

แกร็บ ประเทศไทย ประกาศสนับสนุน การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ผุดแคมเปญใหญ่ “Grab Your Goalมากกว่าเส้นชัย คือกำลังใจจากคุณ” เพื่อส่งแรงใจเชียร์ทัพนักกีฬาทีมชาติไทยสู้ศึกการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และพาราลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 โดยเตรียมจัดขบวนพาเหรด พร้อมด้วยอาหารร้านดังจาก #GrabThumbsUp บน GrabFood และบัตรกำนัล GrabGift เพื่อต้อนรับและแสดงความยินดีกับนักกีฬาทีมชาติไทยหลังเดินทางกลับจากการแข่งขัน
เสริมทัพด้วยรางวัลอัดฉีดให้กับนักกีฬาไทยที่คว้าเหรียญทอง ด้วยการมอบบัตรกำนัลมูลค่ากว่า 180,000 บาท เพื่อใช้บริการแกร็บฟรีตลอดปี* นอกจากนี้ ยังชวนคนไทยร่วมส่งแรงเชียร์นักกีฬาทีมชาติด้วยการมอบโค้ดส่วนลดพิเศษสำหรับการสั่งอาหาร ซื้อสินค้า และการเดินทางผ่านแอปพลิเคชัน Grab ตลอดระยะเวลาการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม - 11 สิงหาคม 2567
นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “แกร็บ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสนับสนุนการกีฬาแห่งประเทศไทย ในการจัดเตรียมการเฉลิมฉลองต้อนรับนักกีฬาทีมชาติไทยหลังจบเกมส์การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และพาราลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 นักกีฬาทีมชาติไทยทุกคนถือเป็นตัวแทนประเทศและเป็นไอดอลคนสำคัญที่ได้สร้างความหวังและแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย ทั้งยังมีส่วนในการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในระดับโลก ในฐานะแพลตฟอร์มที่มุ่งมั่น ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน แกร็บขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการยกย่องและสนับสนุนบุคคลตัวอย่างเหล่านี้ โดยเราเตรียมจัดขบวนรถต้อนรับทัพนักกีฬาไทยอย่างยิ่งใหญ่ ที่มาพร้อมเซตอาหารไทยจากสุดยอดร้านอาหารจาก #GrabThumbsUp บน GrabFood ไม่จะเป็น Emily’s เส้นหมี่ไก่ฉีกที่เป็นกระแสไวรัล เจ๊แดง ส้มตำไก่ย่างร้านเด็ด Easy Buddy ข้าวกะเพราวัตถุดิบคุณภาพ ร้านโคตรยำ ยำสุดแซ่บ และ HAAB ขนมไข่เตาถ่านเจ้าดังสูตรต้นตำรับจากสงขลา พร้อมด้วยบัตรกำนัล GrabGift เพื่อให้นักกีฬาสามารถนำไปใช้บริการต่างๆ ของแกร็บได้ นอกจากนี้ เรายังได้เตรียมรางวัลพิเศษให้กับนักกีฬาที่คว้าเหรียญทองกลับมา ด้วยการมอบบัตรกำนัลมูลค่ากว่า 180,000 บาท เพื่อนำไปใช้เรียกรถและสั่งอาหารผ่านแกร็บได้ฟรีตลอดทั้งปี*”
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวเสริมว่า “การกีฬาแห่งประเทศไทย
มีพันธกิจสำคัญในการพัฒนานักกีฬาไทยเพื่อยกระดับขึ้นไปเทียบเท่าระดับสากล โดยในปีนี้ ประเทศไทยส่งตัวแทนนักกีฬาทีมชาติ เพื่อเข้าร่วมการแข่งโอลิมปิกเกมส์ จำนวน 17 ชนิดกีฬา อาทิ เทควันโด มวยสากล และยกน้ำหนัก
ในส่วนของพาราลิมปิกเกมส์ จำนวน 13 ชนิดกีฬา อาทิ ยิงธนู แบดมินตัน และ จักรยาน นอกจากเสียงเชียร์จากคนไทยนับล้านที่คอยให้กำลังใจนักกีฬาทุกคนระหว่างการแข่งขันแล้ว การสนับสนุนจากทุกภาคส่วนก็ถือเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยพัฒนาและส่งเสริมวงการกีฬาไทย กกท. ขอขอบคุณหน่วยงานภาคเอกชนอย่าง
แกร็บ ประเทศไทย ที่ได้ให้การสนับสนุนนักกีฬาในครั้งนี้ ทั้งอาหารที่ช่วยให้นักกีฬาได้ฟื้นฟูกำลังอย่างเต็มที่ และขบวนพาเหรดที่จะต้อนรับนักกีฬาอย่างอบอุ่น ซึ่งถือเป็นการสร้างกำลังใจและความภาคภูมิใจให้กับกองทัพนักกีฬาไทยได้เป็นอย่างดี”
![]()
นอกจากนี้ เพื่อต้อนรับกระแสเชียร์กีฬาระดับโลก แกร็บชวนคนไทยร่วมส่งแรงใจเชียร์ทัพนักกีฬาไทยในศึก การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และพาราลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ด้วยการมอบส่วนลดสุดพิเศษสำหรับผู้ใช้บริการ เพียงใส่ โค้ด “CHEERTHAI” เมื่อใช้บริการ GrabFood รับส่วนลดสูงสุด 100 บาท บริการ GrabMart รับส่วนลดทันที 30 บาท และบริการการเดินทาง อาทิ JustGrab และ GrabCar รับส่วนลดสูงสุด 50 บาท ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม - 11 สิงหาคม 2567 นี้
เวียตเจ็ทไทยแลนด์ลดกระหน่ำ ออกโปรโมชั่น “คุ้มฟินแบบตัวจริงสุวรรณภูมิ (It’s Time to Vietjet)” เสนอบัตรโดยสารราคาพิเศษ เริ่มต้นเพียง 0 บาท (ราคาไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม) สำหรับเดินทางบนเครือข่ายเส้นทางบินภายในประเทศและระหว่างประเทศของเวียตเจ็ทไทยแลนด์
สามารถสำรองบัตรโดยสารได้ระหว่างวันที่ 16 – 19 กรกฎาคม 2567 ใช้เดินทางได้ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 31 มีนาคม 2568 (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ที่ th.vietjetair.com
บัตรโดยสารราคาโปรโมชั่นนี้สามารถใช้เดินทางได้กับทุกเส้นทางบินบนเครือข่ายเส้นทางบินภายในประเทศของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ ได้แก่ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี อุดรธานี ขอนแก่น และอุบลราชธานี รวมถึงเส้นทางบินข้ามภูมิภาคจาก ภูเก็ต สู่ เชียงใหม่ และเชียงราย และทุกเส้นทางบินบนเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ ได้แก่ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ เวียดนาม พนมเปญ สิงคโปร์ ฟูกุโอกะ ไทเป เซี่ยงไฮ้ และหางโจว รวมถึงเส้นทางบินตรงจาก เชียงใหม่ สู่ โอซาก้า ผู้โดยสารสามารถสำรองบัตรโดยสารราคาพิเศษนี้ได้ที่เว็บไซต์ th.vietjetair.com แอปพลิเคชัน “Vietjet Air” หรือผ่านช่องทางเฟซบุ๊กที่ www.facebook.com/VietJetThailand (คลิกที่แถบ “จองเลย”) รวมทั้งตัวแทนจำหน่ายหรือสำนักงานจำหน่ายบัตรโดยสาร พร้อมกันนี้ผู้โดยสารสามารถชำระเงินด้วย “ทรูมันนี่ วอลเล็ท” และบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต
เวียตเจ็ทไทยแลนด์ให้บริการครอบคลุม 11 เส้นทางบินภายในประเทศ ได้แก่ เส้นทางบินจาก กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ อุดรธานี หาดใหญ่ ขอนแก่น อุบลราชธานี และสุราษฎร์ธานี รวมถึงเที่ยวบินข้ามภูมิภาค จาก ภูเก็ต สู่ เชียงใหม่ และเชียงราย พร้อมกันนี้ สายการบินฯ ได้ขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศสู่หลากหลายจุดหมายปลายทางในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เชื่อมต่อประเทศไทยกับเวียดนาม จีน สิงคโปร์ กัมพูชา ญี่ปุ่น ไทเป และอีกหลายจุดหมายปลายทางทั่วทั้งภูมิภาค
