December 16, 2025

TECNO ผู้นำด้านสมาร์ตโฟนสำหรับการเล่นเกม เตรียมเปิดตัว TECNO POVA 6 NEO สมาร์ตโฟนที่พร้อมพาคุณทะยานสู่ความเหนือระดับอย่างทรงพลังและการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น มาพร้อมกับสโลแกน “แบตอึด ยิ่งกว่าที่เคย” ด้วยขนาดแบตเตอรี่ 7000mAh ที่จะทำให้คุณหมดห่วงเรื่องแบตหมดระหว่างวัน ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง หรือใช้งานอย่างเต็มที่ พร้อมรองรับทุกความต้องการของคุณ ด้วยราคาเบาๆ ไม่เกิน 6,000 บาท!

สำหรับ TECNO POVA 6 NEO ไม่ได้มีดีแค่เรื่องแบตเตอรี่ทรงพลังเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับการชาร์จเร็ว 33W ที่ทำให้คุณพร้อมลุยในทุกสถานการณ์ได้ภายในเวลาไม่นาน อีกทั้งยังมาพร้อมกับจอแสดงผลที่ลื่นไหลระดับ 120Hz ขนาดใหญ่ถึง 6.78 นิ้ว FHD+ ที่จะทำให้คุณดื่มด่ำไปกับทุกภาพและทุกเฟรมของเกมหรือวิดีโอโปรดอย่างไร้ที่ติ

นอกจากนี้ ยังมีหน่วยความจำที่ใหญ่ถึง 256GB และ RAM ขนาด 16 (8+8) GB ที่ให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด และพร้อมรองรับทุกแอปพลิเคชันที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือความบันเทิง ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio G99 ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อการใช้งานที่หนักหน่วง โดยเฉพาะการเล่นเกม ด้านระบบเสียงรุ่นนี้ได้ Dolby Atmos แบบลำโพงคู่ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์เสียงที่คมชัดและสมจริง ในส่วนของกล้องถ่ายภาพ TECNO POVA 6 NEO มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 50MP AI Cam และกล้องหน้าความละเอียด 8MP ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพของคุณคมชัดทุกรายละเอียด

เรียกได้ว่า TECNO POVA 6 NEO เป็นสมาร์ตโฟนที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ต้องการประสบการณ์การเล่นเกมที่ยาวนานและคุ้มค่าที่สุดในกลุ่มสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น TECNO POVA 6 NEO จะทำให้คุณลืมเรื่องการชาร์จระหว่างวัน และพร้อมให้คุณเพลิดเพลินไปกับการเล่นเกมหรือการใช้งานได้ทั้งวันโดยไม่ต้องหยุดพัก

TECNO POVA 6 NEO ทางเลือกที่ดีที่สุดในราคาที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับสมาร์ตโฟนเกมมิ่งในราคาไม่เกิน 6,000 บาท เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เคยพร้อมกัน ในวันที่ 27 สิงหาคม นี้ พร้อมโปรโมชั่นอีกมากมาย ที่คุณไม่ควรพลาด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดตามข่าวสารอื่น ๆ ของ TECNO ได้ที่เฟซบุ๊ก Facebook: www.facebook.com/tecnomobilethailand หรือเว็บไซต์ www.tecno-mobile.com/th/

บนเวที Dot Property Thailand Awards 2024 สะท้อนความมุ่งมั่นส่งมอบ “อยู่ดี มีสุข” ให้คนไทย

กุญแจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตไปได้อย่างก้าวกระโดดที่สำคัญอย่างมากคือลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการสินค้า บาร์เทอร์คาร์ด ประเทศไทย (Bartercard Thailand) ผู้นำแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการแบบไร้เงินสดอันดับหนึ่งของประเทศไทย ที่มีพันธมิตรธุรกิจสมาชิกในประเทศไทยถึง 35,000 ธุรกิจใน 6 ประเทศและกว่า 3,000 ธุรกิจในไทย ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ทำให้บาร์เทอร์คาร์ดเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญที่ช่วยเป็นตัวกลางให้ธุรกิจของคุณรู้จักเป็นวงกว้าง นำมาซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้น และช่วยขยายกลุ่มลูกค้าให้กับธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ด้วยสิทธิประโยชน์ 3 ข้อหลัก 1.) ลดค่าใช้จ่ายเงินสด 2.) เพิ่มลูกค้าใหม่ 3.) ขยายเครือข่ายธุรกิจ

