน้า หรือหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวไปใช้ในทางมิชอบ เมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอก ผู้เสียหายก็มักจะหมดเงิน หมดหวัง และพยายามหาทนายอาสาอีกครั้ง… และอาจตกเป็นเหยื่อซ้ำสอง

นายศุภชัย เมืองรักษ์ หรือ ทนายเอก ผู้บริหารสำนักงานกฎหมาย นคร อินเตอร์ ลอว์ ขอย้ำเตือนประชาชนว่า อย่าปล่อยให้ความเดือดร้อนทำให้เราหลงเชื่อผู้ไม่หวังดี หากต้องการความช่วยเหลือทางกฎหมาย ควรตรวจสอบให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อซ้ำในช่วงเวลาที่อ่อนแอที่สุด

ข้อควรระวัง

1.ระวังการติดต่อจากช่องทางที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น เบอร์โทรศัพท์แปลกๆ ไลน์ หรือโซเชียลมีเดียที่ไม่สามารถตรวจสอบตัวตนได้

2.อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาเกินจริง ไม่มีทนายคนใดสามารถรับประกันผลคดีได้ 100%

3.ระวังการเรียกเก็บเงินล่วงหน้าโดยไม่มีความชัดเจน โดยเฉพาะหากไม่มีใบเสร็จหรือข้อตกลงที่เป็นทางการ

4.หลีกเลี่ยงทนายที่ไม่มีสำนักงานไม่มีที่ตั้งอย่างชัดเจนหรือไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลได้

**คำแนะนำจากทนายเอก เบื้องต้น**

  • ตรวจสอบชื่อทนาย ผ่านเว็บไซต์ของ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ www.lawyerscouncil.or.th หรือโทรศัพท์ 02-522-7124
  • หากต้องการทนายอาสา ควรติดต่อผ่านหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น สภาทนายความฯ, ศูนย์ดำรงธรรม, ยุติธรรมจังหวัด หรือองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค ฯลฯ ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมาย หรือหน่วยงานราชการรับรอง
  • ของฟรีไม่ดีเสมอไป หากมีกำลัง ควรจ้างทนายความที่มีใบอนุญาต และมีความน่าเชื่อถือ

 

นางสาวมธุชา จึงธนสมบูรณ์ (ที่ 4 จากซ้าย) รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการจัดการ บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) จำกัด (มหาชน) หรือ CFARM ให้การต้อนรับ ดร.สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ (กลาง) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุดา ปีตะวรรณ (ที่ 4 จากขวา) ที่ปรึกษา และนายสุริยา ธรรมธีระ (ที่ 3 จากซ้าย) รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน โอกาสเยี่ยมชมธุรกิจพร้อมอัพเดทข้อมูลบริษัทและแผนการดำเนินงานในปี 2568 ณ สำนักงาน จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อเร็วๆนี้

พร้อมบริการสินเชื่อเช่าซื้อ การเช่าดำเนินงาน และประกันภัย เผยลูกค้ารถบรรทุก-รถบัสถูกใจใช้บริการกว่า 80%

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) กระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้าเสริมแกร่งอุตสาหกรรมความงามไทย พร้อมขับเคลื่อนแบรนด์เครื่องสำอางสัญชาติไทยสู่ระดับนานาชาติ ผ่านกิจกรรมพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์ และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขา เครื่องสำอางและความงาม หรือ “Embodying Beauty: The Hero Within” ที่มุ่งพัฒนาแบรนด์และผลิตภัณฑ์ไทยให้โดดเด่นด้วยอัตลักษณ์เฉพาะตัว ผ่านการใช้พลัง Thai Soft Power เป็นเครื่องมือในการสร้างความแตกต่าง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก

โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงามที่มีศักยภาพ เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์อย่างเข้มข้น เพื่อก้าวสู่การเป็น “Fashion Hero Brand” และเป็นแบรนด์ต้นแบบที่สามารถสะท้อนความเป็นไทยได้อย่างสร้างสรรค์ พร้อมนำเสนอคุณค่าและจุดขายสู่ผู้บริโภคในตลาดสากล พิเศษ ผู้ประกอบการที่มีผลงานโดดเด่นจำนวน 5 กิจการ จะได้รับ เงินรางวัลพร้อมโล่เกียรติยศ รวมมูลค่าสูงสุดถึง 40,000 บาท

สิ่งที่ผู้ประกอบการจะได้รับจากโครงการนี้

  • การอบรมทฤษฎีและปฏิบัติเชิงลึก โดยผู้เชี่ยวชาญ การขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ด้วย Soft Power, กลยุทธ์การสร้างแบรนด์, การพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และการสร้างยอดขายด้วยกลยุทธ์ทางการตลาด
  • การศึกษาดูงานแบรนด์เครื่องสำอางที่ประสบความสำเร็จ และมีความชำนาญในการผลิตเครื่องสำอางในระบบอุตสาหกรรม
  • การพัฒนายกระดับด้วยการออกแบบและสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อส่งเสริมกลยุทธ์ทางการตลาด
  • การผลิตคลิป VDO เพื่อเป็นการยกระดับการสื่อสาร และการโปรโมตแบรนด์ พร้อมเผยแพร่ผ่าน Social Media
  • การสนับสนุนโฆษณาผลิตภัณฑ์ออนไลน์ไม่น้อยกว่า 30 วัน
  • พื้นที่การนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และจัดจำหน่าย ณ ICONCRAFT , Icon siam เป็นเวลา 5 วัน

ขอเชิญชวนผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วม สามารถสมัครได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย (รับจำนวนจำกัดเพียง 25 กิจการเท่านั้น) เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ - ถึงวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 ลงทะเบียนได้ที่ : https://forms.gle/epeybm8jRh2XZmXS8 ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง Facebook : กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม – DIPROM / Facebook : Embodying Beauty: The Hero Within