![]()
จากแนวโน้มและศักยภาพของคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการทำธุรกิจ แต่ไม่มีเงินทุนและศูนย์บ่มเพาะที่จะช่วยสนับสนุนให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ Startup เกิดใหม่น้อยลง และ Startup ใหญ่ๆที่มีคุณภาพก็ลดน้อยลงเช่นกัน งานนี้ "Krungsri Finnovate (กรุงศรี ฟินโนเวต)" โดย "คุณแซม ตันสกุล" กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด ได้จับมือกับ "คุณป้อม - ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ" นักธุรกิจและนักลงทุนสตาร์ทอัพแนวหน้าของไทย เปิด "Accelerator program" โรงเรียนสอน Startup เพื่อติดสปีดให้ธุรกิจ ระดับ Seed ถึง Pre-series A เติบโตสู่ Series A ได้อย่างมีคุณภาพ ในชื่อ “Finno Efra Accelerator (FINE Accelerator)”
ซึ่งโปรแกรมนี้จะเปิดรับ 10 ทีม โดยมองหาสตาร์ทอัพไทยที่มีรายได้แล้ว และอยู่ในธุรกิจเกี่ยวกับ Impact และ Digital Transformation พร้อมกับความพิเศษที่ "คุณแซม ตันสกุล" และ "คุณป้อม ภาวุธ" จะรับบทบาทเป็น Director พร้อมกับคว้า "คุณทิวา ยอร์ค" อดีต CEO, Kaidee ที่ Exit ไปเป็นที่เรียบร้อย และ "คุณบอย - สุวัฒน์ ปฐมภควันต์" อดีต Co-founder, Skootar ที่ได้ Exit ไปแล้วเช่นกัน โดยทั้ง 2 ท่านจะมานั่งแท่นเป็นครูใหญ่ เพื่อให้คำแนะนำเหล่า Startup พร้อมกับ Mentor ผู้คร่ำหวอดในการทำธุรกิจ อีก 10 ท่าน ได้แก่
โดยแต่ละท่านจะเลือก Startup 1 ทีม เข้าทีมตัวเองพร้อมให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด และทั้ง 10 ทีมนี้จะได้เข้าร่วม Bootcamp เข้มข้นเป็นเวลา 4 เดือน ซึ่งนอกจากการให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดของ Mentor ประจำทีมตัวเองแล้ว ใน Bootcamp ทุกทีมจะได้เข้าร่วม Workshop และ Sharing session จากผู้สอนที่เป็น Top Tech Leader ในประเทศไทย ที่จะมาสอนตั้งแต่เรื่อง Mindset ความเป็นผู้นำ, การทำให้ธุรกิจโตอย่างรวดเร็ว, การพัฒนาโปรดักส์, การตลาด, การระดมทุน และอีกหลากหลายประเด็นที่คนทำธุรกิจควรรู้ ซึ่งทั้ง 10 ทีมต้องเข้าร่วม Session ทุกสัปดาห์ๆ ละ 1 ครั้ง นอกจากนี้ทางโปรแกรมยังได้รวบรวมโค้ชผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านกว่า 100 คน มาให้ Startup ทั้ง 10 ทีมสามารถลงเวลาเพื่อขอคำปรึกษาและคำแนะนำจากประสบการณ์ของผู้ที่เรียกว่าประสบความสำเร็จ ได้ครั้งละ 1 ชั่วโมงด้วย
ปิดท้ายด้วยวัน Demo day ที่ทุกทีมจะต้องขึ้น Pitching เพื่อนำเสนอธุรกิจของตนเองให้เข้าตานักลงทุนที่มาร่วมงาน พร้อมชิงรางวัลไป Innovation Trip ที่ต่างประเทศด้วย และนอกจากรางวัลใหญ่ๆ แล้ว ทางโปรแกรมยังสนับสนุนทั้งเรื่องของ Co-working space ให้นั่งทำงานได้ตลอดปี รวมทั้ง Technology perks ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Cloud system, HR, Accounting และ Marketing Tool นอกจากนี้เรายังมีในส่วนของ Legal สนับสนุนด้านกฎหมาย และ PR ให้ธุรกิจของทั้ง 10 ทีมเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพื่อช่วยเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ สร้างแบรนด์และเพิ่มโอกาสในการทำงานมากขึ้นตลอดโปรแกรม โดยในส่วนนี้ทุกทีมจะได้รับการสนับสนุนตั้งแต่เริ่มเข้าโปรแกรม และที่สำคัญเมื่อทุกทีมผ่าน Finno Efra Accelerator เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็มีโอกาสได้รับเงินทุนสูงสุด 40 ล้านบาท จากกองทุน "Finno Efra Private Equity Trust" พร้อมทั้ง Fast track เพื่อรับ grant จากทั้ง NIA และ Depa ด้วย หากเข้าเงื่อนไขตามที่กองทุนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศกำหนด
"คุณแซม ตันสกุล" เผยว่า "กรุงศรี ฟินโนเวต มีความยินดีที่ได้ร่วมส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Startup รุ่นใหม่ ซึ่งเรามีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนให้ธุรกิจ Startup เติบโตประสบความสำเร็จ ด้วยการเร่งผลักดันพัฒนาในหลากหลาย Stage อย่างการเปิด Accelerator program กับ Finno Efra Accelerator ที่จะบ่มเพาะ Startup และช่วยติดสปีดให้ธุรกิจช่วง Seed ถึง Pre-series A โดยหัวใจหลักที่เป็นจุดมุ่งหมายของโปรแกรมคือ การมอบเครื่องมือและถ่ายทอดประสบการณ์ในการทำธุรกิจให้แก่ Startup เพื่อให้อยู่รอดเอาชนะอุปสรรคที่ท้าทาย และมีศักยภาพเติบโตได้ย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ซึ่งเชื่อมั่นว่าครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี สู่การเติบโตในระดับภูมิภาคอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป"
"แน่นอนสำหรับ Startup ตอนนี้เตรียมตัวได้เลย ถ้าท่านทำธุรกิจเกี่ยวกับ Impact และ Digital Transformation ที่อยู่ในระดับ Seed Stage ถึง Pre-Series A และมี Traction กับรายได้แล้ว สามารถเตรียมพร้อมที่จะสมัครได้เลย ซึ่งถือเป็นเป็นเรื่องดี ที่ Startup ไทยจะได้เติบโต เพราะได้ทั้งความรู้, Connection และโอกาสได้เงินทุน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของตัวเองต่อไป"
ผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโปรแกรมติดสปีดให้ธุรกิจ Startup กับ “Finno Efra Accelerator” ได้ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม - 15 กันยายน 2567 ทาง https://www.finnoefraaccelerator.com/
“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท ไลฟ์ อิมแพค อีเว้นท์ จัดกิจกรรม "พี่ KTC Coop ส่งภาษามือจูงน้องเรียนรู้มรดกเหนือกาลเวลาของ ดาวินชี อะไลฟ์” ณ ไอคอนสยาม ให้กับน้องๆ ที่บกพร่องทางการได้ยิน โรงเรียนเศรษฐเสถียรในพระราชูปถัมภ์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 - 6 เพื่อเปิดประสบการณ์นอกห้องเรียน โดยมีนิสิต นักศึกษาโครงการ KTC Coop ร่วมเป็นพี่เลี้ยงดูแลน้องๆ ตลอดกิจกรรม