นายพลสิทธิ์ จิระกิจกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท Looker Media กล่าวว่า "การหาลูกค้า การหาธุรกิจมาโฆษณากับป้ายโฆษณาของเรา เป็นปัจจัยหนึ่งที่ต้องเรียกว่าไม่ใช่ง่ายในยุคปัจจุบัน แต่สิ่งหนึ่งที่มีโอกาสได้เจอกับบาร์เทอร์คาร์ดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทำให้เราเซอร์ไพรส์มาก ว่าบาร์เทอร์คาร์ดมี 35,000 ธุรกิจคู่ค้าที่อยู่ทั่วโลก และในประเทศไทยมีถึง 3,000 ธุรกิจ ผมเพียงแต่บอกว่า ธุรกิจผมมีอะไร บาร์เทอร์คาร์ดก็สามารถส่งข้อมูลต่างๆ ไปให้กับคู่ค้าทั้งหมดได้ และแน่นอน สิ่งที่กลับมาก็คือ มีแบรนด์ใหม่ๆ มาลงโฆษณากับเรา นั่นคือโอกาสสำคัญของ Looker Media ใน 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเคล็ดลับความสำเร็จของ Looker Media คือ ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เรากับบาร์เทอร์คาร์ดได้ทำงานร่วมกันหลากหลายแบรนด์ หลากหลายสินค้า เราสนุกสนานกันมาก นั่นคือโอกาสที่สำคัญ ที่ Looker Media มีโอกาสนั้น และหวังว่าคุณจะเป็นคนนั้นเช่นกัน ถ้าคุณต้องการไปให้ไกล เราไปด้วยกันครับ”

บาร์เทอร์คาร์ด ประเทศไทย (Bartercard Thailand) เป็นคอมมูนิตี้ที่ให้เจ้าของธุรกิจได้เชื่อมต่อ ทำความรู้จักกับนักธุรกิจกว่าอีก 3,000 นักธุรกิจ ซึ่งทางบาร์เทอร์คาร์ดได้มีการจัดกิจกรรมเน็ตเวิร์กกิ้งทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ เป็นส่วนช่วยให้สามารถสร้างพันธมิตรทางการค้าและช่วยให้คุณสร้างลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น โดยเปิดโอกาสให้ธุรกิจของคุณได้พบกับคู่ค้าจำนวนมาก นอกจากนี้ บาร์เทอร์คาร์ดยังนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัยผ่าน "บาร์เทอร์คาร์ด โมบาย แอป" ช่วยให้การแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการทำได้สะดวก ทุกที่ ทุกเวลา ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่เข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบาร์เทอร์คาร์ด สามารถสร้างยอดขายเพิ่มมากขึ้นกว่า 10-15% และลดค่าใช้จ่ายด้วยเงินสดกว่า 50% ของค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน โดยทุกธุรกิจที่เข้าร่วมกับบาร์เทอร์คาร์ด จะได้รับการดูแลจากทีมงานระดับมืออาชีพ ที่คอยให้คำแนะนำช่วยเหลือการหาพันธมิตรทางธุรกิจ และช่องทางการขายสินค้าและบริการ ด้วยจุดแข็งเหล่านี้ บาร์เทอร์คาร์ดจึงไม่เพียงแต่เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน แต่ยังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในยุคที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การใช้ประโยชน์จากระบบนี้อย่างชาญฉลาดจะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในโลกธุรกิจยุคใหม่

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจอยากให้บาร์เทอร์คาร์ด เป็นตัวกลางในการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างไม่มีสะดุด สามารถสมัครสมาชิกกับ Bartercard หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-024-1000 และ Facebook: Bartercard Thailand หรือ เว็บไซต์ https://www.bartercard.co.th 