ทรู ย้ำลูกค้าเร่งดำเนินการด่วน!! หากได้รับแจ้งเตือนผ่านแอปธนาคาร

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงและมีนวัตกรรม เปิดตัวแคมเปญสุดพิเศษ “SC Free All” เอาใจคนอยากมีบ้านและคอนโดให้มีแต่คำว่า “ฟรี” ด้วยข้อเสนอสุดคุ้ม รับฟรีทุกค่าใช้จ่ายแบบจัดเต็ม! ตั้งแต่การจดจำนอง, ค่าโอนกรรมสิทธิ์, เครื่องปรับอากาศ, ค่าส่วนกลางสูงสุด 2 ปี และช่วยจ่ายดอกเบี้ยสูงสุดนานถึง 5 ปี* ตั้งแต่วันนี้ – 30 เม.ย 2568

นายณัฏฐกิตติ์ ศิริรัตน์ หัวหน้าสายงานการตลาด บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แคมเปญ SC Free All เป็นการตอกย้ำความตั้งใจของ SC Asset ที่อยากให้คนไทยได้เริ่มต้นชีวิตในบ้านหลังใหม่ได้ง่ายขึ้น โดยลดภาระค่าใช้จ่ายก้อนแรกให้กับลูกค้าแบบครบทุกด้าน ทั้งค่าโอน ค่าจดจำนอง รวมถึงช่วยแบ่งเบาค่าดอกเบี้ยในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับประกาศของกระทรวงมหาดไทย ที่ได้ออกมาตรการเพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง สำหรับที่อยู่อาศัย ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท เหลือเพียง 0.01%” 

“SC Free All” พร้อมยกโครงการระดับพรีเมี่ยมกว่า 75 โครงการ ในราคาเริ่มต้น 3 – 100 ล้านบาท* อาทิ เวนิว พอร์เทรต ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ (Venue Portrait Donmueang - Chaengwatthana) บ้านเดี่ยว ซีรีส์ใหม่สไตล์นอร์ดิก เพียง 97 หลัง มาพร้อมกับ Living Solutions นวัตกรรมใหม่ที่รู้ใจผู้อยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น ในราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท*, โครงการ เรฟเฟอเรนซ์ เกษตร ดิสทริค (Reference Kaset District) คอนโดมีเนียมดีไซน์ใหม่ VertiSpace เพดานสูง 4.8 เมตร ฟังก์ชันแบบ “บ้าน” บนทำเลศักยภาพสูง ตรงข้าม ม.เกษตร เชื่อมต่อทุกการเดินทาง ในราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท* และโครงการใหม่ล่าสุด แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ (Grand Bangkok Boulevard Donmueang - Chaengwatthana) คฤหาสน์หรูบนทำเลคุณภาพ มาพร้อมพื้นที่และสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ ในราคาเริ่มต้น 30 - 60 ล้านบาท

“เอสซี แอสเสท พร้อมส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับลูกค้าในทุกมิติ ทั้งด้านฟังก์ชันการออกแบบ ความสะดวกสบาย และสิ่งแวดล้อม ด้วยการคัดสรรโครงการคุณภาพในทุกเซ็กเมนต์ เพื่อตอบโจทย์ชีวิตที่แตกต่างของทุกคนในครอบครัว หรือการลงทุนระยะยาว เอสซี แอสเสท พร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้ลูกค้ากับ “SC Free All” ตัวเลือกที่คุ้มค่าในช่วงเวลานี้” นายณัฏฐกิตติ์ กล่าวปิดท้าย

พบกับโปรโมชั่นพิเศษพร้อมข้อเสนอสุดคุ้ม “SC Free All” ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษตั้งแต่วันนี้ – 30 เม.ย 2568 ทาง https://m.scasset.com/XHXJ (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.1749  หรือ Line : @SCASSET ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.scasset.com, เฟสบุ๊ค www.facebook.com/scasset, อินสตาแกรม www.instagram.com/scasset/, ยูทูบ @scassetonline

บริษัท สหฟาร์ม จำกัด (SAHA FARMS) ได้รับรางวัล "เครือข่ายน้ำบาดาลดีเด่น" จากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ในงานวันน้ำบาดาลแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2568 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร

รางวัลนี้นับเป็นครั้งแรกที่สหฟาร์มได้รับ และถือเป็นเครื่องยืนยันถึงการบริหารจัดการที่มีมาตรฐานสูงสุดในด้านทรัพยากรน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่ออุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร

ดร.มนูญศรี โชติเทวัญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด และบริษัทในเครือ ได้มอบหมายให้ผู้บริหารระดับสูงเป็นตัวแทนเข้ารับมอบโล่เกียรติคุณในครั้งนี้ โดยทางผู้บริหารสหฟาร์มได้แสดงความภาคภูมิใจและเน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริหารจัดการน้ำบาดาลอย่างมีธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นหลักการที่บริษัทถือปฏิบัติมาโดยตลอด การได้รับรางวัลนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสหฟาร์มในการรักษามาตรฐานคุณภาพการเลี้ยงไก่ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า แม้จะเผชิญกับวิกฤตการณ์โลกและภัยธรรมชาติต่างๆ

นอกจากนี้ สหฟาร์มยังให้ความสำคัญกับแนวทางการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืน โดยมีการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาปรับใช้ในกระบวนการผลิต เช่น การบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ ลดการใช้น้ำ และนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำอย่างเหมาะสม รวมถึงการใช้พลังงานหมุนเวียนและลดของเสียจากกระบวนการผลิตให้เหลือน้อยที่สุด ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

X

Right Click

No right click