นางสาวปิยะสุดา แคว้นนนทรีย์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานทรัพยากรบุคคล “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หนึ่งในนโยบายการทำการพัฒนาที่ยั่งยืน (SD) ของเคทีซีคือการให้โอกาสทางการศึกษา และร่วมพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทยให้มีคุณภาพในด้านต่างๆ อย่างไม่มีขีดจำกัด เพื่อร่วมสร้างสรรค์สังคมไทยอย่างยั่งยืน เคทีซีจึงได้ร่วมมือกับ บริษัท ไลฟ์ อิมแพค อีเว้นท์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรของเคทีซี จัดกิจกรรม "พี่ KTC Coop ส่งภาษามือจูงน้องเรียนรู้มรดกเหนือกาลเวลาของ ดาวินชี อะไลฟ์” ณ ไอคอนสยาม ให้กับน้องๆ ที่บกพร่องทางการได้ยิน โรงเรียนเศรษฐ-เสถียรในพระราชูปถัมภ์ โดยมุ่งหมายให้น้องๆ ได้เปิดประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านมรดกเหนือกาลเวลาของเลโอนาร์โด ดาวินชี อัจฉริยะก่อนกาล 500 ปี เจ้าของผลงานชิ้นเอกระดับโลกอย่างภาพวาด Mona Lisa และ The Last Supper รวมทั้งเป็นนักประดิษฐ์ นักออกแบบ นักดนตรี นักคณิตศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ จนได้ชื่อว่าเป็น “พหูสูต” แห่งยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance) และได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก ชมผลงานที่ประสบความสำเร็จของเลโอนาร์โด ชีวิตและความฉลาดของอัจฉริยะที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้ ในด้านวิทยาศาสตร์ ความคิดสร้างสรรค์ และความคิดเชิงเทคนิค ในผลงานชิ้นเอก สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ตำราโบราณ และภาพวาดของปรมาจารย์ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา อิทธิพลของเลโอนาร์โดที่ยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ ศิลปะ วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ แสด’ให้เห็นถึงวิธีการค้นพบการประดิษฐ์ในรูปแบบใหม่ๆ และข้อสงสัยเกี่ยวกับโลกที่อยู่รอบตัวเรา ซึ่งในกิจกรรมครั้งนี้จะมีพี่ๆ นิสิต นักศึกษาโครงการ KTC Coop ร่วมเป็นพี่เลี้ยงดูแลน้องๆ ตลอดกิจกรรม”
KTC COOP (KTC Cooperative Program) คือ โครงการที่เคทีซีเข้าร่วมกับโครงการสหกิจศึกษาของมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาจากหลายสาขาวิชาเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์และฝึกปฏิบัติงานกับทีมงานมืออาชีพทางด้านธุรกิจการเงิน โครงการ KTC COOP เริ่มต้นในปี 2566 และมีนักศึกษาที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ทั้งภาคภาษาไทยและนานาชาติกว่า 100 คน นอกจากนิสิตและนักศึกษาในโครงการ KTC COOP จะได้มีโอกาสปฏิบัติงานจริงเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์แล้ว เคทีซียังมุ่งพัฒนาคนรุ่นใหม่ก้าวสู่โลกการทำงานอย่างมั่นคง ด้วยการจัดหลักสูตรฝึกอบรมและกิจกรรมต่างๆ เพื่อเสริมสร้างทักษะความสามารถเชิงสมรรถนะ (Soft Skill) รวมทั้งจัดหลักสูตรอบรมเทคนิคการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์งาน เพื่อเตรียมน้องให้พร้อมสู่โลกการทำงานหลังจากจบโครงการ นอกจากนี้ยังมีโอกาสเข้าร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ ของบริษัทอีกด้วย
ข่าวเชื้อปรสิตในน้ำประปาอาจทำให้หลายคนรู้สึกหวั่นใจอยู่ลึก ๆ ว่าน้ำประปาในบ้านที่เราใช้อยู่ทุกวัน มีความปลอดภัยจริงหรือเปล่า เรามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคตาอักเสบจากปรสิตมากแค่ไหน และอาการตาแดงของเราที่ผ่านมา จริง ๆ แล้วมันคือโรคตาอักเสบจากปรสิตหรือเปล่านะ? โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน ก็ยิ่งมีเชื้อโรคปนเปื้อนมาในน้ำได้ง่ายยิ่งขึ้น แล้วเราจะมีวิธีการดูแลดวงตาให้ปลอดภัยจากเชื้อโรคที่มากับน้ำได้อย่างไร?
ซึ่งผู้ที่จะตอบคำถามเหล่านี้ได้ดีที่สุดก็คือจักษุแพทย์ที่เชี่ยวชาญเกี่ยวโรคตานั่นเอง
![]()
พญ.จิรนันท์ ทรัพย์ทวีผลบุญ จักษุแพทย์ แพทย์ผู้ชำนาญการโรคต้อหิน โรงพยาบาลวิมุต ได้อธิบายถึงกรณีโรคตาอักเสบจากเชื้อปรสิตที่กำลังเป็นข่าวว่า “โรคนี้เรียกว่ากระจกตาติดเชื้อไมโครสปอริเดีย (Microsporidial Keratitis) เกิดจากการสัมผัสน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อปรสิตกึ่งราไฟลัมไมโครสปอรา เชื้อกลุ่มนี้พบบ่อยในแหล่งน้ำที่ไม่สะอาด โดยเฉพาะในหน้าฝน โดยผู้ป่วยมักจะได้รับเชื้อจากน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำฝน น้ำโคลน น้ำสำหรับอุปโภคบริโภคที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น ผู้ป่วยที่มีประวัติน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา หรือทีมนักกีฬารักบี้ที่แข่งขันแล้วไปล้มคลุกในแอ่งโคลนแล้วเกิดการติดเชื้อของสมาชิกในทีมพร้อม ๆ กัน เป็นต้น”
ไมโครสปอริเดียจัดเป็นเชื้อฉวยโอกาส มักแสดงอาการติดเชื้อในอวัยวะที่ภูมิคุ้มกันต่ำ เช่นดวงตา หรือผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง โดยความรุนแรงของโรคจะขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานและสภาวะของแต่ละบุคคล เพราะแม้จะได้รับเชื้อเหมือน ๆ กัน แต่ละคนก็ยังมีปัจจัยตั้งต้นแตกต่างกันไปทั้งในส่วนสุขภาพดวงตาและภูมิคุ้มกันร่างกาย ในผู้ที่ภูมิคุ้มกันปกติ มักจะติดเชื้อที่ดวงตา ทำให้เกิดการอักเสบของกระจกตาและชั้นผิวตาส่วนนอก โดยอาการมักไม่รุนแรงถึงขั้นทําให้ตาบอดหรือต้องเปลี่ยนถ่ายกระจกตา แต่ถ้าเป็นคนที่ใส่คอนแทคเลนส์และตาแห้งมีแผลกระจกตาหรือเปลือกตาอักเสบเรื้อรัง หรือเคยมีโรคเกี่ยวกับดวงตา เคยผ่าตัดตา ก็อาจจะทําให้การติดเชื้อมีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันไม่ปกติ เช่นคนที่มีโรคประจําตัวอย่างเบาหวานเรื้อรังที่คุมระดับน้ำตาลไม่ได้ ผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิเป็นเวลานาน หากสัมผัสเชื้อก็อาจจะทําให้การติดเชื้อลุกลามไประบบอื่น ๆ ของร่างกาย เช่นระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดอุจจาระร่วงเรื้อรัง ถุงน้ำดีหรือท่อน้ำดีอักเสบ จนถึงการติดเชื้อแพร่กระจายหลายระบบในร่างกายได้
กระจกตาอักเสบไมโครสปอริเดีย ไม่ใช่โรคตาแดงจากไวรัส รักษาผิดอาจทำเชื้อลุกลาม