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ร่วมกับ รายการ The First Ultimate จัดกิจกรรม “ศิลปะมีชีวิต” เอาใจลูกค้า ที่ชื่นชอบศิลปะและธรรมชาติ นำโดย คุณภาสิกา นาเมืองรักษ์  Head of Digital Media and Content (คนที่ 4 จากซ้าย) กล่าวต้อนรับลูกค้าและเปิดงาน ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่ต่อยอดจากแคมเปญ LifeReady เอนจอยชีวิตได้ไม่มีห่วง ที่คุ้มครองชีวิตไปจนถึงอายุ 99 ปี เลือกระยะเวลาชำระเบี้ยได้ถึง 4 ระยะ และที่สำคัญเบี้ยประกันไม่แพง เหมาะกับคนทุกวัย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และช่วยวางแผนการเงิน กิจกรรมสุดพิเศษนี้ ได้มอบประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าและพนักงานคนสำคัญ ในการทำเวิร์คชอป บอนไซ โดยใช้ต้นหลินซาน หรือ ม่วงเจริญ ซึ่งมีความหมายถึงความเจริญรุ่งเรือง เสน่ห์ของม่วงเจริญคือ มีดอกสีม่วงเล็ก ๆ ที่สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี นอกจากจะสวยงามแล้วยังช่วยฝึกสมาธิอีกด้วย ซึ่งกิจกรรมดีๆ แบบนี้ บริษัทฯ จัดขึ้นเพื่อตอบแทนความไว้วางใจของลูกค้าของ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต และรายการ The First Ultimate 

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ลงนามในสัญญาจ้างงานจ้างก่อสร้างโครงการทางพิเศษฉลองรัชส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา) โดยมี นายสุเมธ สุรบถโสภณ​ รองประธานบริหารอาวุโสบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามในสัญญา ณ ห้องประชุม 2801 ชั้น 28 อาคารศูนย์บริหารทางพิเศษ กทพ.

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า สืบเนื่องจากการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 ได้มีมติอนุมัติให้ กทพ. ดำเนินโครงการทางพิเศษฉลองรัชส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา) ระยะทาง 16.21 กิโลเมตร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการให้บริการด้านการจราจรและขนส่ง ให้สอดคล้องกับการพัฒนาและการเจริญเติบโตของพื้นที่ตัวเมือง ที่มีแนวโน้มพัฒนาไปทางทิศตะวันออกของกรุงเทพมหานคร  อย่างรวดเร็ว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถ ในการแข่งขันของไทย ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และสามารถรองรับการขนส่งและการเดินทางต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ รวมทั้งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580 ด้าน การสร้างความสามารถในการแข่งขัน สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 พ.ศ. 2566-2570 โดยรายละเอียดโครงการฯ เป็นงานก่อสร้างทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร (ไป-กลับ) ตั้งแต่ทางพิเศษฉลองรัช บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษจตุโชติ มี ระยะทางประมาณ 16.21 กิโลเมตร รวมทางขึ้น-ลง

นายสุเมธ สุรบถโสภณ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท อิตาเลียนไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการทางพิเศษฉลองรัชส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา) เป็นหนึ่งในโครงการที่มีความสำคัญมาก ในการพัฒนาระบบการคมนาคมขนส่ง โครงการนี้ เป็นทางพิเศษ ยกระดับ ขนาด 6 ช่องจราจร โครงสร้างเป็นรูปแบบ Slab on Girder ส่วนโครงสร้างเสาเป็นเสาเดี่ยว ก่อสร้างบนระบบฐานราก ที่เป็นเสาเข็มเจาะขนาดใหญ่ ซึ่ง บริษัท อิตาเลียนไทยฯ มีประสบการณ์ ในการก่อสร้างทางยกระดับประเภทนี้มานาน จำนวนหลายโครงการต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ มีความพร้อมด้านบุคลากร ทั้งวิศวกรและทีมงานที่มีประสบการณ์และความชำนาญสูง และมีการจัดหา เครื่องจักรทันสมัยที่เหมาะสมสำหรับการก่อสร้าง บริษัทฯ ยังมี โรงงานผลิตชิ้นส่วนคอนกรีต ที่มีคุณภาพสูง สำหรับใช้งานก่อสร้าง บริษัทฯ จะยึดมั่นในมาตรฐานการทำงานให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพดี และมีความปลอดภัยสูงสุด จึงขอให้มั่นใจได้ว่า บริษัทฯ มีความพร้อม ในการทำงานทุกด้าน และมีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานนี้ ให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ และในโอกาสนี้ต้องขอขอบคุณ กทพ. ที่ไว้วางใจให้บริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างโครงการนี้ บริษัทฯ จะมุ่งมั่นปฏิบัติงานนี้ อย่างเต็มที่ เพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด

“ปัจจุบันการเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปยังอำเภอธัญญะบุรี หรืออำเภอองค์รักษ์ จังหวัดนครนายก จะใช้ถนนรังสิต-นครนายก และถนนพหลโยธินเป็นเส้นทางหลัก ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณการจราจรหนาแน่น เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักที่สามารถเดินทางสู่ภาคกลางตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่ตลอดแนวเส้นทาง นอกจากนี้ เส้นทางดังกล่าวยังมีปริมาณรถบรรทุกขนาดใหญ่ใช้สัญจร เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความล่าช้าในการเดินทาง โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดและช่วงเทศกาลจะเกิดปัญหาการจราจรติดขัดตลอดแนวเส้นทาง ดังนั้น ความพยายามในการดำเนินการแก้ไขปัญหาจราจรดังกล่าว ของการทางพิเศษฯ จึงเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นภารกิจหลักของหน่วยงานเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครนายก จากการต่อขยายโครงข่ายทางพิเศษฉลองรัช ไปยังถนนลำลูกกา เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกรวดเร็ว และเป็นการเพิ่มโครงข่ายถนน เพื่อแบ่งเบาปริมาณจราจรบนถนนปัจจุบัน อีกทั้งช่วยในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครนายกอีกด้วย จึงเป็นที่มาของพิธีลงนามในสัญญาจ้างในวันนี้” นายสุรเชษฐ์ฯ กล่าวในท้ายที่สุด

การเรียนรู้ผ่านการเล่น เน้นลงมือทำ รู้จักตัวตน ทำตามความชอบและความถนัด ไม่แข่งขัน ไม่มีการจัดลำดับ ไม่เปรียบเทียบ ไม่เก็บแป๊ะเจี๊ยะ คงเป็นภาพในฝันของเด็กไทยเกือบทุกคน

NT จับมือ ไทยคม เอชพีจี เดินหน้าโครงการท่าเทียบเรืออัจฉริยะ และระบบติดตามขอความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทางทะเลผ่านดาวเทียม มุ่งเป้าสร้างต้นแบบท่าเทียบเรืออัจฉริยะแบบฟูลฟังก์ชัน เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวทางน้ำเทียบเท่ามาตรฐานสากล

Tripadvisor แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวออนไลน์ชั้นนำของโลกได้ประกาศมอบรางวัล Travelers' Choice Awards 2024 ให้แก่ปางช้างที่เป็นมิตรในประเทศไทยที่ทำงานร่วมกับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) 4 แห่ง ซึ่งโดดเด่นในด้านการให้ความสำคัญยกระดับสวัสดิภาพสัตว์ ไม่มีกิจกรรมขี่ช้าง โชว์ช้าง หรือสัมผัสช้างใกล้ชิด เน้นศึกษาพฤติกรรมตามธรรมชาติของช้าง เดินดูช้างในระยะปลอดภัย ปางช้างที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ได้แก่  Boon Lott's Elephant Sanctuary จ.สุโขทัย, ChangChill  จ.เชียงใหม่, Following Giants จ.กระบี่ และ Somboon Legacy Foundation จ.กาญจนบุรี โดยทั้ง 4 แห่งได้รับการคัดเลือกภายใต้หมวดกิจกรรมน่าสนใจที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ

รางวัล ‘Travelers' Choice - ที่สุดของที่สุด’ เป็นรางวัลพิเศษที่ตัดสินจากประสบการณ์จริงของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่แบ่งปันรีวิวบน Tripadvisor สะท้อนถึงประสบการณ์ที่แปลกใหม่ คุณภาพการให้บริการ และความประทับใจของนักท่องเที่ยว

ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการยกย่องปางช้างทั้ง 4 แห่งที่เป็นมิตรต่อช้างและยึดมั่นในแนวทางการยกระดับสวัสดิภาพสัตว์ แต่ยังตอกย้ำถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ยกระดับสู่การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ โดยผสานการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเข้ากับการสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าแก่นักท่องเที่ยว รางวัลนี้จะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัตว์ป่าในประเทศไทย

หทัย ลิ้มประยูรยงค์ ผู้จัดการฝ่ายแคมเปญสัตว์ป่า องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “แนวโน้มการท่องเที่ยวโลกในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปควบคู่กับบริบทของสังคมที่ให้ความสำคัญกับความเป็นพลเมืองโลกที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงการท่องเที่ยวที่ใส่ใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสวัสดิภาพของสัตว์ สำหรับการท่องเที่ยวช้างก็เช่นเดียวกัน นักท่องเที่ยวในยุคนี้มองหาประสบการณ์ที่สามารถเชื่อมโยงกับช้างในรูปแบบที่ไม่ก่อให้เกิดการรบกวนหรือทำลายความเป็นอยู่ของช้าง โมเดลการจัดการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับช้างจึงเป็นทางเลือกที่ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว และยังเป็นแนวทางที่ส่งเสริมให้ทั้งผู้ประกอบการและช้างได้รับประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน”