การแยกแยะโรคตาแดงด้วยตนเองนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่ได้รับการตรวจโดยจักษุแพทย์ สำหรับการติดเชื้อปรสิตที่กำลังกล่าวถึงนี้ มักจะเกิดการติดเชื้อหนึ่งข้างได้บ่อยกว่าสองข้างพร้อม ๆ กัน โดยตาที่ติดเชื้อมักจะมีอาการระคายเคือง ตาแดง ตามัว น้ำตาไหล มีขี้ตาออกมากกว่าปกติ ซึ่งอาการอาจจะทับซ้อนกับโรคตาแดงจากเชื้อไวรัสหรือภาวะภูมิแพ้ ทำให้เกิดการเข้าใจผิดได้ง่าย วิธีสังเกตเบื้องต้นคือโรคตาแดงจากเชื้อไวรัสทั่วไปอาจจะเกิดอาการไล่เลี่ยกับการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ มักมีประวัติสัมผัสโรค และพบการติดเชื้อสองตาพร้อมกันได้บ่อยกว่า เนื่องจากไวรัสมีความสามารถในการแพร่กระจายสูงกว่าเชื้อปรสิต โดยมากโรคตาแดงจากไวรัสมักอาการไม่รุนแรง อาจเกิดการอักเสบที่เยื่อเหนือตาขาวเป็นหลักโดยกระจกตาอาจไม่เกิดแผล ส่วนใหญ่จึงหายได้เองแม้ไม่ได้รับการรักษาจำเพาะ แต่เชื้อปรสิตตัวนี้มักจะเกิดการอักเสบที่กระจกตาโดยตรง ทำให้เกิดตาแดงชนิดที่รอบตาดำมีลักษณะแดงกว่าจุดอื่น (Ciliary Injection) ซึ่งบ่งชี้ถึงการอักเสบในลูกตาหรือกระจกตา ทว่าไม่จำเพาะเจาะจง การอักเสบในดวงตา หรือเชื้ออื่น ๆ ที่ทําให้เกิดการติดเชื้อบนตาดํา ล้วนแต่ทำให้มีอาการคล้ายกันได้ ทำให้คนทั่วไปไม่สามารถแยกแยะโรคนี้ได้ด้วยตนเอง แต่หากได้รับการตรวจวินิจฉัยหน้ากล้องขยาย จะเห็นรอยโรคบนกระจกตาที่มีลักษณะจำเพาะของเชื้อชนิดนี้ ทำให้สามารถวินิจฉัยได้แม้ไม่ส่งตรวจเพิ่มเติม
อีกหนึ่งความเข้าใจผิดคือเชื้อปรสิตไมโครสปอริเดีย ไม่ใช่ “ไรขนตา” เพราะไรขนตา (Demodex) เป็นปรสิตอีกชนิดหนึ่งซึ่งเป็นเชื้อประจำถิ่น สามารถพบได้บนใบหน้าและรอบดวงตาอยู่แล้ว โดยปกติมักไม่ก่อโรคและไม่จำเป็นต้องรักษา แต่หากไรขนตามีจำนวนมากจนร่างกายขาดสมดุลก็จะก่อให้เกิดอาการเปลือกตาและผิวหน้าอักเสบแดงได้ สร้างความเดือดร้อนรําคาญและรบกวนการใช้ชีวิตประจําวัน นอกจากนี้แล้วยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อชนิดอื่นเพิ่มเติม เนื่องจากกลไกป้องกันการติดเชื้อบกพร่อง ซึ่งจะแตกต่างจากการติดเชื้อที่ผิวกระจกตาโดยตรงดังที่กล่าวมาข้างต้น
การรักษากระจกตาอักเสบจากเชื้อไมโครสปอริเดีย แพทย์ต้องใช้ยาควบคู่หลายตัว ทั้งแบบรับประทานและแบบหยอด สิ่งสำคัญคือคนไข้ไม่ควรซื้อยากินหรือยาหยอดเอง โรคตาแดงทั่วไปที่เกิดจากเชื้อไวรัสหากการอักเสบเป็นมากสามารถให้สเตียรอยด์เพื่อลดอาการตาแดงได้ แต่ถ้าเป็นการติดเชื้อปรสิตตัวนี้ หากผู้ป่วยได้รับยาสเตียรอยด์ ตัวโรคจะแย่ลงเนื่องจากยาเสตียรอยด์จะกดการตอบสนองจากภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้เชื้อเพิ่มปริมาณทวีคูณในดวงตามากขึ้น อาจเกิดการติดเชื้อเป็นวงกว้างและต้องใช้เวลารักษานานขึ้น และผลการรักษาอาจจะแย่ลง
ห้ามใช้น้ำประปาล้างตา เสี่ยงทั้งปรสิตและสิ่งปนเปื้อน
“การใช้น้ำประปาล้างตามีอันตรายแน่นอน เพราะน้ำประปาไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้กับดวงตาได้ เมื่อล้างหน้าควรหลับตาให้สนิทเพื่อไม่ให้น้ำเข้าตา แม้น้ำประปาที่ได้มาตรฐานจะผ่านการฆ่าเชื้อก่อโรคด้วยคลอรีน แต่คลอรีนเองก็ก่อให้เกิดการอักเสบระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อดวงตา ซ้ำร้ายหากน้ำประปานั้นไม่ได้มาตรฐานเช่นมีค่าคลอรีนต่ำกว่าเกณฑ์ ก็อาจจะมีเชื้อก่อโรคเช่นไมโครสปอริเดีย หรือเชื้อชนิดอื่น ๆ เช่นแบคทีเรียก่อโรคปะปนได้ และอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่กระจกตาดังกล่าว
การใช้น้ำประปาล้างตาอาจทำได้ในกรณีฉุกเฉินเร่งด่วนเท่านั้น เช่น เมื่อมีสารเคมีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรงเข้าตา ซึ่งต้องปฐมพยาบาลโดยการรีบล้างออกด้วยน้ำที่สะอาดที่สุดเท่าที่มีในปริมาณมากโดยทันที สำหรับในชีวิตประจำวัน คนทั่วไปไม่จำเป็นต้องล้างตา เว้นแต่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา อาจพิจารณาล้างตาได้โดยเลือกใช้น้ำเกลือสะอาดปราศจากเชื้อหรือน้ำตาเทียม เพราะทั้งสองอย่างนี้ปลอดเชื้อและปลอดภัยที่สุด สามารถซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ขั้นตอนการล้างตาต้องระวังไม่ให้น้ำสัมผัสหรือไหลผ่านเปลือกตา ขนตา หรือผิวหนังรอบดวงตา เพราะอาจได้รับสิ่งสกปรก สารเคมี หรือเชื้อโรคจากบริเวณดังกล่าว ปนเปื้อนกับน้ำเข้าสู่ดวงตา ซึ่งอาจเกิดผลเสียเพิ่มเติม โดยมากจึงไม่แนะนำให้ล้างตาหากไม่จำเป็น การหยอดน้ำตาเทียมเพียงอย่างเดียวก็อาจเพียงพอหากมีอาการระคายเคืองเล็กน้อย ” พญ.จิรนันท์ ทรัพย์ทวีผลบุญ กล่าวเสริม
ภาวะตาแดงแยกด้วยตนเองได้ยาก มีทั้งตาแดงจากการติดเชื้อ และตาแดงจากการอักเสบโดยไม่ติดเชื้อ ปัญหาหนึ่งที่พบบ่อยคือการจำหน่ายยาอันตรายที่ต้องใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์ตามร้านขายยาทั่วไป เช่นยากลุ่มเสตียรอยด์ ซึ่งหากใช้ผิดวิธี ผิดโรค อาจทำให้เกิดการติดเชื้อลุกลาม หรือเกิดต้อหิน ต้อกระจกในระยะยาว ประกอบกับการวินิจฉัยโรคตาเป็นเรื่องมีความละเอียดอ่อนและซับซ้อนมาก ดังนั้น หากมีอาการผิดปกติโดยไม่ทุเลาหายในเวลาอันสั้น ควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำและนำไปสู่การรักษาที่ตรงกับโรคมากที่สุด
หลังหุ้นกู้ WEH ครั้งที่ 1/2567 เสนอขายวันแรก ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่เป็นจำนวนมาก จากความเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำธุรกิจพลังงานลมที่มีกำลังการผลิตติดตั้งมากที่สุดในประเทศไทย โดยหุ้นกู้ครั้งนี้มีอายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.75% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ มูลค่าเสนอขายไม่เกิน 400 ล้านบาท และ มีหุ้นกู้สำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติมมูลค่ารวมไม่เกิน 100 ล้านบาท มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 500 ล้านบาท เพื่อนำเงินที่ได้ไปลงทุนเตรียมขยายกิจการ และลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยมีเป้าหมายขยายกำลังการผลิตจาก 717 เมกะวัตต์ เป็น 1,500 เมกะวัตต์ ภายใน 5ปี สามารถจองซื้อได้ถึงวันที่ 15 ก.ค. 67 ผ่านบล. BYD, DAOL, GBS, MST, PST, PI, TRINITY และ UOBKH
WeTV ที่สุดความบันเทิงคุณภาพแห่งเอเชีย ครบรอบ 5 ปี ผู้นำอันดับ 1 ตลาดคอนเทนต์เอเชีย ที่มียอดผู้ใช้งานต่อเดือน หรือ MAU (Monthly active user) ในไทยรวมกว่า 13.5 ล้านบัญชี และคลังคอนเทนต์รวมกว่า 2,000 คอนเทนต์ ครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานแบบรับชมโฆษณา (Advertising Video On Demand - AVOD) พร้อมต้อนรับปีที่ 5 ด้วยการเตรียมส่งมอบ 5 ซีรีส์จีนฟอร์มยักษ์ และ 5 ซีรีส์ไทยคุณภาพจาก WeTV ORIGINAL เป็นของขวัญสุดพิเศษให้กับแฟนๆ พร้อมจัดงานฉลองอย่างยิ่งใหญ่ WeTV 'HI-FIVE' BIRTHDAY PARTY แฟนอีเวนต์ที่รวบรวมศิลปินจากไทยและจีนมาร่วมมอบความสุข ความสนุก และประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟให้กับแฟนๆ แบบใกล้ชิด อัดแน่นด้วยพื้นที่แฟนโซนที่เปิดให้แฟนๆ WeTV เข้ามาร่วมกิจกรรมเต็มอิ่มตลอดทั้งสองวัน (6 - 7 กรกฎาคม) ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์

นางสาวกนกพร ปรัชญาเศรษฐ ผู้จัดการ WeTV ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “WeTV เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในไทยตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2562 เน้นนำเสนอคอนเทนต์เอเชียที่หลากหลาย คุณภาพระดับโลก ครอบคลุมทั้งซีรีส์ อนิเมะ รายการวาไรตี้ จากจีน ไทย เกาหลี และญี่ปุ่น ซึ่งคอนเทนต์จีนถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่ทำให้ WeTV แจ้งเกิด และสามารถเข้าไปนั่งในใจผู้ใช้งานชาวไทยได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เรียกได้ว่า WeTV คือ ผู้จุดกระแสซีรีส์จีนและศิลปินจีนให้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในไทย อีกทั้งยังได้สร้างปรากฎการณ์และมอบประสบการณ์ความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ ครบรสให้กับผู้ใช้งานมาตลอด 5 ปี ส่งผลให้ปัจจุบัน WeTV ครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานแบบรับชมโฆษณา (Advertising Video On Demand - AVOD) โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา WeTV มุ่งพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านคอนเทนต์ แพลตฟอร์ม และประสบการณ์ความบันเทิงต่างๆ เพื่อส่งมอบ ‘ที่สุดความบันเทิง’ ให้กับผู้ใช้งานชาวไทยแบบเต็มอิ่ม”

ย่างก้าวของ WeTV ประเทศไทย ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
การเติบโตที่เกิดขึ้นตลอด 5 ปีที่ผ่านมาเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากยอดผู้ใช้งานต่อเดือน หรือ MAU (monthly active user) ในไทยรวมกว่า 13.5 ล้านบัญชี สะท้อนความสำเร็จและความแข็งแกร่งของ WeTV ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นผลมาจาก 3 กลยุทธ์หลักคือ 1.กลยุทธ์ด้านคอนเทนต์ที่หลากหลาย ปัจจุบัน WeTV มีคลังคอนเทนต์รวมกว่า 2,000 คอนเทนต์ ครอบคลุมทุกความต้องการด้านความบันเทิงของผู้ใช้งานกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ประเภทซีรีส์จีนย้อนยุค ซีรีส์จีนโมเดิร์น อนิเมะจีน วาไรตี้ และ WeTV ORIGINAL กลุ่มซีรีส์วาย รวมถึงคอนเทนต์วาไรตี้ชื่อดังอย่าง CHUANG ทั้ง 3 ซีซั่น และล่าสุดกับ CHUANG ASIA THAILAND รายการไอดอลเซอร์ไววัลที่เป็นออริจินัลคอนเทนต์เรือธงของ WeTV ที่เพิ่มความแข็งแกร่งในด้านคอนเทนต์อย่างชัดเจน 2. กลยุทธด้านการสร้างประสบการณ์ WeTV เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม OTT ที่มีแนวทางการสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ใช้งานเพื่อเชื่อมบริการจากโลกออนไลน์สู่โลกออฟไลน์แบบครบวงจรและสร้างคอมมูนิตี้ให้แข็งแกร่ง โดยการจัดกิจกรรมแฟนอีเวนต์เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่สร้างและผลักดันการเติบโตตลอด 5 ปีที่ผ่านมา 3. กลยุทธ์ด้านความร่วมมือกับพันธมิตร WeTV ได้ร่วมมือกับพันธมิตรในหลากหลายแวดวงอุตสาหกรรม ทำให้ WeTV เป็นแบรนด์ที่เข้าไปอยู่ในทุกไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรกลุ่ม Telco ในการมอบแพคเกจพิเศษต่างๆ ให้กับผู้ใช้งาน การร่วมมือกับแบรนด์สมาร์ททีวีชั้นนำเพื่อขยายการเข้าถึงผู้ใช้งานตามแนวโน้มพฤติกรรมการเปิดรับชมคอนเทนต์ การจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ

ต้อนรับปีที่ 5 ด้วย 5 ซีรีส์จีนฟอร์มยักษ์และ 5 ซีรีส์ไทยคุณภาพจาก WeTV ORIGINAL
สำหรับในปีนี้ WeTV เตรียมส่งมอบซีรีส์จีนฟอร์มยักษ์ 5 เรื่อง 5 สไตล์เป็นของขวัญสุดพิเศษให้แก่แฟนๆ WeTV ได้แก่ #1 มังกรหยก 2024 (The Legend of Heroes) การกลับมาอีกครั้งของซีรีส์จีนกำลังภายในที่หนึ่งในใจของชาวยุทธภพ พร้อมด้วยนักแสดงคุณภาพคับคั่ง มีให้เลือกรับชมทั้งแบบซับไทยและพากย์ไทย #2 ห้วงคำนึงดวงใจนิรันดร์ ภาค 2 (Lost You Forever 2) ซีรีส์จีนแนวย้อนยุคผลงานของนางเอกชื่อดัง ‘หยางจื่อ’ ที่ WeTV เสิร์ฟความสุขให้แฟนๆ ได้รับชมทั้ง 2 ภาคแบบต่อเนื่อง #3 เธอผู้เปล่งประกายกว่าแสงดาว (As beautiful as you) ซีรีส์ของพระเอกหนุ่ม ‘สวีข่าย’ GLOBAL BRAND AMBASSDOR ของ WeTV ที่แท็กทีมนางเอกมากฝีมือ ‘ถานซงอวิ๋น’ ส่งต่อเรื่องราวชีวิตที่ต้องพิสูจน์ความสำเร็จพร้อมฮีลใจด้วยความรักสุดโรแมนติก #4 ตำนานแม่ทัพหญิง (Legend of the female general) ดัดแปลงจากบทประพันธ์ชื่อดัง ‘เหนือสมรภูมิ’ ที่ได้ดารายอดนิยม ‘โจวเย่’ และ ‘เฉิงเหล่ย’ มาถ่ายทอดเรื่องราวของเหอเยี่ยนหญิงสาวที่อดีตเป็นแม่ทัพเฟยหงที่ได้รับความอยุติธรรม เธอจึงกลับมาแก้แค้นและทวงความเป็นธรรมให้กับตัวเอง และ #5 Hidden Charm ดัดแปลงมาจากนิยาย “ซ่อนรักชายาลับ” เรื่องราวของหญิงสาวที่สูญเสียความทรงจำแต่ต้องมาอยู่ร่วมชายคากับสามีหนุ่มจำเป็น อุปสรรคและความใกล้ชิดนำพาให้เกิดความรัก นำแสดงโดย จางหว่านอี้ และ หวังฉู่หรัน ในส่วนคอนเทนต์ไทย WeTV ORIGINAL ซีรีส์วาย 5 เรื่องสุดฟิน WeTV เตรียมเสิร์ฟความฟินตลอดปีให้กับแฟนๆ ได้แก่ ‘Knock Knock Boys! บ้านหนุ่มโสดโหมดพร้อมเลิฟ’ ‘I saw you in my dream เธอ ฉัน ฝัน เรา’ ‘Monster Next door พี่เขาบุกโลกของผม’ ‘Caged Again’ และปิดท้ายปีด้วยซีรีส์วายสายแข็งแกร่งอย่าง ‘Knock Out’ ที่จัดเต็มทั้งด้านโปรดักชันและพล็อตเรื่องที่น่าติดตาม พร้อมเสิร์ฟให้แฟนๆ ได้รับชมตลอดทั้งปี 2024
ในโอกาสครบรอบ 5 ปีของ WeTV เรายังได้จัดงานฉลองสุดเอ็กซ์คลูซีฟ WeTV ‘HI-FIVE’ BIRTHDAY PARTY เป็นของขวัญมอบให้กับแฟนๆ ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ในวันที่ 6 – 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยได้รับการสนับสนุนจากพาร์ทเนอร์มากมาย อาทิ