Tripadvisor ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวออนไลน์ชั้นนำของโลกที่มีผู้ใช้งานหลายล้านคน
ทั่วโลก ได้ขับเคลื่อนนโยบายที่ปกป้องสวัสดิภาพสัตว์ป่า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เคารพชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ นโยบายนี้ยังห้ามกิจกรรมที่เป็นอันตรายต่อสัตว์ เช่น การสัมผัสสัตว์ป่าโดยไม่จำเป็น และการจัดแสดงสัตว์น้ำที่ถูกคุมขัง ยกเว้นกรณีเพื่อการศึกษาหรืออนุรักษ์ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ นโยบายนี้มุ่งเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวที่คำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

การเยี่ยมชมช้างในปางช้างเป็นมิตรกับช้าง ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของนักท่องเที่ยวที่อยากเรียนรู้พฤติกรรมตามธรรมชาติของช้างและนอกจากนั้นยังเป็นการสนับสนุน การทำงานของปางช้างเป็นมิตรให้สามารถเลี้ยงช้างที่เคยถูกใช้งานอย่างหนัก และดูแลช้างให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีไปจนตลอดชีวิตของพวกเขา

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกให้การสนับสนุนปางช้างที่เป็นมิตรหลายแห่ง ตั้งแต่การให้คำปรึกษา พัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ โปรโมทด้านการตลาดผ่านการทำงานกับบริษัทท่องเที่ยว ให้ทุนสนับสนุนเพื่อปรับรูปแบบปางช้างให้เป็นมิตรต่อช้างอย่างแท้จริง ตลอดจนให้งบช่วยเหลือฉุกเฉินในช่วงโควิด 19 ที่การท่องเที่ยวซบเซา ท่านสามารถติดตามเรื่องราวและที่มาของปางช้างแต่ละแห่งได้ที่นี่ https://www.worldanimalprotection.or.th/our-work/Wildlife-work/Elephant-Friendly-Venue/

บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “พรูเด็นเชียล ประเทศไทย” ตอกย้ำการบริหารงานด้วยความเป็นมืออาชีพ คว้า 3 รางวัล จากเวทีระดับนานาชาติ Insurance Asia Awards 2024 ประกอบด้วย รางวัล Customer Service Initiative of the Year – Thailand ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้ายุคปัจจุบัน, รางวัล New Insurance Product of the Year – Thailand ที่มอบให้กับผลิตภัณฑ์ออกใหม่ที่มีความโดดเด่น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ทางการเงินประกันชีวิตออมทรัพย์ระยะสั้น Global Index Principle Protect 15/5 และ รางวัลสุดท้าย ESG Initiative of the Year – Thailand จากโครงการ “Give the Future การให้ที่ยั่งยืน คือ การให้ที่ส่งต่อได้" โดยการมอบกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุฟรี แก่กลุ่มลูกจ้างชั่วคราวกรุงเทพมหานครและลูกจ้างโรงพยาบาลรัฐ

นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล ประเทศไทย เปิดเผยว่า “ผมรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่ปีนี้ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย สามารถคว้า 3 รางวัล จากเวที Insurance Asia Awards 2024 ถือเป็นการยืนยันความสำเร็จของเราในการให้บริการที่ยอดเยี่ยมและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างแท้จริง ต่อเนื่องจากปีที่แล้วที่เราคว้ามา 3 รางวัลจากเวทีอันทรงเกียรตินี้ในสาขาที่ต่างกันไป ปีนี้ถือว่ามีความพิเศษเพราะนอกจาก พรูเด็นเชียลฯจะได้รับรางวัลที่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนองค์กรที่มีลูกค้าเป็นเข็มทิศนำทางแล้ว บริษัทฯยังคว้ารางวัลด้าน ESG จาก โครงการ “Give the Future การให้ที่ยั่งยืน คือ การให้ที่ส่งต่อได้" ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการส่งต่อสิ่งดีๆ ให้แก่สังคม โดยการมอบความคุ้มครองให้แก่กลุ่มคนเปราะบางคือ ลูกจ้างชั่วคราวของกรุงเทพมหานครและลูกจ้างโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนที่อาจจะไม่มีประกันหรือเข้าถึงประกันยาก ได้มีความคุ้มครองในชีวิต โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เพราะเราเชื่อว่า องค์กรไม่สามารถเดินหน้าได้เพียงลำพัง ถ้าสังคมไม่มีความเข้มแข็งและยั่งยืน ความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่ได้รับการสนับสนุน และความร่วมแรงร่วมใจจากทีมงานทุกคนของเรา”