พีจอย โคทาคอสเมติก และศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ ภายในงานตลอดทั้งสองวันมีกิจกรรมให้แฟนๆ ได้ร่วมสนุกหลากหลายทั้งกิจกรรม Fan Event ที่เราได้พาศิลปินไทยและจีนมาพบปะกับแฟนคลับแบบเอ็กคลูซีฟพร้อมร่วมให้สัมภาษณ์พูดคุยและทำกิจกรรมกับแฟนคลับบนเวทีทั้งสองวันโดยวันแรกพบกับ ศิลปินสังกัด HEADLINER THAILAND 15 คน และ พระเอกหนุ่ม ‘ไต้เกาเจิ้ง’ (Dai Gaozheng) วันที่สอง นางเอกสาว ‘ซิงเฟย’ (Xing Fei) และศิลปินไอดอล ‘ออสการ์ หวัง’ (Ozcar Wang) กิจกรรม Fan Zone พื้นที่กิจกรรมที่เปิดให้แฟนๆ WeTV เข้ามาถ่ายรูปและร่วมกิจกรรมในพื้นตลอดทั้งสองวัน
“ก้าวต่อไปของ WeTV เรายังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาและนำเสนอคอนเทนต์คุณภาพระดับโลกให้แก่ผู้ใช้งาน ควบคู่ไปกับการผลิต WeTV ORIGINAL ที่มีคุณภาพ สอดรับกระแสความนิยมและความชื่นชอบคอนเทนต์ความบันเทิงที่หลากหลาย ตอบความต้องการของผู้ใช้งานทุกกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ เรายังคงเดินหน้าสานต่อพันธกิจในการผลักดันคอนเทนต์ไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์สู่เวทีโลก สร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญที่ส่งให้ WeTV สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่ง ตลาด OTT คอนเทนต์เอเชีย ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงที่สุดความบันเทิงคุณภาพแห่งเอเชียตัวจริง” นางสาวกนกพร กล่าวทิ้งท้าย
ไทยพาณิชย์จับจังหวะเทรนด์การซื้อขายตราสารหนี้ภาคเอกชนในตลาดรองฉายแววเด่น เพราะมีสภาพคล่องสูง เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นตามเป้าหมายของผู้ลงทุน เปิดตัวบริการใหม่ “ซื้อ-ขายหุ้นกู้ตลาดรองผ่านบัญชีหุ้นกู้ EASY-D” คัดสรรหุ้นกู้คุณภาพดี (Investment Grade) ให้ผู้ลงทุนรายย่อยช้อปหุ้นกู้มากมาย บน SCB EASY เพียงมีบัญชีหุ้นกู้ EASY-D สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การลงทุนยุคดิจิทัลที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย สอดคล้องกลยุทธ์ “Digital Bank with Human Touch” ดิจิทัลแบงก์อันดับหนึ่งด้านการบริหารความมั่งคั่ง พร้อมมอบประสบการณ์การให้บริการที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อในทุกช่องทางให้กับลูกค้า
นายแพททริก ปูเลีย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ปัจจุบัน นักลงทุนรายย่อยเริ่มให้ความสำคัญกับการลงทุนในหุ้นกู้ เนื่องจากเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ และยังได้รับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก และพันธบัตรรัฐบาล โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา ผู้ลงทุนรายย่อยเป็นผู้ถือหุ้นกู้เอกชนในสัดส่วนสูงที่สุดที่ประมาณ 39% ของตลาด ด้วยมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 626,000 ล้านบาท
ปีที่ผ่านมา ธนาคารได้เปิดบริการบัญชีหุ้นกู้ EASY-D โดยผู้ลงทุนสามารถรวมหุ้นกู้ทั้งในรูปแบบใบหุ้นกู้และไร้ใบ และรับโอนหุ้นกู้จากที่อื่นมาฝากในบัญชีหุ้นกู้ EASY-D ไว้ในที่เดียว โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักลงทุนรายย่อยในการลงทุนผ่าน SCB EASY เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกทางด้านซื้อ-ขาย หุ้นกู้ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ธนาคารจึงได้เปิดตัวบริการใหม่ “ซื้อ-ขายหุ้นกู้ตลาดรองผ่านบัญชีหุ้นกู้ EASY-D” เพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนรายย่อยเปลี่ยนเงินออมมาเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น โดยคัดสรรหุ้นกู้คุณภาพดี (Investment grade) ให้แก่ลูกค้า และเพิ่มสภาพคล่องในการลงทุนให้แก่ลูกค้าที่เป็นผู้ถือหุ้นกู้ อีกทั้งตอบรับผู้ลงทุนรายย่อยที่ให้ความสนใจซื้อขายหุ้นกู้เอกชนในตลาดรองมากขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะซื้อขายเปลี่ยนมือได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้ลงทุนที่มีความต้องการหุ้นกู้ แต่ในเวลานั้นยังไม่มีเสนอขายในตลาดแรก สามารถเข้าถึงหุ้นกู้ได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งธนาคารคาดหวังว่าบริการ “ซื้อ-ขายหุ้นกู้ตลาดรองผ่านบัญชีหุ้นกู้ EASY-D” จะมีส่วนในการขยายจำนวนลูกค้าผู้ลงทุนรายย่อยใน SCB EASY ให้เติบโตต่อเนื่อง และสนับสนุนรายได้ดิจิทัลรวมของธนาคารตามเป้าหมายที่วางไว้ 25% ในปี 2568
ลูกค้าที่ต้องการซื้อขายหุ้นกู้ตลาดรองที่มีบัญชีหุ้นกู้ EASY-D สามารถทำรายการได้ทันทีผ่านทาง SCB EASY และสำหรับลูกค้าที่ยังไม่มีบัญชีหุ้นกู้ EASY-D สามารถลงทะเบียนเปิดบัญชีหุ้นกู้ EASY-D ทาง SCB EASY จากนั้นทำรายการซื้อขายได้ทันทีเช่นเดียวกัน โดยซื้อ-ขายได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากที่ลูกค้าทำรายการซื้อหรือขายด้วยตัวเองบน SCB EASY ระบบจะตัดเงินจากบัญชีที่ลูกค้าเลือกเพื่อชำระค่าซื้อ หรือโอนเงินค่าขายเข้าบัญชีลูกค้า โดยลูกค้าจะได้รับอัพเดตหุ้นกู้ และได้รับแจ้งเตือนทางอีเมล ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักลงทุนในยุคดิจิทัล และสอดคล้องกลยุทธ์ “Digital Bank with Human Touch” ดิจิทัลแบงก์อันดับหนึ่งด้านการบริหารความมั่งคั่ง พร้อมมอบประสบการณ์การให้บริการที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อในทุกช่องทางให้กับลูกค้า
AWS มอบทุน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสนับสนุนการวิจัยเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเด็ก โดยมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างสุขภาพและพัฒนาการที่ดีของเด็ก และการวิจัยเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคหายากให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถวินิจฉัยและรักษาโรคเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นิโคล จีรูว์ เข้าใจดีถึงความทุกข์ทรมานจากการรอคอยการวินิจฉัยที่แม่นยำ และการรักษาที่มีประสิทธิภาพที่มาพร้อมกับการวินิจฉัยนั้น เมื่อประมาณ 15 ปีก่อน ลูกสาวของเธอชื่อไลลาแสดงอาการของมะเร็งสมองชนิดที่ผ่าตัดไม่ได้ ในขณะนั้นไลลามีอายุเพียง 15 เดือนเท่านั้น เนื่องจากข้อมูลทางการแพทย์มีไม่เพียงพอ ครอบครัวจีรูว์จึงต้องเผชิญกับความเจ็บปวดเป็นเวลานานถึง 5 ปี ก่อนที่จะสามารถเข้าใจโครงสร้างระดับโมเลกุลของก้อนเนื้องอกในสมองของลูกสาวได้อย่างชัดเจน
“หลังจากเริ่มการรักษาไม่นาน สามีและฉันตระหนักว่ามีทางเลือกในการรักษามะเร็งสมองในเด็กน้อยมาก นอกจากนี้ยังมีการขาดแคลนงบประมาณสำหรับการวิจัยโรคนี้อีกด้วย” นิโคล กล่าว
เพื่อเป็นเกียรติแด่ลูกสาวของเธอ นิโคลได้ก่อตั้งมูลนิธิ Lilabean Foundation for Pediatric Brain Cancer Research เพื่อการวิจัยมะเร็งสมองในเด็กขึ้น มูลนิธิมีพันธกิจหลักในการสนับสนุนทุนวิจัยที่สำคัญเกี่ยวกับมะเร็งสมองในเด็ก และช่วยสร้างความตระหนักรู้ถึงความรุนแรงของโรคร้ายนี้ในหมู่สาธารณชน
ในงาน AWS Summit ที่จัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่ผ่านมา AWS ได้ประกาศว่าจะมอบเงินทุนสนับสนุนจำนวน 10 ล้านเหรียญสหรัฐให้แก่องค์กรไม่แสวงหากำไร เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากคลาวด์ของ AWS เพื่อสนับสนุนโครงการและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนในระดับสากล เงินทุนดังกล่าวจะช่วยให้สามารถเข้าถึงงานวิจัยที่สำคัญสำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่เปราะบาง ซึ่งมักประสบปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรและมีขนาดตัวอย่างจำกัด
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกันของกลุ่มสถาบันการแพทย์ โรงพยาบาล และสถาบันต่าง ๆ ที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการเร่งรัดการวิจัยและการค้นพบใหม่ ๆ ด้วยการจัดการข้อมูลบนคลาวด์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้นักวิจัยสามารถเข้าใจโครงสร้างพันธุกรรมของโรคได้ดีขึ้น นำไปสู่การวินิจฉัยที่รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น รวมถึงการรักษาเฉพาะบุคคลที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นสำหรับผู้ป่วย

อดัม เรสนิค ผู้อำนวยการศูนย์การค้นพบที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลเด็กฟิลาเดลเฟีย (Children’s Hospital of Philadelphia :CHOP) กล่าวว่า “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งกับโครงการที่ AWS ได้เปิดตัว เนื่องจากสอดคล้องกับสถานการณ์ของเราอย่างลงตัว แม้มะเร็งในเด็กจะเป็นโรคหายาก แต่ก็เปิดโอกาสให้เราได้ทดสอบเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้วยความจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาการค้นพบข้อมูลแบบเรียลไทม์และเครือข่ายความร่วมมือ”
AWS ได้สนับสนุนเงินทุนจำนวน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีการบริจาคเงิน 3 ล้านเหรียญสหรัฐให้แก่องค์กรต่าง ๆ 3 แห่ง ดังนี้ โรงพยาบาลเด็กแห่งชาติ (Children's National Hospital) ในวอชิงตัน ดี.ซี., โรงพยาบาลเด็กแนชั่นไวด์ (Nationwide Children's Hospital) ในโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ และเครือข่ายมะเร็งสมองเด็ก (Children's Brain Tumor Network) ซึ่งตั้งอยู่ที่ CHOP โดยแต่ละองค์กรจะได้รับเงินบริจาค 1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามพันธกิจขององค์กร มูลนิธิ Lilabean เป็นหนึ่งในองค์กรสมาชิกของเครือข่ายมะเร็งสมองเด็ก (Children’s Brain Tumor Network)
ด้วยโครงการ AWS IMAGINE Grant: Children’s Health Innovation Award ใหม่ที่มีงบประมาณสูงถึง 7 ล้านเหรียญสหรัฐ องค์กรต่าง ๆ จะได้รับการสนับสนุนเพื่อใช้ในโครงการที่เร่งการวิจัยด้านสุขภาพเด็ก ส่งเสริมสุขภาพแม่และเด็กอย่างครบวงจร และ/หรือสนุบสนุนบุคลากรทางการแพทย์และผู้ดูแลเด็ก
นอกเหนือจากมะเร็งในเด็ก เงินทุนนี้จะสนับสนุนการวิจัยโรคต่าง ๆ ในเด็ก ตั้งแต่โรคหัวใจไปจนถึงโรคพันธุกรรม โรคที่พบในเด็กมักไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร และมีการจัดสรรทรัพยากรสำหรับการวิจัยโรคเหล่านี้น้อยกว่าโรคอื่นๆ แม้ว่าไลลาจะต้องเผชิญกับผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการรักษาด้วยเคมีบำบัดมาเป็นเวลาหลายปี แต่ในวัย 16 ปีปัจจุบันเธอยังคงมีสุขภาพที่แข็งแรงดี อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ไม่ได้รับโอกาสที่ดีเช่นเดียวกับไลลา
มะเร็งในเด็กเช่นกรณีของไลลานั้นมีสัดส่วนน้อยกว่า 1% ของมะเร็งทั้งหมดที่ได้รับการวินิจฉัยในสหรัฐอเมริกาในแต่ละปี แม้อัตรารอดชีวิต 5 ปีของผู้ป่วยมะเร็งในเด็กในประเทศพัฒนาแล้วจะดีขึ้น แต่ยังมีถึงสองในสามของผู้รอดชีวิตจากมะเร็งในวัยเด็กที่ต้องประสบกับผลข้างเคียงระยะยาวจากการรักษา
ข้อมูลการศึกษาวิจัยทางการแพทย์สำหรับโรคและการรักษาในเด็กยังคงมีข้อจำกัดอยู่มาก งานวิจัยส่วนใหญ่เป็นการศึกษาขนาดเล็กที่ดำเนินการในศูนย์เดียว และขาดการสนับสนุนงบประมาณจากภาคเอกชนหรือภาครัฐ ส่งผลให้มีการศึกษาวิจัยการรักษาลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัทยามีแรงจูงใจทางการเงินน้อยในการพัฒนายาสำหรับกลุ่มผู้ป่วยขนาดเล็กเหล่านี้ เด็กป่วยด้วยโรคมะเร็งและโรคหายากมักได้รับการรักษาตามแผนการรักษาที่ดัดแปลงมาจากแนวทางการรักษาสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับความต้องการของพวกเขา นอกจากนี้ การกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมของมะเร็งในเด็กและผู้ใหญ่ยังแตกต่างกัน ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนให้กับนักวิจัย ความท้าทายที่แตกต่างกันเหล่านี้ในการวิจัยสำหรับเด็ก จำเป็นต้องมีโซลูชันขั้นสูงเพื่อแก้ไขปัญหา การจัดการข้อมูลในคลาวด์เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญสำหรับการทำวิจัยร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานแบบแยกส่วนและไม่มีการประสานงานกันนั้น ไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องและเหมาะสม
นิโคล กล่าวว่า “ในอดีต นักวิทยาศาสตร์มักทำงานแยกส่วนกันและไม่ได้แบ่งปันข้อมูลสำคัญ เช่น ตัวอย่างเนื้อเยื่อ ผลการวิเคราะห์ลำดับจีโนม และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ แต่ในปัจจุบัน เราจำเป็นต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด แบ่งปันข้อมูล และประสานความร่วมมือในสนามวิจัยเดียวกัน”