สำหรับ 3 รางวัลที่ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ได้รับจากเวที Insurance Asia Awards 2024 ประกอบด้วย รางวัล Customer Service Initiative of the Year – Thailand หรือ รางวัลด้านการบริการลูกค้าแห่งปี ด้วยการนำดิจิทัลเข้ามาพัฒนาประสบการณ์ที่ดีขึ้นของลูกค้าผ่านบริการ PRU Connect ในหลากหลายแพลตฟอร์ม ที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ลูกค้าก็สามารถติดต่อเราได้ทุกที่ทุกเวลา สะดวกสบายสามารถจัดการกรมธรรม์ได้อย่างง่ายๆ

รางวัล ESG Initiative of the Year – Thailand หรือ รางวัลที่มีความโดดเด่นด้าน ESG  จากโครงการ “Give the Future : การให้ที่ยั่งยืน คือ การให้ที่ส่งต่อได้" คือ โครงการที่ช่วยให้คนไทยกลุ่มเปราะบางได้เข้าถึงประกัน ในปีที่แล้ว พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ได้มอบกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุแก่ลูกจ้างของกรุงเทพมหานคร และกลุ่มลูกจ้างโรงพยาบาลรัฐ รวม 72,000 คน ทุนประกันรวม 7,200,000,000 บาท และ ในปีนี้บริษัทฯยังตั้งเป้าที่จะมอบกรมกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มแก่กลุ่มคนเปราะบางให้ได้ถึง 80,000 คน

รางวัลสุดท้าย New Insurance Product of the Year – Thailand รางวัลผลิตภัณฑ์ประกันออกใหม่แห่งปี กับผลิตภัณฑ์ทางการเงินประกันชีวิตออมทรัพย์ระยะสั้น Global Index Principle Protect 15/5 ที่ตอบโจทย์ครอบคลุมทั้งการออม ความคุ้มครอง การลงทุน อีกทั้งยังยังสามารถเลือกรับความคุ้มครองเพิ่มเติม เจอ จ่าย จบ เมื่อตรวจพบมะเร็งทุกระยะ และช่วยลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท ต่อปี ทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์กรมสรรพากร

ทั้งนี้ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ได้รับรางวัลจากเวทีนี้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันจากหลากหลายสาขา โดยในปีที่ผ่านมา พรูเด็นเชียล ประเทศไทยได้รับรางวัล Domestic Life Insurer of the Year – Thailandหรือ รางวัลบริษัทประกันชีวิตแห่งปี – ประเทศไทย, รางวัล Digital Transformation Initiative of the Year – Thailand หรือ รางวัลแห่งความสำเร็จในการพัฒนาระบบดิจิทัล และ รางวัล Health Insurance Initiatives of the Year -  Thailand เป็นรางวัลที่มุ่งเน้นที่การให้บริการที่เข้าถึงได้ด้านประกันสุขภาพ นอกจากนี้ ในปี 2022 ยังสามารถคว้ารางวัลด้านการบริการลูกค้า Customer Service Initiative of the Year – Thailand ตอกย้ำการบริหารงานอย่างมืออาชีพ ตามเจตนารมณ์ “For Every Life For Every Future ชีวิตมีกัน ทุกวันดีกว่า”

นายอัศวิน – นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลให้กับผู้ชนะการแข่งขัน กิจกรรม “Run Together” เดิน-วิ่ง เทิดพระเกียรติ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

 

ประกอบด้วย 3 ระยะทาง คือ 10 กิโลเมตร 5 กิโลเมตร และ 2.5 กิโลเมตร โดยมีนักวิ่งเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1,500 คน สำหรับรายได้ค่าสมัครหลังจากการหักค่าใช้จ่ายกลุ่มบีเจซี บิ๊กซี จะนำไปสมทบทุนให้กับมูลนิธิเด็กโรคหัวใจ โดยได้รับเกียรติจาก นายพิฆเนศ ต๊ะปวง ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมงาน ณ สวนพฤกษชาติศรีนครเขื่อนขันธ์ (บางกะเจ้า)

X

Right Click

No right click