สภาพแวดล้อมทดสอบ (sandbox) เป็นพื้นที่ปลอดภัยบนคลาวด์ของ AWS ที่ออกแบบมาเพื่อให้นักวิจัยสามารถจัดการข้อมูลที่ไม่ระบุชื่อและถูกทำให้เป็นข้อมูลนิรนามได้อย่างปลอดภัย โดยยังคงรักษามาตรฐานการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยและผู้เข้าร่วมในการวิจัยทางการแพทย์ไว้อย่างเคร่งครัด ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย นักวิจัยจึงสามารถดำเนินการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล
นักวิจัยที่โรงพยาบาลเด็กแห่งชาติ Nationwide Children's Hospital คลาวด์เป็นเครื่องมือในการประมวลผลข้อมูลจีโนมิกส์ และแบ่งปันข้อมูลและผลการวินิจฉัยสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเด็กในการศึกษาขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบต่อผู้ป่วยมะเร็งเด็กทั่วสหรัฐอเมริกา หลังจากถูกใช้เพื่อช่วยให้ข้อมูลในการวินิจฉัยที่จะส่งกลับไปยังผู้ให้บริการด้านมะเร็งวิทยาสำหรับแต่ละผู้ป่วยแล้ว ข้อมูลที่ปราศจากการระบุตัวตนจะถูกแบ่งปันอย่างมีประสิทธิภาพผ่านคลาวด์ไปยังฐานข้อมูลมะเร็งเด็กของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ (NCI) ซึ่งนักวิจัยกลุ่มใหญ่สามารถเข้าถึงได้เกือบแบบเรียลไทม์
ดร.เอลเลน มาร์ดิส ผู้อำนวยการของสถาบัน Steve and Cindy Rasmussen Institute for Genomic Medicine จากสถาบัน Abigail Wexner Research Institute ที่โรงพยาบาล Nationwide Children's Hospital กล่าวว่า “สิ่งที่เราปรารถนาอย่างแท้จริงคือการทำให้มะเร็งที่พบได้น้อยกลายเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยขึ้น โดยการให้ข้อมูลที่ครอบคลุมแก่นักวิจัยที่ต้องการค้นคว้าเพื่อค้นพบสิ่งใหม่ ๆ”
ดร.เอลเลน ระบุว่า การแบ่งปันข้อมูลอย่างกว้างขวางในฐานข้อมูลบนคลาวด์ สามารถช่วยให้นักวิจัยสามารถวิเคราะห์ลักษณะทางจีโนมิกส์ของมะเร็งที่พบได้น้อยได้ง่ายขึ้น เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้มักถูกแยกเก็บไว้อย่างแยกส่วน ทำให้นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มอาจไม่มีข้อมูลเพียงพอในการศึกษาลักษณะเหล่านี้ การรวบรวมข้อมูลไว้ในฐานข้อมูลกลางบนคลาวด์จะดึงดูดความสนใจของนักวิจัยเหล่านั้นให้เข้ามาศึกษาได้มากขึ้น

ดร.เอลเลน กล่าวว่า “ในระยะเวลาอันสั้น ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้เกิดการค้นพบใหม่ ๆ คือความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลผ่านระบบคลาวด์อย่างรวดเร็วและสะดวก”
การวิจัยทางการแพทย์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ถือเป็นพรมแดนใหม่ที่น่าจับตามอง
การสร้างพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการพัฒนาการรักษาโรคหายากในเด็กให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น AWS มีศักยภาพในการขับเคลื่อนการวิเคราะห์ข้อมูลและแอปพลิเคชันนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพการดูแลรักษา เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และปรับแผนการรักษาให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล ที่โรงพยาบาลเด็กแห่งชาติ ทีมงานได้นำแอปพลิเคชันที่ใช้ AI มาช่วยในการคัดกรองทารกที่มีภาวะทางพันธุกรรมหายาก โดยแอปพลิเคชันนี้จะประเมินลักษณะใบหน้าของทารกผ่านกล้องสมาร์ทโฟน เพื่อระบุการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในลักษณะใบหน้าได้อย่างรวดเร็วหลังคลอด แอปพลิเคชันดังกล่าวได้รับการทดสอบกับผู้ป่วยในกว่า 30 ประเทศแล้ว และสามารถช่วยคัดกรองเด็กที่อาจไม่สามารถเข้าถึงนักพันธุศาสตร์ในบริเวณใกล้เคียงได้
นอกจากนี้ AI ยังถูกนำมาใช้ในการตรวจคัดกรองโรคหัวใจจากภาวะหัวใจรูมาติกด้วย โดยช่วยให้การตรวจคลื่นความถี่เสียงสูงแบบพกพามีราคาถูกลง ทำให้ผู้ป่วยที่มีทรัพยากรจำกัดสามารถเข้าถึงการตรวจได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในประเทศยูกันดา คาดว่าจะมีการคัดกรองเด็กประมาณ 200,000 คนในปีต่อ ๆ ไป
มาริอุส จอร์จ ลิงกูรารู ศาสตราจารย์ด้านครอบครัวคอนนอร์และประธานด้านการวิจัยและนวัตกรรมที่โรงพยาบาลเด็กแห่งชาติ กล่าวว่า “ประเด็นความเท่าเทียมด้านสุขภาพเป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ณ ปัจจุบัน เรามุ่งเน้นการทำงานในสหรัฐอเมริกามากกว่าต่างประเทศ เนื่องจากเมื่อต้องการการตีความภาพและการถ่ายภาพขั้นสูง ทรัพยากรเหล่านั้นมีอยู่มากในประเทศรายได้สูง อย่างไรก็ดี ผมมักแสวงหาวิธีการที่ง่าย ราคาไม่แพง และมีความยืดหยุ่นมากกว่า ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่อื่น ๆ ได้ด้วย”
การรักษามะเร็งแบบเฉพาะบุคคลเป็นอีกหนึ่งสาขาที่ปัจจุบันมีการนำเอา AI มาใช้เพื่อพัฒนาการดูแลสุขภาพสำหรับเด็ก ทีมงานของศาสตราจารย์ลิงกูรารูกำลังร่วมมือกับเพื่อนร่วมงานทั่วสหรัฐอเมริกา เพื่อปรับปรุงและทำให้แผนการรักษาสำหรับเด็กที่เป็นมะเร็งสมองมีความเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น ความก้าวหน้าทางด้านคลาวด์คอมพิวติงและการประยุกต์ใช้ AI เหล่านี้ เป็นสิ่งที่นิโคลหวังว่าจะช่วยพัฒนาแนวทางการรักษาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับครอบครัวที่มีสถานการณ์คล้ายคลึงกับครอบครัวของเธอในอนาคต
“ฉันเข้าใจดีว่าตอนที่ครอบครัวได้รับการวินิจฉัยโรคของลูก มันเป็นเรื่องยากลำบากมาก พวกเขาต้องเผชิญกับความกังวลและความไม่แน่นอนมากมาย ดังนั้นฉันอยากให้ลูก ๆ ของทุครอบครัวมีทางเลือกที่เหมาะสมในการรักษา อย่าปล่อยให้พวกเขาต้องยอมรับข้ออ้างที่ไม่ดีพอสำหรับลูกของตัวเองอีกต่อไป สถานการณ์กำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น มีความก้าวหน้าใหม่ ๆ เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ในวงการแพทย์ ฉันหวังว่าครอบครัวเหล่านี้จะได้รับทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับลูกของพวกเขา”
AWS มุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะสนับสนุนงานสำคัญเพื่อส่งเสริมสุขภาพเด็ก โครงการด้านการกุศลในครั้งนี้จะเสริมพลังให้แก่องค์กรไม่แสวงหากำไรทั่วโลก ในการนำประโยชน์จากคลาวด์ของ AWS มาใช้ขับเคลื่อนสาเหตุด้านสุขภาพเด็กและเยาวชน